Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2926

สรุปบท ตอนที่ 2926 ฆ่าจนรอบทิศไม่เหลือสักคน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2926 ฆ่าจนรอบทิศไม่เหลือสักคน – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2926 ฆ่าจนรอบทิศไม่เหลือสักคน ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2926 ฆ่าจนรอบทิศไม่เหลือสักคน

ตั้งแต่ก่อนเริ่มต่อสู้ หลินสวินคาดเดาได้ว่าศัตรูมาคราวนี้ต้องพกไพ่ตายมาด้วย

และไพ่ตายนี้ต้องเกี่ยวข้องกับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์แน่นอน

ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นตอนที่สู้กับพวกหวังเต้าสิงหรือห้ำหั่นกับรูปจำลองเจตจำนงของชางเจี้ยนเซิง หลินสวินก็รออยู่ตลอด

รอโอกาสที่จะกำจัดไพ่ตายของอีกฝ่ายให้สิ้นซาก!

ดังนั้นเมื่อเหวินจิ่วเกาปรากฏตัว หลินสวินจึงใช้อภินิหารประตูเนรเทศโดยไม่ลังเลสักนิด

นี่เป็นการลงมือโดยที่อีกฝ่ายไม่ทันตั้งตัวดังคาด กลืนกินรูปจำลองเจตจำนงของระดับนิรันดร์ทั้งสองคนได้ในคราวเดียว!

ยามประตูเนรเทศปรากฏ เฒ่าดึกดำบรรพ์ทั้งสิบคนอย่างพวกหวังเต้าสิงก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย

พวกเขาถอยหนีทันที ต้านทานพลังฉุดลากม้วนตลบอันน่ากลัวนั้นเต็มกำลัง

สิ่งที่น่ายินดีก็คือตอนที่หลินสวินกับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สองคนต่อสู้กัน พวกเขาก็หนีไปไกลนานแล้ว ดังนั้นจึงหลบเคราะห์นี้ได้อย่างหวุดหวิด

เพียงแต่เมื่อเห็นรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ของชางเจี้ยนเซิงกับเหวินจิ่วเกา รวมถึงหลินสวินต่างถูกประตูมิติอันน่ากลัวนั้นกลืนกิน พวกหวังเต้าสิงต่างก็เหงื่อกาฬไหลโชก ตกตะลึงหน้าถอดสี

“นี่…”

“ประตูเนรเทศ อภินิหารต้องห้ามหนึ่งของหุบเหวกลืนกิน หลายปีก่อนเจ้าหมอนี่เคยอาศัยอภินิหารนี้ปลิดชีพคู่ต่อสู้ที่ร้ายกาจไปไม่รู้เท่าไร”

“นี่จะไม่ใช่หมายความว่ารูปจำลองเจตจำนงของผู้อาวุโสทั้งสองล้วน…”

แม้พวกหวังเต้าสิงจะพบเจอเรื่องราวมามากมาย แต่ก็ยังตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้จนศีรษะชาหนึบ

น่าสะพรึงเกินไปแล้ว!

ตอนแรกรูปจำลองเจตจำนงของชางเจี้ยนเซิงถูกหลินสวินกับร่างแยกของเขาร่วมกันเล่นงาน เดิมทีเรื่องนี้ก็ทำให้ทุกคนยอมรับได้ยาก

และเมื่อรูปจำลองเจตจำนงของเหวินจิ่วเกาปรากฏตัว ยังไม่ทันได้สำแดงอานุภาพแท้จริงก็ถูกโจมตีด้วยประตูอภินิหารต้องห้ามเช่นนี้ เรื่องนี้น่าสะพรึงยิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

สวบ!

เพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้นเงาร่างของหลินสวินก็เคลื่อนออกมาจากในประตูเนรเทศ

แน่นอนว่ามีเพียงเขาคนเดียว

รูปจำลองเจตจำนงของชางเจี้ยนเซิงกับเหวินจิ่วเกาต่างหายลับไปแล้ว

หรือพูดอีกอย่างก็คือ ภายหน้าก็ไม่อาจปรากฏตัวได้อีกแล้ว

เมื่อเห็นภาพนี้พวกหวังเต้าสิงที่เดิมจิตใจปั่นป่วนอยู่ต่างก็หนาวสะท้านไปทั้งตัว ตระหนักได้ว่าไม่สู้ดี

“ทุกท่าน ยังมีวิชาอะไรสำแดงออกมาก็พอ”

หลินสวินผมดำปลิวไหว ดวงตาเย็นชาดุจสายฟ้า อานุภาพยิ่งโชติช่วงน่ากลัว ทันทีที่ปรากฏตัวก็ก้าวย่างกลางอากาศ พุ่งไปหาพวกหวังเต้าสิง

“หนี!”

หวังเต้าสิงตัดสินใจหลบหนีทันที

ขนาดรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ยังทำอะไรหลินสวินไม่ได้ ต่อให้พวกเขาสู้สุดชีวิตก็เกรงว่าจะไม่ต่างอะไรกับเอาไข่ไปกระทบหิน

เมื่อเห็นว่าพวกเขาจะจากไป มุมปากหลินสวินปรากฏแววถากถาง “รู้อยู่แล้วว่าจะเป็นแบบนี้”

เขาทำมุทราทันใด

ฮูม!

แสงแห่งกาลเวลาเป็นริ้วๆ นับไม่ถ้วนถักทอ กลายเป็นพลังผนึกปกคลุมฟ้าดินเอาไว้ภายใน กักพวกหวังเต้าสิงที่กำลังจะหนีไว้ในนั้น

“ผนึกกาลเวลา!”

พวกหวังเต้าสิงหูตากว้างไกล มองทะลุวิชาของหลินสวินได้ทันที แต่ละคนต่างหน้าเปลี่ยนสี

ตูม!

พวกเขากระตุ้นสมบัติโจมตีเต็มกำลัง ลองทำลายกระบวนผนึกนี้

แต่ทั้งหมดล้วนเปลืองแรงเปล่า

ด้านหลินสวินพุ่งเข้าไป เปิดฉากสังหารในประทับผนึกเวลา

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งพาดขวางกลางอากาศ โจมตีสังหารเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่อยู่ใกล้ที่สุดคนหนึ่ง

“รวม!”

เฒ่าดึกดำบรรพ์คนนี้มาจากตระกูลจงหลี ทั้งยังเป็นคนที่โหดเหี้ยมเด็ดขาดถึงที่สุดคนหนึ่ง บัดนี้ใช้วิชาลับต้องห้าม ทั้งร่างถูกหมอกสีดำปกคลุม ส่วนเบื้องหน้าเขาก็มีโล่แสงสีโลหิตแดงฉานชิ้นหนึ่งปรากฏ

เพียงแต่วิชาลับเช่นนี้ ต่อหน้าเตากระบี่ของหลินสวินก็คล้ายเปลือกไข่อันบอบบาง ถูกตบทลายในครั้งเดียว

ปึง!

โล่แสงสีโลหิตระเบิดกระจุย หมอกสีดำถาโถม

“ไม่…!

ภายในนั้นมีเสียงโหยหวนหนึ่งแว่วมา จากนั้นก็หยุดลงโดยพลัน เมื่อละอองแสงกระจายไป ห้วงอากาศแถบนั้นปั่นป่วน ส่วนเฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลจงหลีผู้นั้นถูกเตากระบี่สังหารทั้งร่างและจิตวิญญาณล้วนแตกซ่าน

ในที่นั้นเงียบสงัด

ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนหนึ่งก็ถูกหลินสวินสังหารเช่นนี้!

ไม่มีใครกล้าเชื่อ แต่ก็ต้องเชื่อ!

