ตอนที่ 3190 กำหนดมรรคและแปรมรรค
แดนเทพมากเร้น
ในคฤหาสน์แห่งหนึ่ง สีหน้าของเว่ยอวิ้นจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีอุดรมืดมน เอ่ยว่า “พวกจอมมรรควั่นจิ้ง…ก็ล้มเหลวแล้ว…”
สีหน้าของจอมมรรคชะตาสวรรค์คนอื่นๆ เผยความอึมครึมอย่างกลั้นไม่อยู่
ตั้งแต่เข้าสู่แหล่งสถานอัศจรรย์ถึงตอนนี้รวมแล้วไม่ถึงปีครึ่งเท่านั้น หลินสวินทะลวงผ่านโลกแปรปุถุชน โลกภัยพิบัติ โลกมืดมน โลกย้อนอดีต โลกเหง้าเลวร้ายและโลกพันเคราะห์ไม่หยุด!
ความเร็วของการบุกทะลวงเรียกได้ว่าน่าตกตะลึง
ถึงอย่างไรในโลกแต่ละชั้นล้วนมีผู้ฝึกปราณมากมายถูกขัง บางคนถูกขังมานานหลายแสนปีแล้ว
แต่หลินสวินกลับสามารถบุกฝ่าตลอดทางจากโลกแปรปุถุชนมาถึงโลกชั้นที่เจ็ดอย่างโลกกำหนดมรรคภายในเวลาหนึ่งปีครึ่ง ความเร็วนี้เรียกได้ว่าน่ากลัว
หวนคิดถึงตอนแรก ยามจอมมรรคชะตาสวรรค์อย่างพวกเขาไปบุกผ่านโลกชั้นของแดนเทพสรรพวิญญาณ อย่างน้อยก็ใช้เวลาเป็นพันปี!
เทียบกันเช่นนี้ ความเร็วในการบุกทะลวงของหลินสวินช่างน่าตกใจจริงๆ
“เขาไปถึงโลกชั้นที่เจ็ดแล้ว… เป็นเช่นนี้ต่อไปอีกไม่นานต้องไปถึงโลกชั้นที่เก้า โลกโลกาสวรรค์แน่ แม้กำลังพลแกนหลักที่อยู่ใต้อาณัติเก้าภาคีของพวกเราจะอยู่ในโลกโลกาสวรรค์ แต่ยามหลินสวินไปถึงที่นั่น มรรควิถีของเขาจะแปรสภาพจนแข็งแกร่งขั้นไหนแล้ว”
ชิงหยางจื่อจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีหรดีถอนหายใจยาว
เวลานี้เขารู้สึกเหมือนมือไม้ถูกพันธนาการ
“ข้ากล้ามั่นใจว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินในตอนนี้ไม่ด้อยกว่าจอมมรรคไร้ขอบเขตอย่างแน่นอน ถึงขั้นเหนือกว่าด้วยซ้ำ! ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ ถ้าพวกทูตชะตาสวรรค์ที่อยู่ใต้อาณัติพวกเราไปเล่นงานเขาก็ไม่ต่างอะไรกับรนหาที่ตาย!”
ขู่เหอจอมมรรคชะตาสวรรค์แห่งภาคีอาคเนย์พูดเสียงขรึม
บรรยากาศยิ่งเปลี่ยนเป็นกดดัน สภาวะจิตของจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคนยิ่งหนักอึ้ง
ใครก็คิดไม่ถึงว่าการเดินทางผ่านโลกแต่ละชั้นของหลินสวินจะเร็วขนาดนี้ ยิ่งไม่มีใครคิดว่ามรรควิถีในขั้นไร้ขอบเขตของเขาแข็งแกร่งถึงขั้นนี้
จะทำอย่างไร
ทุกคนสีหน้าอึมครึมไม่สามารถสงบได้
ครู่ใหญ่เพ่ยถูจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีพายัพถึงเอ่ยทอดถอนใจ “ตอนนี้หากคุณหนูอยู่คงดี”
อีกาดำถูกรั้งไว้ข้างกายเจ้าลัทธิ จนตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว นี่ทำให้ยามจอมมรรคชะตาสวรรค์อย่างพวกเขาลงมือกระทำการใด ล้วนเหมือนสูญเสียแกนสำคัญไป
จู่ๆ เงาร่างสูงใหญ่ยิ่งพลันปรากฏหน้าประตูคฤหาสน์
เป็นวานรเฒ่าตัวหนึ่งสะพายกระบี่คู่ สวมชุดเทาหม่น ด้วยความที่ร่างสูงใหญ่เกินไป ยามยืนอยู่ตรงนั้นจึงชักนำความรู้สึกกดข่มยิ่งใหญ่มาให้
บรรพจารย์วานร!
จอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคนในคฤหาสน์ลุกขึ้นโดยพร้อมเพรียง คำนับอย่างเคร่งขรึม
“เฝิงเจวี๋ยจื่อ กระจายคำสั่งออกไป อย่าให้ทูตภาคีทักษิณที่กระจายอยู่ในโลกกำหนดมรรคเล่นงานหลินสวินอีก”
สายตาของบรรพจารย์วานรมองไปยังคนผู้หนึ่ง เสียงหนักแน่นทรงพลัง
“ขอรับ!”
