เข้าสู่ระบบผ่าน

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3205

ตอนที่ 3205 กวาดล้างคนทั้งระดับ

ภายในแดนลับหอเซียน

ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาล ภูเขาเซียนแออัดเรียงราย ภาพคล้ายแดนพิสุทธิ์ในอุดมคติ

แต่เมื่อหลินสวินเพิ่งเข้ามาก็ถูกซุ่มโจมตีทันที

ตูม!

กระบวนรบซึ่งรวมตัวจากระดับอมตะขั้นหลุดพ้นถึงสิบคนลงมือพร้อมกัน ใช้ยอดค่ายกลเทพที่เรียกได้ว่ายอดผนึกปิดล้อมหลินสวินไว้ภายใน

ค่ายกลนี้กว้างใหญ่ไพศาล ภายในแฝงลักษณ์ดารานับแสนเชื่อมต่อพลังฟ้าดิน เผยลักษณ์อัศจรรย์อย่างเพลิงปฐพีอสนีวาโย ถ้าติดอยู่ในนั้นจะเหมือนติดอยู่ในนรกอวมงคล

ต่อให้เป็นระดับอมตะขั้นหลุดพ้น เมื่อถูกโจมตีกะทันหันเช่นนี้ ไม่ตายก็ต้องบาดเจ็บสาหัส!

กลับเห็นหลินสวินคล้ายเดาไว้แล้วว่าต้องเป็นเช่นนี้ พริบตาที่ถูกล้อมโจมตีเท้าเขาก้าวแหวกอากาศ

ตูม!

เพลิงเทพไร้สิ้นสุดโหมกระหน่ำ กลายเป็นพายุกลืนฟ้า ม้วนพัดทำลายออกไป

ดวงดาวนับแสนในยอดกระบวนผนึกนั้นถูกเปลวเพลิงฝังกลบชั่วพริบตา กลายเป็นเถ้าถ่านหายไป จากนั้นพลังฟ้าดินที่เชื่อมต่อกับกระบวนค่ายกล ลักษณ์อัศจรรย์อย่างเพลิงปฐพีอสนีวาโยล้วนถูกแผดเผา

ถึงตอนท้ายทั้งกระบวนค่ายกลพังทลาย!

เปลวเพลิงไร้สิ้นสุดนั้นแผ่กระจายจนระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั่นถูกบีบจนต้องถอยหลังออกไป แต่ละคนหน้าเปลี่ยนสียกใหญ่

“เขาแข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไร”

เสียงอุทานดังขึ้น

เปลวเพลิงทั่วฟ้าขับเน้นจนเงาร่างหลินสวินดุจเทพซึ่งกำเนิดจากเปลวไฟ อานุภาพไร้ใดเปรียบนั้นทำให้ระดับอมตะขั้นหลุดพ้นเหล่านั้นหนาวเยือกในใจไม่หยุด

“พวกเจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า ข้าว่าพวกเจ้าหลีกทางจะดีกว่า”

หลินสวินพูดพลางก้าวห่างออกไป

“ฆ่า!”

“ขวางเขาไว้!”

แต่ใครจะคิดว่าระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั้นกลับไม่ถอยร่น ทั้งหมดล้วนพุ่งสังหารเข้ามาอีกครั้ง พยายามสกัดหลินสวิน

หลินสวินขมวดคิ้วเล็กน้อย ไม่ลังเลอีกต่อไป

“ไป!”

เขายื่นมือไปกลางอากาศ

ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!

ท่ามกลางเสียงกระบี่ก้องกังวาน ฝนกระบี่ไร้ขอบเขตปรากฏกลางฟ้าดินเต็มแน่นห้วงอากาศ ภายใต้การกวาดล้างของเจตกระบี่น่ากลัวนั้น ในที่นั้นมีเลือดสดบาดตาเกิดขึ้นทันที

ก็เห็นเงาร่างของระดับอมตะขั้นหลุดพ้นสิบคนนั้นกระจัดกระจายเป็นเสี่ยงเหมือนกระดาษเปื่อย ทั้งหมดล้วนถูกเจตกระบี่ไร้ขอบเขตบดขยี้ จิตสิ้นวิญญาณสลาย!

หากผู้ฝึกปราณคนอื่นในโลกภายนอกเห็นภาพนั้นเกรงว่าคงอึ้งงันแน่นอน

“จู๋เฉิง พวกเจ้าเป็นถึงทูตชะตาสวรรค์แห่งภาคีอีสาน กลับให้ผู้ฝึกปราณของโลกนี้วิ่งมาหาที่ตาย ไม่คิดว่าน่าอายหรือ หน้าตาของไท่ชูเจ้าลัทธิพวกเจ้าล้วนถูกพวกเจ้าย่ำยีไม่เหลือแล้ว!”

