Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2896

ตอนที่ 2896 รางวัลจากรองหัวหน้าหอหลิน

ดังคาด ก็เห็นเสวียนเฟยหลิงประกาศว่า

“ในการเคลื่อนไหวกำจัดเนื้อร้ายของสำนักครั้งนี้ ผู้ดูแลหลินสวินสร้างความชอบเอาไว้ จากการหารือของข้าและรองหัวหน้าหอคนอื่นๆ จึงจะเลื่อนให้เขาเป็นรองหัวหน้าหอแรกนภา รับช่วงต่อตำแหน่งเดิมของฝูเหวินหลี!”

พูดจบทั่วลานล้วนฮือฮา

คนมากมายเผยสีหน้ายากจะเชื่อ

ตั้งแต่ศึกมรรคอมตะสิ้นสุดลง หลังจากหลินสวินย้อนกลับสำนักก็ถูกเลื่อนขั้นเป็นผู้ดูแลหอแรกนภาเป็นกรณีพิเศษ รับช่วงต่อตำแหน่งเดิมที่เฉาเป่ยโต้วครอบครอง

และนี่ยังไม่ถึงหนึ่งเดือน ตำแหน่งของหลินสวินก็เลื่อนขึ้นอีกครั้ง กลายเป็นรองหัวหน้าหอคนหนึ่งแล้ว!

ความเร็วในการเลื่อนขั้นเช่นนี้ ทำลายสถิติทั้งหมดตั้งแต่ลัทธิแรกกำเนิดก่อตั้งมา!

เซี่ยงเสี่ยวหยวนที่ตอนนี้เป็นศิษย์แกนหลักแล้ว รวมถึงเฟิงซีซี หลิวอวิ๋นเฟิงที่เป็นรองผู้ดูแลล้วนชื่นชมยินดีในยามนี้

ความแข็งแกร่งของพลังปราณรวมถึงความสูงส่งในตำแหน่งของหลินสวินยามนี้นำหน้าพวกเขาไปไกลมากนานแล้ว ทำให้พวกเขาไม่มีอารมณ์อิจฉาริษยา ทำได้เพียงชื่นชมเลื่อมใส!

ไม่เพียงแค่พวกเขา แม้คนเก่าแก่ของสำนักอย่างพวกฉินอู๋อวี้ เถาเหลิ่งยังอดตะลึงไม่ได้ ทอดถอนใจไม่หยุด

ย้อนคิดถึงตอน พวกเขาได้เฝ้ามองดูหลินสวินเข้ามาในลัทธิแรกกำเนิดด้วยซ้ำ

ตอนนี้เวลาผ่านไป หลินสวินได้ครอบครองอำนาจของรองหัวหน้าหอแล้ว เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ฐานะและตำแหน่งของพวกเขาไกลห่างอยู่มาก!

จู่ๆ ก็มีคนเอ่ยเสียงขรึม “รองหัวหน้าหอเสวียน ผู้ดูแลหลินมีมรรควิถีเพียงขั้นหลุดพ้นขั้นต้นเท่านั้น แต่ในบรรดาผู้ดูแลสามหอของเราไม่ขาดแคลนขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ เหตุใดจึงไม่เลือกรองหัวหน้าหอจากผู้ดูแลเหล่านี้”

ทันใดนั้นทุกสายตาต่างมองไปยังคนผู้นั้น

ถงเจาอวิ๋น

ผู้นำเก้าผู้ดูแลของหอแรกมายา

เป็นขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนหนึ่ง ยิ่งเป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่มากประสบการณ์ยิ่ง

จะว่าไปหากไม่ใช่เพราะตำแหน่งของรองหัวหน้าหอสามหอมีจำกัด ด้วยประสบการณ์ของถงเจาอวิ๋นสามารถรับตำแหน่งหัวหน้าหอได้นานแล้ว

