Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2957

สรุปบท ตอนที่ 2957 คลื่นลมเมืองค้ำฟ้า: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2957 คลื่นลมเมืองค้ำฟ้า – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2957 คลื่นลมเมืองค้ำฟ้า ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2957 คลื่นลมเมืองค้ำฟ้า

ในวันนั้น กายมรรคทั้งห้าของหลินสวินเคลื่อนไหว ออกจากแดนแรกเริ่มไปด้วยกัน

ส่วนร่างต้นของเขากลับรั้งอยู่ คอยดูแลลัทธิแรกกำเนิด

อันที่จริงก็ไม่ได้มีเรื่องอะไรให้ทำนัก ร่างต้นของหลินสวินนอกจากฝึกปราณแล้ว ก็ทำเวลาเร่งหลอมระเบียบนิพพาน

ตอนนี้ระเบียบนิพพานเหลือเพียงสองส่วนที่ยังหลอมไม่ได้

และพลังสองส่วนนี้ก็เป็นจุดสำคัญแกนหลักที่สุดของระเบียบนิพพานพอดี

หลินสวินมีสังหรณ์แรงกล้า ว่ายามตนหลอมระเบียบนิพพานอย่างสมบูรณ์ กฎเกณฑ์อมตะของตนจะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เอี่ยมอย่างแน่นอน!

น่านฟ้าที่เจ็ด เขตแดนใจกลาง

เมืองค้ำฟ้า

ในโรงน้ำชาหอสุราทุกตรอกซอกซอย ทุกแห่งหนล้วนกำลังวิพากษ์วิจารณ์ศึกใหญ่ที่เล่นงานลัทธิแรกกำเนิดซึ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่วันก่อน

“ใครจะกล้าคิด ลัทธิพ่อมด ลัทธิฌาน กับเผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าล้วนพ่ายแพ้ไม่เป็นกระบวนหน้าลัทธิแรกกำเนิด”

เสียงทอดถอนใจจำพวกนี้ดังขึ้นมากมาย

ตอนนี้ข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับศึกใหญ่ครั้งนั้นล้วนแพร่สะพัดในน่านฟ้าที่เจ็ดแล้ว เรียกเสียงฮือฮาอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั่วหล้าล้วนแตกตื่น

“ว่ากันว่าลัทธิพ่อมดและลัทธิฌานบาดเจ็บล้มตายมากมาย ลำพังแค่คนใหญ่คนโตขั้นหลุดพ้นที่สูญเสียไปก็จำนวนมากกว่าร้อยแล้ว! อีกทั้งยังถูกรองหัวหน้าหอลัทธิแรกกำเนิดหลินสวินฆ่าทั้งนั้น!”

“พลังต่อสู้ของผู้อาวุโสหลินสวินคนนี้จะน่าสะพรึงเกินไปแล้วกระมัง”

“นี่นับเป็นอะไร ตามข่าวลือ แม้แต่ระดับนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าจำนวนหนึ่งยังร่วงหล่นอยู่หน้าประตูภูเขาลัทธิแรกกำเนิดเลย!”

“กล่าวเช่นนี้ ลัทธิแรกกำเนิดกลายเป็นผู้ชนะคนสุดท้ายอย่างนั้นหรือ”

…ขณะที่กายมรรคไม้เขียวของหลินสวินเดินเข้าเมืองค้ำฟ้าก็ได้เห็นภาพเช่นนี้ ทุกแห่งหนล้วนมีแต่เสียงที่กำลังวิพากษ์วิจารณ์ศึกใหญ่ครั้งนั้น

แน่นอนว่าเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้นส่วนใหญ่ล้วนเป็นการคาดคะเน ถึงขั้นใส่สีตีไข่ให้ดูเกินจริง

สำหรับเรื่องนี้กายมรรคไม้เขียวหลินสวินเพียงยิ้มขำขัน คร้านจะสนใจอย่างสิ้นเชิง

เขามาเมืองค้ำฟ้าครั้งนี้เพียงเพราะเรื่องเดียว…

อาศัย ‘ค่ายกลโบราณเขตแดน’ แห่งหนึ่งในเมืองมุ่งหน้าไปน่านฟ้าที่แปด!