หลินสวินกล่าวเสียงดัง

เสียงของเขาดุจกระแสน้ำราวอสนีบาต ดังกระหึ่มกลางโลกลึกลับแห่งนี้

ภูผาธาราสั่นสะเทือน วัฏจักรปั่นป่วนทันที ในแดนลับหอเซียนทุกหนแห่งคือเสียงของหลินสวิน

“เจ้าหมอนี่ช่างอวดดีเสียจริง!”

ส่วนลึกของแดนลับหอเซียนมีภูเขาเทพขาวกระจ่างดุจหิมะลูกหนึ่ง บนยอดเขาเทพทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนอย่างพวกจู๋เฉิง หยวนจงยืนอยู่บนนั้น

ตรงหน้าพวกเขาม่านจอภาพหนึ่งลอยคว้าง เผยเงาร่างหลินสวินที่เพิ่งบุกเข้ามาในแดนลับหอเซียน

ทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ล้วนถูกพวกเขามองดู แต่ละคนสีหน้าอึมครึมจริงจัง

“แน่นอนว่าเขามีสิทธิ์อวดดี ไม่เห็นหรือว่ามรรควิถีเขาบรรลุถึงระดับอมตะขั้นหลุดพ้นแล้ว”

จู๋เฉิงสีหน้าจริงจัง

เขาสูดหายใจเข้าลึกๆ หว่างคิ้วฉายแววเด็ดขาด “ทำตามแผนก่อนหน้านี้ ให้คนอื่นลงมือเถอะ!”

กลางฟ้าดินหลินสวินก้าวไปข้างหน้า จิตรับรู้เขาแผ่กระจายออกไป ตลอดทางแทบไม่ปิดบังสักนิด มุ่งไปข้างหน้าอย่างผ่าเผยเช่นนั้น

ตูม!

ไม่นานระดับอมตะขั้นหลุดพ้นกลุ่มหนึ่งพุ่งตัวมา ล้วนควบคุมสมบัติลับ ชักนำพลังระเบียบของแดนลับหอเซียนมาโจมตีหลินสวิน

พริบตานี้หลินสวินรู้สึกผิดคาดอย่างอดไม่ได้

ในกฎระเบียบฟ้าดินของแดนลับหอเซียนถึงกับเปี่ยมกลิ่นอายบ่อเกิดแรกกำเนิดอยู่รางๆ ทั้งยังมีนัยเร้นลับของยอดมรรคานานัปการปรากฏอยู่ภายใน กระทั่งอานุภาพที่แผ่ออกมาน่ากลัวเหนือจินตนาการ

‘พลังระเบียบของแดนลับหอเซียนนี้น่าจะมีบางส่วนมาจากศิลาเทพแปรมรรค!’

หลินสวินเข้าใจได้รางๆ

ตามตำนานศิลาเทพแปรมรรคก็คือสิ่งที่วิวัฒน์มาจากบ่อเกิดแรกกำเนิดของโลกแปรมรรคแห่งนี้ หากผู้แปรมรรคอยากจากโลกนี้ไปก็ต้องประทับมรรคาเทียมฟ้าซึ่งวิวัฒน์ออกมาลงบนศิลาเทพแปรมรรค เมื่อได้การยอมรับและขานรับจากศิลาเทพแล้วจะชักนำผลมรรคแรกกำเนิดมาจนเปิดประตูสวรรค์จากไป

แต่ปัจจุบันพลังของศิลาเทพแปรมรรคนี้ เห็นชัดว่าหลอมรวมกับกฎระเบียบฟ้าดินของโลกนี้แล้ว กำลังถูกระดับอมตะพวกนั้นยืมใช้!

พูดเหมือนนานแต่กลับเร็วยิ่ง เมื่อระดับอมตะพวกนั้นบุกมา หลินสวินลงมือเต็มกำลังทันที

ตูม!

เขาซัดหมัดออกไป พลังหมัดหนักแน่นไพศาลราวกับทำลายกาลนิรันดร์ นำอานุภาพยิ่งใหญ่พุ่งตรงแน่วแน่ไปอย่างทรงพลัง

ห้วงอากาศใกล้เคียงระเบิดออก ทรุดตัวกระจัดกระจาย

พลังระเบียบซึ่งถูกศัตรูยืมใช้โดนโจมตีอย่างหนักภายใต้หมัดนี้ ถูกสะบั้นแหลกจนสลายไป

พลังหมัดนั้นยังโจมตีระดับอมตะที่บุกเข้ามาจนลอยลิ่วระเนระนาดออกไปด้วย!

