Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3205

สรุปบท ตอนที่ 3205 กวาดล้างคนทั้งระดับ: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 3205 กวาดล้างคนทั้งระดับ – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 3205 กวาดล้างคนทั้งระดับ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ตอนที่ 3205 กวาดล้างคนทั้งระดับ

ภายในแดนลับหอเซียน

ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล ภูเขาเซียนแออัดเรียงราย ภาพคล้ายแดนพิสุทธิ์ในอุดมคติ

แต่เมื่อหลินสวินเพิ่งเข้ามาก็ถูกซุ่มโจมตีทันที

ตูม!

กระบวนรบซึ่งรวมตัวจากระดับอมตะขั้นหลุดพ้นถึงสิบคนลงมือพร้อมกัน ใช้ยอดค่ายกลเทพที่เรียกได้ว่ายอดผนึกปิดล้อมหลินสวินไว้ภายใน

ค่ายกลนี้กว้างใหญ่ไพศาล ภายในแฝงลักษณ์ดารานับแสนเชื่อมต่อพลังฟ้าดิน เผยลักษณ์อัศจรรย์อย่างเพลิงปฐพีอสนีวาโย ถ้าติดอยู่ในนั้นจะเหมือนติดอยู่ในนรกอวมงคล

ต่อให้เป็นระดับอมตะขั้นหลุดพ้น เมื่อถูกโจมตีกะทันหันเช่นนี้ ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!

กลับเห็นหลินสวินคล้ายเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ พริบตาที่ถูกล้อมโจมตีเท้าเขาก้าวแหวกอากาศ

ตูม!

เพลิงเทพไร้สิ้นสุดโหมกระหน่ำ กลายเป็นพายุกลืนฟ้า ม้วนพัดทำลายออกไป

ดวงดาวนับแสนในยอดกระบวนผนึกนั้นถูกเปลวเพลิงฝังกลบชั่วพริบตา กลายเป็นเถ้าถ่านหายไป จากนั้นพลังฟ้าดินที่เชื่อมต่อกับกระบวนค่ายกล ลักษณ์อัศจรรย์อย่างเพลิงปฐพีอสนีวาโยล้วนถูกแผดเผา

ถึงตอนท้ายทั้งกระบวนค่ายกลพังทลาย!

เปลวเพลิงไร้สิ้นสุดนั้นแผ่กระจายจนระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั่นถูกบีบจนต้องถอยหลังออกไป แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่

“เขาแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร”

เสียงอุทานดังขึ้น

เปลวเพลิงทั่วฟ้าขับเน้นจนเงาร่างหลินสวินดุจเทพซึ่งกำเนิดจากเปลวไฟ อานุภาพไร้ใดเปรียบนั้นทำให้ระดับอมตะขั้นหลุดพ้นเหล่านั้นหนาวเยือกในใจไม่หยุด

“พวกเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ข้าว่าพวกเจ้าหลีกทางจะดีกว่า”

หลินสวินพูดพลางก้าวห่างออกไป

“ฆ่า!”

“ขวางเขาไว้!”

แต่ใครจะคิดว่าระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั้นกลับไม่ถอยร่น ทั้งหมดล้วนพุ่งสังหารเข้ามาอีกครั้ง พยายามสกัดหลินสวิน

หลินสวินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ลังเลอีกต่อไป

“ไป!”

เขายื่นมือไปกลางอากาศ

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

ท่ามกลางเสียงกระบี่ก้องกังวาน ฝนกระบี่ไร้ขอบเขตปรากฏกลางฟ้าดินเต็มแน่นห้วงอากาศ ภายใต้การกวาดล้างของเจตกระบี่น่ากลัวนั้น ในที่นั้นมีเลือดสดบาดตาเกิดขึ้นทันที

ก็เห็นเงาร่างของระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั้นกระจัดกระจายเป็นเสี่ยงเหมือนกระดาษเปื่อย ทั้งหมดล้วนถูกเจตกระบี่ไร้ขอบเขตบดขยี้ จิตสิ้นวิญญาณสลาย!

หากผู้ฝึกปราณคนอื่นในโลกภายนอกเห็นภาพนั้นเกรงว่าคงอึ้งงันแน่นอน

“จู๋เฉิง พวกเจ้าเป็นถึงทูตชะตาสวรรค์แห่งภาคีอีสาน กลับให้ผู้ฝึกปราณของโลกนี้วิ่งมาหาที่ตาย ไม่คิดว่าน่าอายหรือ หน้าตาของไท่ชูเจ้าลัทธิพวกเจ้าล้วนถูกพวกเจ้าย่ำยีไม่เหลือแล้ว!”

