ตาของสืออวี่มองไปยังจูเหล่าซาน ก็เห็นร่างสูงใหญ่กำยำ หนวดเครารุงรัง กล้ามเนื้อสีทองแดงที่เปลือยออกมาบึกบึนราวหินผา เปี่ยมด้วยความรู้สึกราวพลังปะทุ
สีหน้าเขาเย็นชาไร้อารมณ์ เขามีท่าทางสงบนิ่งราวบรรพตไม่อาจสั่นคลอน
ชิ้ง!
ทว่าขณะนี้ จูเหล่าซานเก็บมีด ลุกขึ้นย่างสามขุมออกไปภายนอก
“จูเหล่าซาน เจ้าไม่พูดสักคำก็จะไปแล้วหรือ”
เทพเศรษฐีสือพูดเสียงค่อย
แต่กลับพบว่าจูเหล่าซานเอ่ยขึ้นโดยไม่หันหน้ามามองว่า “ถ้าไม่ตาย กลับมาจะย่างเนื้อวัวให้เจ้ากิน”
เทพเศรษฐีพลันหัวเราะ “เช่นนั้นข้าจะรอเจ้ากลับมา!”
สืออวี่ลนลาน “ท่านพ่อ ท่านพูดว่าจะช่วยหลินสวินมิใช่หรือ ทำไมถึงมองเขาจากไปอย่างนี้ล่ะ”
เทพเศรษฐีเอ็ดว่า “เจ้าโง่ ไม่เห็นรึว่าเขาไปหาเพื่อนคนนั้นของเจ้าเองแล้ว”
สืออวี่พ่นน้ำออกมา “อะไรกันนี่”
เทพเศรษฐีลุกยืน ยันร่างอ้วนท้วนใหญ่โตขึ้นแล้วหันหน้าไปข้างนอก สีหน้าแปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก
“นี่ก็คงเป็นเรื่องที่ชะตาลิขิตเอาไว้แล้วกระมัง ช่างบังเอิญเสียเหลือเกิน…” เทพเศรษฐีทอดถอนใจ
ทันใดนั้น ก็อธิบายที่มาที่ไปแก่สืออวี่
แท้จริงแล้วหลินเต้าเฉินทวดของหลินสวิน เป็นผู้มีพระคุณของจูเหล่าซานนั่นเอง!
หลายร้อยปีก่อน ขณะนั้นจูเหล่าซานยังเป็นทหารสู้ใหม่แรกเข้าสนามรบ เขาถูกเผ่ามืดซุ่มโจมตี ตกอยู่ในสภาพสิ้นหวัง
ตอนนั้นหลินเต้าเฉินเองไม่ได้ตั้งใจจะช่วยเขา เพียงบังเอิญผ่านทาง เลยถือโอกาสกำราบเผ่ามืดพวกนั้น จึงเท่ากับพลอยช่วยชีวิตจูเหล่าซานไปด้วย
แต่ไม่ว่าอย่างไร จูเหล่าซานก็จดจำเรื่องนี้ไว้ ทั้งสาบานว่าถ้าชีวิตนี้มีโอกาสรอดกลับไปจากสนามรบ จะตอบแทนบุญคุณที่หลินเต้าเฉินช่วยชีวิตตนแน่
ทว่าน่าเสียดาย เมื่อจูเหล่าซานกลับมาจากสนามรบ หลินเต้าเฉินก็ร่างสลายสิ้นลมปราณเสียแล้ว สำหรับเขา นี่ไม่ต่างกับฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ
หลังจากนั้นหลายปี จูเหล่าซานก็อยู่ที่ชายแดนสนามรบโดยตลอด หมกมุ่นกับการออกศึก ดำรงชีพด้วยการต่อสู้ พลังจึงทวีความแข็งแกร่งด้วยเหตุนี้
ต่อมาเมื่อรู้ว่าครอบครัวสายตรงของหลินเต้าเฉินถูกฆ่าล้างตระกูลไปเมื่อสิบกว่าปีก่อนเข้า จูเหล่าซานก็กลับมาเมืองต้องห้ามอย่างโกรธแค้น แต่พอเขากลับมาถึง ศัตรูก็สาบสูญไปนานแล้ว ยังให้ความแค้นของเขาไม่มีที่ระบายออก ในที่สุดเขาจึงหมดอาลัยตายอยาก แล้วกลายเป็นพ่อครัวไร้นามอยู่ที่เรือนรู้รสแห่งนี้
สืออวี่เมื่อรู้เรื่องราวทุกอย่างเข้าพลันเกิดความเคารพขึ้นในใจ “จูเหล่าซานผู้นี้เป็นชายชาตรีที่ยึดมั่นในคำสัญญาโดยแท้”
