Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3115

ตอนที่ 3115 นามกระบี่โลหิตน้ำค้าง

ฟ้าดินโกลาหล เสียงมรรคดุจสายฟ้า

หน้าด่านนภาจตุลักษณ์ การตะลุมบอนของเหล่าคนใหญ่คนโตขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ปะทุขึ้นโดยสมบูรณ์ ทำให้ฟ้าดินแห่งนี้ตกอยู่ในความปั่นป่วนขนานใหญ่

ทุกที่มีแต่ศาสตรามรรคที่มีประกายทำลายฟ้าดินฉายวาบ วิชามรรคกับอภินิหารงามจรัสดุจกระแสน้ำคลั่งซัดสาดไปทั้งเก้าชั้นฟ้าสิบแผ่นดิน

เสียงต่อสู้ห้ำหั่นระคนไปกับเสียงปะทะดุเดือดดังขึ้นเป็นระลอก ในศึกนั้นยังมีปรากฏการณ์ประหลาดน่าตื่นตะลึงอุบัติขึ้นมากมาย

ภูผาธาราพังถล่ม สุริยันจันทราพินาศ สรรพสิ่งบนโลกมลายไป!

แต่ละภาพเหล่านั้นน่ากลัวเกินไปแล้ว ทำเอาคนใหญ่คนโตที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ ยังหนาวสะท้านไปทั้งตัว

พวกเจียงหมิงสุ่ยมีถึงสิบเจ็ดคน

ส่วนพวกสิงเจี้ยนสยากับสวินเต้าเยี่ยนและจอมเทพหลิงหลงรวมกันยังมีขั้นไร้ขอบเขตใหญ่เพียงหกคน

แต่พวกเขาหกคนต่างเรียกได้ว่าเป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ชั้นปลายยอด พลังแข็งแกร่งทุกคน แม้ว่าจะเสียเปรียบที่จำนวนคน แต่ก็ไม่ใช่ผู้ที่พวกเจียงหมิงสุ่ยจะเอาชนะได้ในเวลาสั้นๆ

ตูมๆ… โครมๆ…

ยามนี้พวกสิงเจี้ยนสยาต่างเหมือนสู้สุดชีวิต ทุ่มสุดตัว แต่ละคนไม่ยั้งมือสักนิด

แต่พวกเขาต่างรู้ดีว่าถ้าสถานการณ์เช่นนี้ไม่เปลี่ยนไป ทันทีที่การต่อสู้บนลานประลองแพ้ชนะจบลง หลินสวินก็จะตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายที่สุด

แต่หากต้องการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ตรงหน้า กลับแทบมองไม่เห็นความหวัง…

กำลังพลของพวกเจียงหมิงสุ่ยแข็งแกร่งเกินไป!

ทำให้พวกเขาไม่อาจพลิกสถานการณ์

‘อีกเดี๋ยวยามการต่อสู้บนลานประลองแพ้ชนะจบลง ข้ากับเหล่าฟู่จะสกัดคู่ต่อสู้พวกนั้นสุดกำลัง ส่วนเจ้าซานเฟิงกับเซียวเหอไปช่วยหลินสวินด้วยกัน พาเขาออกจากโลกบัวชะตาแห่งนี้ด้วยพลังทั้งหมด ไม่ว่าอย่างไรก็จะปล่อยให้เขาตายที่นี่ไม่ได้!’

สิงเจี้ยนสยาเลือดขึ้นตา ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด

‘ถึงตอนนั้นให้ข้ากับเซียวเหอมาต้านศัตรูดีกว่า พวกเจ้าพาสหายน้อยหลินออกไปด้วยกันเถอะ เอาตามนี้แล้วกัน ข้าจะไม่ฟังคำทัดทานของเจ้าสิงเจี้ยนสยาอีก!’

เสียงจอมมรรคซานเฟิงสงบนิ่ง ดวงตามีแต่แววคลุ้มคลั่ง

‘เจ้า…’

สิงเจี้ยนสยาใจสั่นสะท้าน

สักพักเขาถึงหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เอ่ยว่า ‘ได้ ถ้าพวกเจ้าประสบเคราะห์ ข้าสิงเจี้ยนสยาขอสาบานว่าภายหน้าจะต้องแก้แค้นให้พวกเจ้าด้วยชีวิต!!’

ศึกโกลาหลนี้ยิ่งดุเดือดขึ้นแล้ว

ส่วนในลานประลองแพ้ชนะ หลินสวินก็เดือดดาลเช่นกัน ดวงตาวาวโรจน์ สีหน้าเย็นชาน่ากลัว

เขาเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกลานทั้งหมด จะไม่รู้ได้อย่างไรว่าพวกสิงเจี้ยนสยากำลังสู้สุดชีวิตกับศัตรูเพื่อปกป้องตน

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

“ฆ่า!”

