Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 383

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 383 ดำเนินการหลอมอาวุธอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น
ตอนที่ 383 ดำเนินการหลอมอาวุธอย่างสะเทือนเลื่อนลั่น
โดย
ProjectZyphon
ท่ามกลางการรอคอยของทุกคน เวลาก็ผ่านไปแล้วเจ็ดวัน

หลินสวินเก็บตัวอยู่บนชั้นสามของตำหนักชำระจิตมาโดยตลอด ไม่ก้าวเท้าออกจากห้อง ไม่เคยโผล่หน้าออกมาเลย ผู้อื่นก็ไม่มีทางรู้ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

หลายคนหมดความอดทนลงอย่างรวดเร็ว มีเพียงคนไม่กี่คนอย่างเสี่ยวเคอ พญาแร้งที่จับตาดูอยู่ตลอด

วันนี้เอง หลินจงเดินออกมาจากตำหนักชำระจิต

ดวงตาเสี่ยวเคอและพญาแร้งล้วนพากันมองไป ในเจ็ดวันนี้หลินจงรอฟังคำสั่งอยู่ในตำหนักชำระจิตชั้นสามตลอด

และวันนี้ในที่สุดเขาก็เดินออกมา หรือว่าหลินสวินจะออกมาแล้ว?

แต่ที่ทำให้เสี่ยวเคอและพญาแร้งแปลกใจก็คือ สีหน้าของหลินจงในเวลานี้แปลกประหลาดอย่างบอกไม่ถูก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหม่อลอย ราวไปพบกับเรื่องราวน่าสะเทือนขวัญถึงที่สุดทั้งยังไม่อาจแก้ไขได้เข้า

“นี่มันอย่างไรกัน” เสี่ยวเคออดเอ่ยปากถามไม่ได้

แต่กลับเห็นว่าหลินจงราวกับเพิ่งตื่นจากห้วงนิมิต ร้องอ๋าออกมาคราหนึ่งถึงค่อยตื่นเต็มตา อดหัวเราะขื่นมิได้ แล้วพูดพลางถอนใจว่า “จินตนาการได้ยากนัก”

เขาพูดพลางพาเสี่ยวเคอและพญาแร้งเข้าไปในห้องลับห้องหนึ่ง โบกแขนเสื้อหนึ่งที อาวุธวิญญาณที่ส่องประกายสิบสองชิ้นก็ปรากฎขึ้น

ฉับพลันนั้นเอง ในห้องก็สว่าไสวไปด้วยแสงประกายที่ส่องสะท้อน ดูงดงามน่าดึงดูด

ดาบ หอก กระบี่ ทวน ขวานสั้น ขวานศึก ตะขอ ง่าม… อาวุธวิญญาณทั้งหมดสิบสองชิ้น แต่กลับปล่อยไอพลังสิบสองแบบที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง

โดยเฉพาะดาบวิญญาณเล่มหนึ่งที่อยู่ในนั้นกำลังส่งเสียงไพเราะกลางห้วงอากาศไม่หยุดหย่อน พวยพุ่งไปด้วยไอควันสีม่วงราวกับอยู่ในนิมิต ประหนึ่งมีชีวิต ปลดปล่อยไอพลังร้ายกาจคุกคามออกมา

ห้วงอากาศรอบๆ มันต่างเกิดเสียงฉีกขาดราวกับร้องครวญอื้ออึงไปหมด!

ไม่จำเป็นต้องฟังหลินจงอธิบาย สีหน้าของเสี่ยวเคอและพญาแร้งก็ปรากฏความสะท้านขวัญ นิ่งอึ้งมองเขม็งไม่พูดจา

“อาวุธวิญญาณระดับปฐพีสิบสองชิ้น!”

ครู่ใหญ่เสี่ยวเคอก็สูดหายใจลึกแล้วพูดออกมาช้าๆ

ไม่ต้องสงสัย ตลอดเจ็ดวันมานี้หลินสวินกำลังหลอมอาวุธวิญญาณ เพียงแต่ที่นางไม่อาจคาดคิดได้คือ เวลาแค่เจ็ดวัน หลินสวินก็หลอมอาวุธวิญญาณระดับปฐพีได้ถึงสิบสองชิ้นเต็มๆ แล้ว!

หรือพูดได้ว่า ราวหนึ่งวันเขาหลอมอาวุธวิญญาณระดับปฐพีได้สองชิ้น ความเร็วในการหลอมอาวุธน่าตกใจไปแล้วจริงๆ

อาวุธวิญญาณระดับปฐพีเทียบกับอาวุธวิญญาณระดับมนุษย์ไม่ได้เลย!

