Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3165

สรุปบท ตอนที่ 3165 หนึ่งก้าวสู่ประตูสวรรค์: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 3165 หนึ่งก้าวสู่ประตูสวรรค์ จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 3165 หนึ่งก้าวสู่ประตูสวรรค์ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 3165 หนึ่งก้าวสู่ประตูสวรรค์

บนเวิ้งฟ้า

เมื่อหลินสวินปลดปล่อยมรรควิถีในตัวทั้งหมด พลังต้นกำเนิดลึกลับสายหนึ่งไหลหลั่ง เสมือนละอองแสงเจิดจรัสอาบชโลมเงาร่างหลินสวินไว้ภายใน

ทันใดนั้นหลินสวินพลันรู้สึกได้ว่านี่คือผลมรรคแรกกำเนิด!

ผลมรรคแรกกำเนิดที่เรียกกันก็คือกฎระเบียบแรกกำเนิดฟ้าประทานที่อุบัติในแหล่งสถานอัศจรรย์แห่งนี้ วิเศษไม่อาจบรรยาย ยิ่งหลอมมากเท่าไร มรรควิถีในขั้นไร้ขอบเขตก็ยิ่งแข็งแกร่ง และยิ่งมีโอกาสก้าวข้ามหลุดพ้นในขั้นนี้มากเท่านั้น

เพียงแต่ไม่นานหลินสวินก็ตระหนักได้ว่าผลมรรคแรกกำเนิดนี้ของตนต่างออกไปอยู่บ้าง

เพราะในผลมรรคแรกกำเนิดนี้ไม่ได้บรรจุกฎระเบียบแรกกำเนิดฟ้าประทาน หากแต่เป็นพลังบ่อเกิดแรกกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์อย่างแท้จริง!

เหตุใดผลมรรคแรกกำเนิดจึงถูกเรียกว่า ‘ผลมรรค’

สาเหตุก็เพราะกฎระเบียบฟ้าประทานระดับนี้ถือกำเนิดในบ่อเกิดแรกกำเนิด ดุจดั่ง ‘พืชผล’ ที่ผลิตออกมา

แต่ตอนนี้ที่หลินสวินดูดซับได้กลับไม่ใช่พืชผล หากแต่เป็นพลังต้นกำเนิดที่ให้กำเนิดพืชผล!

เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้ก็ประหนึ่งหินสะเทือนฟ้า ทำให้สภาวะจิตหลินสวินยังสั่นสะท้าน

‘บ่อเกิดแรกกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์สามารถก่อเกิดเป็นผลมรรคแรกกำเนิดได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับสรรสร้างมหามรรคสายหนึ่งออกมา และบัดนี้ข้าสามารถหลอมบ่อเกิดแรกกำเนิดเช่นนี้ได้ จะไม่เท่ากับว่าขอเพียงหลอมนัยเร้นลับของมัน ข้าก็จะสามารถสรรสร้าง ‘ผลมรรคแรกกำเนิด’ เช่นนี้ออกมาได้หรือ’

เมื่อคิดถึงตรงนี้หลินสวินล้วนไม่อาจสงบใจแล้ว

ก่อนหน้านี้ไม่นานเขาก็เคยใคร่ครวญมรรคาสรรสร้างจากความไม่มีมาก่อน คิดว่าขอเพียงไปเสาะหาพลังต้นกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์ บางทีก็อาจค้นพบคำตอบและพิสูจน์ว่ามรรคาเช่นนี้ใช้การได้หรือไม่

และตอนนี้พลังบ่อเกิดแรกกำเนิดที่เขาชักนำมา เป็นไปได้สูงยิ่งว่าพิสูจน์จุดนี้แล้ว!

