ตอนที่ 3121 เหตุเหนือคาด
เรื่องเกี่ยวกับผลมรรคแรกกำเนิดหลินสวินเคยได้ยินอิงซานอิงพูดถึง รู้ว่านี่คือศุภโชคสูงสุดอย่างหนึ่งที่ถือกำเนิดในแหล่งสถานอัศจรรย์เท่านั้น
‘ดูท่าก็มีเพียงไปถึงแหล่งสถานอัศจรรย์เท่านั้นจึงจะสามารถไขปริศนาลับของขั้นไร้ขอบเขตได้อย่างแท้จริง’
หลินสวินพึมพำในใจ
กระทั่งหลังงานเลี้ยงจบลงหลินสวินจึงย้อนกลับถ้ำสถิต นั่งขัดสมาธิฝึกปราณ
เขาในตอนนี้เพิ่งแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขตเท่านั้น ยังอยู่ในช่วงต้น ยังมีการฝึกฝนอีกมากมายที่ต้องทำ อย่างเช่นทำให้มรรควิถีมั่นคง หลอมชำระร่างกายและพลังจิต
สิ่งสำคัญกว่าคือขั้นพลังใหม่เอี่ยมย่อมหมายถึงพลังต่อสู้ใหม่ทั้งหมด ต้องรีบทำความคุ้นเคยและควบคุมมันโดยเร็วที่สุด เช่นนี้จึงจะสามารถปล่อยอานุภาพทั้งหมดในการต่อสู้ได้
สิบกว่าปีผ่านไปอีกครั้งอย่างรวดเร็ว
วันนี้ทะเลโชคชะตาเกิดการเปลี่ยนแปลงประหลาด บัวชะตามหามรรคดอกที่หกปรากฏ!
“ในที่สุดก็มาแล้ว…”
สิงเจี้ยนสยาเดินออกจากถ้ำสถิต สายตาเต็มไปด้วยแววตั้งตาคอย
ไม่ไกลนักเงาร่างฟู่หนานหลีก็เดินออกมาเช่นกัน
ครั้งนี้พวกเขาตั้งใจจะพาเพียงหลินสวินไปโลกบัวชะตาด้วยกัน
ส่วนกู่เยวี่ยหมิง ซุ่นไหวเจี่ย เสวี่ยเย่สามคนก็อยู่ดูแลความเรียบร้อยที่ภูเขาเทพถกมรรคกับเหรินฟู่เทียน
เหตุที่เกิดการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้เป็นเพราะศัตรูที่พวกเขาผูกแค้นในโลกบัวชะตาคราวก่อนมากเกินไป
นอกจากยุคพ่อมดและยุคธรรม ยังมียุคมาร รวมถึงพวกที่มองคีรีดวงกมลเป็นศัตรูเหล่านั้นด้วย
ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ หากพาขั้นไร้ขอบเขตเล็กสามคนอย่างพวกกู่เยวี่ยหมิงไปด้วยคงไม่เหมาะ
“สหายน้อยหลิน เตรียมตัวพร้อมหรือไม่”
สิงเจี้ยนสยาสังเกตเห็นเงาร่างหลินสวินทะยานมาแต่ไกล
หลินสวินพยักหน้ายิ้มน้อยๆ
“ดี เช่นนั้นพวกเราออกเดินทางกันเถอะ”
สิงเจี้ยนสยาอดใจรอไม่ไหวแล้ว พุ่งขึ้นฟ้าพร้อมกับฟู่หนานหลีและหลินสวินทันที ทะยานไปทางบัวชะตามหามรรคกลางทะเลโชคชะตา
บนภูเขาเทพถกมรรค เหล่าผู้ฝึกปราณของลัทธิแรกกำเนิดและลัทธิวิญญาณ รวมถึงผู้สืบทอดทั้งกลุ่มของคีรีดวงกมลล้วนมองส่งพวกเขาอย่างเงียบๆ
เหนือทะเลโชคชะตา
เงาร่างน่าสะพรึงจากโลกยุคสมัยอื่นๆ เริ่มปรากฏขึ้นเหมือนที่ผ่านมา รุ้งเทพดุจสายฝน เบียดเสียดแน่นขนัด เรืองรองพร่างตา
“ดู นั่นก็คือหลินสวิน คราวก่อนในโลกบัวชะตา เขานี่แหละที่แจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต สังหารขั้นไร้ขอบเขตใหญ่ไปไม่น้อย”
การปรากฏตัวของหลินสวิน สิงเจี้ยนสยา และฟู่หนานหลีดึงดูดสายตามากมายทันที
โดยเฉพาะหลินสวินยิ่งกลายเป็นจุดรวมสายตาของทุกคน
เรื่องที่เกิดขึ้นในโลกบัวชะตาคราวก่อนสะท้านสะเทือนไร้ใดเปรียบ ทำให้หลินสวินถูกพวกน่าสะพรึงทั้งหมดจำได้ในทันที
เวลานี้ยามเขาปรากฏตัว ใครจะไม่สนใจบ้าง
แน่นอนว่ามีสายตาเจือแววเป็นศัตรูและเยียบเย็นเช่นกัน
อย่างเงาร่างน่าสะพรึงจากยุคธรรมที่มีตู้เฟิงเป็นผู้นำ หรืออย่างกลุ่มคนยุคพ่อมดที่เวิงซิงไห่เป็นผู้นำ…
ขณะเดียวกันหลินสวินก็สังเกตเห็นพวกอิงเทียนเซิง จู๋เทียนจวิน จอมเทพหวงหลงแล้วเช่นกัน
ยามสายตาหลินสวินมองเข้าไป ศัตรูเหล่านี้เผยไอสังหารในแววตาอย่างไม่ปิดบังใดๆ
สำหรับเรื่องนี้หลินสวินเมินเฉยตรงๆ
ครั้งนี้รอเข้าโลกบัวชะตาแล้ว เขาย่อมชำระแค้นกับศัตรูพวกนี้ทั้งหมด!
