Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2875

สรุปบท ตอนที่ 2875 แจ้งมรรคหลุดพ้น: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2875 แจ้งมรรคหลุดพ้น จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2875 แจ้งมรรคหลุดพ้น คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2875 แจ้งมรรคหลุดพ้น

ฟ้าดินอึมครึมกดข่ม ทำให้คนใจสั่น

พวกจิ่งจงเยวี่ยมาถึงบริเวณใกล้เคียงแล้ว สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึม

พวกเขาล้วนแจ้งมรรคข้ามด่านเคราะห์ในแดนมารสวรรค์ ขณะเดียวกันก็สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของเคราะห์สวรรค์ที่พุ่งเป้าไปที่หลินสวินครั้งนี้ดูไม่ธรรมดานัก

น่าสะพรึงถึงขั้นแฝงกลิ่นอายประหลาด!

กลับเห็นหลินสวินเหมือนไม่ใส่ใจ ก้าวทะยานขึ้นสู่ห้วงฟ้า เสื้อผ้าพลิ้วไหว สง่างามอย่างที่สุด

สุดท้ายเขายืนนิ่งอยู่ใต้เมฆาเคราะห์ หยิบน้ำเต้าสุราออกมาดื่มถึงค่อยถอนหายใจยาว ยิ้มกล่าว “ทุกท่านไม่ต้องตื่นตกใจ เคราะห์วันนี้ก็มองเป็นสิ่งหล่อเลี้ยง ช่วยทะลวงมหามรรค!”

เสียงที่ผ่อนคลายก้องกังวานไปทั่วฟ้าดิน

ทุกคนเหมือนถูกความมั่นใจและทระนงในคำพูดของหลินสวินชำระล้าง จิตใจผ่อนคลายลงเล็กน้อย

ครืน!

แต่สายฟ้าในส่วนลึกของเมฆาเคราะห์กลับเหมือนถูกกระตุ้นโทสะ ส่งเสียงครั่นครืนขึ้นกะทันหัน เสียงสะเทือนเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ทำเอาภูผาธาราล้วนสั่นไหว

บนชั้นเมฆมีประกายสายฟ้าอุบัติขึ้น แผ่ลามไปสี่ทิศแปดด้าน ท้องฟ้าที่ราวกับสาดย้อมด้วยน้ำหมึกถูกแหวกออก

จากนั้นอสนีเคราะห์ที่เจิดจ้าบาดตาสายหนึ่งกรีดแหวกเมฆาเคราะห์ที่หนาหนักนั้นลงมา มันมีสีขาวเทาประหลาด รูปร่างคล้ายทวนเทพมหามรรค ราวกับสามารถทะลวงห้วงมิติ ไม่มีผู้ใดต้านทานใด!

ทุกคนในที่นั้นรู้สึกเพียงว่าภาพตรงหน้าแสบตา อดหวาดหวั่นพรั่นพรึงไม่ได้

ด่านเคราะห์นี้น่าหวาดหวั่นเกินไปแล้ว!

กลับเห็นหลินสวินยื่นมือออกไป ถึงกับคว้าอสนีเคราะห์สายหนึ่งไว้ในมือ เหมือนจับอสรพิษคลั่งเจ็ดชุ่นตัวหนึ่งไว้ ประกายอสนีบาดตาส่องสะท้อนจนเงาร่างของหลินสวินสว่างไสวทั้งแถบ

ปังๆๆ!

อสนีเคราะห์ขาวเทาที่หนาใหญ่น่ากลัวระเบิดออกในฝ่ามือของหลินสวิน เปลี่ยนเป็นละอองแสงประกายอสนีหลากสี

บนร่างหลินสวินกฎเกณฑ์มหามรรคที่คลุมเครือดุจหุบเหวปรากฏ ชั่วพริบตาก็ดูดซับและหลอมประกายอสนีเหล่านี้ ก็เห็นผิวหนังเขาส่งเสียงระเบิดระลอกหนึ่ง ทว่าไม่เพียงไม่เสียหายสักนิด กลับได้รับการชำระจากการหลอมประกายอสนี

ภาพที่เหลือเชื่อนี้ทำให้พวกจี้ซานไห่ จิ่งจงเยวี่ยต่างอึ้งงัน

ยังทำเช่นนี้ได้ด้วย!?

