Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3085

ตอนที่ 3085 ข่าวของศิษย์พี่ใหญ่

หลังจากนั้นเพียงครึ่งเค่อ

ซินอิ้งถอนใจยาวเฮือกหนึ่ง “ไม่เคยฟันฝ่าไปแหล่งสถานอัศจรรย์ กลับตายอยู่ในทะเลโชคชะตานี้ ทอดถอนใจจนปัญญา!”

เสียงถอนใจโศกเศร้าดังก้อง ร่างกำยำของเขาแตกซ่าน หายไปราวกับควันเมฆ

นี่ทำให้หลินสวินพลันเสียดาย

ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่เช่นนี้ หากนำกายหยาบและพลังจิตของเขามาหลอมจะได้รับพลังต้นกำเนิดนิรันดร์ที่หนาแน่นระดับใด

“สิงเจี้ยนสยา พวกเจ้ารอก่อนเถอะ เมื่อผู้แข็งแกร่งขุมอำนาจพวกเรากลับมา ย่อมเป็นวันตายของพวกเจ้าลัทธิแรกกำเนิด ลัทธิวิญญาณ คีรีดวงกมล!!”

สิงเทียนหยวนคำราม

ดวงตาของเขาคั่งโลหิต ผมเผ้าสยายยุ่ง บาดแผลเหวอะหวะเต็มตัว สีหน้าเหี้ยมเกรียมคล้ำเขียว ต่อสู้มาถึงตอนนี้ทำให้เขาเหลือเพียงความบ้าระห่ำและไม่ยินยอม

ไม่มีใครสนใจเสียงเอ็ดตะโรและคำข่มขู่ของเขา

หลังจากกำจัดซินอิ้งแล้ว สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีก็พุ่งเข้าใส่สิงเทียนหยวนพร้อมสองกายมรรคของหลินสวิน กอปรกับร่างต้นและกายมรรคเพลิงแดงของหลินสวินที่เดิมห้ำหั่นกับสิงเทียนหยวน ทำให้ทั้งตัวสิงเทียนหยวนถูกฝังกลบอยู่ในกระแสพลังชวนประหวั่น

เพียงชั่วขณะขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างสิงเทียนหยวนก็กายสิ้นมรรคสลาย!

ในที่นั้นเหลือเหวินไจ้คนเดียว

เมื่อเผชิญหน้ากับสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี เหรินฟู่เทียน หลินสวิน รวมถึงห้ากายมรรคของเขา เหวินไจ้เผยสีหน้าสิ้นหวังอย่างอดไม่ได้ เอ่ยปากกล่าวอย่างเดือดดาล “หากไม่ใช่เพราะเจ้าหลินสวินนี่ พวกเจ้าจะมีโอกาสพลิกสถานการณ์ได้อย่างไร?!”

ตูม!

ครู่ต่อมาเหวินไจ้ก็ถูกสังหาร สลายกลายเป็นธุลี

ช่วยไม่ได้ คู่ต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งเกินไป ภายใต้การร่วมกันล้อมโจมตี ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างเขาย่อมต้านไม่อยู่โดยสิ้นเชิง

“สะใจ!”

สิงเจี้ยนสยาหัวเราะร่า

ฝุ่นควันลอยล่องรอบทิศ พินาศยับเยินถ้วนทั่ว ในสนามรบที่เหมือนซากปรักหักพังนี้ พวกเขาเป็นผู้ชนะในตอนท้าย!

การต่อสู้นี้เป็นชัยชนะครั้งใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ

ทั้งเป็นชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดซึ่งเฒ่าชราอย่างพวกเขาได้รับตั้งแต่เข้ามาในโลกวิญญาณยุทธ์

ฝั่งศัตรูมีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่สามคนอย่างซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนสิ้นชีพ

นอกจากนี้ยังมีผู้แข็งแกร่งขั้นสรรสร้างยี่สิบคนถูกฆ่าตายหมด!

