Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2951

สรุปบท ตอนที่ 2951 ความสูงส่งของจักจั่นทอง: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 2951 ความสูงส่งของจักจั่นทอง จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 2951 ความสูงส่งของจักจั่นทอง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 2951 ความสูงส่งของจักจั่นทอง

บรรยากาศดุดันน่ากลัว

แต่ชายหนุ่มจักจั่นทองที่ถูกหมายหัวไม่กระวนกระวายสักนิด ตรงข้ามกลับถอนใจเบาๆ เอ่ยว่า “บนโลกนี้มีบางเรื่องที่ต้องใช้หมัดคุยกันถึงได้ผลอยู่ดี”

หยวนชูเอ่ย “สหายยุทธ์ ลงมือด้วยกันดีไหม”

จักจั่นทองสายหน้า “ให้ข้าจัดการเองเถอะ”

ขณะพูดแขนเสื้อเขาไหวกระพือ ก้าวไปข้างหน้าเอ่ยว่า “ทุกท่าน ชี้แนะด้วย”

“หึ!”

เทียนอูชิงออกโจมตีก่อน เมื่อพลิกมือ โลกใหญ่ประหนึ่งนรกดำมืดอุบัติขึ้นบดบังฟากฟ้า เต็มไปด้วยกลิ่นอายนิรันดร์เหมือนไม่อาจประเมินได้

ในฐานะบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิพ่อมด ต่อให้เป็นรูปจำลองเจตจำนง แต่อานุภาพที่สำแดงยังทำให้ร่างต้นระดับนิรันดร์เหล่านั้นหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้

แข็งแกร่งเกินไปแล้ว!

สมกับเป็นยักษ์ใหญ่น่ากลัวที่ข้ามผ่านเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพหลายครั้ง ท่องไปในหลายยุคสมัย!

จักจั่นทองยืนนิ่งไม่ขยับ ระฆังมหามรรคไร้กฎในมือพลันดังก้องขึ้น

แกร๊ง!

สำหรับคนอื่นแล้ว เสียงระฆังนี้ยิ่งใหญ่เหลือประมาณ สะท้านจิตวิญญาณ

แต่สำหรับเทียนอูแล้วกลับไม่ด้อยกว่าการโจมตีที่น่ากลัวที่สุดในโลก ก็พบว่าโลกใหญ่เหมือนนรกดำมืดที่เขาปลดปล่อยออกมา สลายเป็นผุยผงในชั่วพริบตาราวกับใบไม้ที่ถูกพายุฉีกกระจุย

โครม!

ส่วนเงาร่างของเขาก็เหมือนสั่นโคลงทันควัน ถูกโจมตีจนโซเซถอยออกไป สีหน้ายังเปลี่ยนไปในชั่วพริบตานี้

แข็งแกร่งนัก!

ทั้งที่นั้นสั่นสะท้าน ต่างตกตะลึงกับภาพนี้

ควรรู้ว่าที่นี่คนที่อ่อนแอที่สุดยังมีมรรควิถีขั้นหลุดพ้น ทั้งยังไม่ขาดระดับนิรันดร์ที่แท้จริง ไม่ว่าใครล้วนกระจ่างว่ารูปจำลองเจตจำนงของเทียนอูแข็งแกร่งปานไหน

แต่ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งเช่นนี้กลับต้านการจู่โจมของเสียงระฆังไว้ไม่อยู่ นี่จะน่าตกตะลึงเกินไปแล้ว

“ลงมือพร้อมกัน!”

บรรพจารย์ลัทธิฌานซื่อตวาดเบาๆ

ตูม!

จีวรของเขาไหวกระพือ พันแดนธรรมควบรวมตรงหน้าเขา เต็มไปด้วยคลื่นกฎระเบียบที่ลึกลับไพศาล ประกายเจิดจ้าสาดส่องไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน ไอรีนโนเวล

“ทะยาน!”

