Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 3209

ตอนที่ 3209 ต้นกำเนิดโลกาสวรรค์

เฒ่าโดดเดี่ยวสีหน้าอึ้งงัน ครู่ใหญ่จึงกลอกตากล่าว “คำพูดผายลมพวกนี้พูดแล้วมีประโยชน์อะไร!”

ราชครูเอ่ยว่า “ข้าเชื่อมั่นว่าหลินสวินไม่เพียงเข้าสู่โลกโลกาสวรรค์นี้ได้ ยังก้าวผ่านทางพิฆาตมรรคไปถึงแดนเทพมากเร้นได้ด้วย”

เฒ่าโดดเดี่ยวเงียบไปก่อนกล่าว “หากหลินสวินมีโอกาสเข้าสู่โลกโลกาสวรรค์ ต่อให้ข้าต้องพลีชีพก็จะชิงโอกาสออกจากโลกนี้ให้เขา!”

ราชครูกล่าว “ว่ากันตามจริงคือเจ้ากลัวคู่ต่อสู้เก้าคนนั้นจากเก้าภาคีไท่ชู”

ตอนนี้ในโลกโลกาสวรรค์มีแค่สิบเอ็ดคน

เขากับเฒ่าโดดเดี่ยวคือสองคนในนั้น เก้าคนอื่นก็คือทูตชะตาสวรรค์เก้าคนแห่งเก้าภาคีไท่ชู

จำนวนคนแตกต่างกันมาก

ด้านพลังพวกเขาสองคนอยู่ระดับเดียวกับอีกฝ่ายทั้งเก้าคน บางทีอาจมีความแตกต่างกันเล็กน้อย แต่ความแตกต่างนี้ไม่สลักสำคัญโดยสิ้นเชิง

หลายปีมานี้ทั้งสองคนกับอีกฝ่ายเกิดความขัดแย้งและห้ำหั่นกันไม่น้อย แม้ว่าทุกครั้งจะไม่อาจต้านการล้อมโจมตีของอีกฝ่ายได้ แต่คิดจะหนีเอาตัวรอดกลับไม่ใช่เรื่องยาก

“ใช่ว่าข้าหวาดกลัว แต่ข้ารู้ดีว่าขอแค่หลินสวินมาถึง เจ้าเฒ่าเก้าคนนั่นต้องไปจัดการหลินสวินโดยไม่สนใจอะไรแน่”

เฒ่าโดดเดี่ยวกล่าว “สิ่งที่ประชันกันบนโลกโลกาสวรรค์นี้คือการควบคุม ‘ต้นกำเนิดโลกาสวรรค์’ ใครควบรวมต้นกำเนิดโลกาสวรรค์มากก็จะได้เปรียบในการต่อสู้”

“นี่ก็หมายความว่าต่อให้หลินสวินมาถึงโลกนี้แล้วครอบครองพลังต่อสู้ระดับจอมมรรคไร้ขอบเขต แต่คิดจะสู้กับศัตรูพวกนั้นกลับเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”

ราชครูกล่าว “ดังนั้นตอนหลินสวินมาถึงพวกเราต้องหาเขาให้เจอทันที มีเพียงพวกเราสองคนไปปกป้องเขาเต็มกำลัง เขาจึงมีเวลาพอจะไปหยั่งรู้และควบคุมพลังต้นกำเนิดโลกาสวรรค์”

“เฮ้อ ปัญหาตอนนี้คือใครก็ไม่รู้ว่าเจ้าหนูนี่จะปรากฏตัวเมื่อไหร่!”

เฒ่าโดดเดี่ยวเบะปากจนปัญญา

“หืม?”

ทันใดนั้นตรงเวิ้งฟ้าที่ห่างไกลมีเงาร่างสายหนึ่งปรากฏ เขาสวมชุดคลุมยาวสีเขียวเข้ม เอวคาดเข็มขัดหยกขาว ร่างสูงใหญ่ผอมบาง นัยน์ตาชวนประหวั่นเหมือนตะวันจันทรา

“ตี้ฉาง!”