แต่ฝั่งพวกเขาไม่มีใครบาดเจ็บล้มตาย!

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือชัยชนะอย่างสมบูรณ์ที่เกริกก้องนิรันดร์ สามารถซัดสะเทือนชั่วกาล

นี่จะไม่ให้สิงเจี้ยนสยาตื่นเต้นและดีใจได้อย่างไร

“พวกเราฉวยโอกาสนี้บุกไปฐานที่มั่นพวกเขา กำจัดกำลังพลที่เหลือของพวกเขาให้เกลี้ยงดีไหม”

ฟู่หนานหลียังไม่หายอยาก จิตต่อสู้ไม่เสื่อมถอย

“เช่นนั้นก็ต้องถามความเห็นของสหายน้อยหลินสวินแล้ว”

สิงเจี้ยนสยายิ้มพลางเคลื่อนสายตามองหลินสวิน “ขอแนะนำตัวเองก่อน ข้านามว่าสิงเจี้ยนสยา บรรพจารย์ลัทธิแรกกำเนิดเป็นอาจารย์ของข้า”

เขาชี้เหรินฟู่เทียนที่อยู่ข้างๆ “เขาคือศิษย์น้องข้าเหรินฟู่เทียน หากพูดถึงลำดับอาวุโสในลัทธิแรกกำเนิด เฒ่าชราอย่างพวกเราก็อาวุโสกว่าเจ้ามาก อย่างน้อยต่อหน้าพวกเราเหยียนจี้ก็เป็นแค่ศิษย์หลาน ฮ่าๆๆ”

สิงเจี้ยนสยาพูดพลางอดหัวเราะไม่ได้ “แต่เจ้าเป็นศิษย์ของเจ้าแห่งคีรีดวงกมล ทั้งเจ้าแห่งคีรีดวงกมลยังเป็นคนรุ่นเดียวกับอาจารย์ข้า ด้วยเหตุนี้ลำดับอาวุโสระหว่างเจ้ากับข้าจึงเท่ากัน”

ถึงแม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่หลินสวินมีหรือจะกล้ามองเฒ่าดึกดำบรรพ์ที่มีชีวิตอยู่มาไม่รู้กี่หมื่นปีอย่างสิงเจี้ยนสยาเป็นคนรุ่นเดียวกันจริงๆ

เขารีบประสานมือคารวะสิงเจี้ยนสยาและเหรินฟู่เทียน “หลินสวินคารวะผู้อาวุโสทั้งสอง”

ขณะเดียวกันเขาแอบกล่าวในใจ หากพูดอย่างเป็นกันเองจริง ภายหน้าเมื่อเจอผู้อาวุโสเหยียนจี้ เขาไม่กลายเป็นศิษย์หลานของข้าหรือ

วุ่นวายอุตลุดแย่

ถูกเรียกว่าผู้อาวุโส สิงเจี้ยนสยาก็ไม่ใส่ใจ ในโลกผู้บำเพ็ญเรื่องอย่างลำดับอาวุโสล้วนละเอียดอ่อน ไม่อาจคิดเล็กคิดน้อยอย่างจริงจังได้โดยสิ้นเชิง

เขายิ้มพลางชี้ฟู่หนานหลีแล้วกล่าว “นี่คือฟู่หนานหลี ลูกศิษย์คนแรกของบรรพจารย์ลัทธิวิญญาณ”

“คารวะผู้อาวุโส” หลินสวินประสานมือคำนับ

ฟู่หนานหลีเดินเข้ามาตบบ่าหลินสวินอย่างกระตือรือร้น “สหายน้อย พลังต่อสู้ของเจ้าก่อนหน้านี้ทำให้ข้าเปิดโลกทัศน์ พูดตามตรงถึงตอนนี้ข้าก็ยังไม่กล้าเชื่อ คนหนุ่มขั้นสรรสร้างอย่างเจ้ากลับต้านการล้อมโจมตีของเฒ่าชราสามคนอย่างพวกซินอิ้งได้โดยลำพัง แข็งแกร่งเกินไปจริงๆ!”

