ตอนที่ 2952 ร่วมต่อสู้กับศิษย์พี่
หลินสวินตะลึงไป เก็บกลั้นความกังขาในใจเอาไว้ไม่พูดอะไรอีก
“เหล่าเสวียน สำนักก็ฝากพวกเจ้าดูแลแล้ว”
ก่อนจากไปไท่เสวียน เหยียนจี้ต่างกำชับกับเสวียนเฟยหลิงและหลินสวิน
“ศิษย์หลาน คืนรูปจำลองเจตจำนงให้ข้าเถอะ”
คงเจวี๋ยยื่นมือออกมา ยิ้มมองหลินสวิน “ด้วยมรรควิถีของเจ้าในตอนนี้ก็ไม่จำเป็นอยู่แล้ว”
หลินสวินก็ยิ้มเช่นกัน ส่ายหัวปฏิเสธ “เก็บไว้ระลึกถึงก็ดี”
คงเจวี๋ยอึ้งไป ยิ้มด่าว่า “ระลึกถึงหรือ เจ้ามั่นใจว่าข้ากลับมาไม่ได้แล้วใช่ไหม ช่างเถอะ เจ้าอยากเก็บไว้ก็เก็บ ภายหน้าไม่แน่ว่าอาจจะมีประโยชน์อยู่บ้าง”
พูดจบเขากลับหุบยิ้ม ประสานหมัดเอ่ยกับหลินสวินว่า “หลายปีนี้ขอบคุณมากจริงๆ!”
หลินสวินใจสะท้าน กำลังจะพูดอะไรคงเจวี๋ยก็หมุนตัวเดินหายเข้าไปในประตูน้ำวนนั้นอย่างสง่างาม
‘คนในครอบครัวตัวเองยังต้องขอบคุณอะไร อาจารย์อาหนออาจารย์อา ถ้าอยากขอบคุณข้าจริงๆ ท่านรอดกลับมาให้ข้าก็พอแล้ว…’ หลินสวินคิดในใจ
ไม่นานนักพวกไท่เสวียน เหยียนจี้ ต้งลี่และจือเจิ้งก็ทยอยจากไป
เห็นเงาร่างพวกเขาหายลับไปในประตูน้ำวนนั้นคนแล้วคนเล่า หลินสวินยังกลัดกลุ้มอยู่บ้างอย่างเลี่ยงไม่ได้
ใครจะคิดว่าสถานการณ์ในวันนี้จะพลิกผันมาถึงขั้นนี้
ดวงตาจักจั่นทองมองไปยังส่วนลึกของเวิ้งฟ้า มหาเคราะห์นิรันดร์ที่พุ่งเป้าไปที่โหยวเป่ยไห่นั้นยังดำเนินอยู่ตลอด
จักจั่นทองจับจ้องอยู่ครู่หนึ่งก็ถอนใจเบาๆ เมื่อสะบัดแขนเสื้อขวดหยกขวดหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ส่งผ่านอากาศมาให้หลินสวิน “รอด่านเคราะห์นี้จบลง มอบขวดนี้ให้คนที่ข้ามด่านเคราะห์นั้นก็พอ”
หลินสวินจิตใจหดรัด เอ่ยว่า “ผู้อาวุโสดูอะไรออกหรือ”ไอรีนโนเวล
จักจั่นทองพูดเสียงอ่อนโยน “นี่ก็คือพิบัติเคราะห์ รอเมื่อทุกอย่างปิดฉากเจ้าก็จะรู้เอง”
หลินสวินกำขวดหยกนั้นไว้ในมือ สูดหายใจลึกแล้วเอ่ยว่า “ครั้งนี้ยังต้องขอบคุณผู้อาวุโสที่ลงมือโดยทวงความเป็ฯธรรม หากไม่เป็นเช่นนี้ เคราะห์ในวันนี้ต้องสร้างหายนะไปทั้งลัทธิแรกกำเนิดแน่”
จักจั่นทองยิ้ม “เจ้าไปขอบคุณอาจารย์เจ้าเถอะ ข้ามาจัดการตามที่เขากำชับ เอาล่ะ จะชักช้าไม่ได้ ข้าก็ควรจากไปแล้ว”
พูดถึงตรงนี้เขาอดมองไปยังส่วนลึกของเวิ้งฟ้านั้นไม่ได้ “ไม่เช่นนั้นก็จะหนีไม่พ้นแล้ว”
พูดจบเขาก็สะบัดแขนเสื้อ
เงาร่างของเขาพลันหายลับไปพร้อมกับประตูน้ำวนบานนั้น
ชั่วขณะเดียวฝั่งลัทธิแรกกำเนิดเหลือเพียงหลินสวิน เสวียนเฟยหลิง และจ้งชิว
ส่วนสัตว์ประหลาดเฒ่าของสองหอบรรพจารย์อย่างพวกถูมู่หุนกับจี้คงยังอยู่ห่างออกไปมาตลอด
ผ่านเหตุการณ์พลิกผันน่าตกตะลึงก่อนหน้านี้แต่ละอย่าง ทำให้พวกเขาเกิดความรู้สึกอยากถอยมานานแล้ว แต่กลับไม่กล้าบุ่มบ่ามเคลื่อนไหว เพราะตัวตนของจักจั่นทองน่ากลัวเกินไปจริงๆ ทำให้พวกเขายังไม่กล้ามีความคิดหลบหนี!
