Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3204

สรุปบท ตอนที่ 3204 เข้าหอเซียน: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

สรุปตอน ตอนที่ 3204 เข้าหอเซียน – จากเรื่อง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

ตอน ตอนที่ 3204 เข้าหอเซียน ของนิยายกำลังภายในเรื่องดัง Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดยนักเขียน Internet เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

ตอนที่ 3204 เข้าหอเซียน

ความกระสับกระส่ายเด่นชัดผุดขึ้นในใจของระดับอมตะอย่างพวกเลี่ยหย่ง

“ลงมือ!”

พวกเขาลงมือพร้อมกันโดยไม่ลังเล

ตูม!

แสงมรรคอมตะเจิดจรัสแสบตานานัปการพุ่งขึ้นมา ประสานเป็นกระแสพลังปั่นป่วนกลางฟ้าดิน ศาสตรามรรคอมตะมากมายเคลื่อนผ่านอากาศ มีประทับมรรค แส้หางม้า กระบี่เซียน กระถางโบราณ คทาสมประสงค์… หมอกแสงเจิดจรัสแผ่อานุภาพไร้ใดเปรียบ

กระแสพลังเช่นนี้ล้วนม้วนซัดไปทางหลินสวินคนเดียว

ฟ้าดินพลันคร่ำครวญ สรรพสิ่งล้วนหม่นแสง

ภาพเหตุการณ์นั้นทำให้ชิงเหิงขนพองสยองเกล้า

กลับเห็นหลินสวินส่ายหัวเหมือนผิดหวังอยู่บ้าง

สาเหตุอยู่ที่ภาพเช่นนี้เขาผ่านมาเยอะแล้ว ปีนั้นยามอยู่ขั้นอายุขัยเทียมฟ้า แค่พลิกฝ่ามือยังกำจัดได้ นับประสาอะไรกับตอนนี้

“ทะยาน!”

แขนเสื้อเขาพลิกตลบ เสียงกระบี่ครวญดังก้องทันที มีเจตกระบี่ไร้สิ้นสุดปรากฏกลางฟ้าดินแถบนี้

ฟุ่บ!

ปราณกระบี่สายหนึ่งกวาดผ่านอากาศ

การโจมตีที่ระดับอมตะสามสิบหกคนร่วมมือกันถูกแหวกเป็นทางมหึมาโดยง่ายราวผืนผ้าทันที

ฟุ้งกระจายดุจกระแสน้ำ!

ตูม…

จากนั้นเสียงระเบิดน่ากลัวดังก้อง ฟ้าดินพลิกตลบ ตะวันจันทราพลิกคว่ำ เจตกระบี่ไร้ขอบเขตโน้มลงมาดุจธารดาราเก้าฟ้า ปกคลุมทั่วโลกหล้า

เจตกระบี่นั้นยิ่งใหญ่เกินไป ทำให้ฟ้าดินขาวโพลนทั้งแถบ!

“ไม่…!”

มีเสียงตะโกนตื่นตระหนกดังขึ้น

“สหายยุทธ์โปรดออมมือ พวกเรายอมจำนน!”

มีคนตะโกนยอมแพ้

…ไม่นานฝุ่นควันจางหาย เจตกระบี่ไร้ขอบเขตซึ่งปกคลุมทั่วหล้าหายไป ใต้หล้าฟ้าดินกลับสู่ความสงบดังเดิม ทัศนวิสัยเปลี่ยนเป็นแจ่มชัด

จากนั้นชิงเหิงก็เห็นระดับอมตะสามสิบหกคนนั้นหน้าซีด อกสั่นขวัญหาย สีหน้าแต่ละคนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกและมึนงง

ลำคอพวกเขาต่างมีปราณกระบี่กระจ่างแวววาวสายหนึ่งจ่ออยู่!

ชิงเหิงอึ้งงันโดยสมบูรณ์

การโจมตีเดียวพิชิตระดับอมตะสามสิบหกคน?!

นี่ล้มล้างความเข้าใจของเขาโดยสิ้นเชิง ทำให้กายใจเขาตระหนกอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

เมื่อมองหลินสวินอีกครั้ง ชายเสื้อเขาพลิ้วไหว ยืนสันโดษ ราบเรียบนิ่งสงบเหมือนเคย

แต่ตอนนี้ในสายตาทุกคน หลินสวินราวกับเทพผู้ยิ่งใหญ่องค์หนึ่ง ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเล็กจ้อยไร้กำลังอย่างบอกไม่ถูก

ไม่มีใครเคยจินตนาการว่าคนผู้หนึ่งซึ่งมีมรรควิถีแค่ระดับมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ ทำไมกลับมีอานุภาพน่ากลัวเช่นนั้นในพริบตา

