ตอนที่ 2909 ห้ามใจไม่อยู่
เวลาสิบปีผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ในสิบปีนี้ภายในลัทธิแรกกำเนิดเกิดเรื่องขึ้นมากมาย
ในหมู่คนรุ่นเยาว์มีมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิมากมายแจ้งมรรคอมตะ อย่างเสวียนจิ่วอิ้น จินเทียนเสวียนเยวี่ย ตู๋กูโยวหรัน เซี่ยงเสี่ยวหยวนเป็นต้น
นี่เป็นเพราะรองหัวหน้าหออย่างพวกเสวียนเฟยหลิงเคยหารือกัน ตัดสินใจนำทรัพยการฝึกปราณล้ำค่าหาใดเปรียบจำนวนมากในสำนักออกมา สนับสนุนการฝึกปราณของคนหนุ่มสาวอย่างไม่เก็บสงวน
ทรัพยากรฝึกปราณที่มกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิแต่ละคนได้รับในแต่ละเดือนล้วนมากกว่าที่ผ่านมาหลายเท่า ซ้ำยังเพิ่มโอสถเทพ ลูกกลอนวิญญาณที่หายากไร้ใดเปรียบอีกจำนวนหนึ่ง
นอกจากนี้ข้อจำกัดของเขาตำราก็ถูกถอดถอน ศิษย์คนใดก็ตามที่มีรากฐานพลังแจ้งมรรคอมตะล้วนสามารถเข้าออกในนั้นตามสะดวก
ส่วนพวกรุ่นอาวุโสก็ไม่ตระหนี่การบ่มเพาะคนรุ่นเยาว์ เปิดลานมรรค ถ่ายทอดวิชา ไขข้อสงสัยต่างๆ อยู่เป็นประจำ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้หลายปีนี้เกิดคนหนุ่มสาวที่แจ้งมรรคอมตะขึ้นกลุ่มหนึ่ง
และค่าตอบแทนที่ลัทธิแรกกำเนิดจ่ายเพื่อสิ่งนี้ ก็คือรากฐานสำนักเกือบสองส่วนที่สั่งสมมานานในกาลเวลาไร้สิ้นสุดจวบจนปัจจุบัน!
แน่นอนว่าไม่มีใครสนใจเรื่องนี้
พวกเสวียนเฟยหลิงล้วนรู้ดีใต้หล้านี้ใกล้ปั่นป่วนแล้ว ก่อนที่โหยวเป่ยไห่จะแจ้งมรรคนิรันดร์ ระหว่างสี่หอบรรพจารย์ต้องมีศึกใหญ่ปะทุขึ้นเป็นแน่
เวลาเช่นนี้ไม่ใช่เวลาที่จะตระหนี่ถี่เหนียวทรัพยากรฝึกปราณสักนิด
ขณะเดียวกันในช่วงหลายปีนี้ก็มีขั้นดับเทพมากมายที่พลังปราณเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด
ขั้นดับเทพขั้นต้นเลื่อนสู่ขั้นดับเทพขั้นกลาง ขั้นดับเทพขั้นกลางเลื่อนสู่ขั้นดับเทพขั้นปลาย ขั้นดับเทพขั้นปลายเลื่อนสู่ขั้นสัมบูรณ์…
ความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลง จำนวนคนที่เลื่อนขั้น เรียกได้ว่าน่าตกใจ!
