สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2910 พันธมิตรสงครามสิบตระกูล – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 2910 พันธมิตรสงครามสิบตระกูล ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 2910 พันธมิตรสงครามสิบตระกูล
ซย่าจื้อยิ้มพลางกลับไปในเตากระบี่ไร้ก้นบึ้ง
หลินสวินเพิ่งได้เห็นรอยยิ้มบนใบหน้าของซย่าจื้อคงอยู่นานเช่นนี้เป็นครั้งแรก ซ้ำยังสดใสถึงเพียงนี้อีกด้วย
นิ้วมือของกดไล้ริมฝีปากของตน อึ้งงันอยู่ครู่หนึ่งก่อนทอยิ้ม
ช้าเร็วต้องมีสักวันที่เขาแต่งซย่าจื้อเข้าบ้านอย่างยิ่งใหญ่เปิดเผย!
สำหรับผู้ฝึกปราณ การปิดด่านเป็นเรื่องธรรมดาเหมือนกินอาหาร ยิ่งพลังปราณสูง เวลาในการปิดด่านหนึ่งครั้งก็มักจะยาวนานขึ้น
อย่างน้อยหลายสิบปี อย่างมากนานนับพันปี แตกต่างกันออกไป
และในการปิดด่าน เวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว
ปีที่สามสิบหกที่หลินสวินปิดด่าน เกิดเรื่องใหญ่สะเทือนฟ้าดินเรื่องหนึ่งขึ้น…
สิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปดร่วมมือกันก่อตั้ง ‘พันธมิตรสงครามสิบตระกูล’ โดยมีหวังจ้งเทียน ผู้นำตระกูลหวังจากยักษ์ใหญ่อมตะอันดับหนึ่งตระกูลหวังดำรงตำแหน่ง ‘หัวหน้าพันธมิตร’ ส่วนผู้นำตระกูลของเก้ายักษ์ใหญ่อมตะที่เหลือดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพันธมิตร
การก่อตั้งพันธมิตรสงครามสิบตระกูลทำให้สถานการณ์ทั่วหล้าสั่นสะเทือน คลื่นลมในที่ลับพลุ่งพล่าน
และหลังจากพันธมิตรสงครามสิบตระกูลก่อตั้งขึ้น เผ่าจักรพรรดิอมตะมากมายที่กระจายตัวอยู่ในน่านฟ้าที่เจ็ดและแปด ทยอยได้รับหนังสือเจตจำนงที่หัวหน้าพันธมิตรหวังจ้งเทียนเขียนด้วยลายมือตนเองอย่างต่อเนื่อง
เนื้อหาในหนังสือเจตจำนงง่ายดายยิ่ง…
หากไม่เลือกอยู่ใต้อาณัติพันธมิตรสงครามสิบตระกูล ทำประโยชน์แก่พันธมิตรสงครามสิบตระกูล
ก็เป็นศัตรูของพันธมิตรสงครามสิบตระกูล!
หินก้อนเดียวก่อให้เกิดคลื่นพันชั้น เผชิญหน้ากับพันธมิตรสงครามสิบตระกูลที่อานุภาพเกรียงไกร ไม่ปกปิดภัยคุกคามสักนิด เผ่าจักรพรรดิอมตะที่ได้รับหนังสือเจตจำนงแทบจะเลือกสวามิภักดิ์เกือบทั้งหมด
ลือกันว่าในสามเดือนสั้นๆ สองอาณาเขตอย่างน่านฟ้าที่เจ็ดและน่านฟ้าที่แปดก็มีเผ่าจักรพรรดิอมตะนับร้อยยอมจำนน ติดตามเป็นบริวารของพันธมิตรสงครามสิบตระกูล!
ข่าวเช่นนี้แพร่กระจายออกไปทั่วหล้า ทำให้บรรยากาศแต่ละน่านฟ้าทั่วทั้งโลกยอดนิรันดร์ล้วนเปลี่ยนเป็นตึงเครียดขึ้นมา
“ใต้หล้าแห่งนี้… คลื่นลมใกล้มาแล้ว!”
