Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3047

สรุปบท ตอนที่ 3047 พิบัติโลกีย์: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3047 พิบัติโลกีย์ – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 3047 พิบัติโลกีย์ ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 3047 พิบัติโลกีย์

เพิ่งสิ้นเสียงของจี้เฉาอิน

จี้กุยหลิงและจี้ไห่เหวินสำแดงไพ่ตายออกมาโดยพร้อมเพรียง

“หมื่นกระแส!”

จี้กุยหลิงตะโกน ห้วงอากาศปริแยกกะทันหัน พลังกฎระเบียบไพศาลพวยพุ่งออกมา ราวกับน้ำจากเก้าสวรรค์ระบายออกหมายจะท่วมโลก

พลังกฎระเบียบไพศาลนั้นปกคลุมฟ้าดิน เมื่อเทียบกันแล้ว ทุกอย่างดูเล็กและไร้แรงเป็นพิเศษ

สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหลังจากจี้กุยหลิงสำแดงการโจมตีนี้ออกมา พลังขับเคลื่อนทั้งร่างพลันอ่อนแอลง สีหน้าซีดเซียว

เห็นชัดว่าการโจมตีเช่นนี้ทำให้ขั้นสรรสร้างอย่างเขาผลาญพลังไปมากยิ่ง

“ภูผาธารารวมตัว จันทร์ส่องสว่างลำพัง!”

ในเวลาเดียวกันเสียงที่เลื่อนลอยเย็นเยียบดังขึ้น เมื่อจี้ไห่เหวินกวักมือ ราวกับภูผาธารานับหมื่นพันพาดขวางกลางห้วงอากาศ จันทร์กลมส่องสว่างลอยเด่น สาดแสงใสเย็นดุจภาพฝันคลุมเครือออกมา

ภูผาธาราเหล่านั้นล้วนแปลงมาจากกฎระเบียบลึกลับ โดยเฉพาะดวงจันทร์นั่น ประหนึ่งหมื่นมรรคแปลงมา เต็มไปด้วยท่วงทำนองศักดิ์สิทธิ์สูงส่ง หนึ่งเดียวในหมื่นกาล

ภาพเช่นนี้งดงามจนพาให้คนใจสั่น และน่าหวาดหวั่นจนถึงขั้นไม่สามารถจินตนาการได้

แม้มองจากไกลๆ ยังทำให้ในใจขั้นล่วงกฎอย่างพวกจี้ป๋อเหวินหนาวเยือก รู้สึกสิ้นหวังไร้ที่พึ่ง

กลับเห็นดวงตาแดงก่ำของหลินสวินเผยประกายปานบ้าคลั่ง ครู่ต่อมา…

วู้ม…

ประตูเนรเทศพลันปรากฏ บดบังฟ้าดินแถบนี้ ประตูยักษ์ที่มีขอบเขตหมื่นจั้งเต็มเสมือนปากใหญ่เลือดนองกลืนกินฟ้า

อภินิหารต้องห้ามอย่างประตูเนรเทศ ตอนนี้ถูกหลินสวินซึ่งมีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ปลดปล่อยออกมาถึงขีดสุด อานุภาพย่อมแตกต่างจากในอดีต

ตูม โครม…

กระแสกฎระเบียบไพศาลที่จี้กุยหลิงปลดปล่อยออกมาน่ากลัวเพียงใด แต่ตอนนี้กลับเหมือนหมื่นกระแสคืนสู่มหาสมุทร ถูกประตูเนรเทศกลืนกินทั้งหมด

“เป็นไปได้อย่างไร!”

จี้กุยหลิงตะโกนลั่น สีหน้าเต็มไปด้วยความหวาดกลัว นี่เป็นถึงไพ่ตายของเขา ผลาญพลังปราณของเขาไปเกินครึ่ง

ขณะเดียวกัน จี้ไห่เหวินเองก็ส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจยากจะเชื่อ

ก็เห็นโลกภูผาธาราจันทรานั้นถึงกับถูกบดขยี้แหลกประหนึ่งกระดาษเปื่อยและหายไปในประตูเนรเทศ พลังกฎระเบียบอันน่าสะพรึงที่สั่งสมอยู่ภายในถึงขั้นเทียบไม่ได้ปานนั้น

โครม!

