สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3035 คนเดียวกดครอบน่านฟ้าที่เก้า – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 3035 คนเดียวกดครอบน่านฟ้าที่เก้า ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 3035 คนเดียวกดครอบน่านฟ้าที่เก้า
เขาเทพเก้าวิญญาณ
อาณาเขตของเผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลชาง
“เมื่อวานเพิ่งมีข่าวมาว่าตระกูลหยางพินาศแล้ว ตอนนี้ก็มีข่าวออกมาอีกว่าตระกูลจี้ก็ถูกหลินสวินกวาดล้างอย่างนั้นหรือ”
พวกคนใหญ่คนโตตระกูลชางรวมตัวกันในหอบรรพชน บรรายากาศกดดัน
“ที่แน่ใจได้ก็คือความพินาศของตระกูลหยางต้องเป็นฝีมือเจ้าหลินสวินนี่เช่นกัน และที่เขาทำได้ถึงขั้นนี้ด้วยพลังของตัวเองคนเดียว ก็มีความเป็นไปได้อย่างเดียวคือเขามีไพ่ตายที่สามารถสังหารรูปจำลองเจตจำนงขั้นไร้ขอบเขตได้ในมือ!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์ระดับนิรันดร์คนหนึ่งเอ่ยเสียงขรึม “อีกทั้งต่อให้มีระเบียบระดับเทพคุ้มครอง ก็ไม่อาจขัดขวางการโจมตีของเจ้าหมอนี่ได้!”
ประโยคเดียวทำเอาจิตใจผู้คนในที่นั้นเปลี่ยนเป็นหนักอึ้ง
พวกเขาตระหนักได้ว่ามรสุมครั้งนี้จะม้วนตลบน่านฟ้าที่เก้า!
และคนที่เรียกพายุครั้งนี้มาก็คือหลินสวิน บุคคลที่ประหนึ่งตำนาน หัวหน้าหอแรกพิสุทธิ์ของลัทธิแรกกำเนิดที่เลื่องชื่อในน่านฟ้าที่เก้าในไม่กี่ปีมานี้
“เช่นนั้น… พวกเราควรทำอย่างไร”
มีคนเอ่ยเสียงต่ำลึก
ใครๆ ล้วนรู้ดีว่าการประสบเคราะห์ของตระกูลหยาง ตระกูลจี้เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น ไม่แน่ว่าหลินสวินอาจเปิดฉากเคลื่อนไหวนานแล้ว กำลังทำการแก้แค้นเผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือ!
“ทำอย่างไร… แต่ก่อนใครจะมองเจ้าตัวจ้อยอย่างหลินสวินอยู่ในสายตากัน ทว่าตอนนี้เขาถึงกับคุกคามความอยู่รอดของเผ่าเทพนิรันดร์ได้ นี่น่าอนาถเพียงไหน!!”
มีคนกล่าวอย่างขุ่นข้อง
ข่าวร้ายที่กระจายออกมาของตระกูลหยางและตระกูลจี้ทำเอาพวกเขาตื่นตกใจ จากความยากจะเชื่อในตอนแรกสุด มาถึงตอนนี้ที่ว้าวุ่นใจ เรียกได้ว่าสภาวะจิตผันผวนอย่างมาก
“นี่ก็เรียกว่า ‘เมื่อโอกาสมาถึงฟ้าดินล้วนร่วมแรง!”
