Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3066

ตอนที่ 3066 ประกาศทั่วหล้า

เมืองเทพศุภโชค

ในตำหนักเก่าแก่แห่งหนึ่งงานเลี้ยงกำลังดำเนินอยู่

ที่นั่งประธานคือหลินสวิน สองฝั่งของตำหนักคือเหล่ายอดบุคคลจากดินแดนรกร้างโบราณอย่างพวกอู๋ยาง ซิงเจีย รวมถึงเหล่าผู้อาวุโสลัทธิแรกกำเนิดอย่างพวกเสวียนเฟยหลิง ตู๋กูยง ฟางเต้าผิง

ทุกคนดื่มเหล้าพูดคุย บรรยากาศมีความสุขมาก

จนกระทั่งตอนที่งานเลี้ยงจบลง เรื่องที่ควรจัดการคนของแดนแรกเริ่มอย่างไรก็ได้ข้อสรุปแล้ว

เมืองเทพศุภโชคใหญ่มาก ไม่ต่างอะไรกับโลกเล็กแห่งหนึ่ง แม้ให้ทุกคนในแดนแรกเริ่มอยู่ในเมืองก็ยังเหลือเฟือ

เพียงแต่เมื่อมีคนมากก็ต้องกำหนดกฎระเบียบ ไม่เช่นนั้นย่อมนำมาซึ่งความขัดแย้งอย่างไม่อาจเลี่ยง

เรื่องเหล่านี้หลินสวินมอบให้เป็นหน้าที่ของพวกอู๋ยาง เสวียนเฟยหลิง

ส่วนสิ่งที่หลินสวินต้องทำมีเพียงเรื่องเดียว คือปรับปรุงแก้ไขเมืองเทพศุภโชค!

ไม่เพียงขอบเขตที่ต้องกว้างใหญ่ ยังต้องเปิดแดนลับบางส่วน เพื่อตอบสนองความต้องการในการฝึกปราณของทุกคน

โชคดีที่เขาเป็นเจ้าเมืองเทพศุภโชค ควบคุมระเบียบในเมือง และในร่างไม่ขาดเจตวัตถุที่ต้องใช้ในการพัฒนาเมืองนี้

สรุปแล้วในความคาดหวังของหลินสวิน คือจะสร้างให้เมืองเทพศุภโชคเป็นแดนพิสุทธ์ที่เหมาะกับการฝึกปราณสำหรับทุกคน

ไม่ต้องกังวลว่าจะประสบเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพ และไม่ต้องกังวลว่าจะพบเจอการโจมตีจากการดับสิ้นของยุคสมัย

……

ในวันเดียวกันเงาร่างของหลินสวินปรากฏกลางอากาศ ยืนอยู่เหนือห้วงอากาศของเมืองเทพศุภโชค

เขาก้มลงมองดูเมืองอันเก่าแก่เกรียงไกรนี้ จากนั้นสองมือค่อยๆ ยื่นออกมาและลากผ่านห้วงอากาศ

“ทะยาน!”

ในใจหลินสวินขยับไหว

โครม!

พลังระเบียบที่ปกคลุมอยู่รอบเมืองเทพศุภโชคส่งเสียงสะเทือนโดยพลัน แผ่ประกายศักดิ์สิทธิ์มหามรรคสว่างไสวมากมาย

พวกอู๋ยาง เสวียนเฟยหลิงที่ยืนอยู่ในเมืองชั่วขณะนี้ล้วนสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าระเบียบในเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนและน่าตกใจ

เมื่อก่อนขอเพียงเป็นผู้ที่ก้าวสู่มรรคาอมตะ พลังปราณล้วนถูกกดข่มให้อยู่ในระดับจักรพรรดิ ส่วนระดับนิรันดร์ก็จะถูกพลังระเบียบในเมืองต่อต้านและโจมตี

แต่ตอนนี้ พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของระเบียบในเมือง สามารถทำให้ระดับขั้นล่วงกฎเข้าออกภายในเมืองได้แล้ว ไม่ต้องกังวลว่าระดับพลังปราณของตนจะถูกกดอีก!

“วิธีเช่นนี้ประหนึ่งชิงศุภโชคไปจนหมด!”