เสวียนเฟยหลิงยิ้ม “รู้อยู่แล้วว่าคนโผงผางอย่างเจ้าเหล่าถงจะต้องไม่พอใจแน่ เอาอย่างนี้ เจ้าประลองกับหลินสวินที่นี่สักหน่อยเป็นอย่างไร”

ถงเจาอวิ๋นพูดอย่างไม่ชอบใจ “ข้ารังแกเด็กไม่ลงหรอก พวกท่านวางใจได้ ข้าไม่ได้สงสัยในความสามารถของหลินสวิน และชื่นชมเขาอย่างมาก เพียงแต่เขาเลื่อนขั้นเร็วเกินไป กลัวว่าจะเป็นการฝืนยืดต้นกล้าให้โต มีแต่ผลเสียไม่มีประโยชน์”

สีหน้าของพวกฟางเต้าผิง ตู๋กูยงแปลกพิกลขึ้นมา หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก

ความแข็งแกร่งในพลังต่อสู้ของหลินสวินตอนนี้สามารถคุกคามเฒ่าชราอย่างพวกเขาได้แล้ว นี่มีหรือจะเป็นการฝืนยืดต้นกล้าให้โต

เสวียนเฟยหลิงเองเบิกบานนัก คิดๆ แล้วก็สื่อจิตไปตรง เล่าเรื่องที่หลินสวินสังหารรองหัวหน้าหอทั้งสี่อย่างพวกฝูเหวินหลี

ไม่ทันไรถงเจาอวิ๋นเองก็ไม่อาจสงบนิ่งแล้ว สีหน้าผิดคาด ภายใต้การซักถามและยืนยันซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในที่สุดจึก็เอ่ยอย่างกึ่งเชื่อกึ่งสงสัย “หากเป็นเช่นนี้จริง ข้าก็ไม่มีอะไรจะพูดแล้ว”

ทุกคนในที่นั้นงุนงง ไม่เข้าใจว่าเหตุใดท่าทีของถงเจาอวิ๋นจึงเปลี่ยนเร็วขนาดนี้

ที่น่าเสียดายคือ ไม่ว่าจะเป็นพวกเสวียนเฟยหลิงหรือถงเจาอวิ๋นล้วนเลือกเงียบไม่เอ่ยคำ

เพราะหากเรื่องพวกนี้เผยแพร่ออกไป มีแต่จะทำให้หลินสวินกลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ หากสิบยักษ์ใหญ่อมตะรู้เข้าจะต้องมองเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจอย่างแน่นอน!

กลับกันการเก็บซ่อนข้อมูลเรื่องพลังต่อสู้ของหลินสวิน สามารถมองเป็นไพ่ก้นหีบที่สามารถพลิกสถานการณ์ได้ ทำให้ศัตรูไม่ทันตั้งตัว

จนถึงตอนนี้ไม่มีใครสงสัยและต่อต้านอีก

“ขอแสดงความยินดีกับรองหัวหน้าหอหลิน!”

“ยินดีกับรองหัวหน้าหอหลิน!”

ในที่นั้นเสียงแสดงความยินดีดังขึ้นระลอกหนึ่ง กึกก้องกลางฟ้าดิน

แววตาของผู้สืบทอดมากมายร้อนระอุ สีหน้าเต็มไปด้วยความเคารพชื่นชม

สำหรับพวกเขา หลินสวินคือตำนานที่ไม่อาจคัดลอก เป็นคนระดับตำนานที่ทำให้พวกเขาไม่อาจเอื้อม!