ราชครูหรี่ตาเล็กน้อย นี่คือทูตชะตาสวรรค์ภาคีหรดี มีพลังต่อสู้แข็งแกร่งอย่างยิ่ง

จากนั้นบนทิศทางอื่นทยอยมีเงาร่างสายแล้วสายเล่าปรากฏ

บ้างเหยียบเมฆมงคล ร่างสะท้อนทั่วหล้า

บ้างควบคุมพายุสายฟ้า ร่างแผ่รัศมีแสงไร้ขอบเขต

บ้างพาดกระบี่มรรคบนแผ่นหลัง ยามก้าวเดินมีภาพกระบี่นับไม่ถ้วนปรากฏ

บ้าง…

ทั้งหกคนพุ่งมาทางนี้จากต่างทิศทาง

ตูม…

ฟ้าดินมืดสลัว ห้วงอากาศปั่นป่วน

อานุภาพน่ากลัวไร้ขอบเขตแผ่ออกมาจากเงาร่างทั้งหก ราวนายเหนือหัวผู้ยิ่งใหญ่หกคนปรากฏตัว

“เก็บตัวเงียบมาถึงตอนนี้เป็นเวลาเกือบร้อยปีแล้ว วันนี้เฒ่าสารเลวพวกนี้กลับบุกมากะทันหัน ทำไมข้าถึงรู้สึกว่าเรื่องออกจะไม่ชอบมาพากล”

เฒ่าโดดเดี่ยวขมวดคิ้ว

หกคนนี้เขากับราชครูล้วนคุ้นเคยนัก

ตูเทียนหยวนภาคีพายัพ ตี้ฉางภาคีหรดี ฉงซวีภาคีอาคเนย์ ปาเจวี๋ยภาคีบูรพา สิงอวิ๋นโจวภาคีอีสาน เฟ่ยหยาภาคีประจิม

มรรควิถีของแต่ละคนห่างจากจอมมรรคไร้ขอบเขตเพียงเสี้ยวเดียว!

ด้วยเคยประลองกันมาหลายครั้ง เมื่อเห็นพวกเขาปรากฏตัว เฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครูจึงไม่ตระหนก แค่แปลกใจอยู่บ้างเท่านั้น

“มีโอกาสสูงว่าจะเป็นเพราะหลินสวินมาแล้ว!”

นัยน์ตาราชครูฉายแววระยับ “พวกเขามาครานี้เพื่อล้อมพวกเราแน่ ไม่ให้พวกเราไปช่วยหลินสวิน!”

เฒ่าโดดเดี่ยวใจกระตุกวูบ

“เจ้าไปก่อน ข้าสกัดพวกเขาเอง”

ราชครูสูดหายใจเข้าลึกๆ “จำไว้ ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปเจอหลินสวินทันที อย่าให้เขาถูกศัตรูพวกนั้นจับตัวไปเด็ดขาด!”

ตูม!

เงาร่างเขาทะยานสู่ฟากฟ้า ร่างผอมแห้งส่องประกายสว่างไสว รอบตัวปรากฏลักษณ์ประหลาดมหามรรคอย่างฟ้าดารากว้างใหญ่ลอยคว้าง ดวงดาวนับหมื่นแสนล้อมพิทักษ์

“ล้อมพวกเขาไว้!”

