Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3057

สรุปบท ตอนที่ 3057 เคราะห์ซึ่งมากะทันหัน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3057 เคราะห์ซึ่งมากะทันหัน – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บท ตอนที่ 3057 เคราะห์ซึ่งมากะทันหัน ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตอนที่ 3057 เคราะห์ซึ่งมากะทันหัน

ขั้นสรรสร้างหลอมกฎระเบียบฟ้าดินมาใช้ประโยชน์ มีพลังอัศจรรย์ราวเปลี่ยนหินเป็นทองคำ เหมือนเทพผู้สรรสร้างในตำนาน

ในสายธารยุคสมัยที่อยู่ในพลังต้นกำเนิดของแหล่งสถานศุภโชคนั้น หลินสวินข้ามผ่านเก้ายอดเคราะห์มรรค ไม่เพียงแจ้งมรรคขั้นสรรสร้างอย่างราบรื่น ยังครองศักยภาพแฝงที่หลุดพ้นจากการสับเปลี่ยนยุคสมัยด้วย

พลังที่เขามีต่างจากระดับเดียวกันโดยสิ้นเชิง ไม่ใช่สิ่งที่คนระดับขั้นเดียวกันเทียบได้นานแล้ว

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ การกำจัดเหล่าขั้นล่วงกฎเช่นก่อนหน้านี้เรียกว่าไม่เปลืองแรงสักนิด ทั้งไม่มีทางพบอุปสรรคใดๆ

ส่วนตอนนี้ เผชิญหน้ากับการร่วมมือของขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนนั้นก็เช่นเดียวกัน

ถึงอย่างไรนี่ก็ถือว่าเป็นการต่อสู้ระดับขั้นเดียวกันแล้ว

ด้วยมรรควิถีและรากฐานของหลินสวิน ตอนอยู่ขั้นล่วงกฎก็ฆ่าขั้นสรรสร้างขั้นกลางได้ นับประสาอะไรกับเขาในตอนนี้ที่มีมรรควิถีขั้นสรรสร้าง

ดังนั้นเมื่อการต่อสู้เริ่มต้นหลินสวินก็อยู่ในสภาพกร้าวแกร่งแล้ว อานุภาพเกรียงไกร กดข่มคนระดับเดียวกัน เผยพลังต่อสู้พลิกฟ้าไร้ใดเปรียบ

ตูม!

เจดีย์สมบัติหลังหนึ่งซึ่งหล่อจากกระดูกขาวเคลื่อนขวางกำราบเข้ามา พลังกฎระเบียบที่แผ่คลุมรอบเจดีย์สมบัติกลายเป็นภูเขาศพทะเลเลือดกับนรกขุมมาร บีบกดจนห้วงอากาศปั่นป่วน

หลินสวินแค่ซัดฝ่ามือออกไปเจดีย์สมบัติกระดูกขาวก็กระเด็นลอยออกไปดังปึง พื้นผิวเผยรอยแตกร้าวมากมาย

ขณะเดียวกันบนตัวหลินสวินปรากฏปราณกระบี่สายหนึ่งพุ่งวาบไปในห้วงอากาศ

ฉัวะ!

ศีรษะของขั้นสรรสร้างที่ควบคุมเจดีย์สมบัติกระดูกขาวถูกฟันร่วง น้ำเลือดพุ่งสาด เคราะห์ดีที่พลังจิตของเขาหลีกหลบทันที ไม่ได้ถูกกำจัด

ตูม!

เมื่ออานุภาพบนตัวหลินสวินปลดปล่อยออกมาก็ซัดการโจมตีที่มาจากทั่วทิศจนพินาศ ทำร้ายเขาไม่ได้แม้แต่น้อย

“ฆ่า!”

