Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 344

สรุปบท ตอนที่ 344: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 344 – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 344 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ชายสามคนนั่งเรียงกันอยู่ภายในโถงประชุมใหญ่

พวกเขาทั้งสามคือหลินเทียนหลง หัวหน้าตระกูลหลินแห่งธารประจิม หลินเนี่ยนซาน หัวหน้าตระกูลหลินแห่งคานเมฆา และหลินผิงตู้ หัวหน้าตระกูลหลินแห่งยอดวายุ

ทั้งสามล้วนเป็นยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะที่ครองอำนาจในแต่ละตระกูลสายรองของตระกูลหลิน เรียกได้ว่าอำนาจล้นฟ้า

ยากจะเห็นพวกเขามารวมตัวกันแบบนี้ และตอนนี้สีหน้าของพวกเขาต่างอึมครึมไม่แพ้กัน

พวกเขารู้เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นที่ภูเขาชำระจิตจากปากเซียวเฟิ่งหรูแล้ว คิดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กหนุ่มที่ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมจะปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขาอย่างเด็ดขาด!

สิ่งที่กระตุ้นเพลิงโกรธของพวกเขาที่สุดคือ เจ้าหนุ่มนั่นทำลายพลังปราณของหัวหน้าผู้ดูแลต่างสกุลที่พวกเขาส่งไป เป็นการจงใจท้าทายเกียรติของพวกเขาชัดๆ!

“พวกขยะไร้ค่า ไสหัวออกไป!”

ในที่สุดเสียงคำรามของหลินเทียนหลงหัวหน้าตระกูลหลินแห่งธารประจิมที่นั่งอยู่ตรงกลางสุดก็ดังกึกก้องไปทั่วทั้งโถง

สีหน้าของพวกเซียวเฟิ่งหรูพลันเศร้าสร้อยไร้ที่เปรียบ คืบคลานขึ้นจากพื้นอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก ก่อนจะจากไปอย่างเศร้าหมอง

ดังคาด คนที่สูญเสียพลังปราณไปก็ไม่ต่างอะไรกับคนพิการ เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่มีค่าอะไรแล้ว!

เดาได้ไม่ยากว่าหลังจากพวกเขาออกจากโถงประชุมนี้แล้ว ทั้งอำนาจและลาภยศที่เคยมีก็หายไปโดยปริยาย

แม้การแก้แค้นของหลินสวินไม่ใช่การฆ่าฟัน แต่มันโหดร้ายยิ่งกว่าการฆ่าพวกเขาเสียอีก!

“ดูเหมือนว่า เด็กนั่นคิดจะต่อต้านเราจริงๆ”

หลินเทียนหลงสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนพูดด้วยสีหน้าขรึมจัด แววตาสาดประกายความเย็นเยียบสุดกำลัง

“หึ แค่เด็กเมื่อวานซืน กลับไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง บังอาจมาแข็งข้อกับพวกเรา ช่างไม่ประสีประสา”

อีกด้านหนึ่งหลินเนี่ยนซานหัวหน้าตระกูลหลินแห่งคานเมฆาแค่นเสียงอย่างเยียบเย็น

“ไม่รู้ว่าทั้งสองท่านมีความคิดอย่างไร?”

มีเพียงหลินผิงตู้ หัวหน้าตระกูลหลินแห่งยอดวายุที่พูดอย่างเรียบเฉยอย่างเป็นที่สุด “เด็กคนนี้มีลัญจกรชำระจิต ทั้งยังครอบครองภูเขาชำระจิต ถ้าเขาไม่ยอมสละอำนาจปกครองตระกูล เราก็ทำอะไรเขาไม่ได้”

ได้ยินแบบนี้สีหน้าของหลินเทียนหลงและหลินเนี่ยนซานพลันมืดทะมึนลงไปอีกสามส่วน

นี่เป็นปัญหาที่ยากจัดการโดยแท้ ถ้าฆ่าหลินสวิน ภูเขาชำระจิตก็จะหลุดไปจากมือของตระกูลหลินและตกเป็นของราชวงศ์จักรวรรดิ

แต่ถ้าไม่ฆ่าเขา คนในตระกูลสาขาอย่างพวกเขาก็ยากจะหวนคืนสู่ภูเขาชำระจิต ทำให้ไม่สามารถครองอำนาจสูงสุดของตระกูลได้อย่างเป็นทางการ!