ทุกอย่างนี้ราวกับฝันร้ายไม่ใช่ความจริง…

บรรยากาศกดดัน อากาศราวค้างแข็ง

“ตอนนี้ทุกท่านพอใจหรือยัง”

หลินสวินกล่าวราบเรียบ เสียงนั้นลอยอยู่กลางฟ้าดิน ทำให้ระดับอมตะอย่างเลี่ยหย่งสั่นไปทั้งตัว ได้สติกลับมาจากความตระหนกเหมือนเพิ่งตื่นจากฝัน

“พวกเรา… ยอมจำนน”

เลี่ยหย่งกล่าวขมขื่น

คนอื่นต่างหดหู่เช่นกัน

การโจมตีเดียวก็สยบพวกเขาได้ นี่ทำให้พวกเขารู้ซึ้งว่าความแตกต่างและห่างชั้นด้านพลังคืออะไร

ก่อนหน้านี้พวกเขายังคิดว่าต่อให้หลินสวินเป็นผู้แปรมรรค แต่ย่อมไม่มีทางต้านทานได้แน่

ทว่าตอนนี้พวกเขาถึงเพิ่งรู้ว่าผู้แปรมรรคอย่างหลินสวินเป็นตัวตนน่ากลัวเพียงใด!

“มอบสมบัติติดตัวมา ข้าคนแซ่หลินจะไม่ทำให้พวกเจ้าลำบาก”

หลินสวินกล่าว

ปราณกระบี่ยังจ่ออยู่ตรงลำคอ พวกเลี่ยหย่งมีหรือจะกล้าลังเลอีก ล้วนเอาสมบัติติดตัวทั้งหมดออกมา

หลินสวินยื่นมือไปคว้าสมบัติพวกนี้ลงถุงหนัง จากนั้นจึงเอ่ยถาม “ทำไมไม่เห็นหยวนจงผู้อาวุโสชั้นสูงแห่งหอเซียน”

“ใต้เท้าหยวนจงจากไปเมื่อหลายวันก่อนแล้ว”

มีคนกล่าวเสียงขมขื่น

หลินสวินอึ้งงัน ใคร่ครวญครู่หนึ่งก็เข้าใจ กล่าวด้วยน้ำเสียงหยามเหยียด “เจ้าหมอนี่ถือว่าฉลาด ปลีกตัวถอยล่วงหน้า เหลือแค่พวกเจ้าไว้หยั่งเชิงพลังของข้า”

พวกเลี่ยหย่งได้ยินดังนี้ต่างสบตากัน ในใจพลันกระตุกวูบทันที คล้ายว่าในที่สุดก็ได้สติกลับมา ที่แท้เมื่อหลายวันก่อนหยวนจงก็สังเกตเห็นว่าไม่เข้าทีแล้ว?

สีหน้าพวกเขาทุกคนไม่น่าดูขึ้นมา หากเป็นเช่นนี้พวกเขาคงเป็นแค่หมากที่ถูกใช้โดยไม่ต้องสงสัย!

“สหายยุทธ์ หลายวันมานี้แม้ว่าเจ้ากำราบคู่ต่อสู้มากมาย ทำไมกลับไม่เคยฆ่าใครสักคน”

เมื่อเห็นว่าหลินสวินกำลังจะจากไป เลี่ยหย่งอดเอ่ยถามไม่ได้

คนอื่นล้วนเคลื่อนสายตามองไปเช่นกัน

“คู่ต่อสู้ของข้าไม่ใช่พวกเจ้า”

หลินสวินกล่าวประโยคนี้ไว้ ก่อนพาชิงเหิงที่ยังตะลึงไม่อาจควบคุมได้ลอยจากไป

หลังมองพวกหลินสวินจากไป พวกเลี่ยหย่งล้วนสีหน้าซับซ้อน อารมณ์ความรู้สึกพลุ่งพล่าน

สี่สำนักใหญ่ที่พวกเขาถวายชีวิตให้มองพวกเขาเป็นตัวหมาก สามารถละทิ้งพวกเขาได้ตลอดเวลา แต่ภายใต้สถานการณ์ที่ครองความได้เปรียบ คู่ต่อสู้อย่างหลินสวินกลับไม่เคยทำร้ายพวกเขาสักคน

เมื่อเทียบเช่นนี้แล้วยิ่งทำให้ในใจพวกเขารู้สึกซับซ้อนอย่างบอกไม่ถูก กล่าวได้ว่ารู้สึกสับสน

วันนี้ข่าวว่าหลินสวินกำราบระดับอมตะสามสิบหกคนหน้าเขาผาวาโยแพร่ออกไป ก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นในโลกแปรมรรค ผู้ฝึกปราณและขุมอำนาจทุกอาณาเขตล้วนสั่นสะท้านและแตกตื่นไม่หยุด

