Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3046

ตอนที่ 3046 ข้ามขั้นสู้ศึก

เสียงคำรามของจี้ป๋อเหวินยังก้องสะท้อน

ร่างต้นของหลินสวินพุ่งโจมตีเข้าไปนานแล้ว ในดวงตาแดงก่ำเต็มไปด้วยไอสังหารโหดเหี้ยมเย็นเยียบ

พริบตาจี้ป๋อเหวินที่บ้าคลั่งเดือดดาลราวกับตกสู่ถ้ำน้ำแข็ง สัมผัสถึงอันตรายแรงกล้า ความรุนแรงของไอสังหารบนร่างหลินสวินแทบจะกลบท่วมจิตใจของเขา…

ก็ตอนนี้เองกลิ่นอายน่าสะพรึงแผ่ลงจากเวิ้งฟ้า ท้องฟ้าสีรัตติกาลถูกแหวกออก

พริบตานั้นอานุภาพกดดันที่ไม่สามารถอธิบายได้ปกคลุมฟ้าดินแถบนี้ ทำเอาห้วงอากาศเงียบสงัด

และสิ่งที่เร็วกว่ากลิ่นอายน่ากลัวนี้ คือประทับฝ่ามือที่ควบรวมกลางอากาศ ราวกับทำจากกระจกแก้วโปร่งแสงใสสะอาด ขวางอยู่เบื้องหน้าจี้ป๋อเหวิน และตบเข้าใส่หลินสวินอย่างรุนแรง

ตูม!

พลังกฎระเบียบพลุ่งพล่านบนประทับฝ่ามือนี้ ราวกับมือแห่งสวรรค์ ความรุนแรงของกลิ่นอายที่ปลดปล่อยออกมาเหนือกว่าขั้นล่วงกฎ

เพียงแต่หลินสวินกลับไม่หนี เบื้องหน้าพลันปรากฏปราณกระบี่ไพศาลแปลงเป็นกระบวน เข้าปะทะกับประทับฝ่ามือที่ราวกับกระจกแก้วนั่น

ตูม โครม…

กระบี่และฝ่ามือตัดสลับ พื้นที่แถบนี้พังถล่มโดยพลัน จมสู่กลางกระแสพลังอันบ้าคลั่ง

ก็เห็นประทับฝ่ามือปานกระจกแก้วนั่นระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ส่วนกระบวนค่ายกลกระบี่ของหลินสวินก็สลายไปเช่นกัน

แม้ไม่ได้บาดเจ็บ แต่เงาร่างที่พุ่งไปข้างหน้าของเขาก็ถูกขวางไว้ชั่วขณะหนึ่ง ทำให้จี้ป๋อเหวินรอดชีวิตไปได้ หนีไปไกล

“หลินสวินเจ้าช่างเก่งนัก เพิ่งไม่กี่ปีกลับทะยานจากระดับอมตะขั้นอายุขัยเทียมฟ้ากลายเป็นระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์แล้ว!”

เสียงน่าเกรงขามที่แฝงความตกใจดังขึ้น

จากนั้นเงาร่างสูงใหญ่กำยำปรากฏตัวกลางอากาศ สวมชุดขนนก มีสง่าราศี รูปลักษณ์ปานเด็กหนุ่ม มีเพียงดวงตาทั้งคู่ที่เผยกลิ่นอายแห่งกาลเวลาเนิ่นนาน

จี้กุยหลิง!

ขั้นสรรสร้างขั้นต้นคนหนึ่งในตระกูลจี้

ทันทีที่เขาปรากฏตัว จี้ป๋อเหวินก็เหมือนได้ที่พึ่ง ตะโกนว่า “ผู้อาวุโส เจ้าเดรัจฉานนี่ฆ่าพวกฉางอวิ๋น ฉางซานไปแล้ว ขอท่านโปรดลงมือจับตัวมัน!”

