อ่านสรุป ตอนที่ 2959 มุกวิญญาณไร้ช่องว่าง จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บทที่ ตอนที่ 2959 มุกวิญญาณไร้ช่องว่าง คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
ตอนที่ 2959 มุกวิญญาณไร้ช่องว่าง
น่านฟ้าที่แปด
แคว้นเทพเก้าธารา
ที่นี่เป็นหนึ่งในแคว้นเทพที่ตระกูลตงหวงหนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่อมตะปกครองดูแล
ฮูม…
ห้วงอากาศปั่นป่วน เงาร่างหลินสวินปรากฏตัวกลางอากาศ
‘แคว้นเทพเก้าธารา… จากที่นี่น่าจะสามารถหาบุคคลแกนหลักจำนวนหนึ่งของตระกูลตงหวงได้…’
นัยน์ตาหลินสวินวาบแววครุ่นคิด
ฟ้าดินของน่านฟ้าที่แปดต่างจากน่านฟ้าอื่นๆ เผยทัศนียภาพที่เก่าแก่ดั้งเดิม ทุกแห่งหนล้วนมีแต่ภูผาธาราดุจดั่งเวิ้งว้าง ร่องรอยมนุษย์บางตา
ในน่านฟ้าที่แปดมีทั้งหมดสามสิบสามแคว้นเทพ ถูกขุมอำนาจสิบยักษ์ใหญ่อมตะกระจายกันปกครอง
นอกจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะ น่านฟ้าที่แปดยังมีขุมอำนาจอื่นๆ มากมายกระจายตัวอยู่ แต่แทบจะเป็นบริวารใต้อาณัติสิบยักษ์ใหญ่อมตะทั้งสิ้น
หลินสวินมาถึงน่านฟ้าที่แปดได้สามวันแล้ว สืบรู้ว่าขุมอำนาจที่อยู่ใกล้เขาที่สุดก็คือตระกูลตงหวง หนึ่งในสิบยักษ์ใหญ่อมตะ!
เพียงแต่เพราะเป็นครั้งแรกที่มาน่านฟ้าที่แปด หลินสวินยังต้องสืบข่าวอีกสักหน่อย
สวบ!
เงาร่างหลินสวินไหวกะพริบ พุ่งโฉบไปยังเขตพื้นที่ของแคว้นเทพเก้าธารา
…
เมืองเมฆโลหิต
เมืองใหญ่แห่งหนึ่งที่รุ่งเรืองที่สุดในแคว้นเทพเก้าธารา ที่นี่มีฐานที่มั่นแห่งหนึ่งของตระกูลตงหวงตั้งอยู่
ยามนี้ในคฤหาสน์โบราณสูงตระหง่านแห่งหนึ่งใจกลางเมือง คนใหญ่คนโตทั้งกลุ่มรวมตัวกัน สายตาต่างมองไปทางชายชราผมเทาผอมแห้งซึ่งนั่งบนตำแหน่งประธาน
เขาคือตงหวงฉยง เฒ่าดึกดำบรรพ์ของตระกูลตงหวง อยู่ขั้นดับเทพสัมบูรณ์มามากกว่าหมื่นปี และไม่นานมานี้ก็ทะลวงขั้นหลุดพ้นได้แล้ว!
