Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 2956

สรุปบท ตอนที่ 2956 แยกกันเคลื่อนไหว: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 2956 แยกกันเคลื่อนไหว – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 2956 แยกกันเคลื่อนไหว ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 2956 แยกกันเคลื่อนไหว

หัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ดูแลเรื่องของการคัดเลือกแต่งตั้งในสำนัก

ในหอแรกพิสุทธิ์ รองหัวหน้าหอสามคนอย่างฟางเต้าผิง อวี๋สิ่ง จางเชียนซี รวมถึงพวกผู้อาวุโส ผู้ดูแล รองผู้ดูแลล้วนฟังคำสั่งหัวหน้าหอ

และฐานะหัวหน้าหอ ก็เท่ากับเป็นรองเพียงเจ้าสำนักลัทธิแรกกำเนิด ความสูงส่งของตำแหน่ง ความยิ่งใหญ่ของอำนาจ รวมถึงทรัพยากรฝึกปราณที่ใช้สอยได้ทั้งหมดใช่ว่าผู้อื่นจะเทียบได้

แต่เช่นเดียวกัน ยิ่งอำนาจที่มียิ่งใหญ่เท่าไร ก็ต้องแบกรับหน้าที่ยิ่งใหญ่เท่านั้น

ลัทธิแรกกำเนิดในยามนี้ไม่มีระดับนิรันดร์บัญชาการแล้ว และในขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ พลังต่อสู้ของหลินสวินแข็งแกร่งที่สุดโดยไม่ต้องสงสัย

ถึงขั้นที่ในบางแง่ นับจากวันนี้ไปหลินสวินก็เป็นหัวหน้าหอที่อายุน้อยที่สุดและอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งในลัทธิแรกกำเนิด

วันนั้นงานเลี้ยงจัดขึ้นทั่วลัทธิแรกกำเนิด เพื่อฉลองให้สามหัวหน้าหอคนใหม่ หลินสวิน เสวียนเฟยหลิง ตู๋กูยง

กลางดึก

หลินสวินที่กลับมาถ้ำสถิตจากในงานเลี้ยงก็นั่งคุยยาวกับจ้งชิวพักหนึ่ง 艾琳小說

“ตอนนี้ลัทธิพ่อมดกับลัทธิฌานเสียหายหนัก เผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าไม่อาจแทรกแซงเรื่องของน่านฟ้าอื่นในเวลาสั้นๆ อีก ข้าได้แจ้งข่าวให้พวกศิษย์น้องรั่วซู่ในลัทธิวิญญาณรู้แล้ว สามวันให้หลังก็จะออกเดินทางไปแดนยอดจักรวาลเพื่อไปช่วยพวกศิษย์พี่ใหญ่ด้วยกัน”

จ้งชิวบอกการตัดสินใจของตัวเองกับหลินสวิน

ในใจหลินสวินพลันสะท้าน กล่าวโดยไม่หยุดคิด “ข้าจะไปกับพวกท่านด้วย”

จ้งชิวยิ้มส่ายหน้า “ถ้าเจ้าไปมีแต่จะเกิดตัวแปรขึ้นไม่น้อย ถ้าถูกศัตรูพวกนั้นเพ่งเล็งอีกคงไม่ดี”

หลินสวินขมวดคิ้วกล่าว “ด้วยพลังต่อสู้ของข้าในตอนนี้ นอกจากฝีมือร่างต้นระดับนิรันดร์ นอกนั้นเกรงว่าใครก็ทำอะไรข้าไม่ได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ยิ่งไม่ต้องหวาดกลัวอะไร”

จ้งชิวกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ศิษย์น้อง ข้าจะไม่ใช่จะกล่อมให้เจ้าอยู่ลัทธิแรกกำเนิด หากแต่มีแผนอื่นให้เจ้า”

หลินสวินถอนหายใจกล่าวว่า “ศิษย์พี่โปรดชี้แนะ ตราบใดที่ช่วยได้ ไม่ว่าให้ข้าไปทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น”

จ้งชิวกล่าวเสียงขรึม “ก่อนหน้านี้นานมาแล้ว กำลังพลของลัทธิฌาณรวมตัวกับผู้แข็งแกร่งสิบยักษ์ใหญ่อมตะน่านฟ้าที่แปด เฝ้าอยู่ด้านนอกแดนยอดจักรวาล ถึงขั้นที่ในหลายปีนี้พวกศิษย์พี่ใหญ่ติดอยู่ในนั้นตลอด ไม่อาจหลบหนีได้”

“แต่สถานการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว ไม่กี่วันก่อนยามบุกลัทธิแรกกำเนิด กำลังพลที่ลัทธิฌานส่งมาทั้งหมดถูกกวาดเรียบไม่เหลือ ลัทธิฌานในยามนี้เสียหายรุนแรง รากฐานของพวกเขาเปลี่ยนเป็นไม่มั่นคง”

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินก็พยักหน้าเงียบๆ

ในศึกใหญ่ที่เกิดขึ้นบนทะเลหมื่นดารานั้น ขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ยี่สิบสี่คน ผู้แข็งแกร่งขั้นหลุดพ้นขั้นปลายสามสิบหกคนของลัทธิฌานที่นำโดยจี้คง รวมถึงรูปจำลองเจตจำนงอีกสิบกว่าคนย่อยยับไปทั้งหมด!

