Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3055

ตอนที่ 3055 ราวเทพสวรรค์มาเยือนโลก

ท่านพ่อ!

หลินฝานเผยสีหน้าตื่นเต้น

ซูไป๋กับสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอู๋ยางที่อยู่ด้านข้างล้วนเผยสีหน้ายินดี

หลินสวินก้าวออกมาจากการปิดด่าน ทำให้พวกเขาเหมือนเจอแกนนำ จิตใจที่เดิมวิตกกังวลยากสงบเปลี่ยนเป็นมั่นคงไม่น้อย

เวลานี้อู๋ยางชี้ออกไปไกล กำลังจะอธิบายอะไรบางอย่างแก่หลินสวิน หลินสวินกลับยิ้มพลางกล่าว “ทำให้ผู้อาวุโสทุกท่านเป็นห่วงแล้ว แต่จากนี้ทุกท่านโปรดอยู่ในเมือง แค่จัดการคนพวกนี้ข้าคนเดียวก็พอ”

เขาพูดพลางทะยานสู่ฟากฟ้า เหยียบย่างไปในห้วงอากาศ

พวกอู๋ยางสบตากัน มีหรือจะปล่อยให้หลินสวินสู้คนเดียว ล้วนตามไปพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย แต่เมื่อเงาร่างเพิ่งพุ่งขึ้นไปก็ถูกพลังกฎระเบียบในเมืองกำราบไว้ ไม่อาจก้าวไปเบื้องหน้า

เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง เงาร่างเขาพุ่งออกไปนอกเมืองเทพศุภโชคนานแล้ว

“ผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าเชื่อว่าท่านพ่อต้องกอบกู้สถานการณ์อันตรายได้แน่”

แววตาหลินฝานเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นขึ้นมาใหม่อีกครั้ง “พวกเราแค่รอดูเรื่องสนุกก็พอ”

ต่อให้พวกเขาไม่สมัครใจแค่ไหน แต่เวลานี้ก็ได้แต่มองจากไกลๆ ช่วยไม่ได้ มีแรงกดดันจากกฎระเบียบศุภโชค พวกเขาไม่อาจก้าวออกไปจากเมืองได้โดยสิ้นเชิง

“ออกมาแล้ว!”

ขณะเดียวกันกลางฟ้าดารากว้างใหญ่ เกาหยางไหวกับเจียงเถาและระดับนิรันดร์เหล่านั้นล้วนมองเห็นหลินสวินแล้ว ทั้งหมดเผยไอสังหารโดยไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

“กล้าออกมาเวลานี้ถือว่าใจกล้าไม่ธรรมดา อีกเดี๋ยวตอนฆ่าเขาค่อยให้เขาตายโดยไม่ต้องทรมาน”

มีคนกล่าวอย่างผ่อนคลาย

“หึๆ เช่นนั้นก็ต้องดูว่าเขายอมตายเร็วหรือไม่”

มีคนหัวเราะเบาๆ

“ทุกท่านอย่าประมาท เจ้าหมอนี่เคยทำลายเผ่าเทพตระกูลจี้มาก่อน แม้มีมรรควิถีแค่ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ แต่ครองรากฐานพลังกำราบขั้นสรรสร้างแล้ว ไม่อาจดูถูกได้ง่ายๆ”

มีคนกล่าวเตือนอย่างเคร่งครัด

“กลัวอะไร ในบรรดาพวกเรามีขั้นสรรสร้างสิบเก้าคน แต่ละคนล้วนเป็นผู้เด่นผงาดจากการสังหารนองเลือดในกาลเวลาไร้สิ้นสุด นอกจากนี้ยังมีระเบียบระดับเทพเก้าสายรวมถึงขั้นล่วงกฎมากนับร้อย กำลังพลเช่นนี้สามารถเคลื่อนกวาดทั่วหล้า ยังจะเอาชนะเขาหลินสวินไม่ได้อีกหรือ”