ในน่านฟ้าที่เจ็ดมีค่ายกลโบราณเขตแดนที่เชื่อมสู่น่านฟ้าที่แปดทั้งหมดหนึ่งร้อยแปดแห่ง ก็เหมือนเส้นทางที่เชื่อมระหว่างน่านฟ้าที่เจ็ดและน่านฟ้าที่แปด ตั้งแต่อดีตสืบมาจนบัดนี้ก็ควบคุมโดยเผ่าจักรพรรดิอมตะใหญ่แต่ละตระกูลมาโดยตลอด

เหมือนอย่างค่ายกลโบราณเขตแดนในเมืองค้ำฟ้าแห่งนี้ ก็ควบคุมโดยเผ่าจักรพรรดิอมตะ ‘ตระกูลถานไถ’

เหตุที่หลินสวินมาที่นี่ก็ไม่ใช่คิดขึ้นได้ปุบปับ

แต่เป็นเพราะยามสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับค่ายกลโบราณเขตแดน ก็เห็นว่าเผ่าจักรพรรดิอมตะที่ควบคุมค่ายกลโบราณเขตแดนของเมืองค้ำฟ้าแห่งนี้คือตระกูลถานไถ ถึงได้ตั้งใจมาเป็นการเฉพาะ

เหตุผลง่ายดายยิ่ง

ปีนั้นยามเข้าด่านนภาอมตะแรกของแดนใหญ่พันศึก หลินสวินเคยผูกมิตรกับชายหนุ่มคนหนึ่งนามว่า ‘ถานไถเฟิง’ เคยร่ำสุรากันสนุกสนานคราหนึ่ง ถึงขั้นที่ถานไถเฟิงยังเคยออกหน้าช่วยเขาสลายการโจมตีไล่ล่าจากศัตรูอย่างพวกเหวินเซ่าเหิงอีกด้วย

แม้เขากับถานไถเฟิงจะยังไม่ถึงขั้นเป็นสหายกันอย่างแท้จริง แต่อย่างไรก็มีวาสนาเคยพบหน้ากันครั้งหนึ่ง

และตอนนี้ในเมื่อตั้งใจจะไปน่านฟ้าที่แปด หลินสวินย่อมอยากออกเดินทางจากค่ายกลโบราณเขตแดนที่ควบคุมโดยตระกูลถานไถแห่งนี้

หากมีวาสนา ไม่แน่ว่าอาจจะได้พบกับถานไถเฟิงอีกครั้ง

หลินสวินจำได้แม่น ตระกูลถานไถที่ตั้งอยู่ในน่านฟ้าที่เจ็ดแห่งนี้ มีถานไถฉางคงปู่ของถานไถเฟิงสร้างขึ้นมาด้วยตัวเอง

ถานไถฉางคงมีความอุตสาหะยิ่งยวด ทุ่มเทเวลาหมื่นปีพิชิตพลังระเบียบระดับสวรรค์สายหนึ่ง ถึงขั้นที่ตอนนั้นเพื่อชิงระเบียบระดับสวรรค์นี้ ยังเคยประมือกับระดับอมตะแปดคนด้วย

นับคำนวณเต็มๆ แล้ว ตั้งแต่ตระกูลถานไถปักหลักในน่านฟ้าที่เจ็ดจนบัดนี้ก็เป็นเวลาเพียงสามพันกว่าปี ตอนนี้ถือเป็นขุมอำนาจชั้นหนึ่งของน่านฟ้าที่เจ็ดแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าความสามารถของถานไถฉางคงคนนี้น่าทึ่งเพียงใด

