บึ้ม!
ปลายกระบี่แหลมคมตวัดแกว่งไปรอบสารทิศ เลือดสาดกระเซ็นนองฉานชวนตกใจ
หลินสวินบุกฆ่าโดยไม่ถอยหลัง ไม่เคยเปลี่ยนทิศทางด้วยเป้าหมายง่ายๆ เป้าหมายของเขาเรียบง่ายมาก นั่นคือการขึ้นไปบนยอดเขา ไม่ใช่เพราะกลัว แต่สู้มาถึงตอนนี้แล้ว เด็กหนุ่มคะเนได้ว่าครั้งนี้ศัตรูใช้กำลังทั้งหมดเพื่อที่จะสังหารตนที่นอกเมืองมังกรเหลืองแห่งนี้!
ในสถานการณ์เช่นนี้ หลินสวินไม่กล้าต่อสู้อย่างรุนแรง เขาอาจเหนือกว่าฝ่ายศัตรูในเวลาอันสั้น แต่เมื่อเวลานานไปจะสูญเสียพลังกายเป็นอย่างมาก หากถูกโจมตีในยามอ่อนแอคงจะไม่ดีนัก ดังนั้นเขาจึงต้องฝ่าวงล้อมออกไปก่อน แล้วค่อยตัดสินใจอีกครั้ง ทำเช่นนี้แล้วประหยัดแรงกายได้มากที่สุด
ใต้เท้าของหลินสวินมีร่างไร้วิญญาณมากมาย ดังเขาเป็นเทพสังหารที่เดินอยู่บนกองศพ เขาเจ้ามาถึงป่าลึกเกือบจะฝ่าวงล้อมศัตรูออกมาได้แล้ว
ทันใดนั้นเอง บนฟากฟ้ามีเสียงกระหึ่มดัง เห็นได้ชัดว่าบนโพ้นฟ้านั้นมีเรือที่ยาวกว่าร้อยจั้ง คล้ายสัตว์ขนาดใหญ่อย่างเรือรบวีรชนม่วงเคลื่อนที่อยู่บนกลุ่มเมฆตรงมายังทางนี้
หลินสวินหน้าเปลี่ยนสีไปเล็กน้อย เรือรบวีรชนม่วงที่สามารถสังหารผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ถึงห้าลำเชียวนะ!
เด็กหนุ่มคำรามก่อนรีบฝ่าวงล้อมออกไปไม่กดพลังตัวเองเอาไว้อีก ทั้งร่างเต็มไปด้วยพลังน่ากลัวกว่าเมื่อครู่
เขาเป็นคนออกแบบเรือรบวีรชนม่วงแบบใหม่นี้เองกับมือ จึงทราบดีว่าพลังของมันน่ากลัวเพียงใด หากมีเพียงลำเดียวเขายังพอมีวิธีจัดการได้ แต่ตอนนี้มีอยู่ถึงห้าลำ นั่นเท่ากับเขาว่ากำลังเผชิญหน้ากับผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรปราณวิญญาณห้าคน
ไม่ต้องพูดถึงว่าจะจัดการอย่างไร แม้แต่จะหนีเอาตัวรอดยังอันตรายจนถึงชีวิตได้เลย ที่หนักหนาไปกว่านั้น เรือรบวีรชนม่วงยามเหาะแล่นบนฟ้าด้วยความเร็วสูงมาก หากถูกพวกมันไล่ตามทัน และด้วยพลังโจมตีของของปืนใหญ่สลักวิญญาณที่ครอบคลุมอย่างดีเยี่ยมแล้ว ผลลัพธ์เลวร้ายยากจะจินตนาการทีเดียว!