ตั้งแต่เขาเข้าสำนักจนถึงตอนนี้ เพียงแค่ไม่กี่สิบปีสั้นๆ เท่านั้นก็ได้เลื่อนขั้นจากศิษย์ธรรมดาที่สุดคนหนึ่ง กลายเป็นหนึ่งในรองหัวหน้าหอในตอนนี้ นี่ไม่ใช่ตำนานแล้วจะเป็นอะไร

พวกคนเก่าแก่ในที่นั้นก็ถอนหายใจไม่หยุด การเลื่อนขั้นอย่างรวดเร็วของหลินสวินทำให้พวกเขาเองก็รู้สึกถึงแรงกดดันและความสะท้านสะเทือน

จนถึงตอนนี้ในใจพวกเขาเหลือเพียงความชื่นชมแล้ว อยากอิจฉาริษยายังรู้สึกไร้เรี่ยวแรงยิ่ง ถึงอย่างไรคนที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานเช่นนี้ ชาตินี้ทั้งชาติพวกเขาก็คงตามไม่ทัน

และตอนนี้หลินสวินก็กลายเป็นรองหัวหน้าหอแรกนภาอย่างราบรื่นแล้ว!

ห่างจากตำแหน่งหัวหน้าหอเพียงแค่ก้าวเดียว

และตอนนี้ห่างจากกำหนดที่โหยวเป่ยไห่จะแจ้งมรรคนิรันดร์อีกเกือบแปดสิบปี!

หลังจากนั้นเสวียนเฟยหลิงก็ประกาศแต่งตั้งตำแหน่งของรองหัวหน้าหออีกสองคน

ถงเจาอวิ๋นรับตำแหน่งรองหัวหน้าหอแรกมายา จางเชียนซีสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ประสบการณ์ไม่ด้อยไปกว่าถงเจาอวิ๋นรับตำแหน่งรองหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์

ทั้งสองรับช่วงตำแหน่งที่เดิมทีชือเวินและทังชิวครอบครองตามลำดับ

หลังจากประกาศการแต่งตั้งตำแหน่งทั้งหมดเสร็จสิ้น เสวียนเฟยหลิงเอ่ยพูดเสียงขรึม “เนื่องจากต้องปรับปรุงเสริมความแข็งแกร่งภายในสำนัก ตั้งแต่วันนี้ไป ไม่ได้รับอนุญาตจากพวกข้าไม่อาจออกไปข้างนอก”

ทั่วลานเงียบลงทันที

ทุกคนที่นี่ไม่ได้โง่ จากเรื่องมากมายที่เกิดขึ้นวันนี้ก็ตระหนักถึงปัญหาได้มากมายแล้ว

อย่างเช่น หลังจากผู้แข็งแกร่งสิบยักษ์ใหญ่อมตะที่พวกฝูเหวินหลีเป็นผู้นำถูกกำจัดอย่างสิ้นเชิง หากข่าวเผยแพร่ออกไปจะต้องนำพาความสะเทือนไหวครั้งใหญ่ไปทั่วหล้าแน่

ถึงตอนนั้นสิบยักษ์ใหญ่อมตะจะหยุดเพียงเท่านี้ได้อย่างไร

เมื่อเห็นทุกคนกำลังจะสลายตัว จู่ๆ หลินสวินก็เอ่ยขึ้น “ข้าคนแซ่หลินมีเรื่องหนึ่งจะประกาศ ศิษย์ร่วมสำนักที่มีมรรควิถีขั้นดับเทพโปรดอยู่ต่อ”

ทุกคนต่างอึ้งงัน

แม้แต่พวกเสวียนเฟยหลิงยังอดมองหลินสวินไม่ได้ ไม่เข้าใจว่าเขาจะทำอะไร

เสวียนเฟยหลิงใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วกล่าว “ทำตามที่รองหัวหน้าหอหลินกล่าว ผู้ที่มีมรรควิถีขั้นดับเทพอยู่ต่อ ตอนนี้คนอื่นๆ สามารถจากไปได้แล้ว”

ไม่นานในที่นั้นก็เหลือเพียงหนึ่งร้อยกว่าคน

ในนั้นแปดส่วนคือผู้ดูแลและผู้อาวุโสที่มาจากสามหอ อีกสองส่วนคือผู้นำและผู้ดูแลเก้ายอดเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์