ชายชุดดำคนหนึ่งแผดเสียงแข็ง ราวหลอมมรรควิถีของตน กลายเป็นรุ้งสายยาวสีเลือดพลีชีพโจมตี

แต่การโจมตีชวนประหวั่นเหมือนสู้สุดชีวิตของเขายังบุกเข้าไม่ได้แม้แต่รัศมีสิบจั้งรอบตัวหลินสวิน ราวกับพุ่งชนกำแพงสำริดผนังเหล็ก กลายเป็นจุณชั่วพริบตา

หลินสวินฉวยโอกาสก้าวไปข้างหน้า

ตูม!

ละอองแสงลึกลับมากมายร้อยเรียงเป็นกระบวนค่ายกลกฎระเบียบตรงหน้า สังหารชายชุดดำคนนี้ตายคาที่ กายหยาบและพลังจิตยังไม่แตกซ่านก็ถูกพลังของหลินสวินหอบม้วนไปสิ้น

ขั้นสรรสร้างคนหนึ่งถูกกำราบอย่างง่ายดายเช่นนี้!

ภาพความตายนี้ทำให้พวกเกาหยางไหว เจียงเถาหนาวเยือกไปทั้งตัว

“ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งเช่นนี้!!?”

มีคนส่งเสียงคำรามขุ่นเคือง

ตั้งแต่เปิดศึกถึงตอนนี้หลินสวินเผยท่าทีกร้าวแกร่งหาใดเปรียบ ต่อให้ขั้นสรรสร้างอย่างพวกเขาร่วมมือกันก็ไม่อาจกำราบเขาได้โดยสิ้นเชิง

กลายเป็นว่าเมื่อสู้ต่อเนื่องหลินสวินคนเดียวกลับข่มการโจมตีของพวกเขาได้หมด ใครจะยอมรับเรื่องนี้ได้เล่า

ต้องรู้ว่าขั้นสรรสร้างอย่างพวกเขาล้วนผ่านการเปลี่ยนแปลงมาไม่รู้กี่วันเวลา แต่ตอนนี้พอร่วมมือกันกลับเข้าใกล้ไม่ได้สักชุ่น กลับถูกหลินสวินฉวยโอกาสกำจัดทิ้งคนหนึ่ง นี่เป็นเรื่องน่ากลัวเกินไปอย่างไม่ต้องสงสัย

“ทุกท่าน พวกเราไม่มีหนทางให้ถอยแล้ว สู้มัน!”

หญิงสาวชุดเงินคนหนึ่งกล่าวเย็นชา

มือหยกของนางควบคุมระเบียบระดับเทพสายหนึ่งโจมตีใส่หลินสวิน อานุภาพแข็งแกร่งถึงขีดสุด อานุภาพที่ล้อมรอบตัวล้วนสยบขั้นล่วงกฎได้โดยง่าย

แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินสวินแล้วกลับไม่เอาไหน เพียงพริบตาก็ถูกหลินสวินซัดพินาศโดยง่าย บาดเจ็บจนถอยร่น หากไม่ใช่ว่ามีคนอื่นคอยสกัดนางคงยากพ้นเคราะห์แน่!

เวลานี้หลินสวินแข็งแกร่งเกินไปจริงๆ ซัดกวาดราวไร้คู่ต่อกร ไม่มีสิ่งใดกีดขวาง

ฟุ่บ!

ไม่นานหลินสวินก็เหยียดนิ้วมือราวกับดาบตัดขวางเวิ้งฟ้า คมประกายเจิดจรัสไร้ใดเปรียบพุ่งวาบ ฟันกายมรรคของขั้นสรรสร้างคนหนึ่งเป็นสองท่อน แม้แต่พลังจิตยังไม่ทันได้หลบหนีก็ต้องกล้ำกลืนความแค้นตายคาที่

ในการต่อสู้หลังจากนั้นขั้นสรรสร้างคนแล้วคนเล่าถูกสังหาร…

กลิ่นคาวเลือดอบอวลกลางฟ้าดาราที่พังทลายราวแดนแรกกำเนิด เสียงมรรคดังกระหึ่มทุกหนแห่ง แสงศักดิ์สิทธิ์ม้วนซัด คล้ายภาพนรกแห่งมหันตภัยวันสิ้นโลก