“วางใจ เขาหนีไม่พ้นหรอก”

สีหน้าจี้กุยหลิงเองก็เผยไอสังหาร “สิ่งที่ข้าไม่เข้าใจตอนนี้คือ เหตุใดพี่กุยเจินจึงไม่ได้กลับมาจากโลกยอดนิรันดร์”

จี้กุยเจิน เป็นหนึ่งในขั้นสรรสร้างของตระกูลจี้ของพวกเขา เดิมไปจัดการหลินสวินที่โลกยอดนิรันดร์ก่อน แต่ตอนนี้จี้กุยเจินไม่ได้ย้อนกลับมา กลับเป็นหลินสวินที่บุกมา

ที่สำคัญที่สุดคือจี้กุยเจินคือพี่ชายของจี้กุยหลิง!

“เจ้าหมายถึงเขาหรือ”

หลินสวินยกมือขึ้นคว้าพลังจิตอ่อนบางของจี้กุยเจินที่ถูกผนึกออกมา แววเย็นเยียบวาบผ่านดวงตาที่เต็มไปด้วยเลือด

สีหน้าของจี้กุยหลิงและจี้ป๋อเหวินล้วนเปลี่ยนไป ไม่อาจเชื่อว่าจี้กุยเจินซึ่งมีพลังปราณขั้นสรรสร้างขั้นกลางจะถูกหลินสวินจับได้อย่างไร

“ปล่อยพี่ชายข้าซะ! ไม่เช่นนั้นวันนี้เจ้าต้องตายอย่างไม่มีต้องสงสัย!”

จี้กุยหลิงเดือดดาล สีหน้าอึมครึม ตวาดเสียงกร้าว

หลินสวินเก็บพลังจิตของจี้กุยเจินลงไปลวกๆ พูดเสียงเรียบ “พวกเจ้าคิดว่าข้าหลินสวินจะกลัวการข่มขู่เช่นนี้หรือ”

ไอสังหารรอบตัวเขาน่ากลัวกว่าเดิมแล้ว ราวกับมหาสมุทรซัดสาด “แต่พวกเจ้าวางใจ ข้าจะไม่ฆ่าจี้กุยเจินง่ายๆ เช่นนี้ ข้าจะให้พวกเจ้าลิ้มรสเช่นกันว่าอะไรที่เรียกว่ารสชาติของการถูกข่มขู่!”

ขณะพูดฝีเท้าของหลินสวินก้าวไปข้างหน้า

ตูม!

ฟ้าดินสั่นไหว ปราณกระบี่ที่ราวกับธารดาราเก้าสวรรค์พุ่งออกมา พลังกฎระเบียบที่คลุมเครือพันล้อม ทะยานผ่านห้วงอากาศฟันไปทางจี้กุยหลิง

ส่วนกายมรรคไม้เขียวของเขาควบคุมพลังของระเบียบปฐม เข้าโจมตีขนาบพร้อมกับร่างต้น

“นี่เป็นเจ้ารนหาที่ตายเอง!”

จี้กุยหลิงเดือดดาล ยื่นมือไปคว้ากลางอากาศ

ชิ้ง!

ดาบศึกทองอร่ามเล่มหนึ่งที่แปลงมาจากระเบียบระดับเทพพลันปรากฏในมือเขา ฟันออกไปโดยพลัน

ปราณดาบสีทองทั่วฟ้าอึงอล เจือกลิ่นอายเข่นฆ่าน่าตกตะลึง นั่นเป็นพลังของขั้นสรรสร้าง ควบคุมระเบียบระดับเทพเป็นอาวุธ อานุภาพที่ปลดปล่อยออกมาทะลวงเวิ้งฟ้า

ศึกใหญ่ปะทุ

จี้กุยหลิงเดือดดาลมาก ใช้พลังทั้งหมด

แต่หลินสวินเดือดดาลยิ่งกว่าเขา ยามลงมือยิ่งไม่เกรงใจสักนิด!

ตูม โครม!

