ตอนที่ 2951 ความสูงส่งของจักจั่นทอง
บรรยากาศดุดันน่ากลัว
แต่ชายหนุ่มจักจั่นทองที่ถูกหมายหัวไม่กระวนกระวายสักนิด ตรงข้ามกลับถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “บนโลกนี้มีบางเรื่องที่ต้องใช้หมัดคุยกันถึงได้ผลอยู่ดี”
หยวนชูเอ่ย “สหายยุทธ์ ลงมือด้วยกันดีไหม”
จักจั่นทองสายหน้า “ให้ข้าจัดการเองเถอะ”
ขณะพูดแขนเสื้อเขาไหวกระพือ ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยว่า “ทุกท่าน ชี้แนะด้วย”
“หึ!”
เทียนอูชิงออกโจมตีก่อน เมื่อพลิกมือ โลกใหญ่ประหนึ่งนรกดำมืดอุบัติขึ้นบดบังฟากฟ้า เต็มไปด้วยกลิ่นอายนิรันดร์เหมือนไม่อาจประเมินได้
ในฐานะบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิพ่อมด ต่อให้เป็นรูปจำลองเจตจำนง แต่อานุภาพที่สำแดงยังทำให้ร่างต้นระดับนิรันดร์เหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้
แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!
สมกับเป็นยักษ์ใหญ่น่ากลัวที่ข้ามผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพหลายครั้ง ท่องไปในหลายยุคสมัย!
จักจั่นทองยืนนิ่งไม่ขยับ ระฆังมหามรรคไร้กฎในมือพลันดังก้องขึ้น
แกร๊ง!
สำหรับคนอื่นแล้ว เสียงระฆังนี้ยิ่งใหญ่เหลือประมาณ สะท้านจิตวิญญาณ
แต่สำหรับเทียนอูแล้วกลับไม่ด้อยกว่าการโจมตีที่น่ากลัวที่สุดในโลก ก็พบว่าโลกใหญ่เหมือนนรกดำมืดที่เขาปลดปล่อยออกมา สลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตาราวกับใบไม้ที่ถูกพายุฉีกกระจุย
โครม!
ส่วนเงาร่างของเขาก็เหมือนสั่นโคลงทันควัน ถูกโจมตีจนโซเซถอยออกไป สีหน้ายังเปลี่ยนไปในชั่วพริบตานี้
แข็งแกร่งนัก!
ทั้งที่นั้นสั่นสะท้าน ต่างตกตะลึงกับภาพนี้
ควรรู้ว่าที่นี่คนที่อ่อนแอที่สุดยังมีมรรควิถีขั้นหลุดพ้น ทั้งยังไม่ขาดระดับนิรันดร์ที่แท้จริง ไม่ว่าใครล้วนกระจ่างว่ารูปจำลองเจตจำนงของเทียนอูแข็งแกร่งปานไหน
แต่ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับต้านการจู่โจมของเสียงระฆังไว้ไม่อยู่ นี่จะน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว
“ลงมือพร้อมกัน!”
บรรพจารย์ลัทธิฌานซื่อตวาดเบาๆ
ตูม!
จีวรของเขาไหวกระพือ พันแดนธรรมควบรวมตรงหน้าเขา เต็มไปด้วยคลื่นกฎระเบียบที่ลึกลับไพศาล ประกายเจิดจ้าสาดส่องไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ไอรีนโนเวล
“ทะยาน!”
ยามนี้ระดับนิรันดร์อย่างพวกหยวนเฟยหูก็ออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญเช่นกัน
บ้างควบรวมเสียงมรรค บ้างกระตุ้นกระบี่เทพ บ้างเรียกอสนีวาโย บ้างโจมตีด้วยพลังหมัดตรงๆ…
ชั่วขณะเดียวกฎระเบียบฟ้าดินของที่นี่ก็มีสัญญาณว่าจะพังลงอีกครั้ง ฟ้าดินหมองมัว สิบทิศสั่นสะเทือนประหนึ่งมหาเคราะห์วันสิ้นโลกมาเยือน
รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ทั้งสอง รวมถึงระดับนิรันดร์เจ็ดคนลงมือพร้อมกัน พลังเช่นนี้ล้วนเคลื่อนกวาดน่านฟ้าที่เก้าได้!
ชั่วพริบตานี้พวกหยวนชูและซวีอิ่นสบตากัน ต่างเตรียมพร้อมสู้แล้ว
แต่ตอนนี้เองกลับพบว่าจักจั่นทองสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง
ฮูม!