หวังเต้าสิงตาแทบหลุดจากเบ้า คำรามลั่น “เร็วเข้า ลงมือจัดการเขาด้วยกัน!”

ตูม!

เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เหลือบุกเข้าใส่หลินสวินอย่างทุ่มสุดตัว

ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยลองแล้ว แค่กำลังของพวกเขาไม่มีทางทำลายผนึกเวลานั้นได้สักนิด ในสถานการณ์เช่นนี้มีแต่สู้สุดตัวกับหลินสวินถึงอาจจะเอาชีวิตรอดได้

“ฆ่า!”

กลิ่นอายหวังเต้าสิงปะทุโหมคลั่ง ไฟโทสะอัดแน่นเต็มอก

เขากัดฟันเข่นเขี้ยว เอ่ยชัดถ้อยชัดคำว่า “ข้าขอสาบานว่าจะใช้ชีวิตเป็นค่าตอบแทน อัญเชิญการพิพากษ กลบข้อบกพร่อง แลกทัณฑ์แห่งการพิฆาตไพรี!”

ทันทีที่เสียงดังกระจายออกไป

แต่ละคำที่เขาพ่นออกมาถึงกับพวยพุ่งขึ้นฟ้าสูง แปลงเป็นรอยประทับสีโลหิตประทับอยู่บนกระบี่มรรคสีดำหนาหนักที่เขาครอบครองอยู่

ทันใดนั้นกลิ่นอายสังหารอันน่าครั่นคร้ามไร้สิ้นสุดปะทุจากกระบี่มรรคสีดำ ตัวกระบี่ยังเปลี่ยนเป็นสีแดงสดดุจโลหิต

นี่เป็นวิชาลับต้องห้ามวิชาหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย

ย้อนคิดไปถึงตอนแรก ขนาดรองหัวหน้าหอเจ็ดคนอย่างพวกเสวียนเฟยหลิงร่วมมือกันยังกำราบพลังต่อสู้สูงสุดของหลินสวินไม่ได้ นับประสาอะไรกับเฒ่าดึกดำบรรพ์ในสิบยักษ์ใหญ่อมตะพวกนี้

ควรรู้ว่าถ้าว่ากันด้วยพลังต่อสู้ เฒ่าดึกดำบรรพ์พวกนี้ล้วนด้อยกว่าพวกเสวียนเฟยหลิงอยู่บ้าง

และตอนนี้หลินสวินไม่ได้ออมมือแต่อย่างใด!

เพียงครู่สั้นๆ เท่านั้นก็ปลิดชีพเฒ่าดึกดำบรรพ์อย่างต่อเนื่องได้อีกสามคน คนหนึ่งถูกเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งกระแทกร่างแหลกกระจุย คนหนึ่งถูกกระบี่มรรคฟันออกเป็นสองท่อน อีกคนถูกหลินสวินสังหารด้วยประทับฝ่ามือ

เรียกได้ว่าพลังแข็งแกร่งเกินต้านทาน!

“ไป!”

ไม่นานนักเฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลจิงก็ตวัดมีดสั้นสีดำยาวเก้าชุ่นที่แสงเจ็ดสีรัดพัน แทงมายังหลินสวินอย่างรวดเร็ว

การแทงนี้ใช้พลังของเขาทั้งหมดแล้ว ปลายมีดสั้นมีเสียงระเบิดดังมาระลอกหนึ่ง พลังชั่วร้ายดุจคำสาปเป็นชั้นๆ ปรากฏขึ้นอย่างต่อเนื่อง นำพาเสียงคาถาอันเก่าแก่โบราณมาด้วย

หนามคำสาป!