แต่หลังจากเห็นว่าพวกน่ากลัวฝั่งลัทธิแรกกำเนิดหายไปเช่นเดียวกับจักจั่นทอง พวกถูมู่หุนกับจี้คงต่างถอนใจโล่งอกโดยไม่ได้นัดหมาย รู้สึกเหมือนพวกเขาเพิ่งเดินออกจากประตูผี ในที่สุดก็ฟื้นคืนชีพมา
ยามนี้พวกเขาแค่อยากจากไปทันที!
แต่ยังไม่ทันรอให้พวกเขาเคลื่อนไหว หลินสวินที่อยู่ไกลๆ ก็เอ่ยเสียงเย็นเยียบว่า “ทุกท่าน ตอนนี้ไม่มีใครมารบกวนการต่อสู้ของพวกเราอีกแล้ว”
เมื่อแรกสุดหลินสวินกำลังห้ำหั่นกับรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์จากสองหอบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌาน สังหารรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์เก้าคนอย่างต่อเนื่อง
แต่ก็ในตอนนั้นเองที่ถูมู่หุนใช้ไพ่ตาย เชิญรูปจำลองเจตจำนงบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิพ่อมดเทียนอูออกมา
สถานการณ์ก็เริ่มมีตัวแปรปรากฏขึ้นตั้งแต่ตอนนั้น
รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์สี่หอบรรพจารย์ทยอยปรากฏตัว เข้าเผชิญหน้าและต่อสู้กัน
จากนั้นมาระดับนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าห้าคนอย่างหยวนเฟยหูก็มาเยือน จากนั้นก็เป็นพวกไท่เสวียน เหยียนจี้และคงเจวี๋ยที่ปรากฏตัวออกมา
จนต่อมาสองหอบรรพจารย์ลัทธิฌานและลัทธิวิญญาณต่างก็เคลื่อนพลระดับนิรันดร์ฝั่งละสองคน ถึงกับทำให้สถานการณ์มีเค้าลางว่าจะคุมไม่อยู่
กระทั่งจ้งชิวปรากฏตัว ก็คล้ายเป็นคนทำลายสถานการณ์ ทำให้เหตุการณ์พลิกผันจากจุดนี้!
และการลงมือของจักจั่นทอง เรียกได้ว่าหนึ่งคนกำหนดจักรวาล ย้ายเคราะห์สังหารที่พุ่งเป้ามายังหอบรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดในวันนี้ไปยังแหล่งสถานคุนหลุน
ก็ด้วยเหตุนี้ ทั้งแดนแรกเริ่มกับลัทธิแรกกำเนิดจึงได้รับการปกป้อง!
พูดเหมือนง่าย แต่การเปลี่ยนแปลงแต่ละอย่างนั้นต่างเรียกได้ว่าน่าอกสั่นขวัญแขวน เคราะห์สังหารมีอยู่ทั่วไปหมด อันตรายถึงขีดสุด
และตอนนี้วิกฤตทั้งหมดต่างมลายไปแล้ว หลินสวินจะปล่อยพวกถูมู่หุน จี้คงไปได้อย่างไร
ขณะพูดเงาร่างของเขาก็เคลื่อนออกไปอย่างฉับไว สำแดงประทับผนึกเวลาออกไปโดยไม่ลังเล!
วู้ม…
กฎระเบียบฟ้าดินเหมือนถูกเหนี่ยวนำ แสงเคลื่อนนับไม่ถ้วนไหลหลั่ง ทอประสานตัดสลับแปลงเป็นกระบวนผนึกเข้าปกคลุมผืนน้ำแห่งนี้ไว้
ทั้งยังปิดตายทางหนีของพวกถูมู่หุน จี้คงอีกด้วย!
ฝั่งสองหอบรรพจารย์ยังเหลือรูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคน รวมถึงขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์กับขั้นหลุดพ้นขั้นปลายอีกจำนวนหนึ่ง กำลังพลเรียกได้ว่าแกร่งกล้ายิ่งยวดเช่นกัน
แต่ยามเผชิญหน้ากับพวกหลินสวิน จ้งชิว และเสวียนเฟยหลิงที่อยู่ไกลออกไป ในใจพวกเขาต่างหนักอึ้ง
“ทุกท่าน จะรอดออกไปได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับศึกนี้แล้ว!”
ถูมู่หุนสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง แววตาเย็นชา
ตูม!
รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคนลงมือทันที แต่ไม่ได้ไปจัดการหลินสวิน กลับจ่อปลายหอกไปที่พลังของประทับผนึกเวลา
เห็นชัดว่าพวกเขาต้องการร่วมมือกันทลายกระบวนผนึกนี้เต็มกำลัง!
และในขณะเดียวกัน ถูมู่หุนกับจี้คงต่างนำเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าที่อยู่ใต้อาณัติออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญ
พวกเขาไม่หวังจะสังหารศัตรู แต่ต้องการซื้อเวลาเพิ่มให้รูปจำลองเจตจำนงระดับนิรันดร์หกคนนั้นไปทำลายกระบวนผนึกกาลเวลานั่น!
“ศิษย์น้องเล็ก มาดูกันว่าใครฆ่าศัตรูได้เยอะกว่าเป็นอย่างไร อาศัยโอกาสนี้ให้ศิษย์พี่ได้เห็นความสง่างามของยอดอมตะด้วย!”
จ้งชิวยิ้มเอ่ย
เงาร่างเขาทะยานฟ้า ชุดดำปลิวไสว ทั้งร่างมีแสงดุดันหาใดเทียบพลุ่งพล่าน ประหนึ่งกระบี่เทพไร้เทียมทานที่ไม่หวั่นการเผยคมออกมา 艾琳小說
ชิ้ง!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์