Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3054

ตอนที่ 3054 เคราะห์สังหารทั่วฟ้าดารา

เมฆาเคราะห์บนเวิ้งฟ้าโหมกระหน่ำ อสนีบาตเจิดจ้าหลากสายทิ้งตัว กลายเป็นอักษรมหามรรคส่องประกายนับไม่ถ้วนโปรยปรายลงมา

อักษรเหล่านี้มีรูปลักษณ์ต่างกันไป ประทับกลิ่นอายต่างๆ ประกอบกันตามลำดับกลางอากาศ กลายเป็นรูปประโยคราวดาบดุจกระบี่และบทความงดงามมากมาย มหัศจรรย์เกินคาดเดา

อานุภาพเรียกได้ว่าน่าหวาดกลัวไร้ขอบเขต!

อักษรคือสื่อกลางแห่งอารยธรรม ประพันธ์เป็นรูปเล่มหรือก็คือคัมภีร์ อธิบายถึงนัยเร้นลับแห่งมหามรรคฟ้าดิน อักษรแต่ละตัวในเคราะห์ปราชญ์ไพศาลนี้ราวกับภัยพิบัติผลาญโลก ความแข็งแกร่งของพลังสังหารเกินจินตนาการ

เงาร่างของหลินสวินกรำศึกอยู่ในนั้น ถูกผ่าจนบาดเจ็บบ่อยครั้ง วิชามรรคทั้งตัวถูกคุกคามสาหัส สถานการณ์อันตราย

สุดท้ายเมื่อข้ามด่านเคราะห์นี้แล้ว ร่างกายหลินสวินยับเยิน พลังจิตพังทลาย น่าอนาถเป็นอย่างยิ่ง

แต่ดวงตาเขากลับส่องประกายหาใดเปรียบ

เคราะห์นี้ทำให้มรรควิถีทั้งตัวเขาเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง!

‘ด่านเคราะห์ที่แปดชื่อว่าเคราะห์ธรรมสงัด มาจากยุคธรรม…’

‘ด่านเคราะห์ที่เก้าชื่อว่าเคราะห์มรรคสามกระจ่าง มาจากยุคมรรค… ขอเพียงข้ามผ่านไปได้ก็จะแจ้งมรรคสำเร็จ ทั้งมีรากฐานหลุดพ้นจากการสับเปลี่ยนยุคสมัย…’

หลินสวินสัมผัสถึงการเปลี่ยนแปลงพลิกฟ้าพลิกดินทั่วร่าง เขาสูดหายใจลึกคราหนึ่ง เปี่ยมความคาดหวัง

ยามหลินสวินข้ามด่านเคราะห์ โลกภายนอกผ่านไปวันแล้ววันเล่า

ความอดทนของเหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าอย่างพวกอู๋ยาง ซิงเจียที่รอบนยอดเขาราตรีสงัดมาตลอดหายไปทีละน้อย ทนไม่ไหวอยู่บ้างแล้ว

“เหลือเวลาแค่หนึ่งวันเผ่าเทพทั่วหล้าจะบุกโจมตี ไม่แน่ว่าทัพใหญ่ศัตรูอาจเร่งเดินทางมาแล้ว”

หว่างคิ้วซิงเจียฉายแววกังวล

นับตั้งแต่เผ่าเทพหลายตระกูลทั่วหล้าประกาศศึก ถึงตอนนี้เวลาผ่านมาเก้าวันแล้ว ปัจจุบันเมืองเทพศุภโชคซบเซาอ้างว้าง ในอากาศอบอวลกลิ่นอายกดดันเหมือนพายุฝนกำลังมา

“เจ้าหนุ่ม เจ้าลองไปพบบิดาเจ้าหน่อยไหม”

มีคนเหลือบมองหลินฝานพลางเสนอ

“ไม่ได้”

ไม่รอให้หลินฝานเอ่ยปากอู๋ยางก็กล่าวห้ามปราม “ถ้ารบกวนการฝึกปราณหลินสวินจะทำอย่างไร อีกอย่างที่นี่คือเมืองเทพศุภโชค อย่าลืมสิ ต่อให้ระดับนิรันดร์บุกมาก็จะถูกพลังกฎระเบียบของเมืองนี้สกัดกั้นและกระหน่ำโจมตี”

“เช่นนั้นพวกเราจะรอต่อไปเช่นนี้หรือ” มีคนมุ่นคิ้ว

“หรือยังมีวิธีอื่นอีก”

อู๋ยางจนปัญญาอยู่บ้างเช่นกัน

นางคิดไม่ถึงว่าหลินสวินจะใจกล้าเช่นนี้ ก่อนมาเมืองเทพศุภโชคยังประกาศศึกกับตระกูลเกาหยางและตระกูลเจียง แต่ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้เขายังมุ่งมั่นปิดด่านฝึกปราณ ความสงบใจเช่นนี้ไม่ให้คนนับถือคงไม่ได้

“ผู้อาวุโสทุกท่าน บิดาข้าต้องรับศึกแน่”

หลินฝานอดกล่าวไม่ได้ บนหน้าหล่อเหลาเปี่ยมความหนักแน่น

ทุกคนต่างยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ พวกเขาย่อมรู้ว่าหลินสวินไม่กลัวศึกนี้เป็นธรรมดา

สิ่งที่พวกเขาห่วงคือหลินสวินไม่รู้เลยว่าศัตรูที่มาครั้งนี้นอกจากตระกูลเกาหยางกับตระกูลเจียงแล้ว ยังมีระดับนิรันดร์ของเผ่าเทพตระกูลอื่นในใต้หล้าด้วย!