หลินสวินสูดหายใจลึกคราหนึ่ง สภาพจิตใจสงบลงมา

เขานั่งขัดสมาธิ เริ่มสงบจิตหยั่งรู้พลังบ่อเกิดแรกกำเนิดที่ไหลมาไม่ขาดสาย ความรู้สึกเร้นลับที่บอกไม่ถูกสารพัดทะลุกสู่กลางใจ

การหยั่งรู้เหล่านั้นล้วนเชื่อมโยงไปถึงนัยเร้นลับต้นกำเนิดของกฎระเบียบแรกกำเนิด คลุมเครือไร้ใดเปรียบ ด้วยความสามารถการหยั่งรู้ในปัจจุบันของหลินสวิน แม้จะสามารถหยั่งรู้ได้ แต่ก็ต้องใช้เวลาเล็กน้อยเพื่อมองให้ทะลุปรุโปร่ง

จนกระทั่งหนึ่งก้านธูปให้หลัง

บ่อเกิดแรกกำเนิดสายนี้จึงถูกหลินสวินหลอมอย่างหมดจด

ยามหลินสวินตื่นจากการนั่งสมาธิ มรรควิถีในตัวเขาก็เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดแล้ว

มรรคาของเขายึดนัยเร้นลับนิพพานเป็นหัวใจหลัก หลอมหมื่นมรรคในหนึ่งเตา บรรลุพลังแห่งหมื่นมรรครวมเป็นหนึ่ง หนึ่งวิวัฒน์หมื่นมรรคนานแล้ว

และตอนนี้เมื่อหลอมบ่อเกิดแรกกำเนิดสายนี้ ทำให้นัยเร้นลับนิพพานของเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงใหม่เอี่ยมอย่างหนึ่ง และการเปลี่ยนแปลงของนัยเร้นลับนิพพานก็ทำให้มรรคาในตัวเขาเกิดการเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย…

แม้แต่ตัวหลินสวินเองยังคิดไม่ถึงว่าหลังผ่านการต่อสู้มหามรรคมากมายในโลกแปรปุถุชน วาสนาที่ดึงดูดมาในตอนสุดท้ายจะถึงกับยิ่งใหญ่เช่นนี้!

เทียบกับเมื่อก่อน เขาสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าแม้มรรควิถีของตนจะถือว่าอยู่เพียงขั้นไร้ขอบเขตขั้นปลาย แต่มรรคาที่ตนครอบครองกลับมีรากฐานพลังที่เหนือกว่าจอมมรรคไร้ขอบเขตแล้ว!

ควรรู้ว่าจอมมรรคไร้ขอบเขตเป็นพวกที่อยู่ใกล้ขั้นไร้ขอบเขตสัมบูรณ์มากที่สุดแล้ว และหลินสวินในตอนนี้สามารถมีรากฐานพลังเช่นนี้ได้ แค่คิดก็รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงที่วาสนาครั้งนี้นำมาให้เขายิ่งใหญ่ปานใด

อีกทั้งก็เป็นเวลานี้เช่นกันที่หลินสวินกล้ามั่นใจในที่สุด ว่าพลัง ‘รังสรรค์มรรค’ มีอยู่จริง และซุกซ่อนอยู่ในพลังต้นกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์แห่งนี้!

‘ในปีนั้นไท่ชู เฉินซีและมือกระบี่คนนั้นเกรงว่าจะไขจุดนี้ได้แล้วเช่นกัน และด้วยมรรควิถีในตอนนี้ของข้า หากพบเจอใครก็ตามในพวกเขาเกรงว่าคงไม่มีคุณสมบัติไปต่อสู้สักนิด…’

‘แต่ไม่รีบร้อน นี่เป็นเพียงโลกแปรปุถุชนเท่านั้น ถัดจากนี้ยังมีโอกาสไปช่วงชิงพลังบ่อเกิดแรกกำเนิดที่มากขึ้นอีก!’

หลินสวินใคร่ครวญพักหนึ่งก่อนหยัดตัวลุกขึ้น กวาดสายตามองใต้ฟ้า ในใจปรากฏทิวทัศน์ของสถานที่ต่างทั้งโลกแปรปุถุชน

หลังจากหลอมบ่อเกิดแรกกำเนิดนั่นแล้วก็ทำให้หลินสวินเหมือนร่างอวตารของโลกแปรปุถุชนแห่งนี้ไปโดยปริยาย สามารถรับรู้การเคลื่อนไหวทั้งหมดของโลกนี้ได้อย่างง่ายดาย

‘ผู้อาวุโสทุกท่าน ข้าคนแซ่หลินล่วงหน้าไปก่อนหนึ่งก้าว วันหน้ายามพบกันใหม่จะต้องเชิญทุกท่านดื่มสุราด้วยกันแน่นอน’

หลินสวินเอ่ยปากในใจ

ขณะเดียวกันในใจสัตว์ประหลาดเฒ่าที่กระจายอยู่ในโลกแปรปุถุชนอย่างสิงเจี้ยนสยา ฟู่หนานหลี เหรินฟู่เทียนล้วนมีเสียงของหลินสวินดังขึ้น

พวกเขาล้วนตกใจ จากนั้นหันไปประสานหมัดคารวะบนเวิ้งฟ้าอย่างอดไม่ได้ รำพึงในใจ ‘สหายน้อยดูแลตัวเองด้วย!’

