Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3036

สรุปบท ตอนที่ 3036 คลายปริศนา: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3036 คลายปริศนา – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3036 คลายปริศนา จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 3036 คลายปริศนา

เขาเทพตั้งต้น

ยอดเขาไผ่สน

เมื่อเห็นหลินสวินกลับมาอย่างปลอดภัย ซีและจี้ซานไห่ต่างถอนหายใจโล่งอก

ทันใดนั้นจี้ซานไห่ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “พี่หลิน การเดินทางครั้งนี้ราบรื่นหรือไม่”

หลินสวินส่ายหน้า “เกิดเรื่องไม่คาดคิดอยู่บ้าง”

ในใจซีบีบรัด เอ่ยถามออกมาเช่นกัน “เกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือ”

หลินสวินยิ้มกล่าว “ก็แค่เรื่องเล็กน้อยเท่านั้น”

ขณะพูดเขาก็เล่าเรื่องที่เผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูล อย่างตระกูลเทียนสิง ตระกูลเย่ ตระกูลผานอู่หนีล่วงหน้าไปก้าวหนึ่ง

ซีกับจี้ซานไห่ล้วนอึ้งไป เพิ่งเข้าใจยามนี้ว่าเรื่องไม่คาดคิดที่หลินสวินพูดถึงก็แค่ไม่ได้ทำลายเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลนี้เท่านั้น

“พูดเช่นนี้ เผ่าเทพนิรันดร์ที่เหลือทั้งหมด…” จี้ซานไห่ตะลึง ริมฝีปากชมพูอ้าออกน้อยๆ ดวงตางดงามเบิกโต

“ไม่ผิด ล้วนลบชื่อออกจากโลกไปแล้ว”

หลินสวินพยักหน้า

ซีกับจี้ซานไห่ปากอ้าตาค้าง เสียกิริยาอย่างไม่อาจควบคุมไปแล้ว

ไม่ถึงเจ็ดวัน นอกจากเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลที่หนีไปล่วงหน้า เผ่าเทพนิรันดร์อื่นๆ ล้วนประสบเคราะห์หมดเลยหรือ

ในใจพวกนางล้วนสั่นไหวขึ้นมา สมองมึนงง ดวงตาจ้องมองตรงไปที่หลินสวิน

ต่อให้รู้อยู่ก่อนว่าหลินสวินทำลายตระกูลหยางและชำระแล้วในตระกูลจี้ไปแล้วรอบหนึ่ง ทว่าเมื่อได้รู้ข่าวเช่นนี้พวกนางก็ยังตะลึงอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนอยู่ดี

นี่เท่ากับว่าอาศัยพลังของตัวเองคนเดียวก็ทำลายเผ่าเทพนิรันดร์ทั้งหมดได้แล้วชัดๆ

ครู่ใหญ่จี้ซานไห่ถึงค่อยเอ่ยถามอย่างตื่นเต้น “พี่หลิน เจ้ารีบเล่าให้พวกเราฟังทีว่าผ่านอะไรมาบ้าง”

นางในสมัยก่อนดุจกล้วยไม้ในหุบเขา ตัดขาดจากโลกภายนอก งดงามและเย่อหยิ่ง แต่ยามนี้กลับคล้ายสาวน้อยที่เต็มไปด้วยความรู้สึกชื่นชมคนหนึ่ง

ซียังนับว่าสงบ เพียงแต่นัยน์ตาที่มองมาทางหลินสวินกลับคลอประกายแวววาวเช่นกัน

มีหรือหลินสวินจะปฏิเสธ ยิ้มพลางค่อยๆ เล่าเรื่องบางส่วนที่ตัวเองทำออกมา

ส่วนสองพี่น้องก็ฟังจนใจเต้นขึ้นๆ ลงๆ

วันนั้นทั้งบนล่างตระกูลจี้ได้รู้ถึงผลงานการต่อสู้อันเกรียงไกรของหลินสวินเช่นกัน ทุกคนต่างตกตะลึง ไม่รู้ว่าควรดีใจหรือเสียใจดี

ความรู้สึกนี้ช่างย้อนแย้งเกินไปแล้ว

หากไม่ใช่ว่าหลินสวินปราณี พวกเขาตระกูลจี้คงไม่มีทางโชคดีรอดมาได้แม้แต่น้อย

แต่เรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้คือหลินสวินเองก็สังหารคนในตระกูลจี้ของพวกเขาไปหลายคน…ไอรีนโนเวล

ฉะนั้นความรู้สึกของคนในตระกูลจี้เหล่านี้จึงสับสนเช่นนั้น

แต่สำหรับจี้หวังถู หลังจากรู้เรื่องพวกนี้ ความขุ่นข้องและต่อต้านหลินสวินในใจเขาเสี้ยวนั้นก็หายไปหมดสิ้น

เหลือเพียงความยินดี!