นอกจากนี้รูปจำลองเจตจำนงของบรรพจารย์ลัทธิฌาน รวมถึงพุทธอดีตเจียซิว พุทธอนาคตเจียจิ้ง ก็ถูกจักจั่นทองบังคับพาไปแหล่งสถานคุนหลุน

พูดได้ว่าหลังผ่านศึกนี้ พวกคนใหญ่คนโตระดับสูงของลัทธิฌานแทบจะบาดเจ็บล้มตายสิ้น!

ควรรู้ว่าคนที่มีปราณระดับขั้นหลุดพ้นสัมบูรณ์ ทั้งลัทธิฌานมีเพียงสามสิบสองคน ไม่ทันไรก็ร่วงหล่นไปยี่สิบสี่คนแล้ว การโจมตีระดับนี้แค่คิดก็รู้ว่ารุนแรงปานใด

และตัวตนระดับนิรันดร์ ทั้งลัทธิฌานก็มีเพียงสามคน แบ่งเป็นพุทธอดีต พุทธปัจจุบัน พุทธอนาคต

ทั้งพุทธอดีตกับพุทธอนาคตก็ถูกพาไปแหล่งสถานคุณหลุนหมดแล้ว เหลือแค่พุทธปัจจุบันควบคุมดูแลอย่างยากลำบากอยู่คนเดียว

ถึงขั้นว่ารากฐานของลัทธิฌานได้รับแรงโจมตีสาหัส!

ลัทธิพ่อมดก็เป็นเช่นเดียวกัน

“รากฐานลัทธิฌานสั่นคลอน ยากปกป้องตัวอง กำลังพลชั้นยอดที่สุดของสิบยักษ์ใหญ่อมตะก็ถูกเจ้าศิษย์น้องตีแตกพ่าย ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ศัตรูที่เฝ้าอยู่นอกแดนยอดจักรวาลจะยังมีภัยคุกคามอะไรให้พูดถึง”

จ้งชิวกล่าว “ถึงขั้นที่พวกเราไม่ต้องลงมือสักนิด อาศัยแค่ฝีมือของพวกศิษย์พี่ใหญ่ก็สามารถกวาดล้างพวกเขาได้ทั้งหมด แน่นอนว่าบางทีพวกศิษย์พี่ใหญ่อาจไม่รู้ว่าโลกภายนอกเกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างพลิกฟ้าคว่ำดินนานแล้ว” ดฮณ๊ฯดฯฌซ,

หลินสวินอดพยักหน้าไม่ได้ เป็นเช่นนี้จริงๆ

จ้งชิวยิ้มกล่าว” ดังนั้นการไปแดนยอดจักรวาลครั้งนี้ ให้ข้ากับพวกศิษย์พี่สามของเจ้าเคลื่อนไหวด้วยกันก็พอ ส่วนศิษย์น้องเช่นเจ้าก็ลองไปเดินเล่นน่านฟ้าที่แปดสักครั้ง”

“น่านฟ้าที่แปดหรือ”

หลินสวินเลิกคิ้ว

“ไม่ผิด เผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าเหล่านั้นสนใจแค่ปกป้องตัวเอง มีหรือจะใส่ใจความเป็นตายของหมาเฝ้าประตูเหล่านั้น ตอนนี้เป็นโอกาสเหมาะที่สุดในการซ้ำเติมพอดี”

จ้งชิวกล่าวคล้ายขบคิด “เพียงแต่การไปครั้งนี้ของเจ้าให้เน้นที่การหยั่งเชิงเป็นหลัก ดูว่าภายใต้สถานการณ์ตอนนี้ หากพวกสิบยักษ์ใหญ่อมตะนั่นพบเจอปัญหา เผ่าเทพนิรันดร์น่านฟ้าที่เก้าเหล่านั้นจะสอดมือเข้ามาหรือไม่”

หลินสวินตอบรับอย่างรวดเร็ว

สำหรับเขาในตอนนี้ การบุกไปน่านฟ้าที่แปดไม่จำเป็นต้องพะวงมากเกินไปอีกแล้ว!

