ตอนที่ 3162 มรรคจริงเท็จไร้รูป
ห้วงอากาศเหนือท่าเรือใบเฟิง เสียงจักจั่นร้องดังระงม
ไกลออกไปเหล่าผู้ชมการต่อสู้ล้วนใจเต้นระทึก สีหน้าเลื่อนลอย ทุกความคิดถูกโจมตี ราวตกสู่ความฝันอันแปลกพิกล
ความจริงของฝันอันหาที่เปรียบไม่ได้ ทำให้พวกเขาแต่ละคนรู้สึกราวกับได้ย้อนเวลากลับไปในยุคเริ่มแรกที่แสวงมรรค ความสุขทุกข์ระคนเศร้า และความขมขื่นที่บรรยายไม่หมดสารพัด…
และสภาวะจิตของหลินสวินก็เหมือนเกลียวคลื่นเป็นระลอกๆ แต่ไม่นานก็กลับสู่ความสงบดังเดิม
ยามมองไปอีกครา ชายหนุ่มชุดผ้าป่านเปลือยเท้า หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งยืนใต้เมฆมงคลกลางอากาศ แววตาอบอุ่นใสกระจ่าง ไม่มีอานุภาพใดๆ แม้เพียงเศษเสี้ยว
จู่ๆ เขาระบายยิ้ม ยื่นมือออกมาชี้แล้วกรีดวาดกลางห้วงอากาศ
ตูม!
ฟ้าดินแยกแตก สรรพสิ่งเปลี่ยนกะทันหัน
หลินสวินค้นพบโดยพลันว่าตนปรากฏตัวบนถนนขาดสายหนึ่ง เดินไปข้าวหน้าหนึ่งก้าวเป็นเหวลึก ถอยหลังหนึ่งก้าวเป็นความมืดมิดไร้สิ้นสุด
นอกจากนี้ไม่มีสิ่งอื่นใดอีก
และมรรควิถีในตัวเขากลับเหมือนอันตรธานหายไปทั้งหมด!
นัยน์ตาหลินสวินหดรัด
“เหวลึกและความมืดมิด หนึ่งเท็จหนึ่งจริง หนึ่งเป็นหนึ่งตาย สิ่งใดคือมายา สิ่งใดคือจริง ให้ตัวท่านเป็นผู้เลือกเอง”
เสียงอบอุ่นและเยือกเย็นสายหนึ่งดังขึ้น
หลินสวินนิ่งเงียบไป
เท็จจริงเกิดพร้อมกัน เป็นตายคงอยู่คู่กัน นี่ก็คือมรรคาที่ผู้อาวุโสจักจั่นทองครอบครองหรือ
เขาเงยหน้าจับจ้องเหวลึก หุบเหวลึกล้ำคล้ายสามารถสูดกลืนวิญญาณคนได้
เปรี๊ยะ! เปรี๊ยะ!
จู่ๆ ถนนขาดใต้เท้าปรากฏรอยแยกเล็กละเอียดเป็นสายๆ แผ่ขยายไม่หยุดดุจดั่งใยแมงมุม หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าถนนขาดนี้ต้องพังทลายโดยสมบูรณ์แน่แท้
ถึงตอนนั้นเป็นต้องตกสู่ด้านล่างของเหวลึก
และพยับหมอกสีดำด้านหลังก็กำลังคืบคลาน บีบเข้ามาทีละนิด
รุกถอยล้วนลำบาก!
สิ่งสำคัญที่สุดคือมรรควิถีในตัวหลินสวินล้วนปลดปล่อยไม่ออก เสมือนได้แต่ต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ไม่เดินหน้าก้าวสู่เหวลึก ก็ถูกหมอกดำบนถนนข้างหลังกลืนกิน
ภายในนี้มีจริงมีเท็จ มีเกิดมีตาย!
สถานการณ์อันตรายหาใดเปรียบ
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่นจะต้องคิดว่ามีเพียงมองให้ออกว่าเหวลึกและหมอกดำอย่างไหนคือมายา อย่างไหนคือความจริงจึงจะสามารถสลายอันตรายครั้งนี้ไปได้เป็นแน่
ถึงขั้นที่อาจมั่นใจว่านี่คือการประชันมหามรรคไร้รูปฉากหนึ่ง
หากมองไม่ทะลุเท็จและจริง แยกความเป็นความตายไม่ออกก็จะพ่ายแพ้
มีอยู่แวบหนึ่งหลินสวินก็เกือบคิดเช่นนี้เหมือนกัน
แต่ยามเมื่อเขาตั้งใจจะตัดสินใจกลับหยุดชะงักไปกะทันหัน หลังจากสีหน้าเปลี่ยนไปมาระลอกหนึ่ง จู่ๆ ก็ยิ้มออกมา
เหวลึกและหมอกดำอะไร จริงเท็จ เกิดตายอะไร นี่ก็คืออุปสรรคทางจิตอย่างหนึ่ง หากติดกับดักลึก ไม่ว่าจะเลือกอย่างไรล้วนมีแต่พ่ายแพ้!