ยามนี้ระดับนิรันดร์อย่างพวกหยวนเฟยหูก็ออกโจมตีอย่างเหี้ยมหาญเช่นกัน

บ้างควบรวมเสียงมรรค บ้างกระตุ้นกระบี่เทพ บ้างเรียกอสนีวาโย บ้างโจมตีด้วยพลังหมัดตรงๆ…

ชั่วขณะเดียวกฎระเบียบฟ้าดินของที่นี่ก็มีสัญญาณว่าจะพังลงอีกครั้ง ฟ้าดินหมองมัว สิบทิศสั่นสะเทือนประหนึ่งมหาเคราะห์วันสิ้นโลกมาเยือน

รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ทั้งสอง รวมถึงระดับนิรันดร์เจ็ดคนลงมือพร้อมกัน พลังเช่นนี้ล้วนเคลื่อนกวาดน่านฟ้าที่เก้าได้!

ชั่วพริบตานี้พวกหยวนชูและซวีอิ่นสบตากัน ต่างเตรียมพร้อมสู้แล้ว

แต่ตอนนี้เองกลับพบว่าจักจั่นทองสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่ง

ฮูม!

ระฆังมหามรรคไร้กฎทะยานขึ้นฟ้า ตัวระฆังอันใหญ่โตหนักอึ้งเปล่งแสง จากนั้นก็มีเสียงระฆังประหนึ่งอสนีบาตเป็นระลอกดังก้องฟ้าดินแห่งนี้

แกร๊ง… แกร๊ง…

เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น การโจมตีของพวกเทียนอู ซื่อต่างถูกกดข่มอย่างแรง ฟ้าดินที่กำลังจะถล่มลงแห่งนี้จึงเปลี่ยนเป็นหนักแน่นขึ้นอีกครั้ง

มิหนำซ้ำพลังน่ากลัวยิ่งที่เสียงระฆังนี้สร้างขึ้นก็โจมตีเงาร่างพวกเทียนอูไม่ว่างเว้น ทำให้มรรควิถีและพลังของพวกเขาแต่ละคนถูกกดข่ม

คล้ายตกอยู่ในบ่อโคลน มีความรู้สึกพันแข้งพันขา ต่อให้โจมตีเต็มกำลังยังไม่อาจสลัดตัวจากการโจมตีของเสียงระฆังที่ถาโถมแผ่กระจายนั้นได้!

หลินสวินเห็นภาพนี้จากไกลๆ ยังอึ้งอยู่ตรงนั้น ตาเบิกกว้างขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่

เขาเคยพาวิญญาณอาวุธของระฆังมหามรรคไร้กฎออกเดินทาง แต่จะคิดได้อย่างไรว่าสมบัติที่ถือกำเนิดในแหล่งสถานคุนหลุนชิ้นนี้จะถึงกับมีอานุภาพน่ากลัวเช่นนี้

ไม่ใช่!

ควรพูดว่าพลังของจักจั่นทองแข็งแกร่งเกินไป

หาไม่แค่อาศัยพลังสมบัติชิ้นเดียวจะสั่นคลอนยักษ์ใหญ่น่าครั่นคร้ามกลุ่มนั้นได้อย่างไร

“ทุกท่าน ขอให้ร่วมทางด้วย”

จักจั่นทองในชุดป่าน ยืนเท้าเปล่าอยู่กลางอากาศเอ่ยเสียงเบา

ก็พบว่าเขายื่นมือไปคว้าคราหนึ่ง

ตูม!

รูปจำลองเจตจำนงของเทียนอูถึงกับถูกคว้าผ่านอากาศ

“น่าแค้นนักที่ร่างต้นของข้าไม่อยู่ที่นี่ หาไม่จะยอมให้เจ้าลบหลู่เช่นนี้ได้อย่างไร!”