ฟ้าดินอึงอล ประตูเนรเทศพาดขวาง กลืนกินทุกสิ่ง ไม่ว่าจะอภินิหารชั้นเลิศอะไร พลังกฎระเบียบอะไร ล้วนถูกบดขยี้กลืนกินปานพายุหอบม้วน

ภาพนั้นทำเอาพวกจี้ป๋อเหวินหนังหัวชาวาบ ลูกตาแทบหลุดออกมา

ด้านสี่กายมรรคของหลินสวินเคลื่อนไหวเต็มกำลัง กายมรรคไม้เขียวและเพลิงแดงจัดการจี้กุยหลิงด้วยกัน กายมรรคทองขาวและดินเหลืองจัดการจี้ไห่เหวินด้วยกัน

ส่วนร่างต้นของหลินสวินใช้พลังทั้งหมดตรึงการโจมตีของจี้เฉาอิน

ตูม โครม…

การต่อสู้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

เพียงพริบตาจี้กุยหลิงก็ถูกกายมรรคไม้เขียวและเพลิงแดงกดข่ม หนีจนไร้ทางหนีและถูกประตูเนรเทศกลืนกินโดยตรง

“ไม่…!!” จี้กุยหลิงตะโกนอย่างเดือดดาล ตาแทบถลนออกมา เขาดิ้นรนอย่างบ้าคลั่งแต่กลับไร้ประโยชน์ ไม่นานเงาร่างก็หายไปในส่วนลึกของประตูเนรเทศ

ขั้นสรรสร้างขั้นต้นคนหนึ่งถูกกลืนกินไปเช่นนี้!

“รนหาที่ตาย!”

จี้เฉาอินตะโกนอย่างกราดเกรี้ยว ใช้ไพ่ตายในมือ กลางฝ่ามือปรากฏแสงกระบี่พร่างพราวไร้ใดเปรียบ ฟันออกไปอย่างเดือดดาล

กลิ่นอายอันตรายกระตุ้นจนร่างต้นของหลินสวินหนาวเยือก แต่เขากลับไม่ถอย แต่กัดฟันเข้าต้านเต็มกำลัง

เคร้ง!!

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งไม่ยังไม่อาจขวางการโจมตีของกระบี่นี้ได้ ถูกซัดกระเด็นออกไปโดยตรง

จากนั้นปราณกระบี่นี้กดข่มลงมาติดๆ แม้หลินสวินต้านทานเต็มที่แล้วแต่ยังคงถูกโจมตีบาดเจ็บ เงาร่างโซเซถอยหลังไปหลายก้าวในห้วงอากาศ กระอักเลือดออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่อีกต่อไป

ปราณกระบี่นั่นน่ากลัวเกินไป กรีดอกเขาเป็นรอยกระบี่ที่เลือดไหลโชก แทบจะผ่าเปิดท้องเขา

นี่ก็คือความแข็งแกร่งของขั้นสรรสร้างขั้นปลาย แม้พลังที่ร่างต้นของหลินสวินครอบครองเรียกได้ว่าเย้ยฟ้าแล้ว ทว่าในการต่อสู้นี้กลับได้รับบาดเจ็บอย่างไม่อาจเลี่ยง

แต่ไม่ว่าอย่างไร กระบี่ที่ฟันออกมาด้วยความกราดเกรี้ยวของจี้เฉาอินนี้ก็ยังคงถูกร่างต้นของเขาขวางเอาไว้ได้!

และในเวลาเดียวกัน จี้ไห่เหวินซึ่งถูกสี่กายมรรคล้อมโจมตี ก็เผชิญกับการโจมตีหนักหน่วงที่ไม่อาจรับไหว

จากนั้นเงาร่างที่บาดเจ็บสาหัสของนางก็ถูกประตูเนรเทศกลืนกิน ตามรอยจี้กุยหลิงไป

ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วเกินไป ขั้นสรรสร้างขั้นกลางอย่างจี้ไห่เหวินยังยากจะต้านทานการล้อมโจมตีของสี่กายมรรค

แน่นอนว่าร่างต้นของหลินสวินก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนเช่นกัน ถูกแสงกระบี่นั่นโจมตีบาดเจ็บ โชคดีที่ไม่นับว่ารุนแรง

พวกจี้ป๋อเหวินเดือดดาลยิ่งยวดแล้ว ถูกภาพการตายที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องกระตุ้นจนใบหน้าแก่ชราคล้ำเขียว แต่ละคนมือเท้าเย็นเยียบ

ตระกูลจี้ของพวกเขาหล่อเลี้ยงและเพาะบ่มมาไม่รู้นานเท่าไรในกาลเวลาไร้สิ้นสุด กว่าจะให้กำเนิดขั้นสรรสร้างขึ้นมาได้สี่คน

ทว่าเริ่มจากจี้กุยเจินประสบเคราะห์ในโลกยอดนิรันดร์ จากนั้นจี้กุยหลิงกับจี้ไห่เหวินล้วนร่วงหล่นในคืนนี้ แรงโจมตีเช่นนี้แค่คิดก็รู้ว่าหนักหน่วงขนาดไหน!

ถึงขั้นสั่นคลอนรากฐานของพวกเขาแล้ว สามารถทำให้อานุภาพของตระกูลจี้ตกต่ำลงได้!

“เหตุใดจึง…”

“เหตุใจจึงเป็นเช่นนี้ เพราะหตุใด…”

ขั้นล่วงกฎอย่างพวกจี้ป๋อเหวินแทบคลั่งแล้ว

“เจ้า… สมควรตาย!”

