พวกสอดรู้สอดเห็นล้อเลียนกันว่าหลินสวินเป็น ‘เจ้าแห่งตระกูลมหาอำนาจที่อายุน้อยที่สุดในนครต้องห้าม’
ในขณะเดียวกันยังมีอีกชื่อที่เต็มไปด้วยความเย้ยหยัน นั่นก็คือ ‘เจ้าแห่งภูเขาชำระจิตที่เดียวดายที่สุด’!
แต่การล้อเลียนและเย้ยหยันทั้งหมด ได้สะท้อนให้เห็นความจริงข้อหนึ่ง นั่นคือหลินสวินยังเด็กมาก
เขาเพิ่งอายุสิบกว่าปีเท่านั้น ท่ามกลางบรรดาตระกูลมหาอำนาจมากมายในนครต้องห้าม หาแบบนี้ไม่ได้อีกแล้ว
อีกอย่าง สภาพของผู้สืบทอดตระกูลหลินอย่างเขาก็ดูน่าเห็นใจมาก หัวเดียวกระเทียมลีบ ไม่มีเงิน ไม่มีกำลังคนคอยสนับสนุน ดูดีเพียงเปลือกนอก ทั้งยังตกอยู่ท่ามกลางอันตราย ช่างน่าสงสารเหลือเกิน
เอาเป็นว่า ชื่อของหลินสวินได้โด่งดังไปทั่วทั้งนครต้องห้ามเพียงชั่วข้ามคืน ชื่อเสียงที่ว่านี้ไม่ได้แย่ แต่ก็ไม่ถึงกับดี หากยังมีคนพูดถึงกันอยู่เรื่อยๆ
…
ทั้งหมดนี้หลินสวินล้วนไม่รับรู้
ท่ามกาลเวลาที่ล่วงเลยไปเรื่อยๆ หลินสวินก็ได้เก็บตัวฝึกมาเป็นเวลาเจ็ดวันถ้วนแล้ว
ภายในเจ็ดวันนี้ภูเขาชำระจิตสงบสุขดีมาก ปัญหาและเรื่องราวทั้งหมดถูกพญาแร้งจัดการอย่างมีระบบ
ในช่วงพลบค่ำของวันที่เจ็ด หลินจงไปที่ชั้นสามของภูเขาชำระจิตตามปกติ เพราะมีเรื่องต้องรายงานหลินสวิน
เพียงแต่หลินสวินยังไม่ออกจากสมาธิเสียที และหลินจงเองก็ไม่อยากรบกวน
ประตูสำริดบานใหญ่ถูกปิดสนิท หลินจงเห็นเช่นนี้ก็เตรียมจะหมุนตัวกลับ ในขณะนั้นเอง ก็ได้ยินเสียงหนึ่งดังทื่อๆ ขึ้น ประตูสำริดที่ปิดสนิทค่อยๆ แง้มออก หลินจงได้สติทันที ในที่สุดนายน้อยก็ออกจากสมาธิแล้ว!
เขาหันไปก็เห็นหลินสวินที่กำลังย่างเท้าเดินออกมา
แต่หลินจงกลับต้องประหลาดใจเมื่อพบว่า เมื่อเทียบกับครั้งที่ผ่านๆ มา นายน้อยที่อยู่ตรงหน้าดูมีสง่าราศีขึ้น ดวงตาอันดำขลับคู่นั้นช่างสุกใส ทุกท่วงการกระทำยิ่งดูหนักแน่นมั่นคง
หลินจงตระหนักบางอย่างได้ทันที จึงพูดอย่างปีติยินดี “ยินดีกับนายน้อยที่บรรลุขั้นผสานฟ้าแล้ว!”
หลินสวินยิ้มพูด “ลุงจง ข้าเก็บตัวฝึกนานเท่าไหร่แล้ว”
“เจ็ดวัน”
หลินสวินตะลึงงัน ในใจล่องลอยงุนงง
เขาเองก็คิดไม่ถึงว่าในการเก็บตัวฝึกครั้งนี้ เพราะกลืนรากโสมหิมะหยกเข้าไป จะทำให้พลังปราณของตัวเองราวกับเต็มจนเอ่อล้นออกมา บรรลุไปอีกขั้นอย่างราบรื่น
ทั้งยังต่างจากครั้งที่ผ่านๆ มา เพราะในการบรรลุครั้งนี้ หลินสวินสัมผัสได้ว่าไม่เพียงแค่พลังปราณ แม้กระทั่งกายหยาบและจิตวิญญาณล้วนเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่!