“ครั้งนี้ที่เรียกรวมตัวทุกคนเพราะมีเรื่องใหญ่จะประกาศ” ตงหวงฉยงเอ่ยปาก เสียงแหบแห้งต่ำลึก เต็มไปด้วยบารมียิ่งยวด
ในใจทุกคนหนาวเยือก รอฟังนอบน้อม
“วันนี้ข้าจะกลับตระกูลสักครั้ง บางทีอาจจะไม่ได้กลับมาอีกนาน ต่อไปธุระของแคว้นเทพเก้าธารานี้ก็มอบให้พวกเจ้ามาจัดการแล้ว”
ตงหวงฉยงกล่าวออกมา
ทุกคนฮือฮา ล้วนเผยแววเหนือคาดออกมา
“ผู้อาวุโส นี่เป็นเพราะอะไรหรือ” มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้
ตงหวงฉยงนิ่งเงียบครู่หนึ่งก่อนกล่าว “คิดว่าทุกท่านล้วนได้ยินเรื่องที่สองหอบรรพจารย์อย่างลัทธิพ่อมดและลัทธิฌาน รวมถึงระดับนิรันดร์จำนวนหนึ่งของน่านฟ้าที่เก้าล้วนประสบเคราะห์ ตายที่หน้าประตูลัทธิแรกกำเนิดแล้วกระมัง”
ทุกคนนัยน์ตาหดรัด ในใจปั่นป่วน
“ลัทธิแรกกำเนิดไม่ได้ย่อยยับ กลับกลายเป็นผู้ชนะในตอนสุดท้ายราวปาฏิหาริย์ นี่เป็นเรื่องที่ใครก็คิดไม่ถึง และตระกูลตงหวงของเรากับลัทธิแรกกำเนิดมีความแค้นที่ไม่อาจสะสาง ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยากจะรับรองว่าจะไม่ถูกโจมตีจากลัทธิแรกกำเนิด”
ตงหวงฉยงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง กล่าวด้วยแววตาแน่วแน่ “ดังนั้นข้าจำเป็นต้องจากไป หากมีอันตรายเกิดขึ้นก็จะสามารถออกแรงช่วยตระกูลได้”
บรรยากาศบีบคั้นกดดัน
มีคนอดเอ่ยถามไม่ได้ “หากกำลังพลของลัทธิแรกกำเนิดบุกมาถึงน่านฟ้าที่แปดจริง เผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าพวกนั้นจะนั่งนิ่งไม่สนใจเลยอย่างนั้นหรือ”
ตงหวงฉยงส่ายหน้า “บอกไม่ได้”
อันที่จริงในใจเขารู้ดีที่สุด สถานการ์ทั่วหล้าไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว ก่อนหน้านี้สิบยักษ์ใหญ่อมตะอย่างพวกเขายังสามารถอ้างชื่อเผ่าเทพนิรันดร์ ไม่เกรงกลัวลัทธิแรกกำเนิดได้ ไอรีนโนเวล
แต่ตอนนี้…
เผ่าเทพนิรันดร์เหล่านั้นเกรงว่าตัวเองยังเอาไม่รอด!
เหตุผลง่ายดายยิ่ง ภายใต้ภัยคุกคามของเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ ต่อให้เป็นระดับนิรันดร์พวกนั้นก็ยังเสี่ยงอันตรายทุกคน ใครยังจะมีแก่ใจสนใจเรื่องอื่นอีกเล่า
ในคืนวันนั้นตงหวงฉยงออกจากเมืองเมฆโลหิตเงียบๆ เพียงลำพัง
“ตงหวงฉยง?”
ขณะที่ร่างตงหวงฉยงเพิ่งเคลื่อนย้ายออกมาถึงนอกเมืองเมฆโลหิต ก็รู้สึกชะงักไปทั้งร่างระลอกหนึ่ง ถึงกับไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้อีก เงาร่างถูกบีบให้ปรากฏตัวออกมาจากห้วงอากาศทันที
ที่ตามมาติดๆ คือเสียงสายหนึ่งดังขึ้นข้างหูเขา ทำเอาเขาหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่ “ใคร”
“พาข้าไปเยี่ยมตระกูลพวกเจ้าสักรอบจะเลี่ยงความตายได้”
เสียงสายนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คลุมเครือแว่วหวิว ทำเอาตงหวงฉยงไม่สามารถจับตำแหน่งได้
สิ่งนี้ทำให้ในใจเขาหนักอึ้งอีกครั้ง ประสบการณ์นานปีทำให้เขาแยกแยะได้ในอึดใจ ว่าความแข็งแกร่งของศัตรูอย่างน้อยก็เหนือกว่าตน!