เสียงตื่นตระหนกดังขึ้นโดยรอบทันที ระดับอมตะพวกนั้นล้วนหน้าเปลี่ยนสีและขวัญหนีดีฝ่อ

“สุดท้ายพลังเหล่านี้ก็ไม่ใช่ของพวกเจ้า อานุภาพของมันไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าสำแดงออกมาได้เช่นกัน”

คนอื่นล้วนมองหลินสวิน

เท่าที่พวกเขารู้คือหลายวันก่อน การเคลื่อนไหวของหลินสวินยามมุ่งหน้ามาสำนักเซียนจงอางแดง เขาไม่เคยทำร้ายคู่ต่อสู้สักคน

นี่ทำให้พวกเขาคิดไปตามจิตใต้สำนึก ขอแค่ก้มหัวยอมจำนนด้วยตัวเอง ย่อมเป็นไปได้ว่าหลินสวินจะไม่ทำให้พวกเขาลำบาก

มุมปากหลินสวินเผยแววหยามเหยียดเสี้ยวหนึ่งกล่าวว่า “สาเหตุที่ผู้ฝึกปราณบนโลกนี้จัดการข้า เป็นเพราะรับคำสั่งของพวกเจ้า ตอนนี้พวกเจ้ายังจะให้ข้าปล่อยตัวการอย่างพวกเจ้าไป ไม่คิดว่าน่าขันหรือ”

คำพูดนี้ทำให้ใจของทุกคนตรงหน้าตกไปที่ตาตุ่ม

“หลินสวิน ต่อให้เจ้าสามารถผ่านโลกนี้ออกไปได้ แต่หลังจากนี้เจ้ายังต้องเผชิญหน้ากับไอสังหารของโลกโลกาสวรรค์ เผชิญหน้ากับความท้าทายบนทางพิฆาตมรรค ต่อให้สุดท้ายเจ้ามีโอกาสเข้าสู่แดนเทพมากเร้น พวกจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าภาคี บรรพจารย์วานร คุณหนู ย่อมไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!”

มีคนกล่าวเสียงเหี้ยมเกรียม

“เรื่องต่อจากนี้ไม่เกี่ยวกับพวกเจ้า ไม่ต้องกลุ้มใจไปเปล่าๆ”

หลินสวินยิ้ม

ตูม!

เวลานี้ทูตชะตาสวรรค์เจ็ดคนอย่างพวกจู๋เฉิง หยวนจงเคลื่อนไหวแล้ว พุ่งโจมตีเข้าใส่หลินสวินทันที แต่ละคนเผยพลังต่อสู้น่ากลัวที่เหนือกว่าระดับเดียวกันบนโลกนี้

นี่ก็คือความแข็งแกร่งของผู้แปรมรรค

ทั้งเป็นสาเหตุว่าทำไมพวกจู๋เฉิงถึงเหมือนนายเหนือหัวบนโลกแห่งนี้

น่าเสียดาย หลินสวินก็เป็นผู้แปรมรรคเช่นกัน ทั้งยังเป็นผู้แปรมรรคที่แข็งแกร่งกว่าพวกเขา วิวัฒน์พลังมรรคานิรันดร์ออกมาได้นานแล้ว!

“ดูท่าว่าทุกท่านคงอยากลงนรกจนทนไม่ไหว เช่นนั้นข้าคนแซ่หลินจะสงเคราะห์ทุกท่านเอง”

เสียงหัวเราะยังดังก้อง หลินสวินพุ่งตัวไปข้างหน้า นิ้วมือดุจกระบี่ฟันออกมาอย่างหมดจดชัดเจน

ฉัวะ!

เงาร่างของหยวนจงถูกฟันเป็นสองท่อน เลือดสีสดยังไม่กระเด็นก็ถูกเจตกระบี่ชวนประหวั่นกำจัด จิตสิ้นวิญญาณสลาย

จากนั้นเมื่อหลินสวินฟันเจตกระบี่ออกไป ทูตชะตาสวรรค์คนแล้วคนเล่าร่วงกอง ง่ายดายเหมือนเด็ดผักหั่นแตง

วิธีสังหารน่ากลัวนั้นทำให้เหล่าทูตชะตาสวรรค์ไม่มีโอกาสหนีสักนิด

ถึงตอนท้ายจึงเหลือแค่จู๋เฉิงคนเดียว

เขาถูกหลินสวินบีบคอหิ้วขึ้นมา

จู๋เฉิงตกตะลึง เขาไม่กล้าเชื่อว่าพวกเขาเจ็ดคนจะอ่อนแอเช่นนี้ ไม่เอาไหนโดยสิ้นเชิง!!

ยามเขารู้ถึงจุดนี้ก็สายไปแล้ว…

เมื่อเห็นสีหน้ามึนงงและตื่นตระหนกของจู๋เฉิง หลินสวินยิ้มเล็กน้อยพลางกล่าว “อย่าตระหนกไป รอข้าค้นจิตวิญญาณแล้วค่อยส่งเจ้าลงนรก”

ตูม!

จิตรับรู้ยิ่งใหญ่โฉบเข้าห้วงนิมิตของจู๋เฉิง เบื้องหน้าเขาพลันมืดมัว ส่งเสียงอึดอัดอย่างเจ็บปวด

หลังจากนั้นครู่หนึ่งหลินสวินเก็บจิตรับรู้ลงไป จู๋เฉิงซึ่งถูกจับตัวอยู่ในมือเขากลายเป็นเถ้าถ่านพลิ้วลอยไปจากมือทันที สลายหายไปจนเกลี้ยง

……………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์