หลินสวินกล่าวเสียงดัง

เสียงของเขาดุจกระแสน้ำราวอสนีบาต ดังกระหึ่มกลางโลกลึกลับแห่งนี้

ภูผาธาราสั่นสะเทือน วัฏจักรปั่นป่วนทันที ในแดนลับหอเซียนทุกหนแห่งคือเสียงของหลินสวิน

“เจ้าหมอนี่ช่างอวดดีเสียจริง!”

ส่วนลึกของแดนลับหอเซียนมีภูเขาเทพขาวกระจ่างดุจหิมะลูกหนึ่ง บนยอดเขาเทพทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนอย่างพวกจู๋เฉิง หยวนจงยืนอยู่บนนั้น

ตรงหน้าพวกเขาม่านจอภาพหนึ่งลอยคว้าง เผยเงาร่างหลินสวินที่เพิ่งบุกเข้ามาในแดนลับหอเซียน

ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ล้วนถูกพวกเขามองดู แต่ละคนสีหน้าอึมครึมจริงจัง

“แน่นอนว่าเขามีสิทธิ์อวดดี ไม่เห็นหรือว่ามรรควิถีเขาบรรลุถึงระดับอมตะขั้นหลุดพ้นแล้ว”

จู๋เฉิงสีหน้าจริงจัง

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หว่างคิ้วฉายแววเด็ดขาด “ทำตามแผนก่อนหน้านี้ ให้คนอื่นลงมือเถอะ!”

กลางฟ้าดินหลินสวินก้าวไปข้างหน้า จิตรับรู้เขาแผ่กระจายออกไป ตลอดทางแทบไม่ปิดบังสักนิด มุ่งไปข้างหน้าอย่างผ่าเผยเช่นนั้น

ตูม!

ไม่นานระดับอมตะขั้นหลุดพ้นกลุ่มหนึ่งพุ่งตัวมา ล้วนควบคุมสมบัติลับ ชักนำพลังระเบียบของแดนลับหอเซียนมาโจมตีหลินสวิน

พริบตานี้หลินสวินรู้สึกผิดคาดอย่างอดไม่ได้

ในกฎระเบียบฟ้าดินของแดนลับหอเซียนถึงกับเปี่ยมกลิ่นอายบ่อเกิดแรกกำเนิดอยู่รางๆ ทั้งยังมีนัยเร้นลับของยอดมรรคานานัปการปรากฏอยู่ภายใน กระทั่งอานุภาพที่แผ่ออกมาน่ากลัวเหนือจินตนาการ

‘พลังระเบียบของแดนลับหอเซียนนี้น่าจะมีบางส่วนมาจากศิลาเทพแปรมรรค!’

หลินสวินเข้าใจได้รางๆ

ตามตำนานศิลาเทพแปรมรรคก็คือสิ่งที่วิวัฒน์มาจากบ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกแปรมรรคแห่งนี้ หากผู้แปรมรรคอยากจากโลกนี้ไปก็ต้องประทับมรรคาเทียมฟ้าซึ่งวิวัฒน์ออกมาลงบนศิลาเทพแปรมรรค เมื่อได้การยอมรับและขานรับจากศิลาเทพแล้วจะชักนำผลมรรคแรกกำเนิดมาจนเปิดประตูสวรรค์จากไป

แต่ปัจจุบันพลังของศิลาเทพแปรมรรคนี้ เห็นชัดว่าหลอมรวมกับกฎระเบียบฟ้าดินของโลกนี้แล้ว กำลังถูกระดับอมตะพวกนั้นยืมใช้!

พูดเหมือนนานแต่กลับเร็วยิ่ง เมื่อระดับอมตะพวกนั้นบุกมา หลินสวินลงมือเต็มกำลังทันที

ตูม!

เขาซัดหมัดออกไป พลังหมัดหนักแน่นไพศาลราวกับทำลายกาลนิรันดร์ นำอานุภาพยิ่งใหญ่พุ่งตรงแน่วแน่ไปอย่างทรงพลัง

ห้วงอากาศใกล้เคียงระเบิดออก ทรุดตัวกระจัดกระจาย

พลังระเบียบซึ่งถูกศัตรูยืมใช้โดนโจมตีอย่างหนักภายใต้หมัดนี้ ถูกสะบั้นแหลกจนสลายไป

พลังหมัดนั้นยังโจมตีระดับอมตะที่บุกเข้ามาจนลอยลิ่วระเนระนาดออกไปด้วย!

