Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2914

ตอนที่ 2914 พลังต่อสู้เต็มกำลังของหลินสวิน

ในการต่อสู้

“ผู้อาวุโส มาอีก!”

ผมดำของหลินสวินปลิวไสว ส่งเสียงคำรามทอดยาว

เขาในขณะนี้เพิ่งถูกบีบให้สำแดงพลังสุดขีดอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนอย่างแท้จริง อานุภาพทั่วร่างพุ่งทะยานฟ้าดารา น่าสะพรึงจนทำให้คนใจสะท้าน

“ดี ข้าจะใช้พลังยามรูปจำลองเจตจำนงสู้สุดชีวิตประลองตัดสินกับเจ้า”

ไท่เสวียนหายใจเข้าลึกเฮือกหนึ่ง แขนเสื้อโบกตวัด ปราณกระบี่ที่พร่างพราวปรากฏขึ้นราวธารสายยาวไพศาล โถมกระหน่ำไปทางหลินสวิน

ชั่วขณะหนึ่งพวกเสวียนเฟยหลิงล้วนขนลุกขนพอง เกิดความรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างรุนแรงหาใดเปรียบ

ตูมโครม!

ฟ้าดาราปั่นป่วน สุริยันจันทราไร้แสง

ภายใต้การโจมตีนี้ แม้ว่าหลินสวินและห้าร่างแยกของเขาจะต้านทานสุดกำลัง แต่ยังคงถูกซัดจนเจ็บหนัก ซวนเซกระอักเลือด ทั่วร่างล้วนปรากฏรอยเลือดที่ถูกปราณกระบี่กรีดเป็นสายๆ ดูน่าตกใจ

“มาอีก”

หลินสวินสูกหายใจลึกเฮือกหนึ่ง ภายใต้สีหน้าเยือกเย็นมีกลิ่นอายบ้าคลั่งกำลังลุกลามอยู่รำไร นัยน์ตาดำของเขาราวหุบเหว ลูกตาคล้ายมีเปลวเพลิงคลุ้งฟ้าลุกโชนอยู่

ในหลายปีนี้เขาเจ็บหนักน้อยครั้งมาก สัมผัสถึงกลิ่นอายคุกคามยามถูกกดข่มน้อยครั้งยิ่ง

นี่ไม่เพียงไม่ได้ทำให้เขาหวาดกลัว ตรงข้ามกลับกระตุ้นจิตต่อสู้ที่ห่างหายไปนานขึ้นมา ลุกโชนราวน้ำเดือด

ตูม!

ร่างต้นของหลินสวินและกายมรรคทั้งห้าบุกโจมตีพร้อมกัน อานุภาพถึงขั้นกร้าวแกร่งขึ้นเรื่อยๆ

ไท่เสวียนย่อมไม่ออมมือ

เขาลงมือด้วยพลังเต็มที่ของรูปจำลองเจตจำนง ปราณกระบี่ดุจสายรุ้งแผ่ทั่วฟ้าดารา เจตกระบี่นิรันดร์ราวเขาถล่มทะเลโหมซัด แทรกซึมไปในห้วงอากาศทุกอณูไอรีนโนเวล

ในการต่อสู้ หลินสวินและกายมรรคทั้งห้าของเขาเจ็บหนักสะสมอย่างรวดเร็ว เลือดย้อมร่าง เห็นชัดว่าสะบักสะบอมยิ่ง

แต่อานุภาพของเขากลับยิ่งกร้าวแกร่งและดุดันมากขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ก่ต่อสู้ฟาดฟันนองเลือดนี้

เหมือนกำลังผ่านประสบการณ์เคี่ยวกรำที่นองเลือดและโหดอำมหิตฉากหนึ่ง ชำระล้างท่ามกลางการเข่นฆ่าและเลือด แปรสภาพท่ามกลางอันตรายยิ่งยวด

เพียงแต่อาการบาดเจ็บของเขาสาหัสเกินไป ร่างกายล้วนเหมือนเครื่องลายครามที่มีรอยแตกนับไม่ถ้วน เลือดสดไหลหลั่ง ชวนสยองน่าตกใจ

หลังจากต้านฝนกระบี่ได้อีกครั้ง ร่างของหลินสวินซวนเซคราหนึ่ง เกือบยืนทรงตัวไม่อยู่

และก็เป็นตอนนี้ที่ไท่เสวียนหยุดมือ สายตามองมาทางหลินสวิน “พอเท่านี้แหละ”

หลินสวินเก็บกายมรรคทั้งห้ากล่าวว่า “ผู้อาวุโส ขอยืมใช้สถานที่ท่านสักหน่อยนะขอรับ”

ไท่เสวียนพยักหน้า

หลินสวินนั่งขัดสมาธิ พลังขับเคลื่อนทั่วร่างเริ่มโคจร เข้าสู่การนั่งสมาธิในระดับลึกซึ้ง

การต่อสู้ครั้งนี้เกือบจะสูบพลังทั้งร่างของเขาไปหมด อันตรายสุดขีด บ้าคลั่งสุดขั้ว และทำให้มรรควิถีของเขาได้รับการหล่อหลอมอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนด้วยเช่นกัน