“บังอาจถามว่าสหายเป็นใคร ปรากฏตัวมาพบหน้ากันหน่อยได้หรือไม่”
ตงหวงฉยงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่ง เอ่ยปากเนิบนาบ
“ความอดทนข้ามีจำกัด ภายในสามลมหายใจ หากยังไม่ตกลงก็รับผลที่ตามมาเอง”
เสียงดังขึ้น เยือกเย็นราบเรียบ จากนั้นก็จมสู่ความเงียบอีกครั้ง
สามลมหายใจ!
ตงหวงฉยงนัยน์ตาพลันหดรัด หนวดผมล้วนชี้ตั้ง ขนทั่วร่างลุกซู่ขึ้นมา ตกใจและเดือดดาลจนถึงขีดสุด
“ข้าตกลง”
พริบตาที่ใกล้ครบเวลาสามลมหายใจ ตงหวงฉยงก็เปิดปากตอบตกลงอย่างแทบจะเป็นไปตามจิตใต้สำนึก
“ไปเถอะ”
เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง
จากนั้นเบื้องหน้าตงหวงฉยงพลันพริบไหว เงาร่างสูงโปร่งสายหนึ่งสะท้อนสู่ม่านตา อาภรณ์สีขาวพระจันทร์ทั้งตัว ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลา นัยน์ตาลุ่มลึกดั่งหุบเหว บุคลิกราบเรียบพ้นโลกีย์
“หลินสวิน!?”
ตงหวงฉยงร้องเสียงหลงออกมา คิดไม่ถึงเป็นอันขาดว่าเจ้าคนที่คุกคามข่มขู่ตนผู้นี้ จะเป็นเจ้าชั่วที่ทำให้ตระกูลตงหวงของพวกเขาแค้นเข้ากระดูกคนนั้น
“อย่าตกใจไป ได้พบเจ้าที่นี่ก็ทำให้ข้าแปลกใจมากเช่นกัน”
หลินสวินกล่าวยิ้มๆ เนิบนาบ
หวนคิดถึงปีนั้นตอนที่เขากับศิษย์พี่จวินหวนมุ่งหน้าไปลัทธิแรกกำเนิด เคยได้พบกับเฒ่าชราจากสิบยักษ์ใหญ่อมตะอย่างตงหวงฉยง ฉีทิงจื่อ จงหลีชง
หลินสวินยื่นมือขวาออกมาโดยพลัน บีบคอของตงหวงฉยงเอาไว้ มือซ้ายก็ตบศีรษะเขาคราหนึ่ง
ปัง!
ศีรษะตงหวงฉยงระเบิดแตก พลังจิตของเขาถูกหลินสวินกำไว้
ปัง!
เสียงระเบิดดังขึ้นอีกครา ร่างกายของตงหวงฉยงกลายเป็นเถ้าถ่านปลิวกระจาย
สายตาหลินสวินจับจ้องพลังจิตของตงหวงฉยง พลังจิตของเขาสั่นเทิ้มไปหมด ตื่นกลัวหาใดปรียบ คล้ายคิดไม่ถึงสักนิดว่าหลินสวินบอกจะลงมือก็ลงมือทันที กำจัดร่างมรรคของเขาทิ้งตรงๆ
ไม่รอให้เขาตอบสนอง หลินสวินก็ซัดอีกหมัดเข้าใส่คอของพลังจิตตงหวงฉยงอย่างหนักอีกครั้ง
พรูด!
พลังจิตของตงหวงฉยงอ้าปากคายมุกสีทองอร่ามเม็ดหนึ่งออกมา ถูกหลินสวินคว้าจับไว้กลางใจฝ่ามือ
สำรวจคร่าวๆ แล้วหลินสวินก็เอ่ยถาม “ก่อนหน้านี้เจ้าก็ใช้มุกนี่ส่งข่าวให้ตระกูลกระมัง”
มุกนี้มีกลิ่นอายระเบียบคลุมเครือไหลเวียน ยามจิตรับรู้ของหลินสวินแทรกเข้าไป ก็พบว่าภายในมุกนี้ถึงกับมีโลกเล็กที่น่าพิศวงแห่งหนึ่ง
ปลายทางโลกเล็กเชื่อมต่อกับกลิ่นอายต้นกำเนิดระเบียบอันเร้นลับ
เห็นชัดว่ากลิ่นอายต้นกำเนิดระเบียบนั่นน่าจะตั้งอยู่ในอาณาเขตตระกูลตงหวง และตงหวงฉยงก็อาศัยพลังระเบียบที่บรรจุในมุกนี้ติดต่อกับคนในตระกูลได้อย่างเงียบๆ ใช้จุดนี้ส่งข่าวให้ทั้งตระกูลของเขารับรู้โดยที่ไม่มีใครสังเกตเห็น!