เทพเศรษฐีพยักหน้า “จูเหล่าซานในตอนนั้นเป็นเพียงทหารเล็กๆ ไร้ความสำคัญ ขนาดท่านเต้าเฉินคงยังไม่น่ารู้ว่าจะมีทหารผู้น้อยสาบานว่าจะตอบแทนบุญคุณที่บังเอิญช่วยชีวิตไว้ครั้งหนึ่ง แต่จูเหล่าซานก็ทำเช่นนี้แล้ว”
เทพเศรษฐีพูดพลางทอดถอนใจ “ตอนที่รู้เรื่องเหตุนองเลือดที่เกิดกับตระกูลท่านเต้าเฉินเข้า จูเหล่าซานกินไม่ได้นอนไม่หลับ จะนั่งจะนอนก็กระวนกระวายใจ ตกอยู่ในความรู้สึกโทษตัวเอง ไม่สามารถดึงกลับมาได้ ผู้ที่มีใจสัตย์ซื่อเช่นนี้ปัจจุบันใต้หล้าหายากนัก”
สืออวี่อดตื้นตันใจไม่ได้ ไม่คิดว่าขนาดบิดาของตนยังยกย่องจูเหล่าซานอย่างนี้ ทันใดนั้นเขาก็โพล่งขึ้น “ถ้าอย่างนี้ ครั้งนี้ข้าก็มาได้พอดีจริงๆ”
“นี่เป็นกงเกวียนกำเกวียนที่เบื้องบนลิขิตน่ะสิ เหตุที่ท่านเต้าเฉินยื่นมือช่วยเหลือโดยไม่ตั้งใจในคราวนั้น พันผูกให้เกิดผลในวันนี้ กงเกวียนกำเกวียน บุญทำกรรมแต่ง น่าอัศจรรย์เกินบรรยาย” เทพเศรษฐีถอนใจ
สืออวี่ส่งเสียงรับเบาๆ พลางรู้สึกได้ว่าเรื่องนี้เต็มไปด้วยความบังเอิญ
หากไม่ใช่ตนนำข่าวหลินสวินเหลนของหลินเต้าเฉินมาบอกจูเหล่าซาน จูเหล่าซานคงอยู่ที่เรือนรู้รสไปทั้งชีวิต จมอยู่กับห้วงความรู้สึกโทษตัวเองไม่อาจออกมาได้
ถ้าไม่ใช่เพราะหลินเต้าเฉินบังเอิญให้ความช่วยเหลือ จูเหล่าซานก็คงไม่มีชีวิตอยู่ถึงตอนนี้
ทั้งหมดล้วนเป็นบุญทำกรรมแต่งโดยแท้ ไม่อาจลิขิตล่วงหน้าได้
“ระดับมหาสมุทรวิญญาณมีอายุขัยสามร้อยปี ระดับหยั่งสัจจะมีอายุขัยหกร้อยปี ระดับกระบวนแปรจุติมีอายุขัยเก้าร้อยปี จูเหล่าซานในปัจจุบันเหลืออายุขัยจากระดับหยั่งสัจจะอยู่น้อยนิด ถ้าคราวนี้เขาได้ทดแทนบุญคุณ คลายปมในใจ อาจมีโอกาสเลื่อนเข้าระดับกระบวนแปรจุติ ยืดอายุขัยออกไปได้อีก”
ไม่รู้ว่าเทพเศรษฐีนึกอะไรได้ พึมพำขึ้นมา “ถ้าไม่เช่นนั้น การแทนคุณครั้งนี้ ก็จะกลายเป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตผู้ฝึกปราณของเขา”
“จริงสิท่านพ่อ ข้ามีเรื่องจะปรึกษาท่าน” สืออวี่รีบพูดขึ้น
เทพเศรษฐีตื่นจากภวังค์ความคิด พลันพูดว่า “ถ้าเป็นเรื่องยุ่งยากก็อย่าได้ยกขึ้นมาเลย พ่อวุ่นวายใจเหลือเกิน”
สืออวี่พูดพลางหัวเราะ “เป็นเรื่องดีที่ใหญ่ราวฟ้าต่างหากขอรับ”
พูดจบก็เล่าเรื่องตนจะประมูลสมบัติมหาศาลเกินคนรุ่นเดียวกันแทนหลินสวินให้ฟัง
“ทำดีมาก! ข้าเพิ่งมารู้เอาตอนนี้ว่าสิ่งที่ชอบที่สุดก็คือการหาเงิน แล้วก็ตอนคิดเรื่องหาเงินนี่ล่ะ ข้าถึงมีความสุขขึ้นมาได้”
เทพเศรษฐีพลันหัวเราะเสียงดัง เอามือตบไหล่สืออวี่จนฝ่ายหลังเสียการทรงตัวเกือบล้มไปกับพื้น
สืออวี่ยิงฟันอย่างเจ็บปวดพลางลูบไหล่ ดีใจอย่างยิ่งที่ได้รับการยอมรับและคำชมจากบิดา ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย!
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์