เทียนอูกราดเกรี้ยว สีหน้าคล้ำเขียว เขาดิ้นรนเต็มกำลัง ถึงขั้นลองทำลายรูปจำลองเจตจำนงของตนเพื่อระเบิดชายหนุ่มจักจั่นทองไปด้วยกัน

แต่ทั้งหมดนี้ต่างเปลืองแรงเปล่า

ไม่ว่าเขาจะออกแรงเช่นไรล้วนไม่อาจดิ้นหลุด ทั้งร่างเหมือนถูกจับไว้มั่น แล้วโยนเข้าไปในประตูมิติที่ลอยอยู่กลางห้วงอากาศบานนั้น

ชั่วพริบตารูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ลัทธิพ่อมดเทียนอูก็หายลับไป 艾琳小說

พอพวกหยวนชู ซวีอิ่น ไท่เสวียนเห็นดังนี้ยังหน้าเปลี่ยนสีอย่างอดไม่ได้ ในดวงตาเต็มไปด้วยความตื่นตะลึง

และไกลออกไป พวกสัตว์ประหลาดเฒ่าลัทธิพ่อมดอย่างถูมู่หุนต่างงุนงงกันไปหมด เหมือนถูกสายฟ้าฟาด นี่เป็นไปได้อย่างไร!

ไม่เพียงแต่พวกเขา พวกบรรพจารย์ลัทธิฌานซื่อ หยวนเฟยหูที่กำลังต่อสู้อยู่ต่างก็ใจสะท้าน หนาววาบด้วยความกลัว

แข็งแกร่งไปแล้ว!

จักจั่นทองนี่มรรคสูงล้ำฟ้าอย่างที่ลือกันจริงๆ!

ถึงตอนนี้พวกเขาต่างไม่กล้าลังเล ออกโจมตีเต็มกำลัง แต่ละคนกลิ่นอายพุ่งสูง น่าครั่นคร้ามเกินจินตนการ แต่พลังของพวกเขากลับถูกเสียงระฆังที่ดังไม่หยุดนั้นกดข่มทั้งอย่างนั้น

ที่ชวนให้ใจสั่นที่สุดก็คือพลังของระฆังมหามรรคไร้กฎยังรักษาเสถียรภาพของกฎระเบียบฟ้าดินไปพร้อมกัน หาไม่แล้วทันทีที่กลิ่นอายการต่อสู้แผ่กระจายจะต้องกระทบไปทั้งน่านฟ้าที่เจ็ด

“จับ!”

ชายหนุ่มจักจั่นทองยื่นมือไปคว้าอีกครั้ง

ท่ามกลางสายตาสั่นสะท้านที่จับจ้อง รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ผู้ก่อตั้งลัทธิฌานซื่อก็ถูกจับขึ้นกลางอากาศ ไร้พลังดิ้นรนเช่นเดียวกัน!

“เจ้า… ทำไมถึงแข็งแกร่งปานนี้…”

ในดวงตาซื่อปรากฏแววยากจะเชื่อ

ชายหนุ่มจักจั่นทองสีหน้าสงบนิ่ง “แต่ทุกท่านไม่ต้องกังวล ข้าแค่ให้โอกาสทุกท่านได้ตัดสินแพ้ชนะครั้งหนึ่ง รอเมื่อถึงแหล่งสถานคุนหลุน ทุกท่านจะอยู่หรือตายข้าย่อมไม่อาจยื่นมือเข้าแทรกอีก”

แม้พูดเช่นนี้ แต่สีหน้าของพวกหยวนเฟยหูกลับไม่น่ามองและอึมครึมยิ่งยวด

ตูม!

พวกเขาออกโจมตีเต็มกำลัง พยายามจากไป

แต่สุดท้ายกลับทำอะไรไม่ได้ ถูกจักจั่นทองจับโยนหายเข้าไปในประตูน้ำวนนั้นคนแล้วคนเล่า

ถึงตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่น่ากลัวของลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานและน่านฟ้าที่เก้าต่างไม่มีใครโชคดีหลุดรอด ถูกส่งไปแหล่งสถานคุนหลุนทั้งหมด!