ก็เหมือนทั้งสามที่ตอนนี้แม้จะได้ชื่อว่าเป็นหัวหน้าของสามตระกูลสาขาแห่งตระกูลหลิน แต่อย่างไรก็เป็นได้เพียงหัวหน้า มิอาจเป็น ‘ผู้นำตระกูล’ ได้

นี่ก็คือความแตกต่าง

“เทียนหลง เจ้าเป็นคนมากแผนการ ไม่รู้ว่าเจ้าคิดเห็นอย่างไรต่อเรื่องนี้”

สายตาของหลินผิงตู้กวาดมองไปยังหลินเทียนหลงที่อยู่ตำแหน่งตรงกลาง

“ถ้าเพียงเด็กคนนั้นคงจัดการได้ไม่ยาก แต่ประเด็นคือตอนนี้มียอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะโผล่มาคุ้มครองเขาอีกคน นี่จัดการยากเอาการ”

หลินเทียนหลงมุ่นคิ้ว “นอกเสียจากให้ผู้อาวุโสท่านใดท่านหนึ่งของเราสามตระกูลออกโรง บางทีอาจจะกำจัดยอดฝีมือที่คอยคุ้มครองเด็กนั่นได้ แต่ปัญหาใหญ่คือ ต่อให้ทำถึงขนาดนั้นแล้ว แต่ถ้าเด็กนั่นยอมตายไม่ยอมจำนน เช่นนั้นข้าเองก็จนปัญญา”

อีกสองคนเงียบไปทันที

เรื่องที่ทำให้พวกเขาปวดหัวที่สุดคือสิทธิ์ขาดของภูเขาชำระจิต ซึ่งบนโลกนี้มีเพียงหลินสวินคนเดียวเท่านั้นที่มีสิทธิ์สืบทอดภูเขาชำระจิต

ทำให้พวกเขาไม่สามารถลงมือกับหลินสวินได้อย่างเต็มที่

“แต่ถ้าสู้กันซึ่งหน้าไม่ได้ ก็ต้องใช้วิธีอื่น”

แววตาของหลินเทียนหลงพลันฉายความดุดัน “ข้าไม่เชื่อว่าเด็กนั่นจะมุดหัวอยู่ในภูเขาชำระจิตได้ตลอดชีวิต ขอเพียงแค่เขากล้าก้าวออกจากภูเขาชำระจิต เราย่อมมีวิธีนับร้อยพันที่จะควบคุมเขาไว้!”

หลินเนี่ยนซานแววตาทอประกาย “หมายความว่าอย่างไร”

หลินผิงตู้ที่อยู่อีกด้านราวกับตระหนักได้ทันที พลันยิ้มกล่าว “วิธีนี้ก็ไม่เลว แค่ให้เด็กนั่นไม่ถึงตาย ไม่ว่าจะด้วยวิธีใด ขอเพียงสามารถควบคุมเขาให้มาเป็นหุ่นเชิดของเราได้ก็พอ”

หลินเนี่ยนซานเองก็เข้าใจความหมายแล้ว พลันกล่าวอย่างพินิจพิเคราะห์ “การจะทำแบบนี้มีอยู่หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวางยาก่อนแล้วลักพาตัว ลอบโจมตีหรืออื่นๆ อีกมากมายที่จะควบคุมตัวเขาเอาไว้ แล้วค่อยใช้วิชาพิษสะกดจิต ควบคุมกายหยาบของเขาและสั่งการวิญญาณ ถึงตอนนั้น เขาจะกลายเป็นเพียงเด็กปัญญาอ่อนที่สูญเสียจิตใต้สำนึกของตนเอง เพียงเท่านี้ก็กลายเป็นหุ่นเชิดที่ทำตามคำสั่งของพวกเราแล้วมิใช่หรือ”