มีคนยิ้มอย่างไม่ใส่ใจ

ก่อให้เกิดเสียงคล้อยตามและเสียงหัวเราะไม่น้อย

สรุปคือพวกเขารู้ดีว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินเย้ยฟ้ามาก แต่ก็มั่นใจต่อกำลังพลที่พวกเขาครอบครองอย่างถึงที่สุด

เงาร่างหลินสวินยืนอยู่หน้าเมืองเทพศุภโชค ที่นี่ยังเป็นเขตซึ่งกฎระเบียบเมืองเทพศุภโชคปกคลุม

เมื่อเห็นภาพนี้เสียงเยาะหยันพลันดังขึ้นอีกครั้ง คล้ายคิดว่าการกระทำนี้ของหลินสวินคือขี้ขลาด มีโอกาสสูงว่าเป็นการเตรียมพร้อมเผื่อเห็นท่าไม่ดีก็จะหนีเข้าไปในเมืองเทพศุภโชค

หลินสวินกลับสีหน้าราบเรียบไร้คลื่นลม มีเพียงนัยน์ตาล้ำลึกและเยียบเย็น

สายตาเขากวาดมองทั่วลานแล้วส่ายหัวทันที

“แม้จำนวนคนมาหาที่ตายเพิ่มมาหน่อย แต่ส่วนใหญ่ล้วนเป็นพวกกเฬวรากสะกิดนิดเดียวก็ล้ม เสียแรงที่ข้าเตรียมตัวมานาน เสียแรงเปล่าจริงๆ”

เสียงหลินสวินแผ่วเบานัก

แต่กลับดังก้องหูทุกคนชั่วพริบตาเหมือนฟ้าผ่า ทุกคนต่างอึ้งงัน ไม่อยากเชื่อว่าหลินสวินเผชิญหน้ากับกระบวนรบน่ากลัวเช่นนี้แล้วยังกล้าเยาะหยันอีก

‘เจ้าหมอนี่คงไม่ใช่บ้าไปแล้วกระมัง’

ในเมืองเทพศุภโชคเหล่าผู้ฝึกปราณล้วนมีความคิดเช่นนี้ ทุกคนต่างอึ้งงัน

หลินฝานกับซูไป๋เพียงรู้สึกว่าโลหิตเดือดพล่านทั้งตัว ในใจโหมกระหน่ำ ท่าทางผงาดง้ำที่หลินสวินเผยออกมายามนี้ ทำให้พวกเขานับถือจนแทบหมอบกราบลงกับพื้น

เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอู๋ยาง สีหน้าต่างเปลี่ยนเป็นแปลกประหลาด ในใจว้าวุ่นไม่หยุด

ใต้หล้านี้กว้างใหญ่เพียงใด แต่ใครจะกล้าดูถูกเหล่าผู้เก่งกาจที่ยืนอยู่บนมหามรรคนิรันดร์มานานแล้วเหมือนหลินสวิน

“รนหาที่ตาย”

“อวดดี”

“ฮ่าๆๆ คนใกล้ตายอย่างเขาถึงกับมองพวกเราเป็นพวกกเฬวราก? ข้าแจ้งมรรคนิรันดร์มาถึงวันนี้ ไม่เคยได้ยินเรื่องน่าขันเช่นนี้มานานมากแล้ว”

พวกเกาหยางไหว เจียงเถาต่างเผยรอยยิ้มหยัน คนไม่น้อยเอ่ยปากด่า คนส่วนใหญ่ยิ่งมองหลินสวินอย่างเย็นชา ราวกับมองมดที่ใกล้ถูกเหยียบตายตัวหนึ่ง

“ถึงอย่างไรเขาก็ใกล้ตายแล้ว ก่อนตายให้เขาพูดมากอีกสักสองประโยคก็ไม่เห็นจะมีอะไร” หญิงสาวคนหนึ่งปิดปากหัวเราะเบาๆ

“หลินสวิน ที่นี่คือแหล่งสถานศุภโชค ไม่ได้มีแค่พวกเราอยู่ที่นี่ ในที่ลับยังมีราชันไร้เทียมทานผู้อยู่เบื้องหลังเคราะห์แห่งยุคสมัยนั่นจับจ้องด้วย เจ้ายังคิดว่าอาศัยเมืองเทพศุภโชคนี้แล้วจะปกป้องเจ้าได้หรือ”

