ตอนที่ 3067 ปิดด่านอีกครั้ง
และหลังจากหลินสวินประกาศเรื่องที่สาม ไม่เพียงเผ่าเทพทั่วหล้า ผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนของอารยธรรมแห่งยุคสมัยนับร้อยก็เดือดพล่านทั้งหมด
เรื่องที่สามเรียบง่ายมาก…
ทุกๆ พันปีเมืองเทพศุภโชคจะจัด ‘งานถกมรรค’ ขึ้นหนึ่งครั้ง แบ่งการประชันถกมรรคออกเป็นสามรอบโดยอิงตามมรรคามหามรรคทั้งสามระดับ คือมรรคาจักรพรรดิ มรรคาอมตะ มรรคานิรันดร์
พูดในอีกแง่หนึ่ง ผู้ที่มีปราณระดับจักรพรรดิ ระดับอมตะ และระดับนิรันดร์ ล้วนสามารถเข้าร่วมการประชันถกมรรคตามระดับของตน
ผู้ที่ได้สิบอันดับแรกของการถกมรรค ล้วนจะได้รับรางวัลหลากหลายที่แตกต่างกัน!
รางวัลมีสมบัติมากมาย และมีทรัพยากรฝึกปราณที่ไม่สามารถปฏิเสธได้ ยิ่งมีคำชื่นชมและมิตรภาพจากหลินสวิน
แน่นอนว่ายังมีชื่อเสียงและเกียรติยศเลื่องลือทั่วหล้า!
ลองคิดดูว่าหากสามารถติดหนึ่งในสิบของงานถกมรรค โลกยุคสมัยทั่วหล้าใครเล่าจะไม่รู้จัก
ยิ่งไปกว่านั้นยังได้รับสมบัติ ทรัพยากรฝึกปราณ รวมถึงการยอมรับจากหลินสวิน!
โดยเฉพาะจุดสุดท้าย สำคัญกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
ถึงอย่างไรหลินสวินในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับราชันหนึ่งเดียวของแหล่งสถานศุภโชค ประโยคเดียวของเขา บางทีอาจสามารถเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตระกูลหนึ่งได้!
“เรื่องนี้จะต้องมองเป็นเรื่องสำคัญที่สุด!”
“พันปีมีหนึ่งครั้งหรือ แต่ข้ารอไม่ไหวแล้ว…”
“ในอนาคตงานถกมรรคนี้ต้องกลายเป็นงานที่ทั้งแหล่งสถานศุภโชคให้ความสนใจมากที่สุด ส่งผลต่ออารยธรรมฝึกปราณทั่วหล้า!”
…ทั่วหล้าปั่นป่วนเต็มไปด้วยความฮือฮา เกิดความวุ่นวายโกลาหลครั้งใหญ่
สามเรื่องที่หลินสวินประกาศ ส่งผลกระทบใหญ่ยิ่งไปยังทุกชีวิตทั้งแหล่งสถานศุภโชค
“นี่จึงจะเป็นความใจกว้างและการจัดวางรูปแบบของโลก!”
แม้แต่พวกอู๋ยางก็ยังทอดถอนใจ
ทว่าสำหรับเรื่องพวกนี้หลินสวินไม่ได้ใส่ใจอย่างแท้จริง เขาเพียงทำเพื่อญาติมิตรของตนผ่านสามเรื่องนี้ก็เท่านั้น
เมื่อเช่นนี้แม้ในอนาคตหากตนไม่อยู่ ในแหล่งสถานศุภโชคก็ไม่มีใครกล้าสั่นคลอนรากฐานที่เขาสร้างเองกับมือ
ใช้เวลาทั้งหมดสามเดือน ในที่สุดหลินสวินก็ปรับเปลี่ยนเมืองเทพศุภโชคสำเร็จ
เมืองเทพศุภโชคในตอนนี้ดูเหมือนเป็นแค่เมืองแห่งหนึ่ง แต่ภายในกลับเปิดเส้นทางที่สามารถเชื่อมสู่แดนลับดวงกมล แดนแรกเริ่ม แดนวิญญาณ แดนพ่อมดและแดนฌาน
และในพื้นที่ต่างๆ ของเมืองล้วนมีภูเขาเทพที่ดั้งเดิมเก่าแก่ตั้งขวาง ราวกับเสาที่ค้ำเมืองทั้งเมือง ตำแหน่งของภูเขาเทพแต่ละลูกถูกจัดวางเป็นกระบวนผนึกที่มหัศจรรย์รางๆ
ในยามจำเป็น ภูเขาเทพที่กระจัดกระจายเหมือนดวงดาวบนท้องฟ้านี้ก็จะกลายเป็นกระบวนผนึกชั้นเลิศ เชื่อมต่อกับระเบียบระดับเทพเก้าสายที่ปกคลุมกลางฟ้าดิน ปลดปล่อยอานุภาพที่สามารถสังหารขั้นล่วงกฎได้อย่างง่ายดาย!