ฟ้าดินพลันจมสู่สภาพทำลายล้างปานถล่มทลายอย่างหนึ่ง ราวกับแบกรับอานุภาพของกระบี่นี้ไม่ไหว

และพร้อมกับที่กระบี่นี้ของจี้เฉาอินฟันออกไป ไอสังหารที่ไม่สามารถอธิบายได้ก็สะท้อนภาพวันสิ้นโลกมาเยือน โลกหล้าล่มสลาย

นี่คือยอดกระบี่เฟิ่งฉี อภินิหารต้องห้ามที่แข็งแกร่งจนทำให้ขั้นสรรสร้างยังต้องสิ้นหวัง!

กลับเห็นบนเงาร่างแบบบางของซย่าจื้อปรากฏโซ่เทพปานโชคชะตาที่คลุมเครือแน่นขนัดเป็นสายๆ แฝงกลิ่นอายเร้นลับไร้เทียมทาน

ร่างของนางส่องแสง ราวกับกำลังเผาไหม้ชีวิตอย่างไรอย่างนั้น

ในมือซ้ายของนางปรากฏแสงแห่งกาลเวลาขาวโพลน ส่วนในมือขวากลับมีพลังแห่งกฎกรรมที่เร้นลับคลุมเครือพลุ่งพล่าน

ยามยอดกระบี่เฟิ่งฉีฟันมา สองมือของซย่าจื้อประสานเบื้องหน้าโดยพลัน ควบรวมเป็นประทับฝ่ามือลึกลับสายหนึ่ง

แสงแห่งกาลเวลาและพลังแห่งกฎกรรมก็ผสานรวมกันในประทับฝ่ามือนี้ ปลดปล่อยออกมาโดยพลัน

ชั่วขณะนี้ฟ้าดินพลันเงียบสงัด บังเกิดภาพน่าเหลือเชื่อ

กาลเวลาไหลเคลื่อน กฎกรรมราวกับสายธาร ยามตัดสลับกัน ฟ้าดาราแถบนี้ราวกับจมสู่วัฏจักรแปลกประหลาดอย่างหนึ่ง ทุกสิ่งปรากฏสภาพโรยรา จ่อมจม ดับสิ้น

ภายใต้การพุ่งโจมตีของพลังไร้เทียมทานนั้น ปรากฏการณ์ประหลาดกลางฟ้าดินล้วนสลายหายไปราวกับฟองอากาศ ประกายกระบี่เจ็ดชุ่นที่ฟันมานั่นจู่ๆ ก็ชะงักอยู่เบื้องหน้าซย่าจื้อ สั่นไหวครวญคร่ำรุนแรง

จากนั้นระเบิดแหลกโดยพลัน!

ยอดกระบี่เฟิ่งฉี อภินิหารต้องห้ามไร้เทียมทานเช่นนี้กลับถูกสลายไปแล้ว!

หลินสวินที่ไล่ตามมาถึงข้างกายซย่าจื้อ ยามนี้ยังอดอึ้งงันไม่ได้

ตูม!

เมื่อประทับฝ่ามือที่ผสานนัยเร้นลับกาลเวลาและกฎกรรมซัดออกมา ฟ้าดินล้วนพลิกคว่ำ หมื่นลักษณ์จ่อมจม ทุกสิ่งเหมือนจมสู่วัฏจักรความตายอย่างหนึ่ง

จี้เฉาอินรู้สึกเพียงว่าภาพเบื้องหน้าขาวโพลน ความหวาดกลัวที่บอกไม่ถูกพวยพุ่งขึ้นทั้งกายใจ

พลังของกาลเวลาและโชคชะตาก็เหมือนดั่งกระแสน้ำ หอบม้วนกายใจของเขา พุ่งไปยังหุบเหวกาลเวลาที่ไม่อาจล่วงรู้

จากนั้นภายใต้สายตาจับจ้องของทุกคน…

ขั้นสรรสร้างขั้นปลายอย่างจี้เฉาอินก็ราวกับไม้แห้งที่ถูกทำลายพลังชีวิตอย่างไรอย่างนั้น สารกาย พลังชีวิต จิตวิญญาณของเขา พลังมหามรรคที่เขาครอบครอง ล้วนหายไปในชั่วพริบตา ส่วนบนร่างกายเขากลับปรากฏรอยแตกนับไม่ถ้วน ราวกับใยแมงมุมแน่นขนัดก็ไม่ปาน

ปัง!

สุดท้ายร่างกายเขายืนหยัดไม่ไหวอย่างสิ้นเชิง พลันกลายเป็นเถ้าธุลีเทาหม่นปลิวกระจาย หายไปจนหมดสิ้น

ทั้งที่นั้นเงียบกริบไร้สรรพเสียง

หลินสวินเองยังตกใจกับภาพนี้ เผยสีหน้าตะลึง

ตอนนี้เองเสียงใสกระจ่างปานเสียงสวรรค์ของซย่าจื้อดังขึ้นข้างหูเขา “นี่ก็คือ ‘พิบัติโลกีย์’ พลังอภินิหารที่แข็งแกร่งที่สุดที่ข้าสามารถครอบครองได้ตอนนี้”

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์