สรุปเนื้อหา ตอนที่ 3125 บันไดสวรรค์มหามรรค – Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet
บท ตอนที่ 3125 บันไดสวรรค์มหามรรค ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ในหมวดนิยายกำลังภายใน เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Internet อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 3125 บันไดสวรรค์มหามรรค
ลู่จงเยียนแพ้แล้ว
แพ้อย่างน่าอนาถ!
ตั้งแต่ต้นจนจบเพิ่งผ่านไปครู่เดียวเท่านั้น เขาก็ถูกทำลายร่างมรรค พลังจิตบาดเจ็บสาหัสแล้ว!
สำหรับสัตว์ประหลาดเฒ่าในที่นี้ทั้งกลุ่ม นี่เป็นการโจมตีรุนแรงอย่างหนึ่งโดยไม่ต้องสงสัย
ถึงอย่างไรความแข็งแกร่งของลู่จงเยียนก็เรียกได้ว่าอยู่ปลายยอด สามารถเทียบกับอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยได้
แต่ตอนนี้แม้แต่คนระดับเขายังแพ้รวดเร็วขนาดนี้ ใครจะไปท้าสู้หลินสวินอีกก็ไม่อาจไม่ใคร่ครวญถึงผลลัพท์ที่จะตามมาให้ดีสักหน่อยแล้ว
บรรยากาศอึมครึมเป็นอย่างมาก
พวกอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ยสีหน้าเปลี่ยนสลับไปมา ความคิดแตกต่างกันออกไป
และบนด่านนภาปัญจธาตุ พวกสิงเจี้ยนสยาต่างหน้าชื่นตาบาน
ชัยชนะของหลินสวินง่ายดายเกินไปจริงๆ ทำลายราบคาบตลอดทาง กำราบลู่จงเยียนในคราวเดียว!
และนี่ก็หมายความว่าต่อให้อีกฝ่ายคิดอยากผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาสู้ หมายจะทำให้หลินสวินสูญเสียพลัง โอกาสสำเร็จก็มีไม่มาก!
เหล่าผู้ชมการต่อสู้ไกลๆ ต่างก็ใจเต้นระทึกเช่นกัน
เวลานี้ความเข้าใจที่พวกเขามีต่อหลินสวินพุ่งสูงขึ้นอีกครั้ง มองเขาเป็นคนที่สามารถเทียบกับพวกยักษ์ใหญ่อย่างอิงเทียนเซิง เจียงหมิงสุ่ย จักรพรรดิเทพข่งอวี่ได้อย่างแท้จริง!
“ต่อไหม”
เห็นว่าบรรยากาศอึมครึมหลินสวินก็เอ่ยปากเนิบๆ
พวกเจียงหมิงสุ่ยต่างมองหน้ากัน ล้วนเริ่มลังเลบ้างแล้ว
“ให้ข้าแล้วกัน”
ข้างกายจอมเทพหวงหลง ชายรูปร่างผอมแห้งคนหนึ่งเดินออกมา ผิวพรรณเรื่อสีทองอ่อนๆ ผมเครารุงรัง กลิ่นอายขึงขัง
เมื่อเห็นเขาปรากฏตัว คนมากมายต่างโล่งอกไม่น้อย
เจ้าแคว้นเฉิงถู!
สัตว์ประหลาดเฒ่าที่เคยข้ามเคราะห์ดับสิ้นไร้ชีพหกครั้งคนหนึ่ง ทางที่เดินคือวิถีแห่งกายหยาบแจ้งมรรค ลือกันว่ายามเขาแจ้งมรรคขั้นไร้ขอบเขต พลังที่สั่งสมในเลือดหยดหนึ่งล้วนสามารถกดข่มพลังกฎระเบียบของโลกใหญ่แห่งหนึ่งได้ เรียกได้ว่าวิปริตนัก
คนเช่นนี้ลงมือ เพียงแค่พลังกายที่ไม่เสื่อมสลายไม่ดับสูญระดับนั้นก็สามารถครองข้อได้เปรียบมหาศาลในการต่อสู้แล้ว
และเวลานี้สวินเต้าเยี่ยนก็สื่อจิตบอกความเป็นมาของเจ้าแคว้นเฉิงถูให้หลินสวินรู้ ซ้ำยังเอ่ยเตือนด้วย ‘ก่อนหน้านี้นานมาแล้วศิษย์พี่ของเจ้าแคว้นเฉิงถูร่วงหล่นยามชิงชัยกับอาจารย์ของเจ้า นี่ก็คือสาเหตุที่เจ้าแคว้นเฉิงถูชิงชังเจ้าขนาดนี้’
นัยน์ตาหลินสวินเจือแววรับรู้เสี้ยวหนึ่ง
อันที่จริงในหมู่ศัตรูพวกนั้น ส่วนใหญ่หลินสวินล้วนเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก หน้าตาไม่คุ้นเคยอย่างมาก แต่เขาก็พอระบุได้คร่าวๆ คนเหล่านี้น่าจะเป็นศัตรูของคีรีดวงกมลของพวกเขาทั้งสิ้น!