ฟ้าพลิกดินคว่ำ สุริยันจันทราอับแสง

ยามเล่นงานขั้นสรรสร้างขั้นกลางอย่างจี้กุยเจินในโลกยอดนิรันดร์ หลินสวินใช้เพียงพลังของร่างต้นยังกำราบจนอีกฝ่ายเละไม่เป็นท่า

นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ใช้พลังของร่างต้นและกายมรรคไม้เขียว

ชั่วพริบตาเท่านั้นจี้กุยหลิงก็บาดเจ็บสาหัสจนกระอักเลือด ถูกอานุภาพดุดันไร้ใดเปรียบของหลินสวินกำราบ

จี้ป๋อเหวินเห็นแล้วตาแทบถลนออกมา เย็นวาบไปทั้งร่าง คิดจนหัวแตกก็ไม่สามารถจินตนาการได้ว่าผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์อย่างหลินสวินจะเย้ยฟ้าถึงขั้นนี้ได้อย่างไร

ข้ามขั้นใหญ่ กดข่มขั้นสรรสร้าง!

ใครจะกล้าเชื่อ

“เดรัจฉานนี่กำเริบเสิบสาน ลงมือพร้อมกันเถอะ”

“ได้”

กลางฟ้าดินเงาร่างสองร่างปรากฏกะทันหัน ร่างหนึ่งหนาแน่นราวกับเหล็ก อีกร่างพร่าเลือนเลื่อนลอย

เสียงยังคงสะท้อนก้อง เงาร่างที่ราวกับเทพสองร่างปรากฏตัวกลางอากาศแล้วโจมตีเข้ามา

คนหนึ่งเป็นเฒ่าชรารูปลักษณ์สง่างามสวมชุดม่วง คาดเข็มขัดหยก ศีรษะสวมเกี้ยวประดับ พลังกฎเกณฑ์ทั่วตัวแปลงเป็นเงามายาโลกสีเงินยวง อานุภาพน่ากลัวล้นฟ้า

จี้เฉาอิน!

ขั้นสรรสร้างขั้นปลาย

เป็นหนึ่งในสี่ผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างที่รากฐานพลังแน่นหนาที่สุด พลังต่อสู้น่ากลัวที่สุดของตระกูลจี้

อีกคนคือหญิงงามสวมเสื้อคลุมไหล่สีสันสดใส ใบหน้านิ่งสงบดุจน้ำแข็ง เบื้องหน้ามีปราณกระบี่สีเขียวพันหมื่นสายควบรวมออกมา เขียวมรกตบดบังฟ้าดิน

จี้ไห่เหวิน!

ขั้นสรรสร้างขั้นกลาง เป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาขั้นสรรสร้างสี่คนของตระกูลจี้

ทันทีที่ทั้งสองปรากฏตัวก็โจมตีเข้ามาทันที คนหนึ่งใช้อภินิหารชั้นเลิศ ควบคุมกฎระเบียบเพลิงปฐพีอสนีวาโย อานุภาพไร้จำกัด อีกคนเจตกระบี่ท่วมฟ้า ประกายเขียวราวกับน้ำตก บ้าคลั่งเสิบสาน ราวกับเทพกระบี่แห่งยุคบนมรรคานิรันดร์

การเข้าร่วมของทั้งสองทำให้สถานการณ์เปลี่ยนไปทันที การจู่โจมของหลินสวินและกายมรรคไม้เขียวถูกขัดขวาง ตกอยู่ในสภาพถูกปิดล้อม

และนอกจากนี้ยิ่งมีเงาร่างผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎแปดคนพุ่งออกมา เฝ้าระวังสี่ทิศแปดด้าน ปิดทางหนีในฟ้าดินผืนนี้

ทุกคนล้วนมีอานุภาพที่สามารถปั่นป่วนฟ้าดิน!

ผู้นำตระกูลจี้ป๋อเหวินเห็นเช่นนี้พลันมั่นใจขึ้นมาทันที

ตอนนี้เท่ากับระดับนิรันดร์ทุกคนของตระกูลจี้เคลื่อนไหวทั้งหมด ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น ห่วงไปไยว่าจะฆ่าหลินสวินไม่ได้

“ผู้อาวุโสทุกท่าน ขอเพียงแค่ฆ่าเดรัจฉานนี่ได้ โชคชะตาของตระกูลเราต้องเปลี่ยนไปนับตั้งแต่คืนนี้!” จี้ป๋อเหวินตะโกน เสียงสะเทือนฟ้า