แววตาเจียงเถาน่าเกรงขาม จากมุมมองของเขาหลินสวินกล้าป่าวประกาศเช่นนี้ สิ่งที่พึ่งพาก็คือฐานะเจ้าเมืองเทพศุภโชคของเขา

แต่เรื่องนี้พวกเขาเตรียมการมาก่อนแล้ว

ระเบียบระดับเทพเก้าชนิดที่นำมาครั้งนี้ รวมถึงพลังที่ระดับนิรันดร์อย่างพวกเขาครอบครอง ล้วนสามารถรับมือกับทุกอย่างนี้ได้!

“ข้ารู้แค่ว่าพวกสุนัขของผู้บงการหลังม่านนั่นถูกลิขิตให้จบไม่สวยสักราย เผ่าเทพตระกูลจี้ก็คือตัวพิสูจน์ที่ดีที่สุด”

หลินสวินกล่าวราบเรียบ

“ฆ่าเขาซะ!”

เกาหยางไหวเก็บกลั้นไอสังหารในใจไม่อยู่แล้ว ออกคำสั่งด้วยเสียงเยียบเย็น

ตูม!

พลังระเบียบระดับเทพเก้าชั้นที่ปกคลุมรอบฟ้าดาราแถบนี้กู่ก้องทันที พลังระเบียบเจิดจรัสน่ากลัวนานัปการทิ้งตัวลงมาทางหลินสวิน

นี่ไม่ใช่การกำจัดหลินสวิน แต่จะปิดทางหนีของเขา!

ขณะเดียวกันระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎนับร้อยคนตั้งกระบวน บุกโจมตีเต็มกำลัง

พวกเขาล้วนเป็นยอดผู้แข็งแกร่งที่ผ่านศึกมาโชกโชน ทั้งกรำศึกมานับไม่ถ้วน ต่อให้ดูถูกหลินสวินแค่ไหนก็ไม่ออมแรงสักนิด มีแต่ใช้พลังที่แข็งแกร่งที่สุดบดขยี้หลินสวินให้เป็นจุณโดยตรง

ตูม!

พลังของระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎนับร้อยคนน่ากลัวเพียงใด

กอปรกับลงมือเต็มกำลัง ความแข็งแกร่งของอานุภาพจึงทำให้ฟ้าดาราแถบนี้ป่วนคลั่งในพริบตา หากไม่ใช่ว่ามีระเบียบระดับเทพเก้าชั้นปกคลุม แค่การโจมตีนี้ก็ทำลายฟ้าดาราแถบหนึ่งได้โดยสิ้นเชิง!

ก็เห็นพลังนิรันดร์ชวนประหวั่นนั้นรวมตัวเป็นกระแสน้ำหลาก ราวกับธารสวรรค์กว้างใหญ่สายหนึ่งเทลงมาจากเก้าฟ้าดังสนั่น ยอดอภินิหารนานัปการและศาสตรามรรคนิรันดร์เบียดเสียดแน่นขนัดอยู่ในนั้น ประกายแสงงดงามตระการตา เจือพลังทำลายล้างชวนประหวั่นไร้สิ้นสุด พุ่งไปทางหลินสวินคนเดียว

ไม่มีโอกาสหลบหนีโดยสิ้นเชิง!

เผชิญหน้ากับการโจมตีทลายฟ้ามลายดินนี้

ทั้งเมืองเทพศุภโชคต่างร้องเสียงหลง

ทุกคนจ้องมองภาพนี้อย่างบีบหัวใจ หลายคนถึงขั้นไม่กล้ามอง กลัวเห็นภาพที่หลินสวินถูกกระหน่ำซัดอย่างไร้ปรานี

‘ท่านพ่อ…’ หลินฝานอยากร้องแต่กลับร้องไม่ออก หัวใจเหมือนถูกบีบเข้าเต็มแรง

แต่ครู่ต่อมากลับเห็นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อคราหนึ่งเหมือนปัดฝุ่น กระแสพลังยิ่งใหญ่อลังการนั้น การโจมตีชวนประหวั่นที่สามารถบดขยี้ฟ้าดาราแถบนี้เป็นเถ้าถ่านถึงกับสลายหายไปกลางอากาศ

ศาสตรามรรคนิรันดร์พวกนั้นยิ่งถูกซัดจนส่งเสียงครวญสะเทือน กระเด็นลอยออกไป

“เป็นไปได้อย่างไร?!!”