หอเซียน

ในถ้ำสถิตแห่งหนึ่ง

หลินสวินนึกถึงซย่าจื้อขึ้นมา

ผ่านไปครู่ใหญ่เขาส่ายหัวแล้วหยัดร่างขึ้น

ชิงเหิงซึ่งฝึกปราณอยู่ใกล้เคียงตลอดลืมตาขึ้นมาทันที เมื่อลุกขึ้นก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายระดับอมตะขั้นหลุดพ้นที่แผ่ออกมาจากตัวหลินสวิน ในใจเขาพลันสั่นสะท้าน

ชิงเหิงสูดหายใจลึกเฮือกหนึ่งพลางกล่าว “ผู้อาวุโสคิดมุ่งหน้าไปหอเซียนหรือ”

แม้แต่คำเรียกหลินสวินของเขายังเปลี่ยนไปด้วย

ความจริงในสายตาของมกุฎบรรพจารย์จักรพรรดิ บุคคลที่ก้าวสู่ระดับอมตะพวกนั้นล้วนเป็น ‘ผู้อาวุโส’ ซึ่งพวกเขาได้แต่แหงนมองและเลื่อมใส

หลินสวินมองเขาคราหนึ่งพลางกล่าว “เรียกข้าว่าสหายยุทธ์เถอะ”

ชิงเหิงอักอ่วนอยู่บ้าง

“หากข้าเดาไม่ผิด ตอนนี้หอเซียนคงเป็นถ้ำพยัคฆ์วังมังกร ไอสังหารรอบด้าน แต่สำหรับข้าเรื่องพวกนี้ไม่ถึงขั้นอันตรายนัก”

หลินสวินกล่าวเสียงขรึม “หลังจากข้าจัดการคู่ต่อสู้พวกนั้นแล้ว ใช้เวลาไม่นานก็คงจากโลกนี้ไป…”

เขาพูดถึงตรงนี้แล้วเหลือบมองชิงเหิง “เอาอย่างนี้ สหายยุทธ์ไปพร้อมข้า ถึงตอนนั้นค่อยจัดแจงให้สำนักสวรรค์ยุทธ์ฝึกปราณในหอเซียน ถือเป็นการชดเชยและการตอบแทนที่ข้ามีต่อชิงเฟิงและสหายยุทธ์”

ชิงเหิงอึ้งงัน

ยามเขายังกังวลว่าหลินสวินไปหอเซียนแล้วจะเจออันตรายเพียงใด หลินสวินกลับพิจารณาเรื่องให้พวกเขาสำนักสวรรค์ยุทธ์พักอยู่ในหอเซียนแล้ว!

นี่ทำให้เขารู้สึกว่าไม่ใช่ความจริง

ทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนนั้นน่ากลัวระดับใด แต่ยังไม่อาจทำให้หลินสวินใส่ใจได้หรือ

“ไปกันเถอะ”

หลินสวินไม่รู้ว่าชิงเหิงกำลังคิดอะไร

เขาแค่กำลังทำเรื่องบางอย่างที่ควรทำเท่านั้น

สามวันต่อมา

ใต้เวิ้งฟ้าแถบหนึ่งเงาร่างหลินสวินทะยานมาถึง

ชิงเหิงหลบอยู่บนเขาวิญญาณแสงเฟิงแล้ว ส่วนเขาวิญญาณแสงเฟิงก็ถูกหลินสวินเก็บไว้

เวลานี้หลินสวินยืนมือไพล่หลังกลางอากาศ เงยหน้ามองเมฆมงคลขาวหิมะแถบหนึ่งภายใต้เวิ้งฟ้า

หลังจากนั้นครู่หนึ่งเขาพลันยื่นนิ้ววาดออกไป

วู้ม!

เมฆมงคลขาวหิมะแถบนั้นม้วนซัดรุนแรง จากนั้นค่อยปรากฏบานประตูเหมือนว่างเปล่า

นี่ก็คือทางเข้าสู่หอเซียน!

‘ดูท่าว่าศัตรูพวกนั้นคงเตรียมพร้อมนานแล้วกระมัง…’

ยามครุ่นคิดหลินสวินก้าวออกไปก้าวหนึ่ง เงาร่างเขาพุ่งเข้าไปในบานประตูเหมือนว่างเปล่านั่น หายลับไปในชั่วพริบตา

“หลินสวินนั่นถึงกับบุกเข้าไปเช่นนี้!”

หลายวันนี้เมื่อทุกข่าวแพร่สะพัด ในภูผาธาราแถบนี้มีผู้ฝึกปราณนับไม่ถ้วนมารวมตัวกันนานแล้ว

เมื่อเห็นภาพนี้ทุกคนล้วนแตกตื่นขึ้นมา แต่ละคนสั่นสะท้านไม่หยุด

……………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์