“ต้องระวังให้มากๆ ถ้าเจ้าเฒ่าเผ่าเทพนิรันดร์คนไหนเกิดสมองมีปัญหาขึ้นมาแล้วลงมือกะทะหัน เจ้าต้องถอยหนีทันที และออกจากน่านฟ้าที่แปดโดยด่วน”

จ้งชิวเอ่ยกำชับ เขากังวลว่าเพื่อล้างแค้น หลินสวินจะก่อเรื่องในน่านฟ้าที่แปดมากเกินไป ถึงขั้นถูกเผ่าเทพนิรันดร์เพ่งเล็งอีก

“ศิษย์พี่วางใจ การรับมือพวกสิบยักษ์ใหญ่อมตะนั่น ข้าแค่เคลื่อนไหวร่างแยกทั้งห้าก็ได้แล้ว”

พูดถึงตรงนี้หลินสวินก็อดพูดอีกครั้งไม่ได้ “ศิษย์พี่ ไม่สู้ให้ร่างต้นของข้าไปแดนยอดจักรวาลกับพวกท่านเล่า ข้าไม่ได้เจอพวกศิษย์พี่ใหญ่นานแล้ว ในใจคิดถึงมากจริงๆ”

ฟังจบหลินสวินก็เงียบงันไปพักหนึ่ง

คิดๆ ดูแล้วในหลายปีนี้ลัทธิแรกกำเนิดเป็นดั่งต้นไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า บังลมกันฝนให้เขาเสมอมา เขาถึงได้หลบหลีกภัยคุกคามและการโจมตีที่มาจากศัตรูได้

ถึงขั้นว่าเพราะการคงอยู่ของเขา ยังทำให้ลัทธิแรกกำเนิดพลอยประสบเคราะห์มากมาย

ยามนี้ลัทธิแรกกำเนิดเพิ่งจะรอดจากภัยพิบัติครั้งใหญ่มาได้ สถานการณ์ดูเหมือนจะมั่นคงแล้ว แต่ใครจะกล้ารับรองว่าต่อไปจะไม่มีหายนะเกิดขึ้นอีก

เป็นอย่างที่จ้งชิวพูด ลัทธิแรกกำเนิดในตอนนี้ไม่มีระดับนิรันดร์แล้ว ดังนั้นจึงต้องมีคนมาดูแลแทน!

และมองดูลัทธิแรกกำเนิดทั้งบนล่าง มีเพียงเขาหลินสวินที่พลังต่อสู้แข็งแกร่งที่สุด อีกทั้งเขาเป็นหัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์แล้ว ก็ต้องแบกรับหน้าที่สำคัญเช่นนี้ด้วย!

“ได้ ข้าเชื่อฟังศิษย์พี่”

หลินสวินตัดสินใจแล้ว

จ้งชิวกล่าว “ศิษย์น้องวางใจเป็นการ การไปแดนยอดจักรวาลครั้งนี้จะไม่เกิดอุปสรรคอะไรแน่ ถ้าไม่ผิดคาด ไม่นานพวกเราก็จะกลับมาแล้ว ถึงตอนนั้นพวกเราศิษย์พี่ศิษย์น้องก็จะได้รวมตัวกันอีกครั้ง”

หลินสวินหยิบยันต์หยกซึ่งประทับรูปจำลองเจตจำนงที่คงเจวี๋ยทิ้งไว้ให้ออกมาส่งให้จ้งชิว “ศิษย์พี่ ของสิ่งนี้ท่านเอาไปด้วย”

จ้งชิวอึ้งไป สุดท้ายก็ปฏิเสธไม่ได้

เขาดูออกว่าถ้าตนไม่รับมา เกรงว่าหลินสวินคงไม่อาจวางใจการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของพวกเขาได้สักนิด

สามวันให้หลัง

จ้งชิวบอกลา ไปจากลัทธิแรกกำเนิด

วันนั้นเขาไปรวมตัวกับพวกรั่วซู่ที่ออกจากลัทธิวิญญาณเช่นกัน และมุ่งหน้าไปแดนยอดจักรวาล

และในวันที่สองที่จ้งชิวจากไป หลินสวินก็ไปหาสองหัวหน้าหออย่างเสวียนเฟยหลิงกับตู๋กูยง และเอ่ยเรื่องที่ตนคิดจะส่งร่างแยกมหามรรคไปน่านฟ้าที่แปด

เมื่อรู้ว่าร่างต้นของหลินสวินจะอยู่ที่ลัทธิแรกกำเนิด พวกเสวียนเฟยหลิงถึงได้วางใจตอบตกลง

ไม่เช่นนั้นพวกเขาไม่มีทางยอมให้หลินสวินไปเสี่ยงภัยในน่านฟ้าที่แปดคนเดียวเด็ดขาด ถึงอย่างไรที่นั่นก็มีเส้นทางที่เชื่อมสู่น่านฟ้าที่เก้า และแม้สิบยักษ์ใหญ่อมตะจะไม่เป็นภัยคุกคามอีก แต่เบื้องหลังพวกเขายังมีเผ่าเทพนิรันดร์ ทำให้ถูกจับจ้องจากเผ่าเทพนิรันดร์ได้ง่ายที่สุด

แต่ถ้าใช้ร่างแยกมหามรรค เช่นนั้นก็ไม่มีปัญหาแล้ว

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์