จอมเทพหลิงหลงที่อยู่ข้างกันก็เอ่ยเสียงเบา ‘ปีนั้นอาจารย์เจ้าส่งสหายเข้าแหล่งสถานอัศจรรย์ทั้งหมดในทะเลโชคชะตาแห่งนี้ แต่ก็เพราะเหตุนี้ทำให้เขาล่วงเกินคู่ต่อสู้ไม่น้อยในการชิงชัยมหามรรคแต่ละครั้ง ดังนั้นหลังจากเจ้าปรากฏตัวจึงกลายเป็นเป้าหมายแก้แค้นของพวกเขาทันที’
หลินสวินพยักหน้า
เหตุใดศัตรูที่เคียดแค้นคีรีดวงกมลมีมาก สหายมีน้อย
ง่ายดายมาก เพราะปีนั้นเจ้าแห่งคีรีดวงกมลล้วนส่งสหายเหล่านั้นของเขามุ่งหน้าไปแหล่งสถานอัศจรรย์ ส่วนคนที่เหลืออยู่ โดยมากคือพวกที่แพ้ใต้เงื้อมมือเขา!
และพวกที่พ่ายแพ้ใต้เงื้อมมือเขาเหล่านั้น ตอนนี้ล้วนหันมาจับจ้องผู้สืบทอดของเจ้าแห่งคีรีดวงกมลอย่างตนแล้ว…
เมื่อเข้าใจเรื่องเหล่านี้ สายตาหลินสวินก็เริ่มผิดแผกไปเล็กน้อย
หากในการชิงชัยมหามรรคของยุคนี้ ตนส่งสหายข้างกายไปแหล่งสถานอัศจรรย์ได้ทั้งหมด จะมีผู้พ่ายแพ้มากเท่าไรที่ฝังแค้นตนเพราะเหตุนี้
ไม่รอให้หลินสวินคิดมากความ เจ้าแคว้นเฉิงถูก็ลงสนามแล้ว
…
บนลานประลองแพ้ชนะ
เมื่อพลังกฎระเบียบที่กดทับบนตัวหลินสวินและเจ้าแคว้นเฉิงถูหายไป ศึกตัดสินครั้งนี้ก็ปะทุทันทีเช่นกัน
ตึง!
เจ้าแคว้นเฉิงถูนั่งขัดสมาธิ โบกมือเรียกคทาม่วงสมประสงค์เล่มหนึ่งออกมา เคาะบนพื้นเบาๆ เกิดเสียงก้องสะเทือนดุจลั่นกลองสวรรค์
จากนั้นบันไดหินสีม่วงเป็นชั้นๆ ก็พาดขวางแผ่ขยายออกมาจากใต้ร่างเขา
ทันใดนั้นเงาร่างของเจ้าแคว้นเฉิงถูก็สูงขึ้นไม่หยุด และจำนวนบันไดหินที่เขานั่งอยู่ก็เพิ่มขึ้นไม่ขาดสาย เพียงพริบตาเดียวก็ก่อตัวออกมาถึงเก้าสิบเก้าขั้น!
บันไดหินแต่ละขั้นเสมือนหลอมขึ้นจากหยกเทพ ประทับกฎระเบียบสัญลักษณ์ลึกลับเอาไว้ มีเทพมารขวางอากาศ สุริยันจันทราสูงเด่น มีวัฏจักรไร้ขอบเขต จักรวาลแน่นขนัด มี…
บันไดหินแต่ละขั้นเสมือนหลอมขึ้นจากกฎระเบียบเร้นลับสุดหยั่งเป็นชั้นๆ
ยามเงยมองจากเบื้องล่างของบันไดหิน เหมือนดั่งไกลโพ้นราวกับห่างกันเก้าสิบเก้าชั้นฟ้าอย่างไรอย่างนั้น!
