Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2953

ตอนที่ 2953 ศิษย์น้องเล็กสูงส่งเพียงไหน

ผ่านการเข่นฆ่ารอบหนึ่ง ลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานก็บาดเจ็บล้มตายมากมายแล้ว

ตอนนี้ฝั่งลัทธิพ่อมดเหลือเพียงขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์หกคน ฝั่งลัทธิฌานคือเจ็ดคน ขั้นหลุดพ้นขั้นปลายคนอื่นถูกฆ่าเรียบไปนานแล้ว

และต่อให้เป็นสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ยังรอดอยู่เหล่านี้ แต่ละคนก็ได้รับบาดเจ็บ!

ยามนี้สำหรับพวกเขาแล้ว ที่พึ่งเพียงอย่างเดียวก็เหลือเพียงรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคนนั้น

เพียงแต่…

พวกเขาเคยเห็นความแข็งแกร่งของหลินสวินมาแล้ว จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าขอเพียงถูกขังอยู่ในผนึกกาลเวลานี้ พวกเขาย่อมไม่มีโอกาสรอดเท่าไรแล้ว

“สู้สุดชีวิตกับเขา!”

เมื่อเห็นหลินสวินที่คืนสู่สภาพสูงสุดพุ่งเข้ามา ถูมู่หุนก็คำรามลั่น

เขาทุ่มสุดกำลังโดยไม่คิดชีวิตแล้ว

คนอื่นก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน

ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งลัทธิฌานอย่างพวกจี้คง แล้วตัดสินใจจะสู้จนตัวตาย

ทว่า…

ก็ในตอนนี้เองหลินสวินกลับโบกมือปลดพลังประทับผนึกเวลาออกไป

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกะทันหันนี้ทำให้ทุกคนต่างคาดไม่ถึง ไม่อาจตั้งตัวได้

โอกาสอยู่ตรงหน้า จะหนีหรือไม่

ปณิธานต่อสู้เหมือนหัวใจนักรบ เมื่อแรกเริ่มเหิมฮึก ต่อมาแผ่วจางลง จนสุดท้ายแห้งเหือด!

เห็นโอกาสเช่นนี้ปรากฏขึ้น ปณิธานต่อสู้ของพวกถูมู่หุนที่เดิมเตรียมสู้ตายก็สั่นคลอนขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

และสาเหตุที่หลินสวินปลดพลังประทับผนึกเวลาออก ก็ไม่ใช่เพราะต้องการสั่นคลอนปณิธานต่อสู้ของอีกฝ่าย แต่เป็นเพราะพลังอภินิหารของพรสวรรค์หุบเหวกลืนกินไม่อาจสำแดงได้พร้อมกัน หาไม่แล้วพลังกาลเวลาจะปะทะกันเอง

แต่หลินสวินมีหรือจะให้โอกาสพวกเขาได้หลบหนี

ขณะที่ปลดประทับผนึกเวลาออก ร่างต้นของเขาก็สำแดงอภินิหารดาบกาลเวลาออกมาโดยไม่ลังเล

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

ปราณกระบี่ไพศาลทะยานออกมา ควบรวมเป็นกระบวนลายเทพมหึมาน่าสะพรึงกระบวนหนึ่ง ถึงกับเป็นลายเทพไร้ขอบเขตอันเป็นยอดมรดกของเขาแปรเทพ

ผู้ไร้ขอบเขต ไร้สิ้นสุด มหามรรคอนันต์ สำแดงออกมาไม่รู้จบ!

ที่น่ากลัวที่สุดก็คือ ทั้งลายเทพไร้ขอบเขตสร้างขึ้นจากพลังดาบกาลเวลา ยามนี้ปรากฏขึ้นในโลก แม้ไม่ใช่ประทับผนึกเวลา แต่อานุภาพเช่นนั้นกลับน่ากลัวยิ่งกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย

ตูม!

ฟ้าดินที่ถูกกระบวนลายเทพปกคลุมแห่งนี้เผยภาพอัศจรรย์น่าเหลือเชื่อในพริบตา คล้ายสายธารแห่งกาลเวลาไหลย้อนกลับ หมื่นลักษณ์ฟ้าดินสำแดงทิวทัศน์ในอดีตต่างๆ สีสันพร่างพราวดุจขี่ม้าชมบุปผา

พริบตาพลังดาบกาลเวลาที่เดิมสามารถยืนหยัดได้ครึ่งเค่อก็ถูกใช้จนหมดสิ้น กระทั่งมรรควิถีทั้งตัวหลินสวินยังถูกสูบออกไปครึ่งหนึ่ง

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาผสานพลังของอภินิหารดาบกาลเวลากับลายเทพไร้ขอบเขตซึ่งเป็นยอดมรดกของเขาแปรเทพ ถ้าไม่ใช่เพราะมรรควิถีของเขาในตอนนี้แกร่งกล้าพอ คงไม่อาจรับการผลาญพลังเช่นนี้ได้สักนิด