ขั้นล่วงกฎนับร้อยเบิกตากว้าง ไม่กล้าเชื่อภาพตรงหน้านี้ แม้แต่ขั้นสรรสร้างอย่างเกาหยางไหว เจียงเถาที่เตรียมพร้อมโจมตีทุกเมื่อ คิดฉวยโอกาสลงมือก็หน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย หัวคิ้วขมวดมุ่น นัยน์ตาเผยแววตกตะลึง

“ลุยเข้าไปอีก!”

เจียงเถาตวาดลั่น เสียงราวอสนีบาต

ระดับนิรันดร์ขั้นล่วงกฎนับร้อยคนร่วมมือกันอีกครั้ง ระเบิดพลังไร้ขอบเขต แต่เมื่อไปถึงหน้าหลินสวินแล้วยังหายไปอย่างราบเรียบราวกับสายลมเย็นพัดผ่านหน้า แม้แต่เส้นผมของหลินสวินยังไม่ขยับ

ครั้งนี้ไม่ใช่แค่พวกเกาหยางไหว เจียงเถา แม้แต่เหล่าผู้ฝึกปราณในเมืองเทพศุภโชค รวมถึงหลินฝาน ซูไป๋ พวกอู๋ยางยังร้องเสียงหลง ตกตะลึงตาค้าง

“อ่อนแอเกินไปแล้ว”

ในที่สุดหลินสวินก็เอ่ยปาก เพียงไม่กี่คำเบาๆ ก็เหมือนการหยามเหยียดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดบนโลก ทำให้สีหน้าของพวกเกาหยางไหวเปลี่ยนเป็นไม่น่าดูขึ้นมา

“ต้องเป็นเพราะพลังกฎระเบียบของเมืองเทพศุภโชคปกป้องเขาแน่”

ชายชราชุดเทาคนหนึ่งคาดเดาเช่นนี้

“โง่เขลา”

หลินสวินยิ้มพลางก้าวไปข้างหน้า ออกจากอาณาเขตที่กฎระเบียบของเมืองเทพศุภโชคปกคลุม

ฟุ่บ!

จากนั้นภายใต้การจับจ้องด้วยสายตาตื่นตระหนกมากมาย หลินสวินชี้นิ้วออกไปอย่างสบายๆ

ชายชราชุดเทาที่ร้องตะโกนเมื่อครู่ ระดับนิรันดร์ที่มีมรรควิถีขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์คนหนึ่งถูกพลังดรรชนีจนร่างระเบิด เลือดสดแดงก่ำนับไม่ถ้วนสาดพรมทั่วฟ้า ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ทันหลบหลีกและต้านทาน

“สารเลว! เร็วเข้า ลงมือพร้อมกัน ปิดทางหนีของเขา อย่าให้เขาหนีกลับเข้าเมืองเทพศุภโชคอีก!”

เกาหยางไหวตวาดลั่น

“ฆ่า!”

กลางฟ้าดาราระเบียบระดับเทพเก้าชั้นพลุ่งพล่านพลิกตลบ รัศมีแสงมรรคชวนประหวั่นทิ้งตัวลงมา กลายเป็นพลังมากมายปิดทางหนีทั้งหมดของหลินสวิน

ขณะเดียวกันขั้นล่วงกฎมากนับร้อยตั้งกระบวนรบ บุกโจมตีเต็มกำลัง

ส่วนขั้นสรรสร้างอย่างเกาหยางไหว เจียงเถาก็เป็นกองหนุนโดยรอบ กลิ่นอายทั่วร่างส่งเสียงกึกก้อง กระหน่ำโจมตีหลินสวินกลางอากาศ

เพียงพริบตาฟ้าดาราแถบนี้ราวกับพังทลายอย่างสมบูรณ์ ตกสู่สภาพยุ่งเหยิง เผยภาพความพินาศและปั่นป่วนเหมือนวันสิ้นโลก

ภาพเช่นนั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว!

