Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3193

ตอนที่ 3193 ลุ่มหลงเป็นเหตุ

วิธีของสำนักวิญญาณสวรรค์ร้ายกาจนัก ยามขัดขวางชิงเฟิงหน้าประตูภูเขา ไม่ได้ใช้การคุกคามเกินกว่าเหตุ

ถึงอย่างไรฐานะของชิงเฟิงก็คือผู้อาวุโสชั้นสูงของสำนักสวรรค์ยุทธ์ เป็นศิษย์น้องของบรรพจารย์จักรพรรดิชิงเหิง

สำนักวิญญาณสวรรค์ไม่อยากล่วงเกินสำนักสวรรค์ยุทธ์เพราะชิงเฟิง

ตอนนั้นสำนักวิญญาณสวรรค์แค่แสดงออกอย่างง่ายๆ ว่าหากชิงเฟิงชนะผู้สืบทอดสำนักวิญญาณสวรรค์ระดับเดียวกับเขาได้คนหนึ่ง ย่อมอนุญาตให้เขาเข้าสำนักไปเจอเถียนรั่วจิ้งได้

ชิงเฟิงรับคำโดยไม่ลังเล

จากนั้นชิงเฟิงก็ถูกกระหน่ำซัดยกหนึ่ง ถูกเล่นงานจนหมดสติแล้วยังไม่ยอมแพ้

ภาพการต่อสู้นี้ถูกประทับอยู่ในม้วนหยกของสำนักวิญญาณสวรรค์ด้วย หลังจากส่งชิงเฟิงกลับมายังสำนักสวรรค์ยุทธ์ ม้วนหยกนี้ก็ถูกมอบให้ฝูอวิ๋นจื่อเจ้าสำนักสวรรค์ยุทธ์

นี่ทำให้ฝูอวิ๋นจื่อหาเหตุกล่าวโทษสำนักวิญญาณสวรรค์ไม่ได้

ด้วยชิงเฟิงไปสำนักวิญญาณสวรรค์เอง รับคำท้าประลองด้วยตัวเอง เรื่องนี้จะกล่าวโทษใครได้

แต่หลังจากรู้เรื่องพวกนี้ หลินสวินอดทอดถอนใจไม่ได้

เขารับช่วงประสบการณ์และความทรงจำของชิงเฟิงมา แต่กลับค้นพบอย่างเหนือความคาดหมาย ชิงเฟิงผู้ถูกทั้งสำนักมองเป็นความอัปยศ ถูกโลกภายนอกมองเป็นตัวตลกคนนี้ ความจริงแล้วเป็นผู้มีจิตใจเรียบง่ายและน้ำใจงามยิ่งคนหนึ่ง

ข้อบกพร่องสำคัญบนตัวเขาอยู่ที่ไม่สันทัดเรื่องทางโลก!

ผู้ไม่สันทัดเรื่องทางโลก เมื่อทำอะไรย่อมยากจะเลี่ยงคำตำหนิ อย่างคำวิจารณ์จำพวกไม่เจียมตัว ไม่รู้ฟ้าสูงแผ่นดินต่ำ ไม่รู้จักดีชั่ว รนหาที่ตายเป็นต้น

แต่ชิงเฟิงกลับไม่สนใจเรื่องพวกนี้

ความปรารถนายิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือเคียงข้างเถียนรั่วจิ้ง ครองคู่กันจนผมหงอกขาว เขาจึงคร้านจะใส่ใจเจตนาร้ายและคำถากถางของคนอื่นบนโลกนี้

แต่เห็นชัดว่าความจริงเป็นสิ่งโหดร้าย ผู้ไร้เดียงสาจนไร้หัวคิดอย่างชิงเฟิงย่อมยากจะยืนหยัดในโลกผู้บำเพ็ญที่โหดร้ายได้อย่างแท้จริง

‘ที่แท้ก็ทุกข์เพราะรัก’