ไม่นานหลินสวินก็เห็นจอมมรรคซานเฟิงและเซียวเหอสองคน ข้างๆ พวกเขายังมีชายชุดดำที่ผอมแห้งราวไม้ไผ่คนหนึ่ง และชายชราผมเครารุงรัง สภาพมอซอคนหนึ่ง
ฝ่ายแรกคือโม่ไป๋เจ๋อ ฝ่ายหลังคือมู่ฉางอวิ๋น
ซึ่งก็คือ ‘เหล่าไป๋เจ๋อ’ และ ‘เหล่ามู่’ ที่สิงเจี้ยนสยาพูดถึง
เวลานี้ได้พบกันบนทะเลโชคชะตา พวกเขาต่างฝ่ายต่างพยักหน้าส่งสัญญาณให้กันแต่ไกล ไม่ได้เสวนากันมากนัก
จากนั้นหลินสวินก็เห็นจอมเทพหลิงหลงและสวินเต้าเยี่ยน เมื่อพบหน้าต่างล้วนอมยิ้มอย่างรู้กัน
“ไปเถอะ”
พวกสิงเจี้ยนสยาเริ่มเคลื่อนไหว
เวลาเข้าสู่โลกบัวชะตามีเพียงสิบลมหายใจเท่านั้น ไม่ว่าพวกเขาหรือผู้ฝึกปราณคนอื่นๆ ล้วนไม่กล้าชักช้า
กระทั่งสิบลมหายใจให้หลัง
กลีบดอกเก้ากลีบของบัวชะตามหามรรคหุบรวบ ทะเลโชคชะตาที่เดิมพลุ่งพล่านเดือดปะทุก็พลอยคลื่นเงียบลมสงบไปด้วย
“เฒ่าชราที่เข้าร่วมศึกชิงมหามรรคครั้งนี้เยอะกว่าคราวก่อนมาก มีถึงสามร้อยสิบหกคน!”
บนภูเขาเทพถกมรรค เหรินฟู่เทียนอดสะเทือนไหวไม่ได้
“วางใจเถอะ สหายน้อยหลินในตอนนี้ไม่อาจเทียบกับในอดีตได้อีกแล้ว”
กู่เยวี่ยหมิงยิ้มกล่าว
พวกเขาล้วนตั้งตาคอยการเคลื่อนไหวครั้งนี้ของพวกหลินสวินอย่างเต็มเปี่ยม
…
โลกบัวชะตา
วู้ม!
เกิดคลื่นมายาระลอกหนึ่งก่อนเงาร่างหลินสวินปรากฏออกมา
‘ผ่านไปยี่สิบกว่าปี มาที่นี่อีกครั้ง ภูผาธารายังคงเดิม แต่คนกลับเปลี่ยนไป’
หลินสวินกวาดสายตารอบบริเวณ ในใจผุดความรำพึงเสี้ยวหนึ่ง
เขาเอามือไพล่หลัง สาวเท้ามุ่งไปข้างหน้า
ไม่ถึงครึ่งวันเขา สิงเจี้ยนสยา และฟู่หนานหลีรวมกลุ่มกันอย่างราบรื่น
“ข้ากับพวกจอมมรรคซานเฟิงนัดหมายกันไว้แล้ว ครั้งนี้หลังจากมาถึงโลกบัวชะตาให้รวมตัวกันที่หน้าด่านนภาสี่ลักษณ์ พวกเราตรงไปที่นั่นก็พอ”
สิงเจี้ยนสยากล่าว
“ด่านนภาสี่ลักษณ์…”
หลินสวินอึ้งไปน้อยๆ แล้วพยักหน้ายิ้ม แต่กลับลอบกล่าวในใจ ก็ไม่รู้ว่าครั้งนี้จะได้พบกับพวกอิงเทียนเซิงที่ด่านนภาสี่ลักษณ์อีกครั้งหรือไม่
สองชั่วยามให้หลัง
เค้าโครงสูงใหญ่ตั้งตระหง่านของด่านนภาสี่ลักษณ์ปรากฏขึ้นกลางฟ้าดินจากไกลๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์