วิธีที่หลินสวินทำลายอสนีเคราะห์นี้ง่ายดายและลวกๆ เกินไป ทำให้คนรู้สึกผิดแปลกอย่างแรงกล้า

ตูม โครม!

เมฆาเคราะห์ตลบม้วน พลุ่งพล่านราวกับกระแสน้ำ กลิ่นอายทำลายล้างกลางฟ้าดินน่าสะพรึงกว่าเดิม พริบตานั้นแสงอสนีนับร้อยพันสายบ้างผ่าลงมา บ้างกระแทกหนักหน่วง รุนแรงยิ่งยวด เข้าปกคลุมพื้นที่แถบนี้ทั้งหมด

นี่ทำให้พวกจี้ซานไห่หัวใจสั่นไหว นี่เป็นมหาเคราะห์ที่แตกต่างแค่ไหนกันแน่ เหตุใดเพิ่งเริ่มก็น่ากลัวขนาดนี้แล้ว

แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาผิดคาดคือ หลินสวินที่เผชิญหน้ากับอสนีเคราะห์นี้กลับนั่งขัดสมาธิในห้วงอากาศทั้งอย่างนั้น

เงาร่างของเขาปรากฏหุบเหวใหญ่ นั่นคือการสะท้อนมรรควิถีทั้งร่างเขา ยามนี้เริ่มดึงรั้งอสนีเคราะห์มาเคี่ยวกรำตนเอง

นี่คือบททดสอบแห่งความเป็นความตาย หากเป็นคนทั่วไปคงกลายเป็นเถ้าถ่านนานแล้ว ไม่ว่าเป็นอสนีบาตสายใดมาเยือน ล้วนสามารถสังหารขั้นดับเทพสัมบูรณ์คนหนึ่งได้ นี่เป็นทัณฑ์สวรรค์ที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน

หลินสวินกลับมองเป็นการเคี่ยวกรำอันล้ำเลิศ ใช้มรรควิถีแห่งตนแปลงแสงอสนีมาเป็นของตน สั่งสมพลังแห่งสายฟ้า เริ่มแรกเขายังสบายมาก ผิวหนังพร่างพราว พลังเต็มเปี่ยม รู้สึกได้อย่างเด่นชัดว่าตนเองกำลังแข็งแกร่งขึ้น

แต่ไม่นานเขาก็ไม่อาจสบายได้แล้ว แสงสายฟ้าเคราะห์อสนีปกคลุมทั้งในและนอกร่างมากเกินไปแล้ว ยากจะหลอมให้หมดสิ้นได้ในเวลาสั้นๆ

กลับเห็นหลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง หุบเหวใหญ่รอบตัวเปลี่ยนเป็นเตาหลอมโดยพลัน เข้ากำราบอสนีเคราะห์ที่โจมตีมาจากรอบทิศไว้ในเตาหลอมทั้งหมด

นี่คือคัมภีร์เตาหลอมมหามรรคที่เขาสร้างขึ้น!

และตอนนี้หลินสวินกำลังใช้มันกำราบอสนีเคราะห์ เพื่อหลอมชำระตนเอง!

นี่ทำให้ทุกคนอึ้งค้างไประลอกหนึ่ง วิปริตจริงๆ ในอสนีเคราะห์ล้ำเลิศ ดันกำราบอสนีเคราะห์มาหลอมชำระตัวเอง เหลือเชื่อเกินไปแล้ว

แต่ไม่นานหลินสวินก็ลิ้มรสความยากลำบาก ความรู้สึกเช่นนี้ทรมานเกินไปแล้ว ถูกสายฟ้ากลบท่วม ต่อให้มีเตาหลอมมหามรรคก็ไม่สามารถคลี่คลายได้

พรูด!