เหนือเวิ้งฟ้าหลินสวินระบายยิ้ม ย่างเท้าก้าวออกมา ทันใดนั้นประตูบานหนึ่งปรากฏขึ้นเบื้องหน้า ยามหลินสวินก้าวเข้าไปเงาร่างเขาก็เลือนหายไปทันที

และพื้นที่ว่างเปล่าบนเวิ้งฟ้านี้ก็หลงเหลือรูปจำลองวิชามรรคของหลินสวินไว้…

สวมอาภรณ์ขาวพระจันทร์ทั้งชุด เงาร่างสูงโปร่ง เงามายาสามโบราณสถานอย่างแหล่งน้ำศักดิ์สิทธิ์ แหล่งสถานคุนหลุน แหล่งสถานศุภโชคอารักขาใต้เท้าเขา ส่วนเหนือศีรษะเขากลับมีภาพมรรครูปดอกบัวอันเป็นตัวแทนนิพพานดอกหนึ่งเวียนวน ปรากฏนัยเร้นลับมหามรรคชั้นเลิศทั้งปวง

ท่ามกลางความเลือนราง ยังมีเงามายาคลุมเครือสายหนึ่งอยู่เคียงกับสามโบราณสถานที่เหลือ แผ่กลิ่นอายต้นกำเนิดของแหล่งสถานอัศจรรย์ออกมา

เพียงแต่เลือนรางเกินไป ทำให้พร่าเลือนสุดขีดอย่างเห็นได้ชัด

“ในโลกชั้นที่สอง ‘โลกภัยพิบัติ’ ไม่มีโอกาสให้ลงมือใดๆ หากคิดจัดการเขาก็ต้องลงมือที่ ‘โลกมืดมน’ โลกชั้นที่สาม”

จอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีพายัพเพ่ยถูเอ่ยปากเสียงขรึม

ขณะพูดเขาทอดสายตามองทางจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีอาคเนย์ขู่เหอ “ขู่เหอ ในโลกมืดมนแห่งนี้ ผู้แข็งแกร่งใต้ปกครองภาคีอาคเนย์ของเจ้ามากมาย และในโลกมืดมนพยับหมอกหนาทึบ ตัดขาดการสัมผัสด้วยจิตรับรู้ทั้งหมด ขอเพียงหลินสวินนั่นเข้าไปก็ไม่ต่างอะไรกับคนตาบอด ถึงตอนนั้นบริวารภาคีอาคเนย์เหล่านั้นของเจ้าก็เคลื่อนไหวได้แล้ว”

ขู่เหอพยักหน้าน้อยๆ “ต้องโจมตีเต็มกำลัง”

ขู่เหอเว้นช่วงไปก่อนกวาดสายตามองจอมมรรคชะตาสวรรค์คนอื่นๆ แล้วเอ่ยว่า “ขุมอำนาจใต้อาณัติทุกท่านกระจายอยู่ระหว่างโลกชั้นที่สี่ถึงโลกชั้นที่แปด หากเจ้าหลินสวินนี่มีโอกาสรอดชีวิตเข้าไปในนั้น ทุกท่านห้ามรีรอใดๆ เด็ดขาด”

จอมมรรคชะตาสวรรค์บางส่วนนัยน์ตาวาววับ ล้วนพยักหน้าน้อยๆ

แต่ก็มีคนขมวดคิ้วกล่าว “ครานั้นยามคุณหนูบอกข่าวเกี่ยวกับหลินสวินให้พวกเราฟัง ก็ไม่ได้บอกให้พวกเราไปขัดขวางและสังหารเจ้าหมอนี่ พวกเราทำเช่นนี้ออกจะทำเกินหน้าที่ไปหน่อยหรือไม่”

ผู้พูดคือจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีบูรพา ‘เทียนซู’

“ตอนนั้นคุณหนูเคยบอกว่าเจ้าหลินสวินนี่เป็นตัวแปรหนึ่ง เจ้าลัทธิก็สนใจเขามากเป็นพิเศษเช่นกัน นี่เป็นการบอกพวกเราว่าควรทำอย่างไรแล้ว!”