ศึกใหญ่ปะทุขึ้นอย่างสิ้นเชิงแล้ว ประกายเทพและแสงมรรคปานกระแสน้ำแผ่ออกมาอย่างเหิมหาญ สะเทือนจนชั้นเมฆทรุดตัว เวิ้งฟ้าแตกสลาย ทั้งเขาเทพเฟิ่งฉีเต็มไปด้วยเสียงดังกึกก้อง ฟ้าดินสั่นไหว

หากไม่ใช่เพราะเผ่าเทพตระกูลจี้ปกคลุมด้วยระเบียบระดับเทพไม่ใช่แค่ชนิดเดียว เพียงแค่กระแสพลังนั่นก็สามารถชักนำการสะท้อนกลับของกฎระเบียบฟ้าดินของโลกทวยเทพได้แล้ว!

สรรพชีวิตมากมายบนโลกนี้ต้องประสบเคราะห์

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

ขั้นสรรสร้างสามคนอย่างจี้กุยหลิง จี้เฉาอิน จี้ไห่เหวิน แต่ละคนล้วนแข็งแกร่ง ไอสังหารทั่วร่างพุ่งทะลวง ต่างสำแดงอานุภาพที่แข็งแกร่งที่สุดของตนออกมา

หลินสวินเองก็ถูกโจมตีสาหัส รู้สึกถึงแรงกดดันที่ปะทะเข้ามา

แต่เขาไม่ได้ถอย

ความเดือดดาลและความเคียดแค้นเต็มทรวงอกทำให้จิตต่อสู้และไอสังหารของเขาราวกับเดือดพล่าน ทั่วร่างแสงมรรคแผ่พุ่ง บางคราวราวกับเหวกลืนกินสวรรค์ บางคราวราวกับเตาสยบหล้า

“ทะยาน!”

พร้อมกับความคิดที่ขยับไหวของหลินสวิน สามกายมรรคอย่างเพลิงแดง ทองขาว ดินเหลืองก็ทะยานออกมา ร่วมต่อสู้กับร่างต้นและกายมรรคไม้เขียวของหลินสวิน

เตากระบี่ไร้ก้นบึ้งถูกหลินสวินเรียกออกมาเช่นกัน และในมือของสี่กายมรรคต่างถือศาสตรามรรคพิทักษ์ตระกูลที่อานุภาพไม่อาจคาดเดาชิ้นหนึ่ง

อย่างเช่น ‘ทวนหมื่นเทพประสานแสง’ ยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลของตระกูลไท่เฮ่า ‘เตาหลอมกลียุค’ ของตระกูลเจวี๋ย ‘ประทับหมื่นลักษณ์แรกกำเนิด’ ของตระกูลเหวิน ‘กระบี่แปรนภามรกต’ ของตระกูลหยวนเป็นต้น

ยอดสมบัติพิทักษ์ตระกูลระดับนี้ อานุภาพย่อมเหนือกว่าศาสตรามรรคนิรันดร์ทั่วไป ทุกชิ้นล้วนมีประวัติรุ่งเรืองและผลการที่น่าชื่นชม

หากไม่ใช่เช่นนี้คงไม่ถูกหลินสวินเก็บไว้

และตอนนี้ศาสตรามรรคนิรันดร์เหล่านี้ล้วนถูกนำออกมาใช้!

เพียงแต่แม้จะเป็นเช่นนี้ก็ทำได้เพียงสู้กับขั้นสรรสร้างสามคนนั้นอย่างพอฟัดพอเหวี่ยง ปะทะอย่างดุเดือด

คิดจะจัดการพวกเขากลับไม่สามารถทำได้ในเวลาอันสั้น

เหตุผลก็อยู่ที่จี้เฉาอิน เขาคือขั้นสรรสร้างขั้นปลาย ความแข็งแกร่งของพลังที่ครอบครองเหนือกว่าจี้ไห่เหวินและจี้กุยหลิง

เพียงแค่รับมือการโจมตีของจี้เฉาอิน ก็ต้องใช้พลังของสองกายมรรคและร่างต้นของหลินสวินแล้ว แค่คิดก็รู้ว่าพลังต่อสู้ของขั้นสรรสร้างขั้นปลายวิปริตเพียงใด

แต่หลินสวินไม่สนใจเรื่องพวกนี้!