เขาถูกโจมตีจนกระอักเลือด เนื้อตัวแตกยับ ไหม้เกรียมไปทั้งตัว เลือดสดไหลชุ่ม ส่งเสียงในคอออกมา

ทว่าเมื่อเทียบกับอาการบาดเจ็บเหล่านี้ ในเวลาเดียวกันก็มีพลังที่เกิดขึ้นใหม่กำลังหล่อเลี้ยงร่างที่บาดเจ็บ ใช้สายฟ้าหลอมมรรควิถีของเขา

หลินสวินในตอนนี้ยังคงนั่งขัดสมาธิ สีหน้าเคร่งขรึม ทุกอณูรูขุมขนล้วนกำลังส่องแสงสว่างไสว ประกายสายฟ้าสาดส่อง นี่เป็นการทำลายและเคี่ยวกรำอย่างหนึ่ง นอกร่างของเขา แสงมรรคปานอมตะเดี๋ยวเปลี่ยนเป็นหุบเหวใหญ่ เดี๋ยวเปลี่ยนเป็นเตาหลอม เข้ากำราบและหลอมอสนีเคราะห์โดยไม่เคยหยุด

ในที่สุดสายฟ้าหลายพันสายก็ผ่านพ้นไป หลินสวินยืนหยัดผ่านการโจมตีรอบนี้ไปได้แล้ว

ทว่านี่เป็นเพียงรอบแรก

ไม่ทันไรส่วนลึกของเมฆาเคราะห์ก็มีเสียงดังกึกก้องขึ้นอีกครั้ง มีแสงสายฟ้ามากมายไหลพุ่ง ขาวโพลนทั้งแถบ เหมือนจะกลบท่วมฟ้าดิน

พวกจี้ซานไห่ล้วนจำต้องหลีกหนีไปไกล

แสงอสนีครั้งนี้กลับเหมือนดาบกระบี่ สว่างไสวไร้ใดเปรียบ ฟาดฟันไม่หยุดยั้ง เจิดจ้าระยับตา ไอสังหารล้นฟ้า

เงาร่างที่นั่งขัดสมาธิอยู่ของหลินสวินถูกกลบมิดอย่างสิ้นเชิงทันที

ร่างกายเขาปรากฏสัญญาณแตกทลาย แต่ไม่ทันไรก็ฟื้นคืนกลับมา ราวกับกำลังสำแดงวัฏจักรแห่งการทำลายล้างและการเกิดใหม่อย่างไรอย่างนั้น

ส่วนมรรควิถีของเขาก็ยิ่งใหญ่ขึ้นอย่างต่อเนื่องระหว่างการหลอมชำระ

นี่คือแสงอสนียอดสุริยัน มีผลดีอย่างยิ่งใหญ่ต่อกายมรรคและพลังจิต สามารถทำให้กายมรรคเกิดการแปรสภาพ ทำให้พลังจิตยิ่งเจิดจรัสแวววาว

กลางหว่างคิ้วของหลินสวิน มนุษย์พลังจิตตัวเล็กคนหนึ่งเดินออกมา อ้าปากสูดหายใจคราหนึ่ง ชั้นเมฆทั่วฟ้าสั่นไหว สี่ทิศแปดด้านมีแสงอสนีไม่รู้เท่าไรพวยพุ่งมา ปราณอสนีหนาแน่นห่อหุ้มร่างเขาเอาไว้

นี่คือเคราะห์สวรรค์ที่สลายตัว เขากลับไม่ยอมสิ้นเปลืองสักนิด ไม่ปล่อยไปแม้แต่เสี้ยวเดียว

กายเนื้อและพลังจิตล้วนถูกแสงอสนีปกคลุม สูบเอาแสงเคราะห์อันเป็นประวัการณ์นี้เข้าไปทั้งหมด

หลินสวินสัมผัสได้อย่างเด่นชัด ว่าไม่ว่าจะเป็นกายเนื้อหรือพลังจิตล้วนเหมือนได้เกิดใหม่

นี่คือการชำระที่ไม่สามารถจินตนาการได้ครั้งหนึ่ง!

