ตอนที่ 2958 ไมตรีวันวาน ตัดสะบั้นในดาบเดียว
ในน่านฟ้าที่เจ็ด เผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลถงเป็นขุมอำนาจระดับต้นๆ เช่นกัน ในตระกูลมีผู้อาวุโสขั้นดับเทพไม่น้อยควบคุมดูแล
ต่อให้อิทธิพลไม่เท่าสี่ตระกูลตงหวงในปีนั้น แต่ก็เรียกได้ว่าครองตำแหน่งนายเหนือหัวในพื้นที่แห่งหนึ่ง
เวลานี้เมื่อเห็นพวกพ้องตายไปเบื้องหน้าหลินสวินกะทันหัน ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงล้วนเผยสีหน้าเกรี้ยวกราด รวมถึงความแปลกใจเสี้ยวหนึ่ง
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยังกล้าฆ่าคนในตระกูลพวกเขาอย่างไม่เกรงใจสักนิด นี่มีความเป็นไปได้แค่สองอย่างเท่านั้น
ถ้าอีกฝ่ายไม่ได้มีภูมิหลังแข็งแกร่ง ก็ต้องมีพลังต่อสู้ที่กร้าวแกร่งสุดขีด!
“ข้าถงเชียนฉวี่ ขอบังอาจถามนามสหายยุทธ์ได้หรือไม่”
ชายชุดเงินที่เป็นผู้นำแววตาไหววูบ เอ่ยปากเสียงต่ำ เขามองมรรควิถีของหลินสวินไม่ออก จึงตัดสินใจหยั่งเชิงเบื้องลึกเบื้องหลังหลินสวินอย่างระมัดระวังก่อน
หลินสวินมองความคิดอีกฝ่ายออกในปราดเดียว จึงหมดสนุกอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ เรื่องแบบนี้เขาเห็นมามาก ผ่านมาก็เยอะ ความจริงก็คร้านจะสนใจแล้ว
เขากล่าวตรงๆ “ข้าไม่สนว่าพวกเจ้าจะทำอะไรที่นี่ ถ้าไม่อยากตายก็เปิดทางเสียตอนนี้จะดีที่สุด”
ขณะพูดเขาก็ก้าวไปทางค่ายกลเคลื่อนย้ายที่อยู่ไกลออกไป
ชายชุดเงินที่เรียกตัวเองว่าถงเชียนฉวี่สีหน้าเปลี่ยนไปเป็นไม่น่ามองทันที
ตอนนี้กำลังของพวกตระกูลถงแทรกซึมไปทุกซอกทุกมุมในเมืองค้ำฟ้าแล้ว ทว่าภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ถึงกลับยังมีคนมาคุกคามพวกเขา
นี่ทำให้ในใจถงเชียนฉวี่อึไม่พอใจมาก
ครั้นมองคนตระกูลถงที่เหลือในนั้น สีหน้าก็อึมครึมไม่น้อย นัยน์ตามีไอสังหารพวยพุ่ง
เรียกได้ว่าหากไม่ใช่เพราะท่าทีที่หลินสวินเผยออกมาก่อนหน้านี้แข็งแกร่งเกินไป มีหรือพวกเขาจะเกรงใจ คงได้รุมสับหลินสวินเป็นหมื่นท่อนไปแล้ว
“สหายยุทธ์คิดจะไปน่านฟ้าที่แปดด้วยค่ายกลโบราณเขตแดนที่แห่งนี้หรือ”
ถงเชียนฉวี่คล้ายมองอะไรออก ไอสังหารกลางนัยน์ตาล้นทะลัก
หลินสวินไม่ได้ใส่ใจ
“หยุด!”
“ถ้ากล้าก้าวไปข้างหน้าอีกอย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ!”
พอเห็นหลินสวินค่อยๆ ใกล้เข้ามา ผู้แข็งแกร่งที่ล้อมบริเวณใกล้กับค่ายกลโบราณเขตแดนก็ตั้งท่าพร้อมเคลื่อนไหวแล้ว ส่งเสียงข่มขู่ดุดัน
หลินสวินขมวดคิ้ว โบกแขนเสื้อคราหนึ่ง
ตูม!
พวกผู้แข็งแกร่งตระกูลถงที่อยู่บริเวณหน้าค่ายกลเคลื่อนย้าย ไม่ว่าจะปราณสูงต่ำล้วนเหมือนเจอพายุหมุนกวาดม้วนทันที ร่างกระเด็นกระจัดกระจายออกไป ยามตกลงพื้นบ้างบาดเจ็บสาหัสและสลบไป มีบางคนเลือดออกเจ็ดทวาร ร้องโหยหวนชวนอนาถ
ภาพนี้ทำเอาพวกผู้แข็งแกร่งตระกูลถงที่เหลือล้วนตื่นตระหนก หนาวสะท้านไปทั้งร่าง
แข็งแกร่งนัก!