สำหรับผู้แข็งแกร่งที่สามารถทะยานข้ามแดนใหญ่พันศึกและปักหลักในโลกยอดนิรันดร์ สร้างเผ่าจักรพรรดิอมตะมาเองกับมือเช่นนี้ หลินสวินไม่อาจไม่เลื่อมใส

หลินสวินในตอนนี้รู้ดียิ่งกว่าใคร ว่าในฐานะคนนอกคนหนึ่ง การที่สามารถสร้างรากฐานเช่นนี้ในน่านฟ้าที่เจ็ดได้เป็นเรื่องยากเย็นมากเพียงใด

ขณะครุ่นคิดหลินสวินก็มุ่งหน้าไปกลางเมืองด้วย

ค่ายกลโบราณเขตแดนแห่งนั้นตั้งอยู่ใจกลางเมือง ทันทีที่เข้าเมืองก็ถูกจิตรับรู้ของหลินสวินหาพบ

“ตระกูลถานไถเกรงว่าใกล้จบสิ้นแล้วล่ะ…”

ทันใดนั้นจิตรับรู้ของหลินสวินก็จับเสียงสายหนึ่งได้ เสียงนี้มาจากห้องรับรองในหอสุราแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับถนน แม้จะเบาหวิวสุดขีด แต่ด้วยมรรควิถีในปัจจุบันของหลินสวินก็ยังรับรู้ได้อย่างชัดเจน

หลินสวินชะงักเท้าทันควัน

ในจิตรับรู้ของเขามองเห็นภายในห้องรับรองนั้นอย่างแจ่มชัด มีผู้ฝึกปราณสองคนนั่งอยู่ กำลังดื่มสุราพูดคุยกัน

ชายชราชุดดำหนึ่งในนั้นกล่าวด้วยสีหน้าตึงเครียด “จะพูดจาซี้ซั้วไม่ได้ ระวังถูกคนอื่นได้ยินเข้า!”

“วางใจเถอะ ตอนนี้ตระกูลถานไถทั้งบนล่างล้วนตกอยู่ในอันตราย ไหนเลยจะมีแก่ใจมาสนใจพวกเราคุยกัน”

ชายชุดเทาฝั่งตรงข้ามกล่าวยิ้มๆ อย่างไม่ใส่ใจ

ชายชราชุดดำสงบสติแล้วถามว่า “พูดเช่นนี้หมายความอย่างไร”

ชายชุดเทากล่าว “หลายปีก่อนพันธมิตรสงครามสิบตระกูลก่อตั้งขึ้น ในน่านฟ้าที่เจ็ดตระกูลถานไถเป็นขุมอำนาจแรกที่เลือกพึ่งพิงใต้อาณัติยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลจู่ หากไม่ใช่เช่นนี้ ลำพังแค่รากฐานพลังของตระกูลถานไถ เป็นไปได้หรือที่จะดูแลค่ายกลโบราณเขตแดนในเมืองได้อย่างราบรื่นเช่นนี้ ควรรู้ว่าไม่ว่าผู้ฝึกปราณคนใดก็ตามต้องการใช้ค่ายกลโบราณเขตแดนมุ่งหน้าสู่น่านฟ้าที่แปด ล้วนต้องควักเงินจ่ายทรัพย์สินมหาศาลก้อนหนึ่ง! และตั้งแต่ดูแลค่ายกลโบราณเขตแดนแห่งนี้ ทรัพย์สมบัติพวกนี้ล้วนถูกตระกูลถานไถเก็บไว้คนเดียว”

ชายชราชุดดำขมวดคิ้วกล่าว “หรือเพราะเรื่องนี้ทำให้ตระกูลถานไถปลุกความโลภของขุมอำนาจอื่นขึ้นมา จนลงมือกับตระกูลถานไถอย่างนั้นหรือ”

ชายชุดเทาส่ายหน้า “ผิด ยักษ์ใหญ่อมตะตระกูลจู่คอยหนุนหลัง ใครจะกล้าขัดแข้งขัดขาตระกูลถานไถ”

“เช่นนั้นก่อนหน้านี้เหตุใดเจ้าถึงบอกว่าตระกูลถานไถใกล้จบสิ้นแล้ว”

“รีบขอความช่วยเหลือเร็วเข้า!!”