เฒ่าชราส่วนหนึ่งวิตกกังวล
คนสายตาเฉียบแหลมล้วนมองออก ว่าการก่อตั้งของพันธมิตรสงครามสิบตระกูลต้องเป็นเพราะจะก่อศึกสงครามครั้งใหญ่ขึ้นเป็นแน่ หาไม่ย่อมไม่มีทางรวมพลเอิกเกริกเช่นนี้เด็ดขาด
ที่ทำให้คนอกสั่นขวัญผวาที่สุดคือ ตัวตนเช่นสิบยักษ์ใหญ่อมตะตั้งตระหง่านสูงส่งอยู่ในน่านฟ้าที่แปด ตัดน่านฟ้าที่เก้าอันเป็นดั่งสถานที่ในตำนานออกไปไม่พูดถึง ทั่วทั้งโลกยอดนิรันดร์ย่อมเป็นขุมอำนาจของสิบยักษ์ใหญ่อมตะที่สำคัญที่สุด!
กล่าวอย่างไม่เกินจริง ยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลใดก็ตามล้วนเสมือนขุมอำนาจอหังการเหนือสุด
ตอนนี้สิบยักษ์ใหญ่อมตะกลับร่วมมือกัน ก่อตั้งพันธมิตรสงคราม เดิมนี่ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าขุมอำนาจที่พวกเขาหมายจัดการย่อมไม่ใช่ธรรมดา!
“พวกเขาจะแตกหักกับลัทธิแรกกำเนิดโดยสมบูรณ์แล้ว ตัดสินใจสู้ตัดสินกับอีกฝ่าย!”
มีคนกล่าวอย่างสมเหตุสมผล
หลายสิบปีก่อนภายในลัทธิแรกกำเนิดเกิดการกวาดล้างครั้งใหญ่คราหนึ่ง ลือกันว่าผู้แข็งแกร่งจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะในลัทธิแรกกำเนิดล้วนถูกสังหารสิ้นซาก!
นี่ทำให้ทุกคนสังหรณ์ใจว่าการก่อตั้งพันธมิตรสงครามสิบตระกูลก็มีขึ้นเพื่อเล่นงานลัทธิแรกกำเนิด
“ฐานะลัทธิแรกกำเนิดโดดเด่น ครอบครองพลังระเบียบระดับเทพ และมีเพียงยักษ์ใหญ่เกรียงไกรอย่างลัทธิแรกกำเนิดเท่านั้นจึงจะทำให้สิบยักษ์ใหญ่อมตะเกาะกลุ่มอยู่ด้วยกันได้ หาไม่อาศัยเพียงกำลังพลของยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลเดียวคงไม่สามารถต้านทานลัทธิแรกกำเนิดได้สักนิด”
มีคนวิเคราะห์เช่นนี้
“เทพเซียนสู้กัน คนธรรมดาประสบภัย คลื่นลมรวมตัวแล้ว ภัยพิบัติก็ย่อมอยู่ไม่ไกล”
“โลกหล้านี้ต้องปั่นป่วนเป็นแน่!”
…
การก่อตั้งพันธมิตรสงครามสิบตระกูล ผลกระทบที่เกิดขึ้นใหญ่โตเกินไปจริงๆ เมื่อเวลาเคลื่อนคล้อย ในแต่ละน่านฟ้าตั้งแต่น่านฟ้าที่แปดจนถึงน่านฟ้าที่หนึ่งล้วนรู้เรื่องนี้ บังเกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ไม่รู้เท่าไร
สิบยักษ์ใหญ่อมตะจะงัดข้อกับลัทธิแรกกำเนิด นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่หายากยิ่งยวดในประวัตศาสตร์ของโลกยอดนิรันดร์!