ห่างออกไปตี้ฉางในชุดยาวเขียวเข้มตวาดลั่น เสียงราวอสนีบาตดังก้องฟ้า

เขากับคนอื่นๆ อีกห้าคนเคลื่อนไหวพร้อมกัน ต่างคนต่างเค้นมรรควิถีออกมาปิดล้อมเฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครู

ตูม…

พายุสายฟ้าปั่นป่วน ฟ้าถล่มดินทลาย รัศมีเทพน่ากลัวมากมายพุ่งมาราวกับปกฟ้าคลุมตะวันทันที

ศึกใหญ่ปะทุขึ้น

เวลานี้ราชครูดูดุดันหาใดเปรียบ แค่คนเดียวกลับฝืนปะทะทูตชะตาสวรรค์หกคน ท่าทางเหมือนไม่เสียดายชีวิตโดยแท้

แต่เมื่อมองการต่อสู้นี้อย่างละเอียดกลับค้นพบได้ไม่ยาก

ไม่ว่าจะเป็นราชครูหรือทูตชะตาสวรรค์หกคนนั่น เงาร่างคล้ายกลายเป็นฟ้าดินแห่งหนึ่ง

ในฟ้าดินของแต่ละคนล้วนแบกรับอารยธรรม มหามรรค หมื่นวิญญาณ หมื่นลักษณ์ สรรพสิ่ง…

มองจากไกลๆ แต่ละคนราวกับอารยธรรมยุคสมัยหนึ่ง อารยธรรมยุคสมัยเหล่านี้กำลังโจมตีและต่อสู้กันอย่างต่อเนื่อง!

ภาพน่าเหลือเชื่อเหล่านั้นดูกระเทือนใจคนนัก

นี่ก็คือการต่อสู้ของโลกโลกาสวรรค์

ผู้ฝึกปราณที่เข้าสู่โลกนี้ต้องหยั่งรู้และควบรวมไอโลกาสวรรค์ ถึงจะกลายร่างเป็นฟ้าดินไร้รูป สามารถไปแบกรับพลังของอารยธรรมการฝึกปราณหนึ่งได้!

พลังเช่นนี้ยังถูกเรียกว่า ‘มรรคโลกาสวรรค์’

“การตอบสนองของเจ้าเฒ่าสองคนนี้ถือว่าไม่ช้า ดูท่าว่าในใจพวกเขาคงคาดเดาได้ว่าหลินสวินใกล้เข้าสู่โลกโลกาสวรรค์แล้ว”

ฉงซวีหัวเราะเบาๆ

เขาพาดกระบี่โบราณบนแผ่นหลัง ใต้ฝ่าเท้ามีภาพกระบี่มากมายปรากฏ ท่วงท่าสง่างาม

“น่าเสียดาย เมื่อหลินสวินเข้าสู่โลกนี้ พวกเขาสองคนย่อมไม่มีทางช่วยหลินสวินได้แล้ว”

สีหน้าปาเจวี๋ยเรียบเฉย

บนร่างกำยำดุจภูผาของเขามีพายุสายฟ้าปั่นป่วน รัศมีแสงไร้ขอบเขตพลุ่งพล่าน

“เมื่อถูกพวกเราหมายตา อย่างมากพวกเขาก็ได้แต่รักษาชีวิต ไหนเลยจะมีโอกาสไปช่วยเหลือ”

เฟ่ยหยายิ้มบางๆ

เขาสูงวัยแก่หง่อม แต่เสียงกลับฉะฉานเหมือนเด็กหนุ่ม บนตัวมีลักษณ์ประหลาดทั่วหล้าหมุนวนราวกับกระแสน้ำ อานุภาพยิ่งใหญ่ไพศาล

“วันนี้พวกเราเพิ่งได้ข่าว ตามการวิเคราะห์ของจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคน หลินสวินน่าจะเข้าสู่โลกโลกาสวรรค์ในช่วงนี้”

ฉงซวีกล่าวเสียงขรึม “ในข่าวยังบอกว่าแม้แต่จอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคนก็ไม่แน่ใจว่าหลินสวินจะออกจากโลกแปรมรรคเมื่อไรกันแน่ พวกเจ้าว่าหลินสวินมาถึงโลกโลกาสวรรค์ก่อนล่วงหน้าแล้วหรือไม่ เพียงแต่พวกเรายังไม่รู้เท่านั้น”

“มาถึงก่อนล่วงหน้าหรือ”