เฒ่าดึกดำบรรพ์คนหนึ่งถอนหายใจยาว “หากไม่ใช่เพราะเคราะห์แห่งยุคสมัยทำให้ขั้นสรรสร้างขึ้นไปของพวกเราสิบสองตระกูลเผ่าเทพนิรันดร์ต้องจากไป หลินสวินย่อมไม่มีโอกาสบุกมาน่านฟ้าที่เก้าได้เป็นอันขาด อย่าว่าแต่เขา ต่อให้เป็นเจ้าหอบรรพจารย์ทั้งสี่ก็ไม่มีทางสั่นคลอนพวกเราได้”
ใจของทุกคนพลิกม้วน
เฒ่าดึกดำบรรพ์ผู้นั้นกล่าวต่อ “นอกจากนี้เจ้าหลินสวินนี่ยังกระทำการเย้ยฟ้า ชิงจุดเปลี่ยนของการแจ้งมรรคนิรันดร์มาได้ ทำให้ผู้บงการหลังม่าของเคราะห์แห่งยุคสมัยนั่นยังรู้สึกถึงภัยคุกคาม แค่คิดก็รู้ว่ามรรคานิรันดร์ของเจ้าหลินสวินนี่ย่อมต่างจากคนทั่วไป และความพินาศของตระกูลหยางกับตระกูลจี้ก็พิสูจน์จุดนี้แล้วอย่างไม่ต้องสงสัย”
สุดท้ายเฒ่าดึกดำบรรพ์คนนี้กล่าวสรุป “ทั้งหมดนี้ล้วนหมายความว่า ภายใต้สถานการณ์ตอนนี้หลินสวินมีพลังในการทำลายโครงสร้างน่านฟ้าที่เก้าได้แล้ว จะดูเบาไม่ได้เด็กขาด ไม่เช่นนั้นเกรงว่าตระกูลชางของพวกเราก็อาจเจริญรอยตามตระกูลหยางกับตระกูลจี้ได้เช่นกัน”
ในใจทุกคนคร่ำเคร่งนัก สีหน้าล้วนเปลี่ยนเป็นหนักอึ้งยิ่ง ไอรีนโนเวล
“ผู้อาวุโส เช่นนั้นท่านว่าพวกเราควรทำอย่างไร”
มีคนถาม
เฒ่าดึกดำบรรพ์คนนั้นยกมือวาดคราหนึ่ง แผนที่ขนาดใหญ่ภาพหนึ่งปรากฏออกมา “พวกเจ้าดู หลังจากเจ้าหลินสวินนี่ทำลายตระกูลหยางก็ตรงไปตระกูลจี้ทันที ถ้าข้าเดาไม่ผิด เป้าหมายต่อไปของเขาเป็นไปได้มากว่าเป็นตระกูลไท่เฮ่าที่อยู่ติดกับตระกูลจี้”
ทุกคนพยักหน้าไม่หยุด
เฒ่าดึกดำบรรพ์นั่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วกลับส่ายศีรษะกล่าว “ไม่ถูก ตอนที่พวกเราได้รับข่าวว่าตระกูลหยางกับตระกูลจี้ประสบเคราะห์ก็ช้าไปเกือบสองวันแล้ว เกรงว่าตอนนี้เจ้าหลินสวินนี่คงทำลายตระกูลไท่เฮ่าไปแล้ว”
“นี่…” สีหน้าทุกคนล้วนเปลี่ยนไปทันที
“การศึกต้องรวดเร็ว เจ้าหลินสวินนี่รู้ดีว่าถ้าข่าวแพร่ออกไป การเคลื่อนไหวของเขาก็จะยิ่งไม่ราบรื่น ดังนั้นเขาจะต้องเร่งทำเวลา”
เฒ่าดำดำบรรพ์นั่นแววตาลุ่มลึก ชี้ไปยังแผนที่ที่ปรากฏบนม่านแสงนั้น “และถ้าข้าเดาไม่ผิด หลังจากทำลายตระกูลไท่เฮ่า เจ้านี่จะต้องไปตระกูลเหวินแน่นอน”
มีคนหน้าเปลี่ยนสีทันที กล่าวว่า “ถ้าตระกูลเหวินพินาศเช่นกัน เจ้านี่ก็แค่ต้องทำลายตระกูลเจวี๋ย และเป้าหมายถัดไปก็จะเป็นตระกูลชางของพวกเรา”
เฒ่าดึกดำบรรพ์นั่นพยักหน้า “ฉะนั้นสถานการณ์ได้กลายเป็นเร่งด่วนที่สุดแล้ว ตอนนี้พวกเราต้องเคลื่อนไหวทันที”