พูดยังไม่ทันจบ หลินเทียนหลงและหลินผิงตู้ที่อยู่ข้างๆ ก็ยั้งรอยยิ้มไม่อยู่แล้ว

ทันใดนั้นหลินเทียนหลงก็เก็บสีหน้า “ท่านทั้งสอง ขอให้เก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับที่รู้กันเพียงเราสามคนเป็นพอ อย่าให้รู้ถึงหูใครอีก”

หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้ต่างพยักหน้า “นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว”

พวกเขาล้วนเป็นหัวหน้าของตระกูลสาขาแต่ละตระกูล ย่อมรู้ดีว่าหากเรื่องนี้แพร่สะพัดออกไป แม้วันหนึ่งพวกเขาจะได้เป็นผู้ปกครองภูเขาชำระจิต แต่ชื่อเสียงก็ต้องป่นปี้

เพราะตามศักดิ์แล้ว อย่างไรพวกเขาก็เป็นผู้อาวุโสของหลินสวิน ทั้งยังเป็นผู้สืบสายเลือดจากตระกูลเดียวกัน ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโส แต่กลับคิดร้ายกับลูกหลานของตัวเอง เรื่องแบบนี้ไม่ว่าอย่างไรก็เป็นเรื่องที่อัปยศอดสู

“ถ้าอย่างนั้น เรื่องนี้ก็จัดการตามนี้”

หลินเทียนหลงพูดเสียงขรึม “ต่อไป ขอให้ทั้งสองท่านส่งกำลังคนที่เก่งกาจที่สุดมาจัดการเรื่องนี้ร่วมกับข้าโดยเร็วที่สุด เมื่อทุกอย่างสำเร็จตามแผน ก็ถึงเวลาที่พวกเราสามตระกูลจะหวนกลับภูเขาชำระจิตเสียที!”

หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้ตอบรับเป็นเสียงเดียวกัน

“ฮ่า คนตกอับหรือ ข้าว่าไม่ขนาดนั้น” พญาแร้งระบายยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ

ขณะนั้นเองข่าวที่ฉายอยู่ในจอภาพวิญญาณที่อยู่ด้านหลังพลันดึงดูดความสนใจของพญาแร้งและเสี่ยวเคอ

“ผู้โดดเด่นรุ่นใหม่ที่จะแนะนำในวันนี้ ยังคงเป็นอัจฉริยะหนุ่มผู้คว้าอันดับหนึ่งในการทดสอบระดับมณฑลจากมณฑลซีหนานแห่งจักรวรรดิ”

“เขาผู้นี้นามว่าหลินสวิน มีพรสวรรค์โดดเด่น เรื่องที่ผู้คนต่างเล่าขานกันไม่รู้จบคือ เขาผู้นี้คว้าอันดับหนึ่งในการทดสอบระดับมณฑลที่มณฑลซีหนาน ในฐานะผู้ฝึกปราณขั้นผสานใจแห่งระดับจิตผสานวิญญาณ!”

“เหลือเชื่อจริงๆ เขาทำได้อย่างไรกัน ใต้หล้านี้จะมีสักกี่คนที่ทำผลงานได้โดดเด่นอย่างเขา”

หญิงสาวผู้งดงามในจอภาพวิญญาณพูดยังไม่ทันจบด้วยซ้ำ ก็เรียกเสียงฮือฮาและเสียงอุทานจากผู้คนจำนวนมากที่เหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่ได้ยิน

“โฮ่! หลินสวินผู้นี้เก่งกาจเพียงนั้นเชียว”

“อายุเพียงสิบสี่ ก็อยู่ในขั้นผสานใจแห่งระดับจิตผสานวิญญาณแล้วอย่างนั้นหรือ ข้าหูฝาดไปใช่หรือไม่”

“เห็นชัดว่าเป็นไปได้เพียงสองอย่าง ถ้าไม่ใช่เพราะหลินสวินผู้นี้เป็นอัจฉริยะระดับปีศาจ ผู้ฝึกปราณที่เข้าร่วมการทดสอบในมณฑลซีหนานก็คงด้อยความสามารถเอง มิเช่นนั้นจะยอมให้เด็กหนุ่มอายุเพียงสิบกว่าคว้าอันดับหนึ่งไปได้อย่างไร”