ครู่ใหญ่เมื่อเจอเรื่องเกี่ยวกับเถียนรั่วจิ้งผ่านความทรงจำของชิงเฟิง หลินสวินก็เข้าใจอยู่บ้างแล้ว

เมื่อคนผู้หนึ่งผ่านการโจมตีและความยากลำบากนานัปการ หากไม่ใช่ว่าล้มจนลุกไม่ได้อีกก็ยิ่งล้มเหลวยิ่งกล้าหาญ เคี่ยวกรำจิตใจที่แข็งแกร่งผ่านพันค้อนร้อยหลอมออกมา

แต่ชิงเฟิงผู้นี้กลับไม่มีจิตมรรคซึ่งกลั่นหลอมเคี่ยวกรำ ทั้งไม่ได้ล้มจนไม่อาจลุกขึ้นได้อีก

สาเหตุอยู่ที่เก้าร้อยปีที่ผ่านมาตั้งแต่เจอเถียนรั่วจิ้งถึงตอนนี้ สภาวะจิตของชิงเฟิงตกอยู่ในสภาพลุ่มหลงไม่เปลี่ยนมาตลอด

ด้วยลุ่มหลงจึงไม่สนใจคำปรามาสและหยันเหยียดอื่นใด

ด้วยลุ่มหลงจึงทำให้เขาไม่สนใจแม้กลายเป็นตัวตลกและความอัปยศ

‘น่าเสียดายที่เป็นรักข้างเดียว…’

หลินสวินทั้งขบขันทั้งทอดถอนใจ

จากนั้นหลินสวินอดสงสัยอยู่บ้างไม่ได้

ชิงเฟิงฝึกปราณมาถึงตอนนี้เป็นเวลาพันปีแล้ว ในฐานะผู้อาวุโสชั้นสูง ทำไมพลังปราณถึงติดอยู่ในระดับกระบวนแปรจุติมาตลอด

หากคุณสมบัติเขาแย่มาก ตอนแรกจะมีโอกาสเข้ามาเป็นศิษย์ในสำนักสวรรค์ยุทธ์ได้อย่างไร

เรื่องนี้ต้องมีจุดประหลาดแน่นอน!

หลินสวินสลัดความคิดฟุ้งซ่าน สงบจิตสัมผัส

ไม่นานเขาก็รู้ว่าปัญหาอยู่ตรงไหน

รากฐานมหามรรคของชิงเฟิงเกิดรอยแตกชวนประหวั่นสายหนึ่ง!

ก็เหมือนหินผาถูกผ่าออกเป็นสองซีก

ภายใต้สถานการณ์เช่นนี้ไม่แปลกที่พลังปราณชิงเฟิงจะติดอยู่ในระดับกระบวนแปรจุติมาตลอด หากเปลี่ยนเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่น ต่อให้พรสวรรค์เย้ยฟ้าแค่ไหนก็ต้องเหมือนชิงเฟิงแน่

‘ใครเป็นคนสร้างบาดแผลที่ไม่อาจลบล้างเช่นนี้กับรากฐานของชิงเฟิง’

หลินสวินรื้อความทรงจำของชิงเฟิงอีกครั้ง

ผ่านไปครู่ใหญ่เขานัยน์ตาหดรัดและเข้าใจทันที

เก้าร้อยปีก่อนชิงเฟิงมีมรรควิถีระดับกระบวนแปรจุติแล้ว ตอนนั้นเขาฝึกปราณแค่ไม่ถึงร้อยปีก็ครอบครองมรรควิถีเช่นนี้ เรียกว่าน่าอัศจรรย์และพบเห็นได้น้อยนัก

เวลานั้นเองที่ชิงเฟิงรู้จักเถียนรั่วจิ้ง ทั้งไม่มีใจให้นาง

ตอนนั้นเถียนรั่วจิ้งเพิ่งมีพลังปราณระดับหยั่งสัจจะ แต่รูปร่างหน้าตากลับงดงามโดดเด่นอย่างยิ่ง ข้างกายมีผู้ติดตามมากมาย

