หลินสวินกระอักเลือด เจ็บปวดไปทั่วร่าง
เมื่อกี้เขาโดนโจมตีกะทันหัน ถูกพลังน่าสะพรึงกลัวของระดับหยั่งสัจจะกดทับ ได้รับบาดเจ็บไม่น้อย
ถ้าไม่ใช่ว่าเขาเก็บดาบหลบออกมาได้ในช่วงเวลาสำคัญ เพียงการโจมตีเดียวนี้ก็สามารถเอาชีวิตเขาได้!
พลังระดับหยั่งสัจจะ ได้เห็นเพียงส่วนเดียวก็รับรู้ถึงความแข็งแกร่งแล้ว!
ฮวาเชียนเฉิงเข้าโจมตีกะทันหัน ทำให้ทั้งลานประลองประหลาดใจ นี่เป็นศึกชี้เป็นชี้ตายที่ฮวาอู๋โยวเสนอขึ้น แต่ตอนนี้ พวกเขาตระกูลฮวากลับละเมิดกฎ น่าขายหน้าเกินไปแล้ว
ทว่าที่ทำให้ผู้คนคิดไม่ถึงคือ พอฮวาเชียนเฉิงพุ่งเข้าไปในลานประลองแล้วกลับไม่ได้ไปช่วยฮวาอู๋โยว แต่กลับกระโจนร่างเงื้อฝ่ามือแหวกอากาศซัดไปยังหลินสวิน
นี่มันเกินไปแล้ว!
“หน้าไม่อาย!” ผู้แข็งแกร่งอาวุโสหลายคนในที่นั้นเองก็อดโกรธขึ้นมาไม่ได้ แบบนี้เห็นชัดว่าต้องการใช้โอกาสนี้สังหารหลินสวินในคราวเดียว!
“น่ารังเกียจ!” พวกสืออวี่ หนิงเหมิงเย็นเยียบไปทั่วร่าง ราวตกลงไปในหลุมน้ำแข็ง ความไม่ละอายและความร้ายกาจโหดเหี้ยมของฮวาเชียนเฉิงทำให้พวกเขาผิดคาดไป
“ต่ำทราม!” ขนาดผู้ชมที่ดูถูกหลินสวินก่อนหน้านี้บางคน เมื่อได้เห็นภาพนี้ก็อดขมวดคิ้วไม่ได้ ตระกูลฮวานี้กำเริบเสิบสานเกินไปแล้ว!
ตูม!
แต่มาพูดอะไรเอาตอนนี้ก็สายไปแล้ว เห็นเพียงเมฆแสงน่าสะพรึงกลัวรวมตัวเป็นมือใหญ่สีดำตบลงมา บดขยี้ห้วงอากาศครั่นครืน
หลินสวินที่มีเพียงปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นต้นพลันแข็งทื่อไปทั้งตัว เลือดลมราวถูกแช่แข็ง ประหนึ่งมีภูเขาเทพสูงตระหง่านกดทับร่างไว้
ไร้ทางหลบหนี!
ถึงขั้นที่พลังน่าสะพรึงกลัวที่เต็มเปี่ยมอยู่ในมือนี้ ทำให้หลินสวินยากจะมีความคิดจะต่อต้าน
ทว่า เผชิญเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันเช่นนี้ สีหน้าหลินสวินกลับไม่ตื่นตระหนก ยังคงสงบนิ่งอย่างเคย
เงาร่างของเขายืนตระหง่านอยู่ที่เดิม ดวงตาสีดำปรากฏแววเยียบเย็นอย่างถึงที่สุด ในมือเขาปรากฏไข่มุกดำขลับแวววาวเพิ่มขึ้นมาเม็ดหนึ่งไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไร
ฟิ้ว~
ไข่มุกพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า โคจรหมุนคว้างเป็นวงกลม ปรากฏเป็นลวดลายลับที่สลับซับซ้อนและน่าพรั่นพรึง คลื่นขมุกขมัวน่ากลัวตลบอบอวลตามมา
ตูม!
เสียงดังสะท้านฟ้าดินกระหึ่มขึ้น บนลานประลองราวกับภูเขาทลายคลื่นยักษ์ซัดสาด เสาลำแสงทำลายล้างน่าหวาดหวั่นเสาหนึ่งพุ่งขึ้นมา บดขยี้ห้วงอากาศ ทำลายล้างกระแสลม
ลานประลองทั้งลานในเวลานี้สั่นสะเทือนไปทั่ว บังเกิดเสียงหวีดหวิวแหลมคมไม่อาจรับแรงไหวออกมา
ภาพนี้น่ากลัวยิ่งนัก ประหนึ่งผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะชั้นยอดกำลังแสดงพลานุภาพ ต้องการผลาญสิ้นฟ้าดิน กำราบภูผานทีอย่างกราดเกรี้ยว!
พลังทำลายล้างเกินจินตนาการนั้นพาให้ผู้ฝึกปราณทั้งลานประลองหลายคนส่งเสียงหวีดร้องพรั่นพรึงออกมา ตกตะลึงไม่หยุดหย่อน
ขนาดคนใหญ่คนโตเหล่านั้นยังอดสะท้านสะเทือน จิตใจสั่นไหวไปด้วยมิได้
ปัง!
ท่ามกลางฝุ่นละอองตลบอบอวล เงาร่างผอมแห้งของฮวาเชียนเฉิงถูกซัดกระเด็น ส่งเสียงร้องเจ็บปวดอย่างตื่นตระหนกและโมโห
เกิดเสียงดังตุ้บ ผู้ฝึกปราณยิ่งใหญ่ระดับหยั่งสัจจะเช่นเขากลับกระเด็นลงมาบนพื้นอย่างยับเยิน ปากพลันกระอักเลือดสีแดงสดออกมา!