ในหมู่เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล สามตระกูลหนีหายเหมือนสุนัขไร้ที่พึ่ง แปดตระกูลถูกขุดรากถอนโคน เทียบกันแล้วต่อให้ตระกูลจี้ของพวกเขาพบเจอการชำระล้างนองเลือดมาแล้วรอบหนึ่ง แต่อย่างไรก็ยังคงอยู่ต่อไปได้

เรื่องนี้ยังจะให้จี้หวังถูไม่พอใจอะไรอีกหรือ

และวันนั้นเช่นกันที่ทั้งตระกูลจี้ได้รู้ข่าวว่าสามวันให้หลังหลินสวินก็จะออกจากน่านฟ้าที่เก้า และยามจากไปก็จะพาคนในตระกูลจี้ทั้งหมดจากไปด้วย

โลกภายนอก ข่าวที่เกี่ยวข้องกับการล่มสลายของเผ่าเทพนิรันดร์อันยิ่งใหญ่ทั้งหมดยังคงแพร่กระจายอยู่

ทว่าสำหรับสรรพชีวิตบนโลก พวกเขาล้วนรู้ดีว่าโครงสร้างใต้หล้าที่ก่อตัวขึ้นจากการควบคุมของเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลตั้งแต่อดีต ถูกหลินสวินคนเดียวทำลายไปจนหมด

น่านฟ้าที่เก้านี้ฟ้าเปลี่ยนไปแล้วอย่างสมบูรณ์!

“คิดไม่ถึงว่าในชีวิตบั้นปลายของข้า จะถึงกับได้เห็นเผ่าเทพนิรันดร์ที่ปกครองทุกชีวิตในโลกหล้าดุจทาสเหล่านั้นพินาศไปทั้งหมดโดยพลัน ท่านพ่อ ท่านแม่ หากพวกท่านในยมโลกรู้จะต้องดีใจมากใช่หรือไม่”

มีคนตื่นเต้นจนร้องไห้ตะโกนเสียงดัง

พวกขุมอำนาจและผู้ฝึกปราณที่เคยถูกใช้เป็นทาสและกดขี่เหล่านั้น ตอนนี้ล้วนมีอารมณ์เช่นนี้ ตื่นเต้น ฮึกเหิม ยินดี ควบคุมตัวเองไม่อยู่

เงยหน้าอ้าปากได้ในครั้งเดียว ไม่ต้องถูกกดขี่อีกต่อไป ไม่ต้องเอาตัวรอดไปวันๆ อีกต่อไป สำหรับพวกเขานี่เป็นโชคอันยิ่งใหญ่อย่างไม่ต้องสงสัย

“เร็วเข้า ไปล่าเศษเดนตระกูลไท่เฮ่าสุดกำลัง!”

“ไม้ใหญ่ล้มลิงกระจาย ครั้งนี้พวกเราจะได้แก้แค้นแล้ว!”

ขุมอำนาจนับไม่ถ้วนในทุกอาณาเขตของน่านฟ้าที่เก้าเปิดฉากเคลื่อนไหว ตามล่าสังหารคนของเผ่าเทพนิรันดร์ที่พินาศไปแล้วอย่างกระเหี้ยนกระหือรือ

เช่นเผ่าเทพอมตะยี่สิบสี่ตระกูลที่กระจายตัวในน่านฟ้าที่เก้าก็ลงมือแล้ว

เมื่อก่อนเผ่าเทพนิรันดร์ต่างครอบครองพื้นที่แห่งหนึ่ง อาณาเขตที่ครอบครองมนับไม่ถ้วน แต่ตอนนี้เมื่อเผ่าเทพนิรันดร์เหล่านี้ล้มลง อาณาเขตพวกนี้ย่อมกลายเป็นของล้ำค่าในสายตาคนอื่น

การเข่นฆ่า การนองเลือด ความวุ่นวาย

ก็คล้ายเขม่าควันที่แผ่เต็มท้องฟ้าในน่านฟ้าที่เก้า

เป็นอย่างที่หลินสวินคาดการณ์ไว้ในตอนแรก ขอเพียงเขาทำลายเผ่าเทพนิรันดร์เหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตัวเองสักนิด พวกคนที่เหลือรอดของเผ่าเทพนิรันดร์ก็ต้องพบเจอการไล่ล่าจากคนทั่วหล้า!

กล่าวได้ว่าหลินสวินคนเดียวก็จบยุคสมัยที่เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลครองใต้หล้าได้แล้ว!