หลังจากการชำระกวาดล้างครั้งใหญ่ในปีนั้นสิ้นสุดลง ลัทธิแรกกำเนิดก็ปิดตายทางเข้าออกแดนแรกเริ่ม เสมือนตัดขาดจากโลก
แต่สำหรับพวกคนใหญ่คนโตเหล่านั้น คิดจะสืบข่าวโลกภายนอกก็เป็นเรื่องง่ายแสนง่าย
ดังนั้นข่าวที่เกี่ยวข้องกับพันธมิตรสงครามสิบตระกูลจึงถูกลัทธิแรกกำเนิดล่วงรู้ในทันทีเช่นเดียวกัน
เพื่อสิ่งนี้ บรรดารองหัวหน้าหออย่างพวกเสวียนเฟยหลิงยังเรียกประชุมแบบปิดโดยเฉพาะ
การตอบสนองของรองหัวหน้าหอทั้งหมดล้วนเยือกเย็นยิ่งไอรีนโนเวล
เดิมนี่ก็เป็นเรื่องในความคาดหมายของพวกเขา
“พันธมิตรสงครามสิบตระกูล เฮอะ ข้าว่าเป็นพันธมิตรสงครามพลาดพลั้งมากกว่า ความพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียวกลายเป็นแค้นชั่วนิรันดร์!”
นี่คือคำวิจารณ์ของตู๋กูยง เรียกเสียงหัวเราะผสมโรงที่แฝงแววชั่วร้ายเต็มเปี่ยมจากรองหัวหน้าหอคนอื่นๆ ระลอกหนึ่ง
“พวกเขากำลังรวบรวมกำลังพล หากข้าเดาไม่ผิด ช่วงเวลาต่อจากนี้พวกเขาต้องยังมีการเคลื่อนไหวอื่นอีกเป็นแน่”
นัยน์ตาเสวียนเฟยหลิงเย็นเยียบ “แต่ก็ไม่เป็นไร เอาความกล้าล้นฟ้าให้แก่พวกเขา พวกเขาก็ยังไม่กล้าเปิดศึกกับลัทธิแรกกำเนิดของพวกเราในเวลานี้เด็ดขาด”
ทุกคนล้วนพยักหน้า
ขุมอำนาจสิบยักษ์ใหญ่อมตะรวมตัวกันเป็นเรื่องน่าตกใจมากจริงๆ แต่นี่ยังไม่อาจข่มขวัญลัทธิแรกกำเนิดได้
เมื่อเกิดศึกใหญ่เช่นนี้อย่างแท้จริง สิ่งที่วัดกันไม่ใช่ว่าจำนวนผู้แข็งแกร่งมากน้อยแค่ไหน
ปีที่สิบของการปิดด่าน พลังปราณของหลินสวินทะลวงถึงขั้นหลุดพ้นขั้นกลางแล้ว
และปีที่สามสิบหกของการปิดด่านครานี้ พลังปราณของหลินสวินค่อยๆ เพิ่มจากขั้นหลุดพ้นขั้นกลาง เฉียดใกล้ขั้นหลุดพ้นขั้นปลายแล้ว!
การเลื่อนขั้นของเขาย่อมไม่อาจเทียบได้กับสิบปีนั้นในแดนมารสิบทิศ แต่ก็เรียกได้ว่าสะเทือนอดีตสะท้านปัจจุบัน น่าทึ่งยิ่งยวด!
…
เป็นอย่างที่เสวียนเฟยหลิงคาดการณ์ไว้
ปีที่สองที่พันธมิตรสงครามสิบตระกูลก่อตั้ง หัวหน้าพันธมิตรหวังจ้งเทียนติดประกาศนำจับคนที่เกี่ยวข้องกับผู้สืบทอดคีรีดวงกมลหลินสวินทั่วทั้งโลกยอดนิรันดร์
ผู้ที่ให้เบาะแสจะได้รับรางวัลใหญ่
ผู้ที่จับเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับหลินสวินจะได้รับรางวัลอย่างงาม
ผู้ที่ลอบคุ้มครองคนที่เกี่ยวข้องกับหลินสวิน ฆ่าล้างโคตร!