เฝิงเจวี๋ยจื่อรับคำสั่ง เขาสวมชุดแดง ผมหนวดขาวเทา ผิวพรรณกลับแวววาวราวกับทารก เป็นจอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีทักษิณ
“บรรพจารย์วานร พวกเราทำเช่นนี้จะไม่ใช่เสริมบารมีให้ผู้อื่น ดูหมิ่นอำนาจของตนหรือ”
เพ่ยถูอดพูดไม่ได้
บรรพจารย์วานรไม่ได้สนใจเขา แต่เคลื่อนสายตาไปมองอีกคน “ฉินฝู ทูตชะตาสวรรค์ภาคีอีสานของเจ้าที่กระจายอยู่ในโลกชั้นที่แปดโลกแปรมรรคมีกี่คน”
ฉินฝู จอมมรรคชะตาสวรรค์ภาคีอีสาน และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในบรรดาจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคน
“เจ็ดคน”
ฉินฝูตอบอย่างรวดเร็ว นางสวมกระโปรงยาวสีดำ ผิวขาวหิมะเป็นประกาย ดวงหน้างดงาม สีหน้าสง่างามเป็นเอกลักษณ์
“เพียงพอแล้ว”
บรรพจารย์วานรพูด “เจ้าถ่ายทอดคำสั่งลงไป บอกเจ็ดคนนั้นให้เคลื่อนไหวทั้งหมดไปตรวจสอบผู้แปรมรรคที่ปรากฏตัวในโลกแปรมรรคในเวลาหลังจากนี้ หากพบไม่ต้องถามที่มา สังหารทันที”
ฉินฝูรับคำสั่งอย่างเคร่งขรึม “เจ้าค่ะ!”
ตอนนี้จอมมรรคชะตาสวรรค์คนอื่นๆ ล้วนเข้าใจแล้ว พากันเอ่ยปาก
“ในโลกแปรมรรคเป็นโอกาสดีที่สุดในการสังหารหลินสวินจริงๆ ถึงตอนนั้นไม่ว่าหลินสวินกลายเป็นผู้ฝึกปราณคนใดในโลกนี้ มีฐานะเช่นไร พลังปราณของเขาย่อมอยู่ในห้าระดับล่าง ปัญหาเดียวก็คือจะหาเขาเจอได้อย่างไร”
เพ่ยถูพูด “แต่สำหรับทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนของภาคีอีสานคงไม่ใช่เรื่องยาก พวกเขากลายเป็นระดับอมตะของโลกแปรมรรคนานแล้ว แม้มรรควิถีเทียบพลังขั้นไร้ขอบเขตที่พวกเขาครอบครองในตอนแรกไม่ได้ แต่การไปสังหารพวกห้าระดับล่างคนหนึ่งก็เป็นเรื่องที่ง่ายดาย”
โลกแปรมรรคพิเศษมาก เข้าไปแล้วผู้ฝึกปราณก็เหมือนชิงร่างเกิดใหม่ กลายเป็นผู้ฝึกปราณคนหนึ่งของโลกนี้ ทั้งยังครอบครองชื่อ พลังปราณ และฐานะของผู้ฝึกปราณคนนั้น
อย่างเช่นหากหลินสวินเข้าสู่โลกนี้ ก็จะกลายเป็นผู้ฝึกปราณคนหนึ่งในโลกนี้ มีฐานะและพลังปราณของผู้ฝึกปราณคนนี้ มีความมหัศจรรย์เหมือนกับการชิงร่างมาเกิดใหม่
และตั้งแต่ชั่วขณะนั้นเป็นต้นไป หลินสวินก็จะกลายเป็น ‘ผู้แปรมรรค’ ของโลกนี้ อยากไปจากโลกแปรมรรคก็ต้องฝึกปราณ วิวัฒน์มหามรรคเทียมฟ้าสำหรับฐานะใหม่ของเขา จนกระทั่งมรรควิถีของตนทะลวงสู่ระดับนิรันดร์จึงจะสามารถชักนำผลมรรคแรกกำเนิดและเข้าสู่ประตูสวรรค์ได้
สิ่งที่ควรค่าแก่การพูดถึงคือ สำหรับผู้ฝึกปราณของโลกแปรมรรค มรรคาสูงสุดของโลกก็คือมรรคาอมตะ
“ไม่ผิด ทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนของภาคีอีสานมีอานุภาพล้นฟ้าในโลกแปรมรรค ครอบครองความสามารถชั้นยอดที่สุดในโลก เทียบเท่านายเหนือหัวเจ็ดคนของโลกนี้ ขอเพียงพวกเขาออกคำสั่ง ย่อมสามารถหาฐานะใหม่ของหลินสวินในโลกแปรมรรคได้โดยง่าย”
ชิงหยางจื่อเองก็ตื่นเต้นขึ้นมา เอ่ยว่า “โดยทั่วไปในฐานะผู้แปรมรรคจะครอบครองเพียงพลังปราณห้าระดับล่าง อยากจากไปจะต้องเร่งพัฒนาพลังปราณ บนร่างจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเหลือเชื่อมากมาย”
“และการเปลี่ยนแปลงที่ผิดปกติเช่นนี้จะถูกคนคุ้นเคยรอบข้างผู้แปรมรรคสังเกตเห็น จนชักนำความเคลื่อนไหวยิ่งใหญ่ตามมา!”
“ถึงตอนนั้นเพียงแค่ไปเยือนยามเกิดความเคลื่อนไหว เมื่อเจอแล้วย่อมสามารถตัดสินฐานะของผู้แปรมรรคและกำจัดเขา!”
จอมมรรคชะตาสวรรค์อย่างพวกเขาล้วนเคยเข้าสู่โลกแปรมรรค เคยปรากฏตัวในฐานะของผู้แปรมรรค เข้าสู่เส้นทางแห่งการฝึกปราณที่เหมือนเกิดใหม่นั่น ย่อมต้องเข้าใจสถานการณ์ภายในนั้นเป็นอย่างดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์