ก่อนหน้านี้เฒ่าชราอย่างพวกเขาเคยวิเคราะห์มาแล้ว ในบรรดาอารยธรรมแห่งยุคสมัยนับร้อยของแหล่งสถานศุภโชค อารยธรรมที่มีระดับนิรันดร์มีสามสิบเก้าแห่ง

อารยธรรมที่มีขั้นสรรสร้างมีสิบเอ็ดแห่ง

หากคำนวณโดยละเอียด ในทัพใหญ่ของศัตรูที่มาครานี้อย่างน้อยก็มีขั้นล่วงกฎนับร้อย ขั้นสรรสร้างเกือบยี่สิบคน!

ภายในนั้นเพียงขุมอำนาจยักษ์ใหญ่อันดับหนึ่งอันดับสองอย่างตระกูลเกาหยางกับตระกูลเจียง ต่างก็มีผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎมากกว่าสิบคนและขั้นสรรสร้างราวสี่คน!

ทัพใหญ่ระดับนิรันดร์รวมตัวกันเช่นนี้ สามารถกวาดล้างอารยธรรมแห่งยุคสมัยใดก็ตามในแหล่งสถานศุภโชคได้โดยง่าย

กระบวนรบเช่นนี้สามารถทำให้ระดับนิรันดร์คนใดก็ตามนั่งนอนไม่เป็นสุข

หากไม่รู้ว่าหลินสวินเคยคว่ำเผ่าเทพตระกูลจี้ด้วยตัวคนเดียวมาก่อน เกรงว่าพวกอู๋ยางคงไม่อาจอยู่เฉยเหมือนตอนนี้

“หืม?”

ทันใดนั้นจักรพรรดินรกเลือดทมิฬราวกับสัมผัสถึงอะไรบางอย่าง นัยน์ตาทอดมองเวิ้งฟ้าห่างไกล ไม่นานก็หน้าเปลี่ยนสี “ศัตรูมาแล้ว!”

เหล่าสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นั้นต่างตกใจ

“ไม่ได้บอกว่าอีกสิบวันจะมาถึงหรอกรึ” มีคนเอ่ยถามโดยไม่รู้ตัว

“นี่ได้แต่พิสูจน์ว่าพวกเขาอยากเปิดศึกจนทนไม่ไหวแล้ว”

ยามนี้อู๋ยางกลับสงบลง

เมื่อมองจากในเมืองไป ส่วนลึกในฟ้าดาราห่างไกลมีเงาร่างมากมายปรากฏ กำลังเข้ามาใกล้ทางนี้

มีกันร้อยกว่าคน

แต่ละคนล้วนกดกลิ่นอายถึงขีดสุด ดังนั้นจึงไม่ดึงดูดพลังสะท้อนกลับของกฎระเบียบฟ้าดิน

พวกเขาพุ่งมาจากส่วนลึกของเวิ้งฟ้าโดยไร้สุ้มเสียงเหมือนเมฆดำแถบหนึ่ง

ผู้นำคือเกาหยางไหว ขั้นสรรสร้างของตระกูลเกาหยาง กับเจียงเถาขั้นสรรสร้างของตระกูลเจียง

ที่ตามหลังพวกเขามาคือเหล่าผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้าง มีกันราวสิบหกสิบเจ็ดคน ไกลออกไปคือผู้แข็งแกร่งขั้นล่วงกฎ มีมากมายแน่นขนัด

ยามอยู่ห่างจากเมืองเทพศุภโชคหมื่นจั้ง พวกเขาพากันยืนนิ่งกลางอากาศ ทอดสายตามองเมืองเทพศุภโชคราวกับเทพจากสวรรค์

ระยะห่างนี้ปลอดภัยที่สุด ถ้าเข้าใกล้อีกหน่อยก็จะถูกพลังกฎระเบียบของเมืองเทพศุภโชคขับไล่และกระหน่ำโจมตี

ก่อนจะเปิดศึกพวกเกาหยางไหวกับเจียงเถาย่อมไม่ดึงดันก้าวเข้าไปแน่

ฟ้าดาราเงียบสงัด บรรยากาศกดดันเยียบเย็นกลับแผ่กระจายในทุกอาณาเขตของฟ้าดารายิ่งใหญ่แถบนี้ดุจเขาถล่มสมุทรคำราม

ไม่ว่าสำหรับหลินฝานกับซูไป๋หรือเหล่าสัตว์ประหลาดอย่างพวกอู๋ยาง นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเจอกระบวนรบแข็งแกร่งเช่นนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์