เดิมทีหลินสวินยังคิดว่าศัตรูจะไม่ส่งยอดฝีมือที่มีปราณสูงกว่าระดับจิตผสานวิญญาณมาจัดการเขา แต่เมื่อเห็นเรือรบวีรชนม่วงทั้งห้าลำ เขาก็รู้ว่าความคิดของตัวเองช่างไร้เดียงสายิ่งนัก
ถูกต้อง ฝ่ายศัตรูไม่มีผู้แข็งแกร่งระดับปราณสูงกว่าระดับจิตผสานวิญญาณมาเลยสักคน แต่เรือรบวีรชนม่วงห้าลำนั้นเป็นอาวุธที่สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ หากเพียงควบคุมได้ดีก็ไม่ต่างไปจากการมีผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณโดยสิ้นเชิง
รังแกกันเกินไปแล้ว! ในยามนี้ความเกลียดแค้นในใจที่ถูกกดเอาไว้มานานกลับลุกฮือขึ้นใหม่ ชังพวกคนที่กีดกันเขาไม่ให้เข้าไปในนครต้องห้ามพวกนั้น
ความจริงที่โหดร้ายไม่ได้ทำให้หลินสวินเสียสติ เขารู้ดีว่าครั้งนี้ตัวเองจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการควบคุมของตัวเองแล้ว ตอนนี้สิ่งเดียวที่ตัวเองยังทำได้คือหนี!
จะถูกเรือรบวีชนม่วงล้อมจากบนฟ้าไม่ไม่ได้เด็ดขาด!
…
หลินสวินคล้ายอสูรร้ายที่ถูกบีบจนอับจนหนทาง เด็กหนุ่มบุกไปข้างหน้าด้วยความบ้าระห่ำ พลางเหยียบย่ำอยู่บนกองศพมากมาย
ฮูม
เสียงหืดหาดจากเขาสัตว์แว่วมาจากที่ไกล พลันหวินสวินถึงได้พบว่าศัตรูที่ล้อมตัวเองอยู่คล้ายได้รับการแจ้งเตือนบางอย่าง และไม่ได้เข้ามาโจมตีเขาอีก ทว่าพากันหลบออกไป ชัดเจนว่าเสียงที่ดังขึ้นนั้นเป็นสัญญาณเรียกกลับทัพ
หลินสวินใจกระตุก ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าศัตรูกลัวการโจมตีจากเรือรบวีรชนม่วงจะทำร้ายพรรคพวกของตนพี่อยู่บนพื้น
ในความเป็นจริง อาวุธสังหารอย่างเรือรบวีรชนม่วงจะถูกใช้เป็นแนวหน้าในการศึกใหญ่เพื่อใช้โจมตีศัตรู ที่นำออกมาใช้จัดการกับเป้าหมายคนเดียวอย่างเช่นตอนนี้นั้นแทบจะพบได้ยาก
‘หากข้าคลุกวงอยู่กับพวกเขา เรือรบวีรชนม่วงบนฟ้านั้นจะกล้าลงมือหรือไม่’ หลินสวินผุดความคิดบ้าระห่ำขึ้นมา
ไม่นานความคิดนั้นก็ถูกความจริงอันโหดร้ายทำลายไป เสียงกระหึ่มจากบนฟ้าตามมาด้วยแสงแวววาวยิงออกมา ทะลุอากาศตรงมาทางหลินสวิน เขารีบวิ่งหลบจากการโจมตีอย่างไม่คิด
แต่ในที่ที่เขาเคยยืนอยู่นั้น ศัตรูที่หนีไม่ทันต่างถูกแสงแวววาวสังหาร โดยไม่ทันแม้จะได้เอ่ยร้องสิ่งใด จนปรากฏรอยหลุมใหญ่กว่าร้อยจั้งมีควันพุ่งพวยอยู่บนพื้นดิน
’โหดเหี้ยมนัก’ หลินสวินสูดลมหายใจ เพื่อสังหารตัวเขา แม้พวกพ้องของตัวเองจะตายก็ไม่สนใจ บ้าไปกันใหญ่แล้ว
จากเหตุการณ์นี้เห็นได้ว่า ศัตรูใช้ภารกิจครั้งนี้เป็นโอกาสตัดสินแพ้ชนะให้ชัดเจน เพื่อชัยชนะแล้วพวกเขาไม่เสียดายอะไรทั้งสิ้น
หนี!
หนี!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์