หลินสวินกล่าวถึงปริศนาที่ตนสงสัยมาตลอดในใจ

สีหน้าจี้หวังถูฉายแววประหลาดยิ่งทันที ราวกับลังเลว่าจะบอกหรือไม่บอกหลินสวินดี

“ผู้อาวุโสเชิญพูดมาเถิด” หลินสวินกล่าวเสียงเบา

จี้หวังถูสูดหายใจลึกแล้วกล่าวว่า “ว่าไปแล้วนี่ก็เป็นเรื่องเมื่อเก่าก่อนแล้ว ปีนั้นหลังจากเจ้าแห่งคีรีดวงกมลมาถึงน่านฟ้าที่เก้าไม่นาน ได้เชิญผู้อาวุโสของเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลไปเขาประทับฟ้า บอกว่ามีเรื่องใหญ่จะปรึกษา…”

“เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลหารือกันแล้วตัดสินใจส่งขั้นไร้ขอบเขตคนหนึ่งของแต่ละตระกูลไป ทว่าหลังจากถึงเขาประทับฟ้ากลับเกิดการปะทะกัน”

“การปะทะหรือ” หลินสวินนัยน์ตาหดรัด

“ใช่ ว่ากันว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลหวังร่วมมือกับเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล ไปสู้กับผู้บงการหลังม่านของเคราะห์แห่งยุคสมัย”

แววตาจี้หวังถูซับซ้อน “นี่จะให้เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลตอบรับได้อย่างไร ในอดีตไม่รู้มีอารยธรรมแห่งยุคสมัยเท่าไรล่มสลาย ทว่าล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้บงการหลังม่านนั่น”

เขาเว้นช่วงไปแล้วกล่าวต่อ “หลังจากถูกปฏิเสธ เจ้าแห่งคีรีดวงกมลกลับขู่ว่าช้าเร็วสักวันหนึ่งเมื่อมรรคายอดอมตะปรากฏ สิ่งที่เคยรับรู้ทั้งหมดในใต้หล้าจะถูกทำลาย และทุกสิ่งในน่านฟ้าที่เก้าก็จะถูกล้มล้างอย่างสมบูรณ์”

พูดถึงตรงนี้สายตาของเขาก็อดมองไปทางหลินสวินด้วยสีหน้าแปลกๆ ไม่ได้

หลินสวินก้าวบนมรรคายอดอมตะแล้ว ตอนนี้ยังกวาดล้างเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลด้วยพลังของตนคนเดียว พลิกสถานการณ์ในน่านฟ้าที่เก้าได้ในคราวเดียว นี่เป็นจริงตามคำพูดของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลอย่างไม่ต้องสงสัย

“ไม่น่าเกิดความขัดแย้งแค่เพราะประโยคเช่นนี้กระมัง” หลินสวินขมวดคิ้ว

จี้หวังถูส่ายหน้า “ไม่ใช่จริงๆ แต่เป็นเพราะตอนนั้นขั้นไร้ขอบเขตคนหนึ่งของลัทธิฌานนำรูปปั้นหินหนึ่งไปด้วย”

“รูปปั้นไท่ชูหรือ” หลินสวินนัยน์ตาหดรัด

“ไม่ผิด”

จี้หวังถูประหลาดใจอยู่บ้าง คล้ายคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะรู้จักของสิ่งนี้เช่นกัน เขาพลันเอ่ยต่อ “เป็นรูปปั้นหินนี่ที่ทำให้เผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลแตกหักกับเจ้าแห่งคีรีดวงกมล และเกิดการต่อสู้ครั้งใหญ่บนเขาประทับฟ้า”

“สุดท้ายเจ้าแห่งคีรีดวงกมลก็ประสบเคราะห์ไป”

พูดถึงตรงนี้จี้หวังถูรีบเสริมอย่างรวดเร็ว “แต่ภายหลังข้าถึงรู้ว่า เจ้าแห่งคีรีดวงกมลที่ถูกทำลายไปเป็นเพียงพลังของรูปจำลองเจตจำนงเท่านั้น”

“และตามการอนุมานของคนใหญ่คนโตเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูล ร่างต้นของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลเกรงว่าคงไปแหล่งสถานอัศจรรย์นานแล้วและกลับมาไม่ได้อีก ดังนั้นจึงกระจายข่าวออกไปว่าเจ้าแห่งคีรีดวงกมลประสบเคราะห์ในน่านฟ้าที่เก้า”

ฟังถึงตรงนี้หลินสวินก็เข้าใจทั้งหมดแล้ว

มิน่าเมื่อก่อนข่าวที่ได้ยินมักจะบอกว่าอาจารย์ประสบเคราะห์ในน่านฟ้าที่เก้า เป็นตายไม่อาจรู้

ที่แท้ร่างที่ถูกฆ่าในปีนั้นก็เป็นเพียงรูปจำลองเจตจำนงสายหนึ่งเท่านั้น!

และต้นตอที่ทำให้เกิดการต่อสู้ในปีนั้นก็อยู่ที่รูปปั้นไท่ชูที่ขั้นไร้ขอบเขตของลัทธิฌานคนนั้นนำมา

นี่ต้องเกี่ยวกับผู้บงการหลังม่านของเคราะห์แห่งยุคสมัยอย่างไม่ต้องสงสัย!

………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์