ทันทีที่ข่าวกระจายออกไป ทั่วหล้าพลันสะเทือนไหว
สิ่งที่ทำให้คนสนใจก็คือ คำที่พันธมิตรสงครามสิบตระกูลใช้คือคำว่า ‘ผู้สืบทอดคีรีดวงกมลหลินสวิน’ ไม่ใช่ ‘รองหัวหน้าหอแรกนภาลัทธิแรกกำเนิดหลินสวิน’
แต่จุดแตกต่างเล็กๆ เช่นนี้ ผู้ที่มีสายตาเฉียบคมหน่อยล้วนมองออกว่าไม่มีอะไรมากไปกว่า คิดจะแยกหลินสวินออกจากลัทธิแรกกำเนิดเพื่อจัดการเพียงคนเดียว!
ความรู้สึกที่มอบให้ผู้คนคือ คนที่พันธมิตรสงครามสิบตระกูลจ้องเล่นงานคือหลินสวิน ไม่ใช่ลัทธิแรกกำเนิด
หากคนของลัทธิแรกกำเนิดฉลาดพอ ควรส่งตัวหลินสวินออกมาแต่โดยดีจะดีที่สุด หาไม่ก็อย่าหาว่าพันธมิตรสงครามสิบตระกูลไม่ไว้หน้า!
เมื่อได้รับข่าว แม้ว่าพวกเสวียนเฟยหลิงจะเตรียมตัวไว้แต่แรก ในใจก็ยังคงโกรธกรุ่นอยู่ดี มีไอสังหารที่ไม่อาจควบคุมแผ่พุ่ง
ทันทีที่คำสั่งนี้ของพันธมิตรสงครามสิบตระกูลประกาศออกไป สิ่งที่คาดการณ์ได้คือในช่วงเวลาถัดจากนี้ ตั้งแต่น่านฟ้าที่หนึ่งถึงน่านฟ้าที่แปดจะปรากฏกองกำลังนับไม่ถ้วนไปเสาะหาและจับตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับหลินสวิน!
ตู๋กูยงกล่าวใคร่ครวญ “ช่วงหลายปีก่อน เพื่อจัดการกับพวกฝูเหวินหลี หลินสวินเคลื่อนไหวล่วงหน้าแต่เนิ่นๆ มุ่งหน้าไปน่านฟ้าที่หก เห็นคนว่าในตระกูลลั่วลงหลักปักฐานอย่างดี ทว่าที่ทางเดินโบราณฟ้าดารา เครือญาติเหล่านั้นของหลินสวินล้วนหนีเข้าไปกบดานในแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ พันธมิตรสงครามสิบตระกูลน่าจะไม่มีทางได้ผลเก็บเกี่ยวอะไร”
“หลินสวินในปีนั้น จากแดนใหญ่พันศึกเข้าสู่โลกยอดนิรันดร์ บุกตะลุยจากน่านฟ้าที่หนึ่งถึงน่านฟ้าที่เจ็ด ตลอดทางนี้นอกจากตระกูลลั่วก็ไม่มีโอกาสและเวลาไปคบค้ากับใครอื่นอีกสักนิด ตรงกันข้ามกลับมีศัตรูไม่น้อย”
ฟางเต้าผิงกล่าว “ตามความเห็นข้า เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องเก็บมาใส่ใจ”
เสวียนเฟยหลิงกลับส่ายหน้าน้อยๆ กล่าวใคร่ครวญ “ไม่ได้ เผื่อว่าในโลกโลกยอดนิรันดร์นี้มีสหายและญาติที่เกี่ยวข้องกับหลินสวินถูกจับตัวไปจริงๆ จะทำอย่างไร”
หัวคิ้วของทุกคนขมวดขึ้นมา ก็จริง ไม่กลัวหนึ่งหมื่น แต่กลัวหนึ่งในหมื่น
เมื่อเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น พันธมิตรสงครามสิบตระกูลต้องควบคุมตัวประกันไปข่มขู่หลินสวินเป็นแน่!
…………………..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์