ผู้คุ้มกันเหล่านั้นตกใจตะโกนลั่น แต่เวลาเพียงอึดใจสั้นๆ เท่านั้นก็ถูกผู้แข็งแกร่งจากเผ่าจักรพรรดิอมตะตระกูลถงสังหารราบคาบ เลือดนองเต็มพื้น

ด้านตระกูลถง ผู้นำเป็นชายชุดเงินอานุภาพกร้าวแกร่ง ผมเคราราวสีหมึก กำลังยืนไพล่หลังกล่าวเสียงขรึม “ผู้ไม่เกี่ยวข้องรีบถอยออกไป!”

เสียงดุจสายฟ้าฟาด

“หนีเร็ว!”

“หนี หนีเร็วเข้า!” 艾琳小說

ในถนนละแวกนั้นมีเสียงร้องแตกตื่นดังขึ้น คนมากมายต่างตกใจกลัว หนีเตลิดออกไปไกลๆ ชุลมุนวุ่นวายไปทั้งแถบ

หลินสวินขมวดคิ้วมุ่น

เขาคิดไม่ถึงว่าตนยังไม่ทันไปคิดบัญชีกับตระกูลถานไถ ตระกูลถานไถกลับเป็นไปได้สูงว่าจะประสบเคราะห์แล้ว

กลางวันแสกๆ แม้แต่ค่ายกลโบราณเขตแดนยังถูกคนปล้นชิงไป แค่คิดก็รู้ว่าสถานการณ์ของตระกูลถานไถในตอนนี้ย่ำแย่แค่ไหน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ตอนยังไม่รู้สิ่งที่ตระกูลถานไถทำลงไปในปีนั้น บางทีหลินสวินอาจจะลงมือช่วยเหลือสักครา แต่ตอนนี้เขาไม่ยินดียื่นมือเข้าแทรกแล้ว

ดีร้ายแอบอิง ทุกอย่างล้วนต้องแบกรับเอง!

พลันนั้นผู้แข็งแกร่งตระกูลถงคนหนึ่งก็พุ่งออกมาจากไกลๆ ชี้หลินสวินแล้วตวาดเสียงกร้าว “ยังมัวเฉยอยู่ทำไม ไม่ได้ยินคำใต้เท้าของข้าหรือ ไสหัวไปให้ไว!”

หลินสวินทอดสายตามองรอบบริเวณ คราวนี้ถึงพบว่าพื้นที่ละแวกค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณนี้ นอกจากผู้แข็งแกร่งตระกูลถงมากกว่าร้อยคนนั่นแล้วก็เหลือแค่ตนยืนอยู่คนเดียว

“เจ้าหมอนี่คร้านจะมีชีวิตอยู่แล้วจริงๆ!”

เมื่อเห็นว่าหลินสวินไม่ขยับ ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงนั่นก็สบถด่าประโยคหนึ่งอย่างหมดความอดทน ฝ่ามือคว้าไปทางหลินสวินผ่านอากาศ

ตูม!

พลังฝ่ามือดุเดือดรุนแรง

เพียงแต่ยังไม่ทันเฉียดใกล้หลินสวินก็อันตรธานหายเกลี้ยงอย่างไร้เสียง

ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงคนนี้ผงะไป

เป็นเวลานี้เองที่หลินสวินกล่าวเรียบๆ “ตายไปก็ไม่น่าเสียดาย”

ปึง!

ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงคนนี้ร่างแตกระเบิดตรงๆ เถ้าธุลีลอยคลุ้ง หายลับไปจนไม่เหลือแม้เศษเสี้ยว เหมือนลบร่องรอยทั้งหมดไปจากโลกชัดๆ!

ไกลออกไป ผู้แข็งแกร่งตระกูลถงอย่างพวกชายชุดเงินต่างตกใจ

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์