ระฆังมหามรรคไร้กฎทะยานขึ้นฟ้า ตัวระฆังอันใหญ่โตหนักอึ้งเปล่งแสง จากนั้นก็มีเสียงระฆังประหนึ่งอสนีบาตเป็นระลอกดังก้องฟ้าดินแห่งนี้
แกร๊ง… แกร๊ง…
เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น การโจมตีของพวกเทียนอู ซื่อต่างถูกกดข่มอย่างแรง ฟ้าดินที่กำลังจะถล่มลงแห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้นอีกครั้ง
มิหนำซ้ำพลังน่ากลัวยิ่งที่เสียงระฆังนี้สร้างขึ้นก็โจมตีเงาร่างพวกเทียนอูไม่ว่างเว้น ทำให้มรรควิถีและพลังของพวกเขาแต่ละคนถูกกดข่ม
คล้ายตกอยู่ในบ่อโคลน มีความรู้สึกพันแข้งพันขา ต่อให้โจมตีเต็มกำลังยังไม่อาจสลัดตัวจากการโจมตีของเสียงระฆังที่ถาโถมแผ่กระจายนั้นได้!
หลินสวินเห็นภาพนี้จากไกลๆ ยังอึ้งอยู่ตรงนั้น ตาเบิกกว้างขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
เขาเคยพาวิญญาณอาวุธของระฆังมหามรรคไร้กฎออกเดินทาง แต่จะคิดได้อย่างไรว่าสมบัติที่ถือกำเนิดในแหล่งสถานคุนหลุนชิ้นนี้จะถึงกับมีอานุภาพน่ากลัวเช่นนี้
ไม่ใช่!
ควรพูดว่าพลังของจักจั่นทองแข็งแกร่งเกินไป
หาไม่แค่อาศัยพลังสมบัติชิ้นเดียวจะสั่นคลอนยักษ์ใหญ่น่าครั่นคร้ามกลุ่มนั้นได้อย่างไร
“ทุกท่าน ขอให้ร่วมทางด้วย”
จักจั่นทองในชุดป่าน ยืนเท้าเปล่าอยู่กลางอากาศเอ่ยเสียงเบา
ก็พบว่าเขายื่นมือไปคว้าคราหนึ่ง
ตูม!
รูปจำลองเจตจำนงของเทียนอูถึงกับถูกคว้าผ่านอากาศ
“น่าแค้นนักที่ร่างต้นของข้าไม่อยู่ที่นี่ หาไม่จะยอมให้เจ้าลบหลู่เช่นนี้ได้อย่างไร!”
เทียนอูกราดเกรี้ยว สีหน้าคล้ำเขียว เขาดิ้นรนเต็มกำลัง ถึงขั้นลองทำลายรูปจำลองเจตจำนงของตนเพื่อระเบิดชายหนุ่มจักจั่นทองไปด้วยกัน
แต่ทั้งหมดนี้ต่างเปลืองแรงเปล่า
ไม่ว่าเขาจะออกแรงเช่นไรล้วนไม่อาจดิ้นหลุด ทั้งร่างเหมือนถูกจับไว้มั่น แล้วโยนเข้าไปในประตูมิติที่ลอยอยู่กลางห้วงอากาศบานนั้น
ชั่วพริบตารูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดเทียนอูก็หายลับไป 艾琳小說
พอพวกหยวนชู ซวีอิ่น ไท่เสวียนเห็นดังนี้ยังหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
และไกลออกไป พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าลัทธิพ่อมดอย่างถูมู่หุนต่างงุนงงกันไปหมด เหมือนถูกสายฟ้าฟาด นี่เป็นไปได้อย่างไร!
ไม่เพียงแต่พวกเขา พวกบรรพจารย์ลัทธิฌานซื่อ หยวนเฟยหูที่กำลังต่อสู้อยู่ต่างก็ใจสะท้าน หนาววาบด้วยความกลัว
แข็งแกร่งไปแล้ว!
จักจั่นทองนี่มรรคสูงล้ำฟ้าอย่างที่ลือกันจริงๆ!
ถึงตอนนี้พวกเขาต่างไม่กล้าลังเล ออกโจมตีเต็มกำลัง แต่ละคนกลิ่นอายพุ่งสูง น่าครั่นคร้ามเกินจินตนการ แต่พลังของพวกเขากลับถูกเสียงระฆังที่ดังไม่หยุดนั้นกดข่มทั้งอย่างนั้น
ที่ชวนให้ใจสั่นที่สุดก็คือพลังของระฆังมหามรรคไร้กฎยังรักษาเสถียรภาพของกฎระเบียบฟ้าดินไปพร้อมกัน หาไม่แล้วทันทีที่กลิ่นอายการต่อสู้แผ่กระจายจะต้องกระทบไปทั้งน่านฟ้าที่เจ็ด
“จับ!”
ชายหนุ่มจักจั่นทองยื่นมือไปคว้าอีกครั้ง
ท่ามกลางสายตาสั่นสะท้านที่จับจ้อง รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิฌานซื่อก็ถูกจับขึ้นกลางอากาศ ไร้พลังดิ้นรนเช่นเดียวกัน!
“เจ้า… ทำไมถึงแข็งแกร่งปานนี้…”
ในดวงตาซื่อปรากฏแววยากจะเชื่อ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์