“ข้าเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหลินสวินอยู่บ้าง คิดว่าคงเป็นเรื่องจริง นี่มันการทดสอบระดับมณฑล ใครจะกล้าปลอมแปลง”

“ก็หมายความว่ามีความเป็นไปได้สูง ที่หลินสวินผู้นี้จะเข้าร่วมการทดสอบระดับอาณาจักรในครั้งนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ”

“แน่นอนล่ะ อันดับหนึ่งในการทดสอบระดับมณฑลเชียวนะ จะพลาดโอกาสแบบนี้ได้อย่างไร”

เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้กระทั่งพญาแร้งและเสี่ยวเคอยังตะลึง หยุดฝีเท้ามาเงี่ยหูฟังด้วยท่าทีสนอกสนใจ

ไม่นานทุกคนต่างต้องอึ้งงันกับอีกข่าวที่จอภาพวิญญาณรายงาน

“ภายหลังได้รับการยืนยันว่า หลินสวินผู้นี้เป็นทายาทสายตรงของตระกูลหลินแห่งนครต้องห้าม ซึ่งขณะนี้ได้สืบทอดภูเขาชำระจิตที่เป็นหนึ่งใน ‘ภูเขาแห่งอำนาจ’ จากทั้งหมดเจ็ดสิบสองลูก”

“ที่น่าเสียดายคือ หลินสวินวุ่นอยู่กับภารกิจที่รัดตัว จึงประกาศชัดแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมการทดสอบระดับอาณาจักรในครั้งนี้ คาดได้เลยว่าเมื่อไม่มีอัจฉริยะผู้คว้าอันดับหนึ่งจากมณฑลซีหนานมาร่วมด้วย การทดสอบระดับอาณาจักรในครั้งนี้คงเสียความน่าสนใจลงมากอย่างไม่ต้องสงสัย”

ได้ยินเช่นนี้ ผู้ฝึกปราณที่ฟังอยู่ต่างวิจารณ์กันอย่างดุเดือด

“ตระกูลหลินอย่างนั้นหรือ? ข้าจำได้แค่ว่าในนครต้องห้ามมีตระกูลหลินสี่ตระกูล แต่พวกเขาล้วนไม่มีสิทธิ์ครอบครองภูเขาชำระจิตนี่!”

“เจ้าไม่รู้อะไรเสียแล้ว มีเพียงผู้สืบสายเลือดโดยตรงจาก ‘ท่านเต้าเฉิน’ แห่งตระกูลหลินเท่านั้นที่จะมีสิทธิ์สืบทอดภูเขาชำระจิต อย่าบอกนะว่าเจ้าไม่รู้ว่าท่านเต้าเฉินคือใคร ท่านคือราชันระดับสังสารวัฏที่เคยช่วยจักรวรรดิของเราจากพิบัติภัยน้ำไฟเมื่อห้าร้อยปีก่อน!”

“ปัดโถ่ ไม่คิดเลยว่าผู้คว้าอันดับหนึ่งจากการทดสอบระดับมณฑลของซีหนานจะเป็นถึงผู้สืบสายเลือดโดยตรงของท่านเต้าเฉิน ถึงว่าอายุเพียงเท่านี้ ก็มีผลงานที่โดดเด่นเพียงนี้แล้ว”

“เฮ้ย แต่เมื่อสิบกว่าปีที่แล้วได้เกิดโศกนาฏกรรมนองเลือดครั้งรุนแรงสุดที่ภูเขาชำระจิตมิใช่หรือ จู่ๆ หลินสวินหวนกลับสู่นครต้องห้าม มาปกครองภูเขาชำระจิตในฐานะทายาทสายตรงของตระกูลหลินแบบนี้ เท่ากับวิ่งเข้ากองเพลิง ประมาทแต่เพียงนิดก็อาจพินาศได้!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์