ซิงเจียถอนหายใจ ทุกคนต่างอดยิ้มไม่ได้

ที่นี่คือเมืองเทพศุภโชค การกระทำของหลินสวินเรียกได้ว่า ‘ชิงศุภโชค’ ไปจริง

ฮูม…

จากนั้นหลินสวินสะบัดแขนเสื้อ ระเบียบระดับเทพสายแล้วสายเล่าพุ่งออกไปราวกับกระแสน้ำ กลายเป็นม่านฟ้าไร้รูปปกคลุมเหนือห้วงอากาศเมืองเทพศุภโชค

มีทั้งหมดแปดสาย ระเบียบระดับเทพทุกสายล้วนประทับนัยเร้นลับมหามรรคสมบูรณ์ ของเพียงเป็นผู้ฝึกปราณที่อยู่ในเมือง ยามฝึกปราณล้วนสามารถหยั่งรู้นัยเร้นลับภายในและยกระดับมหามรรคของตนได้

ควรรู้ว่าในน่านฟ้าที่เก้า เผ่าเทพนิรันดร์ตระกูลหนึ่งอย่างมากก็ครอบครองระเบียบระดับเทพหนึ่งสายเท่านั้น

แต่ตอนนี้มีระเบียบระดับเทพถึงแปดสายปกคลุมบนฟ้าดินผืนนี้! แค่คิดก็รู้ว่ายามฝึกปราณจะได้รับประโยชน์มากมายแค่ไหน

เห็นภาพนี้ขั้นล่วงกฎอย่างพวกอู๋ยางอึ้งไประลอกหนึ่ง ตาแข็งค้าง จิตใจสับสนไม่สามารถควบคุมได้

ทุกคนต่างยิ้มออกมา

มีคนหัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “ทอดสายตามองไป หากพูดถึงคนที่ใจกว้างและมั่งคั่งที่สุดคงไม่มีใครสู้สหายน้อยหลินได้”

จำนวนระเบียบระดับเทพที่หลินสวินครอบครองเรียกได้ว่าไม่เป็นสองรองใครจริงๆ

“อู๋ซวง ตั้งแต่นี้ไปเจ้าคอยปกป้องอยู่ในเมืองนี้ ควบคุมระเบียบระดับเทพแปดสายนั่น จำไว้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องทำคือรักษากฎระเบียบในเมือง ไม่ให้ใครก่อเรื่อง”

กลางเวิ้งฟ้าหลินสวินกำชับเสียงเบา

อู๋ซวงในชุดขาว รูปลักษณ์ราวกับเด็กสาวบริสุทธิ์ผู้ว่าง่ายพยักหน้าน้อยๆ พูดเสียงใสกระจ่าง “นายท่าน ซวงเอ๋อร์จะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

นางเว้นช่วงไปแล้วพลันถามว่า “หาก… หากเป็นญาติมิตรของนายท่านก่อเรื่องในเมือง…”

หลินสวินเหลือบมองนางแวบหนึ่งแล้วเอ่ยว่า “ข้าเป็นคนตั้งกฎ หากพวกเขาไม่ทำตามกฎก็เท่ากับเห็นต่างกับข้า เจ้าคงรู้ว่าต้องทำอย่างไรแล้วกระมัง”

อู๋ซวงเข้าใจกระจ่าง กล่าวด้วยรอยยิ้มหวาน “อืม”

เพียงแต่แม้นางเป็นวิญญาณระเบียบ แต่ก็รู้ว่าบางทีเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งต้องรักษากฎระเบียบ แต่ก็ต้องมีเหตุผล

และบางทีเหตุผลมักจะสำคัญกว่ากฎระเบียบ

อย่างเช่น หากลูกชายของหลินสวินก่อเรื่องในเมือง จะต้องจัดการแน่ เพียงแต่ควรจัดการอย่างไรกลับมีความละเอียดอ่อนอย่างมาก สำหรับอู๋ซวง เจอสถานการณ์เช่นนี้เกรงหว่าจะต้องหลับตาข้างลืมตาข้าง ถึงขั้นเป็นไปได้สูงมากว่าอาจ ‘ช่วยเหลือ’ บางอย่าง…

นี่ก็เรียกว่า ‘การปฏิบัติจริงและความยืนหยุ่น’

กฎระเบียบต้องคงไว้ แต่เหตุผลก็ทิ้งไม่ได้

อู๋ซวงไม่ได้โง่ถึงขั้นเรื่องแค่นี้ก็ไม่เข้าใจ

“ไปเถอะ” หลินสวินกล่าว

อู๋ซวงพลันกลายเป็นแสงสายหนึ่งพุ่งเข้าไปในม่านฟ้า

ส่วนหลินสวินเริ่มเคลื่อนไหวอีกครั้ง

หลังจากนี้คือการเปิดแดนลับ สำหรับหลินสวินนี่ไม่ใช่เรื่องยาก ในมือเขามีแดนลับดวงกมล แดนแรกเริ่ม แดนวิญญาณ แดนฌาน แดนพ่อมด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์