ส่วนเจ้าแคว้นเฉิงถูซึ่งนั่งขัดสมาธิอยู่บนจุดสูงสุดก็ราวกับเทพศักดิ์สิทธิ์เหนือเก้าสิบเก้าชั้นฟ้า ปรายตามองทั่วหล้าในจุดสูงสุด
ภาพนั้นน่าเหลือเชื่อเกินไป ทันทีที่ปรากฏก็ทำเอาทั่วลานต่างหันไปมอง สัตว์ประหลาดเฒ่าไม่น้อยล้วนเผยสีหน้าไหวหวั่นออกมา
บันไดสวรรค์มหามรรค!
นี่คือสิ่งที่สะท้อนมรรควิถีแห่งตนของเจ้าแคว้นเฉิงถู ผสานความรู้ ความมานะอุตสาหะ และพลังของเขา ยามต้านทานกับมันก็เหมือนห่างกันไกลเก้าสิบเก้าชั้นฟ้า คู่ต่อสู้ทั่วไปไม่อาจเฉียดใกล้ได้สักนิด
หากพยายามฝืนบุกเข้าไปก็จะพบกับการระเบิดสังหารของพลังกฎระเบียบที่กระจายทั่วบันไดสวรรค์แต่ละชั้น!
กล่าวได้ว่าบันไดสวรรค์มหามรรคนี้ก็คือยอดอภินิหารที่แข็งแกร่งที่สุดของเจ้าแคว้นเฉิงถู และตอนนี้ก็ถูกเขาโคจรออกมาใช้ทันที
จากจุดนี้จะเห็นว่าเขามองหลินสวินเป็นศัตรูตัวฉกาจเช่นกัน
“ยังดี เจ้าแคว้นเฉิงถูเดิมก็ใช้กายหยาบแจ้งมรรค ยามนี้ใช้บันไดสวรรค์มหามรรคเข้าต่อสู้ หลินสวินย่อมไม่อาจคว้าชัยไปได้ในทันที!”
จอมเทพหวงหลงเอ่ยปากเนิบๆ
สัตว์ประหลาดเฒ่าละแวกนั้นทั้งกลุ่มก็พากันโล่งอกยิ่งขึ้น
ก่อนหน้านี้การพ่ายแพ้น่าอนาถของลู่จงเยียนสร้างแรงโจมตีมหาศาลให้พวกเขา แต่ตอนนี้เมื่อเจ้าแคว้นเฉิงถูลงมือ ก็ทำให้พวกเขาฮึกเหิมขึ้นมาอีกครั้ง
“ยิ่งแก่ก็ยิ่งต่ำช้า!”
และเมื่อเห็นภาพนี้พวกสิงเจี้ยนสยาก็ลอบผรุสวาทไม่ได้ เจ้าแคว้นเฉิงถูทำเช่นนี้ เห็นชัดว่าตั้งใจยื้อหลินสวิน
บนลานประลองแพ้ชนะ หลินสวินเลิกคิ้วน้อยๆ จากนั้นก็หัวเราะกล่าว “เจ้าเฒ่า คิดว่าทำเช่นนี้แล้วจะยื้อได้นานขึ้นหน่อยอย่างนั้นหรือ”
บนบันไดสวรรค์มหามรรค เจ้าแคว้นเฉิงถูมือถือคทาม่วงสมประสงค์ สีหน้าราบเรียบไม่ไหวหวั่น กล่าวว่า “หากสหายน้อยคว้าชัยได้ แค่เข้ามาก็พอ”
เรียบง่ายแผ่วเบา แต่กลับเผยความมั่นใจยิ่งออกมาชัดเจน
หลินสวินพยักหน้า “เช่นนั้นก็ตามที่เจ้าปรารถนา”
ไม่ทันไรบันไดหินขั้นที่สามสิบหกที่เขายืนอยู่ กลับกลายเป็นขั้นแรกไปแล้ว
การเปลี่ยนแปลงแสนพิศวงนี้ทำให้พวกสิงเจี้ยนสยาต่างอึ้งไป มีอย่างนี้ด้วยหรือ
ในฝั่งศัตรูพวกอิงเทียนเซิงล้วนคึกคักขึ้นมา
“บันไดสวรรค์มหามรรค เยี่ยมนัก!”
“เมื่อเป็นเช่นนี้ นอกเสียจากพลังของเจ้าแคว้นเฉิงถูจะถูกผลาญเกลี้ยง หาไม่หลินสวินก็อย่าหวังจะเข้าใกล้เลย!”