ชิงหยางจื่อกล่าวเย็นชา “เทียนซู อย่าลืมสิว่าคราแรกสุดใครเป็นคนให้ศุภโชคแก่พวกเรา พาพวกเรามาฝึกปราณที่แหล่งสถานอัศจรรย์แห่งนี้ และอย่าลืมว่าหากไม่มีเจ้าลัทธิ ป่านนี้เจ้าเทียนซูคงร่วงหล่นในทะเลโชคชะตาเมื่อหลายสิบยุคสมัยก่อนแล้ว!”

เทียนซูหน้าเปลี่ยนสีน้อยๆ กล่าวว่า “ข้าย่อมไม่มีทางขัดความต้องการของเจ้าลัทธิแน่ แต่สิ่งสำคัญคือตอนนี้เจ้าลัทธิถูกขัง คุณหนูก็ถูกรั้งไว้ข้างตัวเจ้าลัทธิ ไม่มีคำสั่งใดๆ ถ่ายทอดออกมาสักนิด พวกเราถือวิสาสะเคลื่อนไหวกันเอง ถ้าเผื่อ…”

กล่าวถึงตรงนี้จู่ๆ เทียนซูก็ตระหนักได้ ว่าสายตาที่คนไม่น้อยมองมาล้วนเจือแววเย็นชาและไม่พอใจ จึงพลันยิ้มขื่นกล่าวว่า “ช่างเถิด ข้ารับปากพวกเจ้าว่าจะเคลื่อนไหวด้วยกันก็แล้วกัน”

เพ่ยถูกล่าวเสียงเบา “ศัตรูตัวฉกาจอยู่เบื้องหน้าย่อมต้องร่วมแรงร่วมใจกัน เทียนซู ตอนนี้พวกเราล้วนอยู่ในแดนเทพมากเร้น ไม่อาจมุ่งหน้าไปแดนเทพสรรพวิญญาณนั่นด้วยตัวเอง เมื่อเป็นเช่นนี้ต่อให้เกิดเหตุเหนือคาดบางอย่างก็ไม่กระทบต่อพวกเราเก้าคน ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ไปหยั่งเชิงความสามารถของหลินสวินนั่นด้วยกำลังพลใต้ปกครองของพวกเราเก้าภาคี มีตรงไหนไม่ได้กันเล่า”

เขาเว้นช่วงไปก่อนยิ้มเย็นกล่าว “ยิ่งกว่านั้นเหตุใดเจ้าลัทธิต้องก่อตั้งเก้าภาคีไท่ชู จุดประสงค์ของเขาไม่ใช่เพื่อให้พวกเรารับใช้และทำงานเพื่อเขาหรือ หากเจ้าไม่เคลื่อนไหว เช่นนั้นก็เป็นการไม่เคารพเจ้าลัทธิอย่างที่สุด! อย่าว่าแต่เจ้าลัทธิ บรรพจารย์วานรและคุณหนูล้วนจะไม่ไว้ชีวิตเจ้าเป็นคนแรก!”

เทียนซูหน้าเปลี่ยนสีอีกครั้ง สูดหายใจลึกคราหนึ่งแล้วกล่าว “ข้าเข้าใจว่าควรทำอย่างไร ย่อมไม่มีทางเป็นตัวถ่วงทุกท่านแน่”

พวกเพ่ยถู ชิงหยางจื่อ ขู่เหอมองหน้าสบตากันปราดหนึ่ง ล้วนพยักหน้าน้อยๆ

พวกเขาต่างไม่ได้สังเกตว่าขณะที่พวกเขากำลังถกเรื่องนี้ นอกโถงใหญ่นั่นมีวานรเฒ่าที่สะพายกระบี่คู่อยู่

นิ่งเงียบไม่เอ่ยวาจาตลอด

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์