สีหน้าของถงเชียนฉวี่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิงเช่นกัน สังเกตได้ว่าท่าไม่ดี จึงขยี้ยันต์หยกกระจุยทันที
ทำเรื่องนี้เสร็จแล้วจึงคล้ายสงบลงน้อยๆ กล่าวว่า “สหายยุทธ์ จานกระบวนที่ใช้เปิดค่ายกลโบราณนี้ถูกตระกูลข้าชิงมาแล้ว หากเจ้าอยากยืมใช้ค่ายกลนี้ไปน่านฟ้าที่แปด ไม่สู้รออีกสักพักจะดีกว่าหรือ”
ขณะพูดเขาก็โบกมือเล็กน้อย ให้ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงที่อยู่ใกล้ๆ ถอยไป
ถงเชียนฉวี่ดูออกแล้วว่าอาศัยแค่กำลังของพวกเขาไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้แน่นอน
หลินสวินสงบนิ่งอยู่แถวค่ายกลโบราณครู่หนึ่งแล้วกล่าวว่า “จานกระบวนอยู่ในมือใคร”
ด้วยฝีมือของเขา การเปิดค่ายกลนี้ไม่ต้องใช้จานกระบวนด้วยซ้ำ แต่ถ้าไร้จานกระบวนสุดท้ายก็ต้องเสียเวลาอีกพักหนึ่ง
หลินสวินไม่อยากเสียเวลาที่นี่
ถงเชียนฉวี่กล่าว “จานกระบวนนั่นอยู่ในมือผู้อาวุโสสามของตระกูลข้า”
ดูเหมือนยอมจำนน แต่มีหรือหลินสวินจะดูไม่ออกว่านี่เป็นการถ่วงเวลาของอีกฝ่าย
หลินสวินหมุนตัว หันหลังให้ค่ายกลโบราณเขตแดน สายตามองถงเชียนฉวี่แล้วกล่าว “ยันต์ส่งสารที่เจ้าเพิ่งส่งออกไป เป็นการขอความช่วยเหลือจากคนผู้นี้หรือ”
ในใจถงเชียนฉวี่กดดันอย่างบอกไม่ถูกระลอกหนึ่ง กัดฟันเอ่ย “ไม่ผิด! ถ้าสหายยุทธ์รู้จักถอย บางทีตอนนี้อาจยังมีโอกาสรอดชีวิต ไม่เช่นนั้น…”
หลินสวินหัวเราะน้อยๆ กล่าวว่า “รอข้าได้จานกระบวนแล้วจะจากไป”
ถงเชียนฉวี่สีหน้าเปลี่ยนไปมา เขาดูออกแล้วว่าหลินสวินไม่ได้สนใจการข่มขู่แม้แต่น้อย!
ตูม!
ไม่นานแสงเคลื่อนไหวเจิดจ้าหาใดเปรียบกลุ่มหนึ่งพุ่งมาจากไกลๆ
ผู้นำเป็นชายผมขาวชุดดำ ตัวยังมาไม่ถึงเสียงเย็นเยียบเฉยชาของเขาก็ดังมาแล้ว “เกิดเรื่องอะไรขึ้นที่นี่”
“ผู้อาวุโสสาม!”
ถงเชียนฉวี่ดีใจ รีบเล่าเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นทั้งหมดออกไป
ขวับ!
จากนั้นสายตาของพวกชายผมขาวชุดดำก็มองมาทางหลินสวิน บรรยากาศเปลี่ยนเป็นกดดันในชั่วขณะเดียว
“สหายคนนี้ เหตุใดเจ้าถึงรีบไปน่านฟ้าที่แปดเช่นนี้เล่า”
ชายผมขาวชุดดำเอ่ยถามอย่างเย็นเยียบ
หลินสวินจนใจอยู่บ้างอย่างอดไม่ได้ ท่าท่างตนจะข่มกลั้นเกินไปหน่อยแล้ว ถึงขั้นที่ใครๆ ต่างกล้าซักไซ้ตนเช่นนี้
“จานกระบวนอยู่ในมือเจ้าหรือ”
หลินสวินถามตรงๆ
“บังอาจ! ผู้อาวุโสสามกำลังถามเจ้าอยู่ เจ้าแค่ต้องตอบก็พอ!”
เด็กหนุ่มชุดม่วงคนหนึ่งข้างชายผมขาวชุดดำตวาด
หลินสวินเลิกคิ้วกล่าวทอดถอนใจ “เดิมทีข้าไม่อยากสร้างความลำบากให้พวกเจ้า แต่ดูท่าตอนนี้ข้าคงใจดีเกินไป…”
“ฮ่าๆ เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใคร ยัง…”
เด็กหนุ่มชุดม่วงหัวเราะลั่น รู้สึกคล้ายกำลังฟังเรื่องตลกยิ่ง เพียงแต่พูดไม่ทันจบร่างของเขาก็เกิดเสียงดังปัง ระเบิดกลายเป็นเถ้าปลิวลอยในอากาศ
ทั่วลานล้วนตกตะลึง
ตั้งแต่ต้นจนจบไม่มีใครเห็นว่าหลินสวินลงมืออย่างไร!
“นายน้อย!”
เสียงร้องตกใจระลอกหนึ่งดังขึ้น ล้วนถูกภาพนี้ทำเอาตั้งตัวไม่ถูก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์