และทั้งหมดนี้ทำให้เขาฝึกปราณจนลืมวันลืมคืน จนถึงตอนนี้จึงได้รู้ว่าการบรรลุในครั้งนี้กินเวลานานถึงเจ็ดวัน
แต่ถ้าเทียบกันแล้ว ผลเก็บเกี่ยวก็มากเช่นกัน ก่อนอื่นคือการบรรลุปราณอีกขั้น ทำให้พลังขั้นผสานดินในตัวเขางอกงามกลายเป็นขั้นผสานฟ้าจนสำเร็จ และระดับพลังก็หนาแน่นขึ้นกว่าเดิมไม่ใช่แค่เท่าเดียว
ในขณะเดียวกัน ทั้งกายหยาบและดวงจิตล้วนได้รับการพัฒนาไปอีกขั้น เปลี่ยนเป็นแข็งแกร่งขึ้น มีดดาบธรรมดายากจะทิ้งบาดแผลอะไรบนร่างกายของเขาได้!
และในห้วงนิมิต ดาวดวงวิญญาณมแห่งจิตสิบกว่าดวงก็สว่างขึ้นอีกครั้ง ขณะนี้มีทั้งหมดเจ็ดสิบสองดวงที่กำลังกะพริบแสงอยู่ในห้วงนิมิตและโรยประกายลงมาหล่อเลี้ยงจิตวิญญาณ
ทั้งหมดนี้ทำให้การรับรู้ในดวงจิตของหลินสวินสูงขึ้นไปอีกระดับ จนเพียงพอที่จะรับรู้ได้ถึงความเคลื่อนไหวภายในรัศมีสามพันจั้ง!
นี่ก็คือขั้นผสานฟ้าแห่งระดับจิตผสานวิญญาณ
สำหรับผู้ฝึกปราณแล้ว การได้สัมผัสพลังของ ‘จักรวาล’ จากพื้นแผ่นดินสู่ฟ้า รับรู้ถึงวัฏจักรแห่งชีวิต เป็นความรู้สึกที่ดีไม่ต่างอะไรกับการได้เกิดใหม่
ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงของพลังปราณ จิตวิญญาณหรือกายหยาบและดวงจิต ล้วนเป็นการสั่งสมพลังเพื่อบรรลุระดับมหาสมุทรวิญญาณ!
นี่เป็นกระบวนการสั่งสมอย่างหนึ่ง รากฐานที่สั่งสมไว้ยิ่งมั่นคงเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นตัวช่วยส่งเสริมในขณะบรรลุ
“นายน้อย”
หลินจงพูดขึ้น “ในช่วงที่ท่านเก็บตัวมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ข้าน้อยจำเป็นต้องรายงานต่อท่าน”
“อ้อ ลุงจงว่ามาเถิด” หลินสวินเดินลงจากตำหนัก
“เรื่องที่ท่านมอบหมายไว้เมื่อเจ็ดวันก่อน ข้าน้อยได้ประสานไปยังคุณชายสามสืออวี่แห่งอัครการค้า และเขาจัดการทุกอย่างเรียบร้อยหมดแล้ว”
หลินจงตามหลังหลินสวินไป
“เรียบร้อยแล้วอย่างนั้นหรือ”
หลินสวินแปลกใจ
“ขอรับ คุณชายสืออวี่ได้ประกาศชื่อเสียงของท่านผ่านจอภาพวิญญาณในนครต้องห้ามแล้ว ตอนนี้ชื่อของท่านกำลังถูกบอกต่อไปทั่วทั้งนครต้องห้าม” หลินจงอธิบาย
“ไม่คิดว่าเจ้าสืออวี่นั่นจะฝีมือดีถึงขนาดยืมใช้จอภาพวิญญาณได้ บุญคุณครั้งนี้ใหญ่หลวงนัก” หลินสวินยิ้มออกทันที
บ่าวชราพูดต่อ “คุณชายสืออวี่ยังฝากบอกท่านว่า เขาจะเปิดงานประมูลในอีกสิบวันข้างหน้า ในรอบปีนี้จะเชิญตระกูลเศรษฐีมหาอำนาจแนวหน้าของนครต้องห้ามมาเข้าร่วม หากท่านสนใจ สามารถเข้าร่วมได้”
หลินสวินพยักหน้า “ข้ารู้แล้ว มีเรื่องอื่นอีกหรือไม่”
หลินจงรีบพูดขึ้น “อีกเรื่องคือท่านพญาแร้งกลับมาแล้ว ทั้งยังเชิญยอดฝีมือสามคนมาที่ภูเขาชำระจิต ท่านพญาแร้งบอกว่า รอให้ท่านออกจากการเก็บตัวฝึกค่อยลองไปดูด้วยตัวเอง”
“สามคนเองหรือ” หลินสวินอึ้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์