ก็เหมือนวัวที่ถูกจูงจมูก ควรพยายามดิ้นรนให้หลุดพ้น จะเดินตามอีกฝ่ายได้อย่างไร
ส่วนมรรควิถีในตัวที่ล้วนสัมผัสไม่ได้…
นี่ต่างหากคือมายาอย่างแท้จริง!
ปึง!
จู่ๆ ถนนขาดใต้เท้าก็ขาดออกจากกัน และหมอกดำข้างหลังก็ปิดครอบมาเยือนแล้ว
หลินสวินตะโกนในใจคราหนึ่ง ‘เปิด!’
ตูม!
การเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่งเป็นภาพลวงตา หมอกดำและเหวลึกหายไปราวฟองอากาศ
เมื่อครรลองสายตาของหลินสวินกลับสู่ปกติ นิ้วมือนิ้วหนึ่งดุจดั่งปราณกระบี่ที่มาเยือนเงียบๆ อยู่ใกล้แค่คืบ!
นิ้วมือนี้มาจากจักจั่นทอง
ทว่ากลับถูกหนึ่งฝ่ามือของหลินสวินต้านไว้ได้ยามคับขัน
ปึง!
พลังดรรชนีและพลังฝ่ามือกระแทกกัน เกิดเสียงดังอึงอลสะเทือนฟ้าดิน ละอองแสงสาดกระเซ็น
หลินสวินยังอดตกใจเหงื่อโซมตัวไม่ได้
ก่อนหน้านี้หากตนได้สติช้ากว่านี้อีกนิดเดียว เกรงว่าคงประสบเคราะห์ในการต่อสู้นี้ไปแล้ว!
เมื่อลองคิดถึงภาพทั้งหมดเมื่อครู่ก็น่ากลัวยิ่งจริงๆ
เขาจมสู่แดนมายาสภาวะจิตโดยไม่รู้ตัว และ ‘ยึดติดภายนอก’ อย่างที่เรียกกันแล้ว ส่งผลให้ตกสู่กลางเคราะห์สังหารของเหวลึกและหมอกดำ
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นภาพลวงตาหรือ
ใช่และไม่ใช่
เพราะไม่ว่าจะเป็นเท็จหรือจริงล้วนเป็นเคราะห์สังหาร!
และเคราะห์สังหารนี้มาพร้อมกับหนึ่งนิ้วของจักจั่นทอง
กล่าวอีกอย่างคือเป็นเพราะจักจั่นทองลงมือกะทันหัน พลังมหามรรคที่บรรจุอยู่ในพลังดรรชนีของเขาส่งผลกระทบต่อสภาวะจิตของหลินสวินอย่างเงียบๆ ก่อนหน้านี้!
จากจุดนี้แค่คิดก็รู้ว่าวิชามรรคของจักจั่นทองน่าสะพรึงปานใด
เท็จจริงเกิดพร้อมกัน เป็นตายคงอยู่คู่กัน แปรเคราะห์สังหารอยู่ระหว่างมีรูปและไร้รูป!
ในละอองแสงสาดกระเซ็น เงาร่างของจักจั่นทองกลับหายลับไปดุจฟองอากาศ หาไม่เจออีกต่อไป
หน้าท่าเรือ คนธรรมดามากมายยังคงรอคอยเช่นเดิม พวกผู้ฝึกปราณไกลออกไปเหล่านั้นสีหน้ายังคงงุนงง ใต้เวิ้งฟ้านั่น เหนือเมฆมงคลก้อนหนึ่ง นอกจากขาดจักจั่นทองที่ฟุบบนนั้นไปหนึ่งตัว ก็ดูเหมือนไม่แตกต่างจากทุกสิ่งก่อนหน้านี้
แต่หลินสวินกลับตระหนักอย่างฉับไวถึงความไม่เข้าทีอยู่บ้าง
ยังไม่ทันเอาชนะวิชามรรคของจักจั่นทอง แต่อีกฝ่ายกลับเหมือนหายสาบสูญไปจากฟ้าดินแถบนี้ สัมผัสร่องรอยไม่ได้อีกแม้เพียงเสี้ยว
‘ผู้ไร้รูปย่อมไร้กาย เบื้องหน้าเป็นจริง และจักจั่นทองเป็นเท็จ…’
หลินสวินเลิกคิ้ว นี่ไม่ใช่วิชาเก็บกลิ่นอายเร้นกาย แต่เป็นความสามารถมหามรรคชั้นยอดอย่างหนึ่ง อย่าว่าแต่กายเนื้อ แม้แต่จิตรับรู้ก็สัมผัสไม่ได้
เวลาเคลื่อนคล้อยทีละนิด จักจั่นทองไม่ปรากฏตัวตลอด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์