ตอนนั้นเถียนรั่วจิ้งก็ค่อนข้างรู้สึกดีกับชิงเฟิง ทั้งสองเคยออกเดินทางไปด้วยกัน

แต่ยามไปสำรวจแดนลับครั้งหนึ่ง เถียนรั่วจิ้งประสบเคราะห์สังหาร เมื่อเห็นว่านางใกล้จะรักษาชีวิตไว้ไม่ได้ ชิงเฟิงจึงออกโรงขวางหน้าเคราะห์สังหารนั้นช่วยชีวิตเถียนรั่วจิ้งไว้

แม้ว่าเคราะห์สังหารนั้นจะถูกคลี่คลาย แต่ชิงเฟิงกลับบาดเจ็บหนัก หลังจากอาการบาดเจ็บฟื้นตัว เขากลับพบว่ารากฐานมหามรรคของเขาบาดเจ็บสาหัสจนไม่อาจฟื้นฟูแล้ว…

สำหรับผู้ฝึกปราณคนใดก็ตาม เรื่องนี้เป็นการโจมตีอย่างหนักหน่วงและโหดเหี้ยมที่สุด

แต่ชิงเฟิงกลับไม่สนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือการช่วยเหลือเถียนรั่วจิ้ง ไม่อยากให้หญิงสาวที่เขารักใคร่ประสบเคราะห์

ตอนนั้นเถียนรั่วจิ้งซาบซึ้งใจหาใดเปรียบเช่นกัน แสดงออกว่าภายหน้าจะอยู่เคียงข้างชิงเฟิง แน่นอนว่าเรื่องนี้ทำให้ชิงเฟิงดีใจแทบคลั่ง

ทว่าหลังจากทั้งสองคนกลับสำนักของตัวเองได้ไม่นาน เถียนรั่วจิ้งส่งจดหมายมาบอกชิงเฟิงอ้อมๆ ว่านางกำลังอยู่ในช่วงฝึกปราณ ในเวลาอันสั้นคงไม่อาจอยู่กับชิงเฟิงได้

ชิงเฟิงเข้าใจดี ทั้งเฝ้ารอมาตลอด เขียนจดหมายโต้ตอบกับเถียนรั่วจิ้งบ่อยครั้ง แสดงความคิดถึงและผูกพันของตนผ่านตัวอักษรทุกบรรทัด

ตอนแรกเถียนรั่วจิ้งยังตอบจดหมายทุกฉบับทันที

แต่นานเข้าทุกสามถึงห้าวันชิงเฟิงจึงได้รับจดหมายตอบกลับฉบับหนึ่ง ต่อมาถึงขั้นรอสามถึงห้าเดือนกว่าจะได้รับจดหมายตอบกลับ

หากเปลี่ยนเป็นคนทั่วไปคงสงสัยว่าใจของเถียนรั่วจิ้งเปลี่ยนไปนานแล้ว

แต่ชิงเฟิงยังคงเปี่ยมด้วยความคาดหวัง

ระหว่างนั้นเถียนรั่วจิ้งเคยเขียนจดหมายมาครั้งหนึ่ง กำชับชิงเฟิงว่าอย่าบอกเรื่องที่ช่วยนางในแดนลับเมื่อปีนั้นกับคนอื่น

ชิงเฟิงตกปากรับคำ

จนกระทั่งถึงตอนนี้พวกศิษย์พี่ชิงเหิง ศิษย์หลานฝูอวิ๋นจื่อของเขาก็ยังไม่รู้ว่ารากฐานมหามรรคที่ถูกโจมตีอย่างหนักของชิงเฟิงนั้น มีส่วนเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือเถียนรั่วจิ้ง

เรื่องนี้มองออกได้ไม่ยาก ชิงเฟิงใส่ใจเถียนรั่วจิ้งเพียงใด หลายปีมานี้ได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์และหยามเหยียดมากขนาดนั้น เขายังไม่พูดความลับนี้ออกมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์