พลังจิตของตงหวงฉยงพลันหน้าซีด กล่าวอย่างแตกตื่นหวาดผวา “ที่แท้… เจ้าถึงกับเดาได้แต่แรกแล้ว…”
หลินสวินเอ่ยว่า “ก่อนข้าจะมาน่านฟ้าที่แปดเคยศึกษาข้อมูลของพวกเจ้าตระกูลตงหวงเป็นการเฉพาะ รู้ว่าระเบียบพิทักษ์ตระกูลของพวกเจ้าตระกูลตงหวงเป็นระเบียบระดับสวรรค์ขั้นเก้าที่หายากชนิดหนึ่ง พลังของมันเกี่ยวข้องกับ ‘มรรคแห่งห้วงอากาศ’”
เขาเว้นช่วงไป มองมุกสีทองอร่ามในมือแล้วกล่าวต่อ “ในข้อมูลก็มีบันทึกไว้ว่าพวกเจ้าตระกูลตงหวงมีสมบัติลับอย่างหนึ่ง ชื่อว่า ‘มุกวิญญาณไร้ช่องว่าง’ สามารถส่งข่าวได้โดยเทพไม่รู้ผีไม่เห็น ดูท่าคงจะเป็นของสิ่งนี้สินะ”
“เจ้าเตรียมการมาพร้อมสรรพดังคาด…”
ตงหวงฉยงสีหน้าหดหู่ กัดฟันกล่าว “แต่เจ้ารู้แล้วอย่างไร ตอนนี้ตระกูลข้าเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ต่อให้เจ้าบุกไปก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย!”
“เจ้าผิดแล้ว”
หลินสวินส่ายหน้า “ข้าแค่อยากอาศัยโอกาสนี้นี้ดูว่าพวกเจ้าตระกูลตงหวงจะเชิญคนใหญ่คนโตจากน่านฟ้าที่เก้ามาช่วยได้หรือไม่ นี่จะตัดสินว่าหลังจากนี้ข้าจะไปเยี่ยมตระกูลพวกเจ้าสักเที่ยวหรือไม่”
“เจ้า… เจ้าแผนการลึกล้ำนัก!”
พลังจิตของตงหวงฉยงเบิกตากว้าง คราวนี้ถึงเข้าใจความตั้งใจของหลินสวินโดยสมบูรณ์
“รู้เขารู้เรา รบร้อยครั้งไม่พลั้งพลาด ถ้าไม่รู้อะไรเลยแล้วบุ่มบ่ามบุกไปฆ่าฟัน นั่นจึงจะเป็นความสะเพร่า”
กล่าวถึงตรงนี้หลินสวินนึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมา “จริงสิ ก่อนเจ้าจะตายข้าต้องแก้ความเข้าใจผิดเรื่องหนึ่งให้เจ้าก่อน”
“เข้าใจผิดอะไร” ตงหวงฉยงเอ่ยถามตามจิตใต้สำนึก
หลินสวินกล่าวยิ้มๆ “ตอนนี้ข้าคนแซ่หลินเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์แล้ว เมื่อครู่เจ้าควรจะเรียกข้าว่าหัวหน้าหอหลินถึงจะถูก”
ตงหวงฉยงผงะไป
ปึง!
จากนั้นพลังจิตของเขาก็แหลกเป็นผุยผง ปลิวหายไปจากฝ่ามือของหลินสวิน
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์