นี่ไม่ใช่เพราะรากฐานพลังของลัทธิแรกกำเนิดกร้าวแกร่ง หากแต่เป็นเพราะพลังระเบียบที่หลินสวินมอบให้ในตอนแรกมีมากเกินไป ทุ่มพลังระเบียบหลายพันสายลงไปจึงเกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้น
แน่นอนว่านี่ก็เกี่ยวข้องอย่างแยกจากกันไม่ออกกับตัวขั้นดับเทพเหล่านั้นเช่นกัน
สัตว์ประหลาดเฒ่ามากมายเคี่ยวเข็ญในขั้นนี้ไม่รู้กี่กาลเวลา อย่างน้อยก็หลายพันปี อย่างมากนับหมื่นปี รากฐานพลังในตัวเคี่ยวกรำจนน่าสะพรึงไร้สิ้นสุด เหตุที่ไม่สามารถทะลวงขั้นเพราะขาดแคลนพลังระเบียบที่มากพอ
เมื่อมีพลังระเบียบที่หลินสวินมอบให้ เรียกได้ว่าเป็นฝนตกหน้าแล้ง ทำให้มรรควิถีที่พวกเขาสั่งสมมานานได้รับการปลดปล่อยและเลื่อนขั้นอย่างเบ็ดเสร็จ
เสวียนเฟยหลิงนับจำนวนดู เพียงแค่ในสิบปีนี้ก็มีขั้นดับเทพขั้นกลางเพิ่มขึ้นห้าสิบเก้าคน ขั้นดับเทพขั้นปลายเพิ่มขึ้นสามสิบสองคน และขั้นดับเทพสัมบูรณ์เพิ่มขึ้นสี่คน!
สิ่งที่ทำให้พวกเสวียนเฟยหลิงปลาบปลื้มยิ่งกว่าคือ ในสิบปีเซียวเหวินหยวนแจ้งมรรคขั้นหลุดพ้นแล้ว!
สิบปี ภายในลัทธิแรกกำเนิดก็มีการเปลี่ยนแปลงที่น่าตกใจเช่นนี้ นี่ถึงขั้นเหนือความคาดหมายของคนไม่น้อย
สิ่งที่ไม่มีใครรู้คือในสิบปีนี้ มรรควิถีขั้นหลุดพ้นขั้นต้นของหลินสวินฝ่าทะลวงอีกครั้ง ก้าวสู่ขั้นหลุดพ้นขั้นกลางแล้ว!
…
ในเขาไม่รู้วันคืน ฤดูกาลผันผ่านไม่รู้เดือนปี
เวลาสิบกว่าปีผ่านไปอย่างรวดเร็วอีกครั้ง
วู้ม!
วันนี้ในถ้ำสถิตของหลินสวิน ระลอกคลื่นพลังระเบียบคลุมเครือส่งเสียงอึงอล เกิดการเคลื่อนไหวประหนึ่งเกลียวคลื่นเป็นระลอกๆ
ก็เห็นบนเงาร่างของหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิ กฎเกณฑ์อมตะพวยพุ่ง ควบรวมเป็นหุบเหวใหญ่แห่งหนึ่ง ลำพังเพียงกลิ่นอายกฎเกณฑ์ระดับนั้นยังกร้าวแกร่งกว่าระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าทั่วไปมากโข!
อันที่จริงในช่วงหลายปีนี้พลังระเบียบที่เขาหลอมมีจำนวนมากเกินไป ล้วนกลายเป็นส่วนหนึ่งของกฎเกณฑ์อมตะที่เขาครอบครองในตัวไปแล้ว
และเวลานี้เมื่อเขาโคจรมรรควิถี หุบเหวใหญ่ที่แปลงมาจากกฎเกณฑ์อมตะหมุนเวียน ประหนึ่งสามารถกลืนกินพลังระเบียบทั้งปวงทั่วใต้หล้า!
อานุภาพระดับนี้คล้ายกับระเบียบนิพพานอย่างยิ่ง ดุจดั่งสามารถกำราบและดับทลายพลังระเบียบทั้งหมดในโลกโดยธรรมชาติ!