เขาไม่หวงคำชมและยกย่องของตนโดยสิ้นเชิง

เมื่อพูดถึงการต่อสู้ก่อนหน้านี้ สิงเจี้ยนสยากับเหรินฟู่เทียนก็ไม่วายประทับใจ

พวกเขาต่างรู้ดีว่าสิ่งสำคัญที่ตัดสินผลแพ้ชนะของการต่อสู้ครานี้คือหลินสวิน!

หากไม่มีการปรากฏตัวของเขา พวกเขาคงยังถูกกักตัวอยู่บนภูเขาเทพใบบัวไปตลอด ไม่มีโอกาสลงมือ ได้แต่หดหัวและอดกลั้นอยู่เสมอ

และหากไม่ใช่ว่าหลินสวินใช้พลังของตัวเองสกัดเฒ่าชราสามคนอย่างซินอิ้ง เหวินไจ้ สิงเทียนหยวนไว้ พวกเขาก็ไม่มีทางมีโอกาสสังหารอีกฝ่ายเช่นกัน!

พูดได้ว่าในศึกนี้หลินสวินมีส่วนช่วยอย่างมาก!

เวลานี้กู่เยวี่ยหมิง ซุ่นไหวเจี่ย เสวี่ยเย่ที่อยู่ห่างไปก็ทะยานตัวเข้ามา ยิ้มพลางแนะนำตัวเองกับหลินสวิน

หลังจากหลินสวินคารวะทีละคนก็กล่าว “ผู้อาวุโสทุกท่านไม่ต้องขอบคุณข้า หากต้องขอบคุณจริง ข้าต่างหากต้องขอบคุณผู้อาวุโสทุกท่านที่หลายปีนี้ปกป้องศิษย์พี่คีรีดวงกมลของข้ามาตลอด”

หลินสวินใคร่ครวญครู่หนึ่งแล้วเล่าเรื่องที่ตนเหยียบฐานที่มั่นเผ่าเทพนิรันดร์สามตระกูลอย่างตระกูลเย่ ตระกูลเจวี๋ย ตระกูลหยวนจนราบคาบออกมาทั้งหมด

“เช่นนั้นเจวี๋ยอู๋เทียนก็ถูกเจ้าฆ่าแล้วหรือ”

เมื่อรู้เรื่องพวกนี้สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีต่างรู้สึกผิดคาดโดยพลัน

เจวี๋ยอู๋เทียนคนนี้เป็นพวกเย้ยฟ้าหาใดเปรียบคนหนึ่ง แต่กลับถูกหลินสวินซึ่งเย้ยฟ้ากว่าเขาสังหาร เรื่องนี้ย่อมทำให้คนตกใจเป็นธรรมดา

จากการตอบสนองของทั้งสองคน ทำให้หลินสวินรู้ถึงความไม่ธรรมดาของเจวี๋ยอู๋เทียนยิ่งกว่าเดิม

แต่ยังดีที่เจวี๋ยอู๋เทียนไม่มีโอกาสฟื้นคืนแล้ว…

“ผู้อาวุโส ในใจข้ามีข้อสงสัยอย่างหนึ่ง ศิษย์พี่ใหญ่ของข้าประสบเคราะห์ได้อย่างไร”