เงาร่างหลินสวินโลดแล่นอยู่ในนั้น แม้แต่ผู้แข็งแกร่งอย่างขั้นสรรสร้างยังต้านการสังหารนี้ไม่ได้

เสียงคำราม เสียงหวีดร้อง เลือดแดงก่ำตัดสลับกับความตาย กลายเป็นภาพสีเลือดสะเทือนกาลนิรันดร์

ในเมืองเทพศุภโชคพวกอู๋ยางเห็นแล้วมือเท้าเย็นเยียบ จิตมรรคสั่นสะท้าน ยืนอึ้งงันอยู่ตรงนั้นเหมือนลืมหายใจ

นี่ใช่ศึกใหญ่ของการถูกรุมล้อมเสียที่ไหน เห็นชัดว่าเป็นการสังหารหมู่ของหลินสวินคนเดียว!

“ฆ่า!”

เสียงคำรามราวอสนีบาตดังก้องฟ้าดารา ดวงตาพวกเกาหยางไหว เจียงเถาคั่งโลหิต แทบถลนราวกับคลุ้มคลั่ง ล้วนสู้สุดชีวิตโดยไม่สนความเป็นตาย

แต่ยังคงเปล่าประโยชน์ ไม่อาจสั่นคลอนหลินสวินได้แม้แต่น้อย

กลับกลายเป็นว่าพวกพ้องข้างกายพวกเขากำลังสิ้นชีพทีละคน…

ทุกอย่างนี้กระตุ้นจนพวกเขาขวัญหนีดีฝ่อ

ใช่ว่าในมือพวกเขาไม่มีไพ่ตาย แต่ต่อให้ใช้ก็ถูกหลินสวินสลายไปอย่างแข็งกร้าว ไม่ได้สร้างประโยชน์เท่าไรนัก

ไม่นานขั้นสรรสร้างสิบเก้าคนในที่นั้นก็ถูกฆ่าจนเหลือแค่เก้าคน ภายในนั้นยังมีส่วนหนึ่งได้รับบาดเจ็บสาหัส

พวกเกาหยางไหว เจียงเถายังไม่ยอมแพ้ ทว่าขั้นล่วงกฎสามสิบกว่าคนที่เหลืออยู่นั้นเวลานี้ต่างตื่นตระหนก จิตต่อสู้พังทลายแล้ว

“หนีกันเถอะ”

“แหล่งสถานศุภโชคนี้ไม่มีใครเป็นคู่ต่อสู้ของหลินสวินได้โดยสิ้นเชิง!”

“ไป!”

แสงเคราะห์สายนั้นเร้นลับลุ่มลึกหาใดเปรียบ เจือกลิ่นอายแปลกประหลาดและแฝงความอัปมงคล เมื่อปรากฏตัวฟ้าดารากว้างใหญ่แถบนี้พลันมืดลง พลังระเบียบระดับเทพมากมายที่ปกคลุมรอบฟ้าดาราล้วนถูกกำราบจนไม่อาจขยับเขยื้อน

ขณะที่ทุกคนยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง แสงเคราะห์สายนี้ทะลวงผ่านความว่างเปล่าไร้สิ้นสุดชั่วพริบตา โจมตีใส่ร่างหลินสวินทันที ฉีกทึ้งกายเนื้อของหลินสวินออกจากกันทันใด

“หลินสวิน!”

“ท่านพ่อ!”

“อาจารย์!”