…ทุกคนต่างวิพากษ์วิจารณ์ สีหน้าล้วนเผยแววดีใจเสี้ยวหนึ่ง
กลับเห็นว่าเวลานี้จู่ๆ หลินสวินก็ถอยหลังหนึ่งก้าว ออกห่างจากบันไดสวรรค์มหามรรคนั้นแล้วกล่าวว่า “เดิมยังอยากลองดูสักหน่อยว่าบันไดสวรรค์มหามรรคนี่จะซ่อนนัยเร้นลับระดับไหนกันแน่ แต่ตอนนี้ดูท่า ก็แค่วิชาป้องกันที่เหมือนกระดองเต่าอย่างหนึ่งเท่านั้น”
สีหน้าเยือกเย็นคล้ายผิดหวังเล็กน้อย
เจ้าแคว้นเฉิงถูสีหน้าไม่ทุกข์ไม่สุข กล่าวว่า “ตามความเห็นข้า วิชามรรคทั่วหล้านี้ ขอเพียงสามารถยืนอยู่ในจุดที่ไร้พ่ายในการต่อสู้ได้ ก็เป็นอภินิหารแข็งแกร่งที่สุดในโลกแล้ว”
เขาเว้นช่วงไป ปรายตามองหลินสวินที่อยู่ด้านล่างบันไดหินเก้าสิบเก้าขั้น “อย่างน้อยตอนนี้สหายยุทธ์หลินก็ดูเหมือนจะทำอะไรไม่ถูกแล้ว”
หลินสวินเลิกคิ้วเบาๆ ยิ้มออกมา “ในสามหมัด ต้องทำลายกระดองเต่าของเจ้าได้!”
ขณะพูดแขนเสื้อเขาพลิกกระพือ ชูหมัดซัดออกไป
เรียบง่ายแผ่วเบา ไร้รูปไร้สาร ไร้สีไร้ลักษณ์ ไม่มีอานุภาพใดๆ กระเซ็นออกมา
แต่เมื่อหมัดนี้ปล่อยออกไป
ปึง! ปึง! ปึง!
บันไดหินสีม่วงเป็นขั้นๆ นั่นก็แตกระเบิดกระจุยจากจุดเริ่มต้น ลุกลามขึ้นด้านบนตลอดทาง ประดุจประทัดที่ลุกไหม้อย่างไรอย่างนั้น สาดละอองแสงประกายหมอกสีม่วงปั่นป่วน
อานุภาพของหมัดนี้ยังไม่ทันหมดสิ้น หลินสวินก็ปล่อยหมัดที่สองออกมาอีก
ตูม!
หมัดนี้เผด็จการและแข็งแกร่งกว่าก่อนหน้านี้ ส่วนที่เหลือของบันไดสวรรค์มหามรรคทั้งหมดล้วนสั่นโคลงรุนแรง ปรากฏรอยแยกมากมายราวใยแมงมุม
เจ้าแคว้นเฉิงถูที่นั่งขัดสมาธิหน้าเปลี่ยนสีเล็กน้อย พลันสูดหน้าใจลึก กระทุ้งคทาม่วงสมประสงค์ในมือลงพื้นอย่างแรง
ตึง!
พลังกฎระเบียบที่โหมคลั่งปรากฏ ก็เห็นบันไดหินสีม่วงที่ถูกทำลายพังยับเยินเริ่มก่อตัวแผ่ออกไปอีกครั้ง เสมือนฟื้นคืนชีพจากความตาย
และเวลานี้หลินสวินปล่อยหมัดที่สามแล้ว
หมัดนี้ราวความไร้รูปแห่งแรกกำเนิด ดุจไร้ขอบเขตแห่งหุบเหว ดั่งไร้นามแห่งมหามรรค!
หมัดนี้ผสานด้วยอานุภาพแห่งนัยเร้นลับนิพพาน
และยามเมื่อหมัดนี้ซัดออกไป
ตูม!
พลังกฎระเบียบที่ปกคลุมบนบันไดหินสีม่วงเก้าสิบเก้าขั้นล้วนถูกกดทับพังทลาย แหลกกระจุยราบคาบ และบันไดสวรรค์มหามรรคที่เรียกได้ว่าเป็นยอดอภินิหารแข็งแกร่งที่สุดของเจ้าแคว้นเฉิงถูก็ระเบิดแหลกกระจุยตามไปในพริบตาด้วย
ล้วนเพราะถูกหมัดเดียวซัดกระจุย!
…………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์