แต่เมื่อเห็นว่าลายเทพไร้ขอบเขตมีกลิ่นอายของดาบกาลเวลาสะท้อนอยู่กลางฟ้าดิน ความรู้สึกประสบความสำเร็จก็ผุดขึ้นในใจหลินสวินอย่างห้ามไม่อยู่

หลายปีที่ปิดด่านก่อนหน้านี้ เพื่อศึกษานัยเร้นลับของดาบกาลเวลาออกมาถึงขีดสุด เขาทุ่มกายใจและความอุตสาหะเพื่อเรื่องนี้อย่างยิ่ง ทั้งยังเคยลองมาไม่รู้กี่ครั้ง

ในที่สุดถึงสำแดงการโจมตีที่แกร่งกล้ายิ่งเช่นนี้ได้!

สรุปโดยง่าย การสำแดงอภินิหารดาบกาลเวลาออกมาถึงขีดสุดก็เปรียบได้กับศาสตรามรรคชิ้นหนึ่ง พลังของมันสามารถหลอมรวมเข้าไปในวิชาต่อสู้ได้

สิ่งนี้มีประโยชน์เหมือนกับอภินิหารประตูเนรเทศที่ยามต่อสู้สามารถแนบติดอยู่บนเตากระบี่ไร้ก้นบึ้งได้

ครืน!

กระบวนลายเทพโคจรดังสนั่น กาลเวลาไหลเวียนเริงระบำ ลึกลับเป็นปริศนา

“ไม่…”

ทันใดนั้นเสียงร้องแหลมพรั่นพรึงก็ดังขึ้น

ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนหนึ่งลองหลบหนี แต่ร่างกายกลับถูกพลังกระบวนลายเทพไร้ขอบเขตนั้นตรึงเอาไว้ ยามต้านทางเต็มกำลังก็สัมผัสต้องพลังดาบกาลเวลา ชั่วขณะเดียวตัวเขาคล้ายอ่อนเยาว์ลงไปไม่รู้กี่ปี ส่วนมรรควิถีของเขาก็ถูกตัดทอนจนหมด!

ภาพอันพิสดารนี้ จ้งชิวกับเสวียนเฟยหลิงที่ชมการต่อสู้อยู่ไกลๆ ได้เห็นยังสูดหายใจสะท้านอย่างไม่รู้ตัว

ย้อนทวนกาลเวลา ตัดทอนมรรครวิถี!

ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์คนนั้นเท่ากับถูกตีร่วงลงไปยังโลกปุถุชนในคราวเดียว กลับไปสู่สภาพยามที่ยังไม่ได้ฝึกปราณเมื่อแรกสุด

นี่จะน่าขนลุกเกินไปแล้ว!

มหามรรคยากเย็น ฝึกปราณไม่ง่ายดาย สามารถมีมรรควิถีขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ได้ เส้นทางนี้ต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจและความมุมานะไปไม่รู้เท่าไร ผ่านการชำระล้างด้วยการเคี่ยวกรำและการนองเลือดเอาเป็นเอาตายมากมายเพียงไหน

แต่ทั้งหมดนี้กลับพังทลายกลายเป็นความว่างเปล่าในชั่วพริบตา การโจมตีเช่นนี้สามารถทำให้ผู้ฝึกปราณไม่รู้เท่าไรตายเสียยังดีกว่า!

ปัง!

หลังจากสัตว์ประหลาดเฒ่าที่ถูกตัดทอนมรรควิถีคนนั้นสูญเสียพลังทั้งหมดไป ก็ไม่อาจรับระลอกคลื่นการต่อสู้ในสนามรบได้อีก ร่างถูกระเบิดกลายเป็นผุยผงในพริบตา

และนี่เป็นเพียงการเริ่มต้น

เมื่อกระบวนลายเทพไร้ขอบเขตปกคลุมลงมา สัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกถูมู่หุน จี้คงต่างถูกตรึง พวกเขาต้านทานสุดชีวิต กลัวแต่จะถูกพลังดาบกาลเวลาแปดเปื้อน

ทว่าลายเทพไร้ขอบเขตเป็นยอดมรดกของเขาแปรเทพ ตอนนี้ถูกหลินสวินสำแดงออกมาถึงขีดสุด อานุภาพเช่นนั้นจะธรรมดาได้หรือ

ก็พบว่าพร้อมกับเสียงดังสนั่นเป็นระลอก แสงมรรคถาโถมฝังกลบเงาร่างพวกถูมู่หุนที่ถูกตรึงเอาไว้ภายในทันที

“สมควรตาย!!”

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไม…”

“หลินสวิน เจ้าจะต้องไม่ตายดี!!”