เผชิญหน้ากับการโจมตีเช่นนี้ หลินสวินเอ่ยราบเรียบ “ตอนนี้ข้าคนแซ่หลินจะส่งทุกท่านไปลงนรก”

เสียงยังสะท้อนก้อง กลิ่นอายบนตัวเขาพลันปลดปล่อยออกมา ยกระดับและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เงาร่างตระหง่านนั้นเหมือนเปลี่ยนเป็นสูงใหญ่ไร้สิ้นสุด

ฟุ่บ!

เขาทะยานตัวเป็นสายรุ้งทะลวงผ่านกระบวนรบที่รวมตัวจากขั้นล่วงกฎนับร้อยนั่น ไม่ได้พึ่งพาพลังใด ทั้งไม่สำแดงอภินิหารวิชามรรค อาศัยแค่กายเนื้อพุ่งตัวไป เคลื่อนขวางฟ้ากว้างประหนึ่งรุ้งขาวพาดตะวัน!

มองจากไกลๆ เงาร่างหลินสวินเหมือนกระบี่เทพคมกริบถึงขีดสุดเล่มหนึ่ง แทงเข้าไปกลางทัพใหญ่ของศัตรูอย่างแข็งกร้าว

ปังๆๆ!

ตรงนั้นมีขั้นล่วงกฎสิบกว่าคนถูกเงาร่างหลินสวินกระแทก กายมรรคนิรันดร์ที่ทนทานของพวกเขาต้านแรงปะทะไม่ได้โดยสิ้นเชิง แม้แต่จิตวิญญาณยังระเบิดกระจุยดังสนั่นไปพร้อมกัน หมอกโลหิตสาดกระเซ็นทั่วฟ้า

เมื่อเงาร่างหลินสวินพุ่งไปข้างหน้า ยอดอภินิหารหรือศาสตรามรรคนิรันดร์อะไรล้วนไม่อาจทำลายพลังป้องกันรอบตัวเขาได้ ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ อานุภาพที่แผ่ออกมาจากตัวหลินสวินก็ก่อให้เกิดการนองเลือดไร้สิ้นสุดตลอดทาง

ขั้นล่วงกฎมากมายหลบไม่ทันจนถูกบดขยี้โดยตรง ราวกับฟองสบู่นองเลือดมากมายระเบิดออกกลางอากาศ

เปราะบางและอ่อนแอถึงเพียงนั้น!

เมื่อเงาร่างหลินสวินย้อนกลับมา

ขั้นล่วงกฎนับร้อยล้วนถูกโจมตีล้มกองระเนระนาดแล้ว เหลือเพียงสามสิบกว่าคน คนอื่นล้วนถูกบดขยี้เป็นหยาดโลหิต จิตสิ้นวิญญาณสลาย ตายอย่างกะทันหัน

ขั้นสรรสร้างอย่างพวกเกาหยางไหว เจียงเถาล้วนตกใจจนเผยสีหน้าตกตะลึง

พวกอู๋ยาง หลินฝาน ซูไป๋ก็เบิกตากว้าง สีหน้าเต็มไปด้วยความตกตะลึงและสั่นสะท้าน

ส่วนเหล่าผู้ฝึกปราณในเมืองเทพศุภโชคก็อึ้งงันอยู่ตรงนั้น ตกตะลึงอย่างสิ้นเชิงแล้ว

พริบตานั้นฟ้าดินสั่นสะเทือน สรรพสิ่งไร้เสียง

เหลือเพียงเงาร่างหลินสวินยืนผยองกลางอากาศ ไม่แปดเปื้อนโลกีย์ ราวเทพสวรรค์มาเยือนโลก!

…………………….

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์