“ผู้อาวุโส การเคลื่อนไหวต่อไปให้ท่านตัดสินใจก็พอ” ทุกคนพากันเอ่ยปาก
เฒ่าดึกดำบรรพ์พยักหน้ากล่าว “ตามความเห็นข้า จากนี้ไปพวกเราจะพาคนในตระกูลทั้งหมดจากไปทันที กลบเลี่ยงคมดาบจึงจะเป็นแผนชั้นยอด ตราบใดที่พวกเรายังมีชีวิตก็จะมองเห็นสถานการณ์ได้ชัดเจน ถึงตอนนั้นไม่ว่าจะได้กลับมาอีกครั้งหรือตัดสินใจทำอะไรก็ล้วนอยู่ในจุดที่ไม่เสียเปรียบแล้ว”
“หนีหรือ…” สีหน้าทุกคนเปลี่ยนเป็นอึมครึมไม่อาจสงบ ในใจต่อต้านไม่หยุด
แค่หลินสวินคนเดียวเท่านั้น เพียงเพราะข่าวลือเดียวกลับทำให้พวกเขาทั้งตระกูลชางต้องหลบหนีโดยไม่ต่อสู้ ถ้าเรื่องนี้กระจายออกไปชื่อเสียงที่พวกเขาตระกูลชางสั่งสมมาหลายปีต้องแหลกเหลว กลายเป็นที่ขบขันของคนทั่วหล้า!
“ผู้อาวุโส อย่างไรข่าวพวกนี้ก็เป็นข่าวลือ ไม่ว่าใครล้วนไม่รู้ว่าการล่มสลายของตระกูลหยางและตระกูลจี้เป็นฝีมือของหลินสวินคนเดียวหรือมีสาเหตุอื่นกันแน่ พวกเราจากไปเช่นนี้ เห็นชัดว่าออกจะเกินไปหน่อย…”
มีคนอดกล่าวไม่ได้
“ใช่แล้ว”
คนอื่นพากันเอ่ยสมทบ ไม่ยินยอมหนีจากไปเช่นนี้
เฒ่าดึกดำบรรพ์เห็นเช่นนี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ “มีชีวิตรอดสำคัญกว่าสิ่งอื่นใด หากตายไปทุกอย่างก็จบสิ้นแล้ว! ยิ่งกว่านั้นข่าวลือพวกนี้อาจจะมีจุดที่ไม่เป็นความจริงทั้งหมด แต่เรื่องที่ตระกูลหยางและตระกูลจี้ประสบเคราะห์ก็เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นไปแล้ว!”
ทุกคนเห็นเช่นนี้ก็อดมองไปทางผู้นำตระกูลไม่ได้
“ทำตามที่ผู้อาวุโสว่าทั้งหมด!” ผู้นำตระกูลชางนิ่งเงียบครู่หนึ่งแล้วกัดฟันตัดสินใจ
“ดี พวกเราจากไปตอนนี้เลย”
เฒ่าดึกดำบรรพ์ผู้นั้นเหมือนยกภูเขาออกจากอก กล่าวอย่างผ่อนคลาย “การจากไปง่ายดาย ขอเพียงเก็บเขาเทพเก้าวิญญาณกับพลังระเบียบมาก็ได้แล้ว”
เขาพูดพลางหยัดตัวขึ้น แล้วหันไปมองนอกหอบรรพชน “ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหวเถิด”
ทุกคนพากันลุกขึ้นเช่นกัน
ในเวลาต่อมาเขาไปตระกูลเย่ ตระกูลอู่ ตระกูลสิงเทียน ตระกูลจื่อเชอติดต่อกัน
ในจำนวนนั้นตระกูลเย่กับตระกูลสิงเทียนหนีไปก่อนก้าวหนึ่งเหมือนกับตระกูลผานอู่
ส่วนตระกูลอู่กับตระกูลจื่อเชอกลับเลือกจะดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย
จุดจบไม่ต้องพูดก็รู้ว่าเผ่าเทพนิรันดร์สวองตระกูลนี้ถูกหลินสวินทำลายสิ้น