เพลิงโทสะและความชิงชังเต็มทรวงอกของเขาต้องการที่ระบาย!

ต่อให้เป็นยามกวาดล้างเผ่าเทพนิรันดร์สิบสองตระกูลในน่านฟ้าที่เก้า หลินสวินยังไม่เดือดดาลเช่นนี้ แค่คิดถึงแววตากังวลว้าวุ่นนั่นของจ้าวจิ่งเซวียน คิดถึงภาพที่หลินฝานและซูไป๋ถูกทรมานอย่างโหดร้าย หัวใจเขาก็สั่นไหวแล้ว

ฆ่า!

หลินสวินในชั่วขณะนี้ไม่ต่างอะไรกับคนบ้าคลั่งจริงๆ ปลดปล่อยถึงขีดสุด สังหารเต็มกำลัง สำแดงและปลดปล่อยพลังทั้งหมดออกมาอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

ตูม โครม…

ฟ้าดินผืนนี้เหมือนกลายสภาพไปเป็นรกร้างดั่งแดนแรกเริ่ม ถล่มทลายอย่างสิ้นเชิง กระแสมหามรรคของการทำลายล้างม้วนตลบรุนแรง เผยภาพปานวันสิ้นโลก ดูน่าสยดสยอง

“เจ้าหมอนี่แข็งแกร่งขนาดนี้ได้อย่างไร”

“ทอดสายตามองไปในแต่ละอารยธรรมแห่งยุคสมัยในแหล่งสถานศุภโชค มีระดับนิรันดร์เช่นนี้เสียที่ไหน”

“เป็นไปได้อย่างไร…”

สายตาของจี้ป๋อเหวินและขั้นล่วงกฎคนอื่นๆ แข็งทื่อ เดิมทีพวกเขาคิดว่ามีผู้อาวุโสขั้นสรรสร้างสามคนร่วมมือกัน การจับตัวหลินสวินย่อมเป็นเรื่องเหมือนพลิกฝ่ามือ

แต่ใครจะคิดว่าหลินสวินกลับสู้กับผู้อาวุโสขั้นสรรสร้างสามคนได้อย่างสูสี!

นี่ทำลายความเข้าใจของพวกเขาโดยสมบูรณ์ รู้สึกมึนงงไปหมด พวกเขามีชีวิตอยู่มาไม่รู้นานเท่าไหร่ เป็นครั้งแรกที่เห็นภาพเช่นนี้

ไม่เพียงแค่พวกเขา

พวกจี้เฉาอิน จี้ไห่เหวิน จี้กุยหลิงที่กำลังต่อสู้กับหลินสวิน แต่ละคนต่างเผยสีหน้าประหลาดใจ ในใจไม่สามารถสงบได้

ควรรู้ว่าด้วยอานุภาพของขั้นสรรสร้างอย่างพวกเขา สามารถกำราบสังหารระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎได้อย่างง่ายดาย แต่ตอนนี้พออยู่ต่อหน้าหลินสวินกลับไม่ได้ผล!

นี่เหลือเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัย

สิ่งที่ทำให้พวกเขายิ่งรับไม่ได้คือ ยิ่งการต่อสู้ดำเนินไป อานุภาพของหลินสวินก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ เริ่มทำให้พวกเขารู้สึกกดดันแล้ว!

ภาพนี้หากระดับนิรันดร์คนอื่นๆ ทั่วโลกเห็น ใครจะกล้าเชื่อ

“ชักช้าต่อไปไม่ได้แล้ว ใช้ไพ่ตาย เร็ว!”

สุดท้ายจี้เฉาอินทนไม่ไหว ส่งเสียงตะโกน ไอสังหารในดวงตาพลุ่งพล่านบ้าคลั่ง

พลังต่อสู้ปานเย้ยฟ้าที่ไม่สามารถวัดด้วยหลักการทั่วไปของหลินสวิน ทำให้เขาเองยังรู้สึกถึงการคุกคามอย่างรุนแรง!

………………..

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์