ทั้งลานประลองนิ่งงัน ตาเบิกค้างพูดไม่ออก
หลินสวินผู้ตกอยู่ในสถานการณ์อันตรายถึงชีวิต เดิมไม่มีแรงต้านทานได้นั้น กลับอาศัยเพียงไข่มุกเม็ดเดียวก็สลายเภทภัยที่จะปลิดชีพตนได้!
ทั้งยังทำร้ายฮวาเชียนเฉิงผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะผู้ยิ่งใหญ่อย่างสาหัส!
นี่ก็คือพลังของไข่มุกสะเทือนสวรรค์
ไข่มุกนี้ก็คือสมบัติวิเศษที่ตะพาบเขียวหลอมขึ้นเพื่อฆ่าเวลาเมื่อครั้งถูกขังที่โบราณสถานบรรพกาล ตลอดเวลาพันปี ตะพาบเขียวหลอมออกมาเพียงเก้าเม็ดเท่านั้น อานุภาพแข็งแกร่ง เพียงพอที่จะทำร้ายผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะอย่างสาหัสได้!
ยามออกมาจากโบราณสถานบรรพกาล ตะพาบเขียวมอบให้หลินสวินอย่างใจกว้างไว้สามเม็ด หลินสวินเก็บไว้กับตัวมาโดยตลอด ไม่เคยมีโอกาสได้นำออกมาใช้
ทว่าตอนนี้ ฉับพลันที่นำออกมาใช้ ความแกร่งกล้าของพลานุภาพยังพาให้ใจหลินสวินสั่นไหวไม่หยุด แข็งแกร่ง แข็งแกร่งไปแล้ว! สมกับนาม ‘สะเทือนสวรรค์’!
“ไอ้เด็กเมื่อวานซืน ถึงกับร้ายกาจปานนี้ วันนี้ข้าจะไม่สนเกียรติภูมิ อย่างไรก็ต้องสังหารเจ้าเสียที่นี่เพื่อเชือดไก่ให้ลิงดู!”
ฮวาเชียนเฉิงโกรธจนสั่นไปทั้งตัว ในสายตาผู้คนนับหมื่น เขามีฐานะเป็นผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะผู้ยิ่งใหญ่ กลับถูกหลินสวินทำร้ายกระเจิดกระเจิงด้วยไข่มุกเม็ดเดียว ถือเป็นความอัปยศอดสูยิ่ง!
โครม!
เสียงพูดไม่ทันเงียบลง ฮวาเชียนเฉิงก็ออกโจมตีอีกครั้ง หนวดเคราเผ้าผมของเขาสยายออกบ้าคลั่ง ดวงตาดุร้ายราวสายฟ้าฟาดแปลบปลาบ ความแข็งแกร่งของพลานุภาพพาให้ฟ้าดินเปลี่ยนสี
“เศษสวะ!”
เพียงแต่ชั่วขณะนี้ฮวาเชียนเฉิงได้สูญเสียโอกาสไปเสียแล้ว ระหว่างที่เขากำลังลงมือก็ได้ยินเสียงเย็นชาเคร่งขรึมดังขึ้น
เสียงนั้นราวกับเสียงปรามาสของเทพอัสนี สะท้านสะเทือนไปทั้งวิญญาณ
ฝูงชนเพียงรู้สึกว่าดวงตาพร่ามัว เงาร่างสูงตระหง่านโหดเหี้ยมร่างหนึ่งปรากฏขึ้นบนลานประลอง มือใหญ่ดั่งพัดเข้าตะปบ
บังเกิดเสียงดังตูม ห้วงอากาศระเบิดกระจุย ร่างของฮวาเชียนเฉิงราวถูกมือใหญ่ไร้รูปร่างกุมไว้แล้วทุ่มลงพื้นอย่างโหดเหี้ยม กระดูกทั้งกายไม่รู้แตกไปกี่ซี่ ทั้งร่างหดเกร็ง เลือดไหลไม่หยุด
ทั้งลานประลองเงียบสนิทไร้เสียง
ดวงตาทุกคู่จับจ้องไปยังเงาร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏขึ้นอย่างฉับพลันนั้น สีหน้าเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
ฮวาเชียนเฉิงเป็นผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ พลังแข็งแกร่งมหาศาลขนาดไหน แต่เมื่ออยู่ในมือบุรุษร่างสูงตระหง่านผู้นี้ กลับเหมือนไม่มีฝีมือสมกับที่ร่ำลือ ถูกการโจมตีเดียวกำราบลงกับพื้น
โหดเหี้ยมดุดันเกินไปแล้ว!
พาให้คนไม่กล้าคาดคิด
เงาร่างสูงใหญ่นี้ก็คือจูเหล่าซาน เขามาด้วยกันกับหลินสวิน ย่อมไม่อาจทนเห็นฮวาเชียนเฉิงทำร้ายหลินสวินได้
“จูเหล่าซาน ฆ่าเขาซะ!”
หลินสวินเอ่ยปากอย่างไม่ลังเลด้วยเสียงเยียบเย็น
การประลองชี้เป็นชี้ตายแต่เดิม กลับถูกตาแก่นี่ยื่นมือเข้ามาขัดขวาง ไม่เพียงทำให้หลินสวินเสียโอกาสสังหารฮวาอู๋โยว ทั้งเกือบเอาชีวิตหลินสวินไปด้วย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์