หลินสวินในตอนนี้พลังขับเคลื่อนในร่างกำลังไหวเคลื่อนรุนแรง ส่งเสียงกึกก้องราวกับโลหะกระทบ โลกวัฏจักรในร่างดุจดั่งยามแรกกำเนิดอันเวิ้งว้างไพศาลไร้ขอบเขต มีพลังไร้จำกัดกู่ก้องเดือดพล่านอยู่ภายใน มรรควิถีทั้งร่างเกิดการเปลี่ยนแปลงที่เย้ยฟ้าพลิกดินแล้ว

เขานั่งขัดสมาธิอยู่ตรงนั้น แสงมรรคพรั่งพรูทั่วร่าง มีเสียงมรรคดังอึงอลจากในร่างของเขา ก้องไปทั่วฟ้าดิน ราวกับเทพดึกดำบรรพ์กำลังท่องคัมภีร์ ทิวทัศน์โดยรอบระยิบระยับ เขาเหมือนดั่งเทพที่แข็งแกร่งที่สุดในฟ้าดินแห่งนี้ กำลังท่องคัมภีร์แท้อยู่ที่นี่ รับการกราบไหว้จากสรรพชีวิต

พวกจี้ซานไห่มองภาพนี้อย่างอึ้งงัน แววตาตกตะลึง ราวกับกำลังมองปาฏิหาริย์ที่ไม่เคยมีมาก่อน

นี่เป็นภาพที่ศักดิ์สิทธิ์อย่างหนึ่ง!

ไม่นานการแปรสภาพบนร่างหลินสวินคล้ายมาถึงจุดสำคัญ ทั้งร่างสั่นไหวไม่หยุด เสียงกึกก้องประหนึ่งฟ้าร้อง สะเทือนจนหูแทบดับ

จากนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าร่างมรรคของเขากำลังแตกออก!

นี่ไม่ใช่การทำลายล้าง แต่เหมือนงูลอกคราบ จักจั่นลอกคราบ ทิ้งร่างเก่าไป สร้างร่างใหม่อีกร่าง เป็นการเกิดใหม่อย่างหนึ่ง!

นอกจากนี้สิ่งที่พวกจี้ซานไห่ไม่เห็นก็คือ พลังจิตของหลินสวินกำลังแตกออกเช่นกัน จากนั้นสร้างใหม่อีกครั้ง เป็นเช่นนี้ซ้ำๆ ทำลายล้างและเกิดใหม่ นิพพานและแปรสภาพ ทำซ้ำไม่หยุด…

กระบวนการนี้ดำเนินมาหนึ่งวันเต็มแล้ว

ชั่วขณะที่หลินสวินลืมตาขึ้น แสงเทพดุจกระบี่ แหลมคมกดข่ม แต่ไม่ทันไรก็เปลี่ยนเป็นสงบลง กลิ่นอายทั้งหมดทั่วร่างล้วนเก็บกลับเข้าภายใน คืนสู่สภาวะเดิม

ราวกับไม่ต่างอะไรกับก่อนหน้านี้

แต่ทุกคนล้วนรู้ว่าหลังจากผ่านด่านเคราะห์ประหลาดที่เรียกได้ว่าหมื่นกาลไม่เคยมีมาก่อนครั้งนี้ กายเนื้อและพลังจิตของหลินสวินผ่านการเคี่ยวกรำและยกระดับอย่างลึกล้ำครั้งหนึ่ง แปรสภาพสำเร็จครั้งแล้วครั้งเล่า ก้าวสู่ขั้นหลุดพ้นสำเร็จ!

อะไรคือหลุดพ้น

ไม่ถูกกฎระเบียบยุคสมัยผูกมัด อยู่เหนือมหามรรค ดำรงอยู่อย่างอมตะ!

และมีเพียงการก้าวสู่ขั้นนี้ จึงจะเรียกได้ว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงบนมรรคาอมตะ ไม่กลัวการกดข่มและจำกัดของกฎระเบียบฟ้าดินอีกต่อไป อาศัยพลังแห่งตนก็สามารถก้าวเดินในโลกยุคสมัยที่แตกต่างกันได้

ในโลกหล้าที่ไม่มีระดับนิรันดร์ ระดับอมตะขั้นหลุดพ้นคือตัวตนสูงสุด!

และหลินสวินได้แจ้งมรรคขั้นหลุดพ้นในวันนี้!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์