เห็นชัดว่าใบหน้าของพวกถูมู่หุนต่างเปลี่ยนเป็นอ่อนเยาว์ลงอย่างรวดเร็วยิ่ง แต่มรรถวิถีบนร่างพวกเขากลับล้วนถูกตัดทอนออกไปทั้งหมด

สุดท้ายก็จิตสิ้นวิญญาณสลายไปทั้งหมดภายใต้ลายเทพไร้ขอบเขต

เมื่อเห็นภาพเหล่านี้ จ้งชิวกับเสวียนเฟยหลิงต่างรู้สึกจิตใจสะเทือนไหว

คนพวกนั้นล้วนเป็นเฒ่าชราของสองหอบรรพจารย์ แต่ละคนมีชีวิตอยู่มาเนิ่นนาน ครองอำนาจคับฟ้า กิตติศัพท์สะท้านโลก เป็นยักษ์ใหญ่ที่ทำให้สรรพชีวิตมากมายเคารพเลื่อมใส

ไม่ต้องสงสัย เกรงว่าศิษย์น้องเล็กจะเริ่มหลอมระเบียบนิพพานแล้ว!

ควรรู้ว่าระเบียบนิพพานนั่นกำเนิดในแดนปรินิพพาน เป็นศุภโชคไร้เทียมทานที่อาจารย์วางแผนรอคอยมาหมื่นกาล และถูกหลินสวินครอบครองไว้นานแล้ว

ก็มีแต่พลังระเบียบเช่นนี้ถึงสามารถต้านทานและสลายพลังกฎระเบียบได้!

เสวียนเฟยหลิงอดเอ่ยอย่างใคร่รู้ไม่ได้ “เจ้าดูอะไรออกหรือ”

จ้งชิวยิ้มน้อยๆ เอ่ย “ไม่บอกเจ้าหรอก”

เสวียนเฟยหลิงแทบกลอกตาใส่ จ้งชิวคนนี้ช่าง… เหมือนเด็กที่ไม่อาจพูดคุยด้วยเหตุผล!

ตูม!

ไกลออกไปกระบวนลายเทพไร้ขอบเขตสลายไป พลังของมันใช้ไปจนหมดแล้ว

และในสนามรบ ก็เหลือเพียงรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สองคนกำลังต่อสู้ดุเดือดกับหลินสวิน อีกทั้งรูปจำลองเจตจำนงของพวกเขายังได้รับบาดเจ็บ กลายเป็นภาพมายาคลุมเครือไปแล้ว

“ศิษย์น้องเล็ก เจ้าถอยไปก่อน ให้ข้าลองพลังรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์บ้าง”

ทันใดนั้นจ้งชิวเคลื่อนย้ายเข้ามาในสนามรบ แววตาวาวโรจน์ คล้ายมองดูเป้าฝึกมืออันล้ำเลิศในใต้หล้า แกว่งกระบี่มรรคโจมตีเข้าไปทันที

หลินสวินอึ้งไปแล้วถอยออกมาทันที “เช่นนั้นข้าก็จะคอยเป็นกองหนุนให้ศิษย์พี่”

เขากับกายมรรคทั้งห้ากระจายตัวไปรอบทิศ ตั้งรับอย่างครัดเคร่ง

“ฆ่า!”

เดิมรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์สองคนนั้นก็ไม่หวังว่าจะหนีออกไปได้แล้ว แต่เมื่อเห็นจ้งชิวโจมตีมา ต่างสบตากันปราดหนึ่ง ตระหนักได้ว่าโอกาสมาแล้ว ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

ถ้าจับจ้งชิวได้ ก็จะคลี่คลายสภาพตายยกทัพในตอนนี้ได้!

ตูม โครม!

พวกเขาเหมือนเอาชีวิตเข้าแลก ใช้พลังถึงขีดสุดหมายจะจับจ้งชิว

แรงกดดันของจ้งชิวพลันเพิ่มขึ้น สีหน้าคร่ำเคร่งอย่างอดไม่ได้ มรรควิถีทั้งตัวเขาสำแดงและปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด ต่อสู้เต็มกำลัง แต่ต่อให้เป็นเช่นนี้กลับตกอยู่ในสถานการณ์ถูกกดดันเช่นเดิม

นี่ทำให้ในใจเขายังตื่นตะลึงอย่างอดไม่ได้

ก่อนหน้านี้ยามมองดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ เห็นว่าหลินสวินสังหารรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เหล่านั้นเหมือนเชือดไก่ฆ่าลิง ไม่ได้เปลืองแรงแต่อย่างใด

แต่พอเขามาสู้เองกลับสัมผัสได้ว่ารูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์นั้นน่ากลัวปานไหน!

อีกทั้งรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์ทั้งสองนี้ล้วนได้รับบาดเจ็บนานแล้ว อานุภาพที่มีไม่มากเท่าก่อนหน้า…

ในสถานการณ์เช่นนี้ยังกดดันจนเขาแทบเงยหน้าไม่ได้ นี่จะไม่ให้เขาตกตะลึงได้อย่างไร

รู้ง่ายทำยาก

ชมการต่อสู้กับสู้เอง…

แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงจริงๆ!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์