ปราณพัฒนาเร็วเกินไปบางครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดีนัก

เพราะขาดการลับคมอย่างแท้จริง เป็นผลให้รากฐานไม่มั่นคงได้ง่ายมาก

ก็เหมือนในการปิดด่านห้าสิบห้าปีนี้ พลังปราณของเขาทะลวงสองครั้ง ก้าวสู่ขั้นหลุดพ้นขั้นปลาย แม้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจะน่าทึ่งหาใดเปรียบ ทว่าในการต่อสู้กับไท่เสวียนกลับเกิดปัญหาขึ้นไม่น้อย

เช่นว่ายังไม่ชำนาญในพลังที่ครอบครอง ส่งผลให้ในพลังที่ปลดปล่อยออกมามีบางส่วนสูญเปล่าไปโดยสมบูรณ์

หรือเหมือนกับยามต่อสู้ ยังไม่สามารถทำให้พลังเจตจำนงและสารกาย พลังชีวิต และจิตวิญญาณของตนผสานเป็นหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์

สาเหตุก็เพราะแม้ปราณจะพัฒนาได้เร็ว แต่กลับขาดการเคี่ยวกรำ ยามไม่ได้ต่อสู้สัมผัสไม่ได้สักนิด แต่เมื่อพบเจอกับการโจมตีถึงชีวิตก็จะเผยออกมาอย่างหมดเปลือก

เคราะห์ดีคือการต่อสู้ครั้งนี้เทียบเท่ากับการเคี่ยวกรำถึงขีดสุดอย่างหนึ่ง ทำให้มองเห็นช่องโหว่ถมช่องว่าง ขัดเกลาตนเองให้สมบูรณ์

ในฟ้าดาราพลันเงียบสงบขึ้นมา

มองดูหลินสวินที่นั่งขัดสมาธิอยู่ เนิ่นนานกว่าพวกเสวียนเฟยหลิงจะดึงสติกลับมาจากความสะท้านสะเทือนได้ แต่ละคนสีหน้าเปลี่ยนเป็นพิลึกพิลั่น

การต่อสู้นี้ทำให้พวกเขาสัใผสถึงพลังต่อสู้เต็มกำลังของหลินสวินในปัจจุบันได้ในที่สุด

แต่เรื่องกระอักกระอ่วนก็เกิดขึ้นแล้ว

ด้วยสายตาของพวกเขา สิ่งเดียวที่มั่นใจได้คือความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหลินสวินเรียกได้ว่า ‘ยอดอมตะ’ สมชื่ออย่างแน่นอน

เพียงแต่พวกเขากลับไม่สามารถชี้ขาดได้ว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินไปถึงขั้นไหนแล้วกันแน่…

เพราะตั้งแต่อดีตสืบมา โลกนี้ยังไม่เคยมีใครที่มีพลังต่อสู้เย้ยฟ้าเช่นนี้ในขั้นหลุดพ้นขั้นปลายเหมือนอย่างหลินสวินมาก่อน

“พี่ไท่เสวียน เจ้าหมอนี่พลังต่อสู้เป็นอย่างไร”

ครู่ใหญ่เสวียนเฟยหลิงเคลื่อนสายตาไปมองไท่เสวียนที่อยู่ไกลออกไป ในที่นี้มีแต่ไท่เสวียนที่เพิ่ง ‘จัดการ’ หลินสวินไปยกหนึ่งเท่านั้นจึงจะรู้ดีที่สุด

สภาวะจิตในเวลานี้ของไท่เสวียนก็ค่อยๆ เร่าร้อนขึ้นมาแล้วเช่นกัน ครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “พลังเหนือกว่าขั้นหลุดพ้น สามารถวัดฝีมือกับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ได้!”

เสียงสูดหายใจสะท้านระลอกหนึ่งดังขึ้น

พวกเขารู้ชัดเกินไปว่าประโยคนี้หมายความว่าอย่างไร

เสวียนเฟยหลิงอดถามต่อไม่ได้ “แต่เมื่อครู่เขาไม่ได้พ่ายแพ้อนาถมากนัก หากเจอคู่ต่อสู้เช่นนี้ โอกาสชนะจะมีมากขนาดไหน”

ไท่เสวียนกล่าว “ข้าก็ไม่ขอปิดบัง พลังที่ข้าใช้ก่อนนหน้านี้เทียบเท่าอานุภาพรูปจำลองเจตจำนงโจมตีสุดกำลัง แต่หลินสวินกลับยังยืนหยัดมาถึงตอนนี้ได้ เช่นนี้ก็อนุมานได้ว่า ภายหน้าต่อให้หลินสวินเจอคู่ต่อสู้เช่นนี้ ก็น่าจะเชื่อมั่นได้สูงว่าจะสยบอีกฝ่ายได้”ดฮณ๊ฯดฯฌซ

เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วเอ่ยต่อ “ถึงอย่างไรเขาก็ยังไม่ได้ใช้อภินิหารพรสวรรค์ ยามเขาสามารถประชันกับรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์ได้ อภินิหารพรสวรรค์ก็จะเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยคว้าชัยให้เขา”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์