เนิ่นนานหลินสวินลืมตาขึ้น ประกายแสงมหามรรคเร้นลับปรากฏอยู่ในส่วนลึกของนัยน์ตาเขา ลุ่มลึกจนทำให้คนใจสะท้าน
“ยี่สิบหกปีแล้ว เพิ่งหลอมระเบียบนิพพานได้สามส่วน…”
หลินสวินพึมพำ
ยี่สิบหกปี เขาเคี่ยวกรำตั้งแต่ค่ำยันเช้า ระหว่างที่เคี่ยวกรำมรรควิถีก็หลอมระเบียบนิพพานไปด้วย
จนบัดนี้พลังปราณของเขายังคงอยู่ขั้นหลุดพ้นขั้นกลาง แต่ห่างจากขั้นปลายไม่ไกลแล้ว
ส่วนพลังของระเบียบนิพพานก็ถูกเขาหลอมราวสามส่วน!
ดูเหมือนก้าวหน้ารวดเร็วเหลือเชื่อ แต่นี่เป็นผลลัพธ์ที่กว่าจะได้มาต้องบากบั่นเคี่ยวกรำยี่สิบกว่าปี ภายใต้การร่วมมือสุดกำลังของร่างต้นและกายมรรคทั้งห้า
จากสถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินยังสงสัยว่าก่อนที่ภัยพิบัตินั่นจะปะทุขึ้น ตนจะสามารถหลอมระเบียบนิพพานได้อย่างหมดจดหรือไม่
ทว่าแม้จะหลอมพลังระเบียบนิพพานได้เพียงสามส่วน แต่หลินสวินยังรับรู้อย่างชัดเจนว่ากฎเกณฑ์อมตะของตนเกิดการเปลี่ยนแปลงที่พลิกคว่ำฟ้าดินแล้ว
เขาเคยลองทดสอบกับน้ำเต้าเขียวม่วงนั่น ไม่จำเป็นต้องอาศัยระเบียบนิพพานสักนิด ใช้แค่เพียงกฎเกณฑ์อมตะในตัวเขาก็สามารถควบคุมระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากคู่นี้ได้อย่างง่ายดาย!
และยามหลินสวินใช้วิธีเดียวกันไปต้านพลังระเบียบระดับเทพ ‘ปฐม’ ก็ยังมีสัญญาณพอฟัดพอเหวี่ยงกันได้รำไร!
ควรรู้ว่าหลินสวินได้ระเบียบปฐมมายามอยู่แดนมารสวรรค์ ตอนนั้นดูเหมือนถูกหลินสวินใช้กฎเกณฑ์อมตะในตัวกำราบ อันที่จริงเป็นเพราะระเบียบปฐมสัมผัสได้ถึงกลิ่นอาย ‘นิพพาน’ ที่แฝงอยู่ในกฎเกณฑ์อมตะของเขา จึงเลือกศิโรราบด้วยตัวเอง
แต่ตอนนี้ต่างออกไป
หลินสวินใช้อานุภาพของกฎเกณฑ์อมตะมาทดสอบล้วนๆ ก็ยังมีสัญญาณที่ไม่ด้อยไปกว่าระเบียบปฐมอยู่รางๆ!
นี่หมายความว่ากฎเกณฑ์อมตะที่เขาครอบครองในตอนนี้อยู่เหนือขอบเขตระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าไปแล้วอย่างไม่ต้องสงสัย! เริ่มเฉียดใกล้พลังระเบียบระดับเทพแล้ว!
การเปลี่ยนแปลงนี้ย่อมเรียกได้ว่าน่าทึ่งสุดขีด
เท่าที่หลินสวินรู้ อานุภาพกฎเกณฑ์อมตะที่ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ครอบครอง อย่างมากที่สุดก็เทียบเท่ากับอานุภาพระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าหายากเท่านั้น
อย่างเฒ่าชราเช่นพวกฝูเหวินหลี จู่เหวินเหิง ฉีเซียวอวิ๋นที่ถูกเขาฆ่าก่อนหน้านี้ อานุภาพกฎเกณฑ์อมตะที่พวกเขาครอบครองล้วนประมาณนี้กันหมด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์