ไกลออกไป คนของลัทธิพ่อมดอย่างถูมู่หุน และคนของลัทธิฌานอย่างจี้คงต่างถูกเหตุไม่คาดฝันอย่างต่อเนื่องนี้โจมตีจนจิตใจปั่นป่วน นิ่งอึ้งอยู่ตรงนั้น

พวกหยวนชู ซวีอิ่น ไท่เสวียนเองก็ตกตะลึงเช่นกัน

คนผู้เดียวเท่านั้น ทยอยจับพวกเฒ่าชราที่เรียกได้ว่าเป็นยอดผู้แข็งแกร่งในโลก ส่งเข้าแหล่งสถานคุนหลุนไปทั้งหมดอย่างรวดเร็วเบ็ดเสร็จ ฝีมือเช่นนี้เรียกได้ว่ามีเพียงหนึ่งเดียวในโลก!

ชายหนุ่มจักจั่นทองเก็บระฆังมหามรรคไร้กฎ หันหลังมองมา เอ่ยว่า “ทุกท่าน ความแค้นครั้งนี้ต้องให้พวกเจ้ามาคลี่คลายอยู่ดี ข้าไม่ควรแทรงแซง ขอให้มาร่วมทางด้วย”

“ผู้อาวุโส นี่เป็นเพราะอะไร”

หลินสวินเอ่ยอย่างอดไม่ได้

เขาจะอยากเห็นพวกหยวนชู ซวีอิ่น ไท่เสวียนไปสู้สุดตัวที่แหล่งสถานคุนหลุนได้อย่างไร

“ข้าลงมือไม่ได้”

ชายหนุ่มจักจั่นทองเสียงอ่อนโยน ชี้ไปที่ส่วนลึกของเวิ้งฟ้า “ถ้าเข้ามาแทรกแซง ภายหน้าไม่ว่าข้าไปที่ไหน ไม่ว่าจะผ่านวัฏจักรกี่ครั้ง ล้วนจะถูกผู้บงการหลังม่านนั่นจับจ้อง”

หนึ่งวจีก่อคลื่นพันชั้น!

พวกหยวนชู ซวีอิ่นคล้ายเข้าใจแล้ว กุมมือเอ่ยว่า “ขอบคุณสหายยุทธ์ที่ช่วยเหลือ พวกเราย่อมไม่กล้าลืมบุญคุณในวันนี้”

ชายหนุ่มจักจั่นทองเอ่ย “ข้าแค่ถูกไหว้วานมา รับบุญคุณใหญ่เช่นนี้ไม่ได้ ทุกท่านรีบเคลื่อนไหวเถอะ อย่าให้สหายยุทธ์โพธิรอนานเลย”

“ศิษย์พี่รอง อาจารย์ก็อยู่แหล่งสถานคุนหลุนหรือ”

หลินสวินถามอย่างอดไม่ได้

“แค่รูปจำลองเจตจำนงสายหนึ่งของอาจารย์เท่านั้น”

จ้งชิวเอ่ยเบาๆ

หยวนชูกับซวีอิ่นไม่ลังเลอีก เคลื่อนตัวตรงเข้าไปในประตูน้ำวนนั้น

จากนั้นไท่เสวียน เหยียนจี้ คงเจวี๋ย รวมถึงระดับนิรันดร์จากลัทธิวิญญาณอย่างต้งลี่กับจือเจิ้งล้วนจะเคลื่อนไหวเช่นกัน

หลินสวินพูดขึ้นอย่างอดไม่ได้ว่า “ผู้อาวุโส ต้องไปทุกคนจริงๆ หรือ”

ถ้าไม่มีพวกไท่เสวียน ใครจะคอยดูแลลัทธิแรกกำเนิด

“ศิษย์น้อง อย่าขัดขวางอีกเลย นี่เป็นเรื่องดี อีกหน่อยข้าจะอธิบายเจ้าอีกที”

จ้งชิวเอ่ยเสียงเบาอยู่อีกด้านหนึ่ง

เขาดูออกว่าหลินสวินไม่ต้องการให้พวกไท่เสวียนไปต่อสู้ กังวลว่าพวกเขาจะประสบอันตราย

แต่เบื้องหลังเรื่องนี้ยังมีความเร้นลับอื่นอยู่

คนเหล่านี้ต้องจากไปตอนนี้ หาไม่แล้วหายนะครั้งใหญ่จะมาถึงตัว!

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์