หลินสวินในตอนนี้คล้ายคลุ้มคลั่ง สารกาย พลังชีวิตและจิตวิญญาณทั้งร่างลุกโชนเดือดพล่าน ร่างต้นกับห้ากายมรรคของเขาพุ่งกระโจนออกไปโดยไม่สนใจสิ่งใดสักนิด

นี่ทำให้ชิงเฟยหงกดดันเป็นอย่างยิ่ง สีหน้าก็ยิ่งเคร่งเครียด

เขารู้ดีเช่นกันว่ากุญแจสำคัญของการต่อสู้นี้อยู่ที่เขากับหลินสวิน ต้องรีบสู้รีบตัดสินถึงจะเป็นโอกาสให้พวกอิงเทียนเซิงสังหารหลินสวิน

ทำให้เขาสู้สุดตัวอย่างไม่ออมมือด้วยเช่นกัน

ไม่ทันไรชิงเฟยหงกับหลินสวินต่างได้รับบาดเจ็บ เลือดสดๆ หลั่งริน

แต่ทั้งสองคล้ายไม่รับรู้ ยังคงปะทะกันอย่างดุเดือด ไม่ว่าใครต่างก็อยากเอาชนะอีกฝ่ายในเวลาอันสั้นที่สุด ถึงขั้นทำให้การต่อสู้นี้เปลี่ยนเป็นโหดร้ายนองเลือดขึ้นมา

ล้วนต่อสู้ชนิดไม่กลัวตาย!

ส่วนการต่อสู้ของพวกสิงเจี้ยนสยากับพวกเจียงหมิงสุ่ยนอกลานประลองก็ยิ่งดุเดือด ในพื้นที่ใกล้เคียงด่านนภาจตุลักษณ์ต่างถูกกระแสทำลายล้างสร้างความเสียหาย

นี่เป็นวันที่ห้าที่โลกบัวชะตาเปิดออก

อีกห้าวันจะถึงเวลาชิงแท่นมรรคบัวชะตา

แต่ ณ ขณะนี้ศึกใหญ่ที่ไม่เคยมีมาก่อนปะทุขึ้นหน้าด่านนภาจตุลักษณ์แห่งนี้แล้ว ประหนึ่งปวงเทพชิงชัยที่นี่ หายากไม่เคยมีมาก่อน

นี่ไม่ว่าใครต่างคิดไม่ถึง

ที่ยิ่งทำให้ใครๆ เหนือคาดก็คือ ผู้ที่ทำให้เฒ่าชราซึ่งมีชีวิตมาไม่รู้กี่ปีเหล่านี้ต่อสู้ห้ำหั่นโดยไม่สนใจสิ่งใด จะเป็นขั้นสรรสร้างคนหนึ่งอย่างหลินสวิน

“ยังดีที่ข้าไม่ได้มาช้าเกินไป”

ทันใดนั้นเสียงหัวเราะลั่นเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นไกลๆ

ครืน!

เงาร่างสีชาดสายหนึ่งโฉบผ่านอากาศมาดุจประกายเพลิง ทะยานเข้ามาในสนามรบ กระบี่ยักษ์ในมือกดข่มห้วงอากาศ ซัดจนสิงเจี้ยนสยากระอักเลือกถอยไปในทันที

การโจมตีอันแข็งกร้าวนั้นทำให้ผู้คนในที่นั้นไม่น้อยหน้าเปลี่ยนสี

เงาร่างสีชาดนั้นหล่อเหลาดุจเด็กหนุ่ม แต่งกายชุดนักพรตสีแดงเพลิง ผิวขาวสะอาด ดวงตาทั้งสองกลับมีแสงเทพสีทองน่าตื่นตะลึงไหวเคลื่อน กลิ่นอายแกร่งกล้าดุร้าย

ลู่จงเยียน!

ยอดคนที่ข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพมาหกครั้งผู้หนึ่ง

ไม่ต้องสงสัย เป้าหมายของเขาเหมือนกับเจียงหมิงสุ่ย มาเพื่อฆ่าหลินสวินเช่นกัน

นี่ทำให้พวกเจียงหมิงสุ่ยตาเปล่งประกาย

เมื่อมองสวินเต้าเยี่ยนกับจอมเทพหลิงหลง แววอึมครึมต่างปรากฏขึ้นที่หว่างคิ้ว

ด้านพวกสิงเจี้ยนสยาโกรธหน้าเขียวหาใดเทียบ

แต่พวกเขาไม่มีใครถอยสักคน!

หรือพูดได้ว่าพวกเขาไม่สนใจความเป็นตายแล้ว จะถอยเพราะมีลู่จงเยียนเพิ่มมาอีกคนได้อย่างไร

‘ถ้าพวกสิงเจี้ยนสยาหนีไปตอนนี้ยังมีโอกาสรอด แต่ถ้าเป็นเช่นนี้ต่อไปตลอด เกรงว่าจะตายที่นี่ด้วยแล้ว…’

เฒ่าดึกดำบรรพ์ที่ดูการต่อสู้อยู่ไกลๆ คนหนึ่งลอบถอนใจอยู่ในใจ

ตัวมีฐานะเป็นคนนอก พวกเขาต่างมองออกว่าเมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป สถานการณ์ของพวกสิงเจี้ยนสยายิ่งอันตราย

ถึงอย่างไรแต่ละคนในสนามรบต่างก็เป็นขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ ศักยภาพอาจต่างกัน แต่ไม่ได้ห่างชั้นกันมากนัก

และพวกสิงเจี้ยนสยาที่เสียเปรียบด้านจำนวนคน ตอนนี้ต่างถูกล้อมเป็นชั้นๆ แล้ว!

“หืม? มีคนมาอีกแล้ว!”

ทันใดนั้นมีคนอุทานขึ้นมา

ก็พบว่าในที่ที่ห่างออกไป เงาร่างกลุ่มหนึ่งเคลื่อนไหวในห้วงอากาศ กำลังทะยานมาทางนี้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์