เสียงตื่นตระหนกดังขึ้นโดยรอบทันที ระดับอมตะพวกนั้นล้วนหน้าเปลี่ยนสีและขวัญหนีดีฝ่อ

“สุดท้ายพลังเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของพวกเจ้า อานุภาพของมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสำแดงออกมาได้เช่นกัน”

คนอื่นล้วนมองหลินสวิน

เท่าที่พวกเขารู้คือหลายวันก่อน การเคลื่อนไหวของหลินสวินยามมุ่งหน้ามาสำนักเซียนจงอางแดง เขาไม่เคยทำร้ายคู่ต่อสู้สักคน

นี่ทำให้พวกเขาคิดไปตามจิตใต้สำนึก ขอแค่ก้มหัวยอมจำนนด้วยตัวเอง ย่อมเป็นไปได้ว่าหลินสวินจะไม่ทำให้พวกเขาลำบาก

มุมปากหลินสวินเผยแววหยามเหยียดเสี้ยวหนึ่งกล่าวว่า “สาเหตุที่ผู้ฝึกปราณบนโลกนี้จัดการข้า เป็นเพราะรับคำสั่งของพวกเจ้า ตอนนี้พวกเจ้ายังจะให้ข้าปล่อยตัวการอย่างพวกเจ้าไป ไม่คิดว่าน่าขันหรือ”

คำพูดนี้ทำให้ใจของทุกคนตรงหน้าตกไปที่ตาตุ่ม

“หลินสวิน ต่อให้เจ้าสามารถผ่านโลกนี้ออกไปได้ แต่หลังจากนี้เจ้ายังต้องเผชิญหน้ากับไอสังหารของโลกโลกาสวรรค์ เผชิญหน้ากับความท้าทายบนทางพิฆาตมรรค ต่อให้สุดท้ายเจ้ามีโอกาสเข้าสู่แดนเทพมากเร้น พวกจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าภาคี บรรพจารย์วานร คุณหนู ย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”

มีคนกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม

“เรื่องต่อจากนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า ไม่ต้องกลุ้มใจไปเปล่าๆ”

หลินสวินยิ้ม

ตูม!

เวลานี้ทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนอย่างพวกจู๋เฉิง หยวนจงเคลื่อนไหวแล้ว พุ่งโจมตีเข้าใส่หลินสวินทันที แต่ละคนเผยพลังต่อสู้น่ากลัวที่เหนือกว่าระดับเดียวกันบนโลกนี้

นี่ก็คือความแข็งแกร่งของผู้แปรมรรค

ทั้งเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกจู๋เฉิงถึงเหมือนนายเหนือหัวบนโลกแห่งนี้

น่าเสียดาย หลินสวินก็เป็นผู้แปรมรรคเช่นกัน ทั้งยังเป็นผู้แปรมรรคที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา วิวัฒน์พลังมรรคานิรันดร์ออกมาได้นานแล้ว!

“ดูท่าว่าทุกท่านคงอยากลงนรกจนทนไม่ไหว เช่นนั้นข้าคนแซ่หลินจะสงเคราะห์ทุกท่านเอง”

เสียงหัวเราะยังดังก้อง หลินสวินพุ่งตัวไปข้างหน้า นิ้วมือดุจกระบี่ฟันออกมาอย่างหมดจดชัดเจน

ฉัวะ!

เงาร่างของหยวนจงถูกฟันเป็นสองท่อน เลือดสีสดยังไม่กระเด็นก็ถูกเจตกระบี่ชวนประหวั่นกำจัด จิตสิ้นวิญญาณสลาย

จากนั้นเมื่อหลินสวินฟันเจตกระบี่ออกไป ทูตชะตาสวรรค์คนแล้วคนเล่าร่วงกอง ง่ายดายเหมือนเด็ดผักหั่นแตง

วิธีสังหารน่ากลัวนั้นทำให้เหล่าทูตชะตาสวรรค์ไม่มีโอกาสหนีสักนิด

ถึงตอนท้ายจึงเหลือแค่จู๋เฉิงคนเดียว

เขาถูกหลินสวินบีบคอหิ้วขึ้นมา

จู๋เฉิงตกตะลึง เขาไม่กล้าเชื่อว่าพวกเขาเจ็ดคนจะอ่อนแอเช่นนี้ ไม่เอาไหนโดยสิ้นเชิง!!

ยามเขารู้ถึงจุดนี้ก็สายไปแล้ว…

เมื่อเห็นสีหน้ามึนงงและตื่นตระหนกของจู๋เฉิง หลินสวินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “อย่าตระหนกไป รอข้าค้นจิตวิญญาณแล้วค่อยส่งเจ้าลงนรก”

ตูม!

จิตรับรู้ยิ่งใหญ่โฉบเข้าห้วงนิมิตของจู๋เฉิง เบื้องหน้าเขาพลันมืดมัว ส่งเสียงอึดอัดอย่างเจ็บปวด

หลังจากนั้นครู่หนึ่งหลินสวินเก็บจิตรับรู้ลงไป จู๋เฉิงซึ่งถูกจับตัวอยู่ในมือเขากลายเป็นเถ้าถ่านพลิ้วลอยไปจากมือทันที สลายหายไปจนเกลี้ยง

……………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์