“จิ่งเซวียน ตั้งแต่วันนี้ไปข้าจะปิดด่านแล้ว”
ในแดนลับดวงกมล หลินสวินกำลังร่วมโต๊ะอาหารกับจ้าวจิ่งเซวียน ซย่าจื้อ หลินฝาน
“นานเท่าไร”
จ้าวจิ่งเซวียนคีบอาหารให้ซย่าจื้อพลางถาม
“สิบปีกระมัง”
หลินสวินพูดลวกๆ “หลังจากปิดด่านข้าอาจต้องไปแหล่งสถานคุนหลุน”
จ้าวจิ่งเซวียนอึ้งงันไปทันที ในใจเกิดความรู้สึกพูดไม่ออก “ไม่ไปไม่ได้หรือ”
เสียงเผยความอาลัยอาวรณ์อย่างชัดเจน
หลินฝานที่อยู่ข้างๆ อดพูดไม่ได้ “ท่านแม่ การที่ท่านพ่อไปที่นั่นย่อมต้องมีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้นท่านพ่อต้องกลับมาแน่ ท่านไม่จำเป็นต้องห่วง”
“ใครให้เจ้าพูดมาก” จ้าวจิ่งเซวียนขึงตาใส่หลินฝานแวบหนึ่ง อีกฝ่ายเก้อกระดากเงียบไปทันที
หลินสวินอดยิ้มไม่ได้ กล่าวว่า “ฝานเอ๋อร์พูดไม่ผิด ข้าไปแหล่งสถานคุนหลุนครั้งนี้…”
จ้าวจิ่งเซวียนตัดบท “ข้ารู้ว่ามีเหตุผล ท่านไม่ต้องอธิบายข้าก็เข้าใจ แต่ท่าน… ท่านต้องระวัง ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกลับมาอย่างปลอดภัย”
หลินสวินอุ่นวาบในใจ กล่าวว่า “เจ้าวางใจ”
จู่ๆ ซย่าจื้อที่ก้มหน้ากินมาโดยตลอดพูดขึ้น “ถึงตอนนั้นข้าไปกับเจ้า เช่นนี้พี่จิ่งเซวียนก็ไม่ต้องเป็นห่วงแล้ว”
หลินสวินอึ้งงัน ไม่ทันได้พูดอะไรจ้าวจิ่งเซวียนก็พูดอย่างดีใจ “เช่นนี้ย่อมดีกว่า มีเจ้าอยู่ ไม่มีผู้หญิงคนอื่นกล้าเข้าใกล้เขาแน่ แม้กล้าเข้าใกล้เขา น้องซย่าจื้อก็จะต้องจัดการได้”
นางผ่อนคลายเหมือนยกภูเขาออกจากอกอย่างไรอย่างนั้น
หลินสวิน “…”
ที่แท้จิ่งเซวียนก็กังวลว่าตนจะโปรยเสน่ห์ข้างนอก แต่ประเด็นคือตนเป็นคนเช่นนี้หรือ
หลินสวินรู้สึกว่าตนกำลังถูกปรักปรำ
ทันใดนั้นเขาสังเกตเห็นว่าหลินฝานที่อยู่ห่างออกไปเหมือนกำลังเบิกบาน จึงกล่าวอย่างไม่อภิรมย์ “เห็นบิดาเจ้ากลายเป็นตัวตลกแล้วมีความสุขมากใช่ไหม”
หลินฝานเก็บสีหน้าทันที กลั้นยิ้มพลางส่ายหน้าพูด “ท่านพ่อ ข้ารู้สึกว่าความตั้งใจของท่านแม่ดีมาก สิ่งยั่วยวนที่ควรปฏิเสธก็ต้องปฏิเสธ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์