จนถึงตอนนี้ในช่วงเวลาไม่ถึงหกวัน นับตั้งแต่หลินสวินออกเดินทางจากตระกูลจี้ไปยังเผ่าเทพนิรันดร์สิบตระกูลอย่างตระกูลไท่เฮ่า ตระกูลเจวี๋ย ตระกูลชาง ตระกูลหยวนเป็นต้น
เดินทางไปทั่วตามลำพัง เรียกลมฝนคาวเลือดครั้งแล้วครั้งเล่า และเผ่าเทพนิรันดร์ที่ดำรงอยู่มานานทั้งหมดนั้น นอกจากตระกูลผานอู่ ตระกูลเย่ และตระกูลเทียนสิงแล้ว ต่างพินาศกลายเป็นฝุ่นควันในหน้าประวัติศาสตร์
ราวกับผู้ยิ่งใหญ่ที่คงอยู่ในกลาเวลาไร้สิ้นสุดในน่านฟ้าที่เก้าค่อยๆ ร่วงหล่น เรียกคลื่นลูกใหญ่ยักษ์ในทั่วทุกพื้นที่
กระทั่งหลังจากหลันสวินกลับมาตระกูลจี้ ทั้งน่านฟ้าที่เก้าก็แตกตื่นยิ่งแล้ว สรรพชีวิตต่างถูกข่าวมากมายที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสายทำเอาตกใจ
“อะไรนะ แม้แต่ตระกูลชางก็ล่มสลายแล้วหรือ”
“นี่เป็นข่าวของเมื่อวานไปแล้ว เมื่อครู่มีข่าวแพร่ออกมาว่าตระกูลหยวนก็ล่มสลายแล้วเช่นกัน”
“เป็นไปได้อย่างไร…”
“สวรรค์ เกิดอะไรขึ้นในน่านฟ้าที่เก้ากันแน่”
ในขณะที่ผู้คนกำลังสั่นไหวกับความพินาศของเผ่าเทพนิรันดร์บางตระกูล ข่าวความพินาศของเผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือก็กระจายตามมาติดๆ จนถึงขั้นทำให้รู้สึกสับสนไปหมด
เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล กลับประสบเคราะห์ติดต่อกันในเวลาอันสั้น สำหรับสรรพชีวิตในน่านฟ้าที่เก้านี่ไม่ต่างอะไรกับฟ้าเปลี่ยน
ความแปลกใจ ตกตะลึง และยากจะเชื่อมีมากเกินไป ไม่ว่าคำพูดใดก็ไม่อาจบรรยายความรู้สึกเช่นนั้นได้
และเมื่อนึกถึงว่าทั้งหมดนี้ถึงกับมาจากน้ำมือของคนผู้เดียวก็ทำเอาหนังหัวชาและขนลุกไม่หยุด
“หลินสวิน! เขาถึงขั้นพลิกฟ้าของน่านฟ้าที่เก้าด้วยตัวคนเดียวได้!”
“ตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเคยเกิดเรื่องแบบนี้ที่ไหน หลินสวินนี่… แข็งแกร่งถึงเพียงนั้นได้อย่างไร”
“กำราบเผ่าเทพนิรันดร์ในน่านฟ้าที่เก้าด้วยตัวคนเดียว ตัวคนเดียวนะ!! มองไปทั่วหล้าบนล่าง เหลือบแลตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันเคยมีบุคคลเช่นนี้หรือ”
“ต่อไปเกรงว่าน่านฟ้าที่เก้าของโลกยอดนิรันดร์นี้คงมีหลินสวินเป็นใหญ่ที่สุด!”
…เสียงฮือฮาหลากหลายดังขึ้นในทุกพื้นที่ของน่านฟ้าที่เก้า
และพร้อมกับข่าวที่กระจายมาไม่หยุด ความแตกตื่นเช่นนี้ก็ยังปรากฏและเผยออกมาเรื่อยๆ เรียกคลื่นที่โหมซัดยิ่งกว่าขึ้นมาไม่หยุด
——
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์