พริบตานั้นพวกอู๋ยาง หลินฝาน ซูไป๋ต่างร้องเสียงหลง สีหน้าเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง

ไม่ว่าใครต่างก็คาดไม่ถึงว่ายามหลินสวินกวาดล้างศัตรู กำราบระดับนิรันดร์ทั้งหมดแล้ว กลับเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหันเช่นนี้

แต่พริบตาต่อมา

เงาร่างของหลินสวินกลับปรากฏกลางอากาศห่างไปหลายร้อยจั้ง สิ่งที่แสงเคราะห์สายนั้นซัดกระจุยก่อนหน้านี้ เป็นแค่รอยเงาหนึ่งที่เขาเหลือไว้เพราะความเร็วของการเคลื่อนย้ายเร็วเกินไปเท่านั้น

พวกอู๋ยาง หลินฝาน ซูไป๋ล้วนเป่าปากโล่งใจเฮือกใหญ่อย่างอดไม่ได้ แต่ไม่นานทุกคนก็มองไปยังส่วนลึกของฟ้าดาราด้วยสีหน้าสงสัย

ขณะเดียวกันหว่างคิ้วหลินสวินเผยแววจริงจัง

ไม่รู้ว่าส่วนลึกของฟ้าดารานั้นปรากฏเมฆาเคราะห์ขมุกขมัวแถบหนึ่งตั้งแต่เมื่อไหร่ เต็มไปด้วยกลิ่นอายประหลาดและอัปมงคล แม้ว่าเงียบสนิทไร้สุ้มเสียง แต่กลับพาให้คนตัวสั่นอย่างไม่ทราบสาเหตุ

ก่อนหน้านี้แสงเคราะห์นั่นก็มาจากส่วนลึกของเมฆาเคราะห์ขมุกขมัวนี่

แม้แต่หลินสวินก็ตัวเย็นวาบ เหมือนถูกสายตาที่มองไม่เห็นจับจ้องจากไกลๆ ทำให้เขาอึดอัดไปทั้งตัว

‘หรือว่าเป็นเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ!?’

ในใจหลินสวินเพิ่งมีความคิดนี้ผุดขึ้นมา ก็เห็น…

เมฆาเคราะห์ตรงส่วนลึกของฟ้าดารานั้นพลันสั่นไหว จากนั้นแสงเคราะห์ไร้รูปไร้สีหลากสายก็พุ่งออกมานับร้อยพัน แหวกห้วงอากาศพุ่งเข้าใส่หลินสวินโดยตรง

ตูม!

หลินสวินโคจรมรรควิถีของตนเต็มที่อย่างแทบจะเป็นไปตามสัญชาตญาณ เสียงปะทุโครมครามราวกับเตาหลอมพลุ่งพล่าน

“ทลาย!”

หลินสวินตวาดลั่น ปราณกระบี่ประทับนัยเร้นลับนิพพานนับหมื่นแสนทะยานออกมา ปลดปล่อยม่านแสงไร้ขอบเขตปะทะกับแสงเคราะห์พวกนั้น

เสียงปะทะกัมปนาททึบหนักราวฟ้าผ่าดังก้องตามมาติดๆ ทำให้ฟ้าดาราแถบนั้นเกิดรอยแยกยุบทลายมากมายคล้ายผืนผ้าฉีกขาด

สุดท้ายแม้ว่าหลินสวินจะต้านแสงเคราะห์นับร้อยพันนี้ได้ แต่กลับถูกผ่าจนเลือดลมทั่วร่างตีกลับ เงาร่างซวนเซ สีหน้าเปลี่ยนเป็นอึมครึมไม่น้อย

กลางแสงเคราะห์มากมายนั้นเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่คุ้นเคย เหมือนกฎระเบียบไท่ชูที่แฝงอยู่ในรูปปั้นไท่ชูซึ่งถูกเขาหลอมไปตอนนั้นไม่มีผิด!

ไม่ต้องสงสัย ผู้บงการหลังม่านของเคราะห์แห่งยุคสมัยนั่นลงมือแล้ว!

ทั้งครั้งนี้ผู้บงการหลังม่านไม่ได้ใช้พลังของคนอื่น แต่แปลงมหาเคราะห์หนึ่งโดยตรง จับจ้องตนอยู่ในส่วนลึกของฟ้าดารา!

……………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์