เป็นพลังระเบียบที่อหังการชั่วร้ายอย่างยิ่งชนิดหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นผู้แข็งแกร่งคนใด ทันทีที่ถูกมันแทงจะถูกคำสาปลอบโจมตี จิตวิญญาณผุกร่อน กายสิ้นมรรคสลาย

แต่ภายใต้สายตาสะเทือนไหวของเฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลจิงผู้นี้

หลินสวินยื่นมือขวาออกมา ถึงกับจับมีดสั้นสีดำที่จ้วงสังหารมานั้นไว้โดยตรง ไม่ว่าพลังคำสาปเป็นชั้นๆ บนนั้นจะปะทุต่อเนื่องอย่างไรกลับทำอะไรหลินสวินไม่ได้สักนิด ราวกับถูกแสงพิสดารเป็นสายๆ โอบล้อม ถึงขนาดที่แม้แต่บนฝ่ามือของหลินสวินยังไม่มีสักแผล

“นัยเร้นลับระเบียบของโลกนี้ ไม่ว่าจะมากพิษสงหรือชั่วร้ายอย่างไรก็ทำอะไรข้าไม่ได้”

หลินสวินเอ่ยเรียบๆ ประโยคหนึ่ง จากนั้นก็ออกแรงที่นิ้วมือ กฎเกณฑ์อมตะที่หลอมพลังระเบียบนิพพานมาได้หกส่วนปลดปล่อยออกมาทันที

เกิดเสียงดังปัง มีดสั้นสีดำนี้รวมถึงพลังระเบียบที่แฝงอยู่ถูกฉีกกระชากกระจุยทั้งอย่างนั้น!

และเมื่อมือขวาของหลินสวินกดลงไป เฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลจิงที่คิดจะหลบหนีกลับพบว่าร่างของตนเหมือนโดนวิชาตรึงร่าง กระดิกยังไม่ได้

ทำได้เพียงมองดูหลินสวินใช้ฝ่ามือประทับบนกลางศีรษะตนตาปริบๆ

พรูด!

ในสายตาคนนอก เฒ่าดึกดำบรรพ์ตระกูลจิงก็เหมือนหุ่นกระบอกไม้ที่ถูกตรึงไว้ตัวหนึ่ง หลังจากถูกหลินสวินตบก็แตกระเบิดจากศีรษะ สุดท้ายตัวเขายังถูกตบออกเป็นเสี่ยงๆ จิตวิญญาณแหลกสลาย

จากนั้นหลินสวินออกโจมตีอีกครั้ง อานุภาพประหนึ่งเคลื่อนกวาด จู่โจมเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่เหลืออีกสี่คน

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้น

น้ำเลือดระอุสาดกระเซ็น

ภายในประทับผนึกเวลา ชือถิงฟางถูกบีบคอขาวกระจ่างจนหัก ร่างอวบอัดทรงเสน่ห์ระเบิดกระจุย มู่ยงถิงถูกฝ่ามือเดียวตบสมองเละ จิตวิญญาณดั้งเดิมแหลกเป็นผุยผง… เฒ่าดึกดำบรรพ์คนแล้วคนเล่าถูกสังหารท่ามกลางความไม่ยินยอม ตื่นตระหนก และเคียดแค้น

ยามพวกเขายังมีชีวิตอยู่เป็นถึงยักษ์ใหญ่ที่สูงส่งดั่งทวยเทพ เป็นยอดบุคคลที่กระทืบเท้าครั้งเดียวล้วนทำให้น่านฟ้าอื่นสั่นไหว แจ้งมรรคถึงตอนนี้มาเนิ่นนานนับปี โอหังเหนือใครในโลกหล้า

สรรพชีวิตมากมายทำได้เพียงสยบอยู่ใต้อานุภาพของพวกเขา

แต่ตอนนี้ล้วนถูกสังหารในประทับผนึกเวลา!

เฒ่าดึกดำบรรพ์จากสิบยักษ์ใหญ่อมตะต่างสิ้นชีพไปยมโลกท่ามกลางกลิ่นคาวเลือดอบอวล

มีเพียงหลินสวินคนเดียวที่ยืนอยู่ในนั้น

คล้ายโดดเด่นล้ำโลก

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์