ปาเจวี๋ยส่ายหัวกล่าว “เป็นไปไม่ได้ หากเขามาถึงก่อนล่วงหน้า เขามีหรือจะไม่ไปติดต่อกับเฒ่าโดดเดี่ยวและราชครู”

“ไม่ติดต่อกันล่วงหน้าก็หมายความว่าไม่มาถึงก่อนล่วงหน้าหรือ เรื่องนี้ไม่สมเหตุสมผล”

ฉงซวีกล่าว “ด้วยความสามารถของหลินสวิน ยามมาโลกโลกาสวรรค์ต้องเข้าใจโลกนี้มาก่อนแน่ เกรงว่าเขาคงรู้ดีว่าถ้าอยากต่อสู้กับพวกเราต้องหยั่งรู้และครอบครองพลังต้นกำเนิดโลกาสวรรค์โดยเร็ว หากเขาเข้าสู่โลกนี้แล้วเลือกจำศีลขึ้นมา ต่อให้พวกเราอยากจับตัวเขาก็คงยากลำบากนัก”

เขาเว้นช่วงไปก่อนกล่าวต่อ “ดังนั้นครั้งนี้พวกเราจึงมาจัดการเฒ่าโดดเดี่ยวและราชครู หากจับตัวพวกเขาได้ นั่นก็เป็นตัวประกันที่ข่มขู่หลินสวินได้ ไม่ว่าเขาปรากฏตัวเมื่อไหร่ก็จะถูกพวกเราข่มขู่”

“หากเขาปรากฏตัวในโลกโลกาสวรรค์นี้แล้ว ถ้าสังเกตเห็นว่าพวกเรากำลังตามล่าพวกเฒ่าโดดเดี่ยว มีหรือจะนิ่งดูดาย”

ฉงซวีกับเฟ่ยหยาล้วนพยักหน้า

กล่าวกันถึงที่สุดแล้วโลกโลกาสวรรค์กว้างใหญ่เกินไปจริงๆ ไม่มีใครรู้ว่าเขาจะปรากฏตัวเมื่อไหร่

คิดจะโจมตีหลินสวินทันที แน่นอนว่าต้องคิดหาวิธีอื่น

ดังนั้นครั้งนี้หลังจากได้รับข่าวซึ่งส่งมาจากจอมมรรคชะตาสวรรค์เก้าคน พวกเขาจึงเริ่มลงมือทันใด สิ่งสำคัญไม่ใช่การสังหารเฒ่าโดดเดี่ยวและราชครู แต่จะจับตัวพวกเขามาจัดการหลินสวิน!

ตอนนี้ยามพวกเขาหกคนแยกกันจัดการเฒ่าโดดเดี่ยวกับราชครู ยังมีทูตชะตาสวรรค์อีกสามคนกำลังแยกกันเคลื่อนไหว ลาดตระเวนโลกโลกาสวรรค์

เพื่อตามหาหลินสวินและกำจัดเขาโดยเร็ว!

ยามพูดคุยการเคลื่อนไหวของพวกฉงซวี ปาเจวี๋ย เฟ่ยหยาไม่ได้ช้า ตามรอยเฒ่าโดดเดี่ยวไปติดๆ ไม่เกียจคร้านแม้แต่น้อย

ขณะเดียวกันส่วนลึกของหมู่เขาเงียบสงัดไร้ผู้คนในโลกโลกาสวรรค์ มีหุบเขาไม่สะดุดตาแห่งหนึ่ง ลึกลงไปใต้พื้นหุบเขาหมื่นจั้งมีถ้ำสถิตแห่งหนึ่งอยู่

นอกถ้ำสถิตปกคลุมด้วยผนึกอัศจรรย์ซึ่งบดบังกลิ่นอาย

ในถ้ำสถิตมีชายหญิงคู่หนึ่งกำลังนั่งสมาธิฝึกปราณอยู่ในนั้น

………………….

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์