ในที่สุดหลินสวินก็ทนไม่ไหว เอ่ยถามถึงเรื่องนี้

นัยน์ตาสิงเจี้ยนสยาฉายแววเศร้าสร้อยเสี้ยวหนึ่งพลางกล่าว “สิบกว่าปีก่อนเหล่าขุมอำนาจศัตรูโจมตีมาอย่างหนัก ต้องโทษพวกเราที่ป้องกันไม่รอบคอบ ทำให้ศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้าตกอยู่ในวงล้อมจนถูกซินหูโจมตี ตอนนั้นศิษย์พี่ใหญ่ของเจ้ามีมรรควิถีแค่ขั้นล่วงกฎสัมบูรณ์ ต่อให้พลังต่อสู้เย้ยฟ้าถึงขั้นสู้กับขั้นสรรสร้างสัมบูรณ์ได้ แต่มีหรือจะเป็นคู่ต่อสู้ของซินหู แค่การโจมตีเดียวกายมรรคของศิษย์พี่ใหญ่เจ้าก็ถูกบดขยี้ แม้แต่พลังจิตยังแตกละเอียด…”

เสียงต่ำลึกเจือแววโทษตัวเองอย่างยิ่ง “ตอนนั้นข้าไม่ควรให้เขาร่วมศึกจริงๆ…”

จิตใจหลินสวินว้าวุ่น กำสองมือเงียบๆ สูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งควบคุมความปั่นป่วนในใจกล่าวว่า “ถ้าเช่นนั้นศิษย์พี่ใหญ่ของข้า… ไม่อยู่แล้วจริงหรือ”

ฟู่หนานหลีถอนใจยาวเฮือกหนึ่ง สีหน้าเผยความละอายใจพลางกล่าว “เขาประสบเคราะห์จริงๆ แต่ตอนนั้นข้าเก็บกระดูกและพลังจิตที่แตกละเอียดของศิษย์พี่ใหญ่เจ้ากลับมา มอบให้จ้งชิวศิษย์พี่รองเจ้า ก่อนเปิดศึกเขาเคยเอ่ยคำขอประหลาดนี้กับข้า บอกว่าถ้าศิษย์พี่ใหญ่เจ้าประสบเคราะห์แล้ว ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องรักษาพลังชีวิตเสี้ยวหนึ่งของเขาไว้ ต่อให้เป็นเลือดหยดเดียว กระดูกท่อนหนึ่ง ผมเส้นหนึ่ง…”

เมื่อพูดถึงตรงนี้เขาพลันสังเกตเห็นว่าหลินสวินกลับยิ้มอย่างผิดปกติเหมือนยกภูเขาออกจากอก “เช่นนั้นก็ดีๆ”

สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีสบตากันแล้วอดกล่าวไม่ได้ “สหายน้อย นี่เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

หลินสวินคิดไปคิดมาแล้วยิ้มกล่าว “ขอแค่พลังชีวิตเสี้ยวหนึ่งยังอยู่ ข้าก็มีวิธีทำให้ศิษย์พี่ใหญ่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง!”

“แต่พลังจิตของเขาถูกทำลายแล้ว ยังมีโอกาสรอดชีวิตอีกหรือ”

สิงเจี้ยนสยาอึ้งงัน

“เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับพลังนิพพาน” หลินสวินพูดเสียงเบา “แต่ผู้อาวุโสทั้งสองโปรดเก็บเป็นความลับ อย่าแพร่งพรายเรื่องนี้เด็ดขาด”

สิงเจี้ยนสยากับฟู่หนานหลีตกปากรับคำพร้อมกัน

ในใจพวกเขาไหวสะท้านไม่หยุด นัยเร้นลับนิพพานถึงกับทำให้คนตายฟื้นคืนได้หรือ

หากเป็นเช่นนั้นจริง อานุภาพนี้ก็เหมือนสิ่งต้องห้ามเกินไปแล้ว!

ขั้นไร้ขอบเขตใหญ่อย่างพวกเขาล้วนก้าวสู่ระดับสูงสุดของมรรคานิรันดร์แล้ว แต่ไม่มีพลังที่สามารถทำให้คน ‘ฟื้นคืนชีพ’

ทว่าหลินสวินกลับทำได้ถึงขั้นนี้ หากแพร่งพรายออกไปก็ไม่รู้ว่าจะก่อให้เกิดคลื่นลมมากแค่ไหน!

…………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์