อาวุธวิญญาณระดับนี้ มีเพียงผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณถึงจะควบคุมได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำแดงพลานุภาพทั้งหมดของมันออกมาได้ แต่การจะหลอมขึ้นมานั้นกลับเป็นเรื่องยุ่งยากยิ่ง

โดยทั่วไปแล้วปรมาจารย์สลักวิญญาณที่มีประสบการณ์คนหนึ่ง อย่างน้อยที่สุดก็ต้องใช้เวลาสามถึงห้าวันจึงจะหลอมอาวุธวิญญาณระดับปฐพีออกมาได้หนึ่งชิ้น

เมื่อเทียบกันเช่นนี้ ก็รู้ได้ว่าความเร็วในการหลอมอาวุธของหลินสวินวิปริตผิดธรรมดาไปแล้ว

ที่ทำให้เสี่ยวเคอตระหนกตกใจก็คือ นางจำได้ชัดเจนว่า คราวก่อนที่หลินสวินไปหาหยางหลิงได้เอาโครงอาวุธวิญญาณสิบสองชิ้นออกมาด้วย แต่ตอนนี้กลับมีอาวุธวิญญาณระดับปฐพีจำนวนสิบสองชิ้นเท่าเดิมแขวนอยู่ตรงหน้า

นี่หมายความว่าอย่างไร

ก็หมายความว่ายามหลินสวินหลอมอาวุธนั้น เขาประสบความสำเร็จโดยสมบูรณ์ ไม่เคยพลาดเลยสักครั้ง!

ความเร็วในการหลอมอาวุธที่วิปริตผิดธรรมดา อัตราการประสบความสำเร็จเกินคาดคิด… ทั้งหมดนี้กลับเกิดขึ้นกับหลินสวิน นักสลักวิญญาณรุ่นเยาว์ผู้หนึ่ง นี่ทำให้เสี่ยวเคออดสะท้านไหวไม่ได้

แม้ว่านางจะรู้อยู่ก่อนแล้ว ว่าความสามารถในการสลักรอยสลักวิญญาณของหลินสวินนั้นไม่ธรรมดาอย่างยิ่ง แต่ยังคงคิดไม่ถึงว่าเขาจะทำได้ถึงขั้นนี้จริงๆ เกินคาดไปแล้ว!

ขณะที่จิตใจของเสี่ยวเคอหวั่นไหวไม่สงบอยู่นั้น พญาแร้งก็เอ่ยปากพูด ในดวงตากระจ่างของเขาเต็มไปด้วยแววตาประหลาด “ในนั้นมีชิ้นหนึ่ง หรือว่า…เป็นสมบัติวิญญาณระดับปฐพี!”

สมบัติวิญญาณ!

นี่เป็นสมบัติที่ได้มาโดยบังเอิญไม่อาจร้องขอ มีอานุภาพเกินจินตนาการ ราวกับสวรรค์ประทานโชคลาภ วิเศษมหัศจรรย์ถึงที่สุด

ทั้งจักรวรรดินี้ มีปรมาจารย์สลักวิญญาณที่มีความรู้ด้านการสลักรอยสลักวิญญาณแก่กล้าลึกซึ้งไม่น้อย แต่คนที่สามารถหลอมสมบัติวิญญาณออกมาได้นั้นมีเพียงนับนิ้วได้!

แต่หลินสวินไม่เพียงหลอมอาวุธวิญญาณได้สิบสองชิ้นในเจ็ดวัน อีกทั้งหนึ่งในนั้นยังมีสมบัติวิญญาณสวรรค์ประทาน นี่ทำให้พญาแร้งไม่อาจนิ่งเฉยต่อไปได้

เมื่อคิดให้ดียิ่งน่าสะพรึงกลัวนัก!

บนโลกในขณะนี้ นักสลักวิญญาณวัยเยาว์อายุสิบห้าปีแม้มีน้อย แต่ไม่ใช่ไม่มีเลย ทว่าคนที่ทำได้อย่างหลินสวิน ที่แทบจะเหมือนกับหลอมอาวุธวิญญาณระดับปฐพีได้สองชิ้นในวันเดียว ทั้งหนึ่งในนั้นยังให้กำเนิดสมบัติวิญญาณหนึ่งชิ้น กลับหาไม่เจอเลยสักคน!

เวลานี้เสี่ยวเคอและพญาแร้งจึงเข้าใจได้ในที่สุดว่า เหตุใดยามเพิ่งพบหลินจง สีหน้าของเขาถึงได้เหม่อลอยเช่นนั้น

ไม่ว่าใครเห็นภาพนี้เข้า เกรงว่าคงไม่มีทางสงบใจได้กระมัง

อย่างไรเสียทั้งหมดนี้ก็ช่างดูเหนือความคาดหมาย

“นายน้อยกล่าวว่า นอกจากดาบวิญญาณม่วงแล้ว อาวุธวิญญาณอื่นล้วนมอบให้ท่านจัดการ จะใช้เป็นของรางวัลไว้มอบให้กับผู้ทำความดีความชอบก็ได้”

ครู่หนึ่งหลินจงถึงได้เอ่ยปาก

“เขาตัดสินใจได้ดี อาวุธวิญญาณมีค่าชั้นนี้จะขายออกไปไม่ได้โดยเด็ดขาด” พญาแร้งเห็นด้วยอย่างยิ่ง

“ของรางวัลงั้นหรือ เขาฉลาดนะนี่ เพียงจัดการทดสอบขึ้น ใช้อาวุธวิญญาณเหล่านี้เป็นของรางวัล ก็คัดเลือกผู้มีความสามารถที่แท้จริงส่วนหนึ่งออกมาได้แล้ว”

เสี่ยวเคอราวกับมีความคิดบางอย่าง เดิมทีนางถือกำเนิดในค่ายกระหายเลือด เรื่องกติกาการทดสอบและรางวัลเหล่านี้ ย่อมพูดได้ว่านางเข้าใจแจ่มแจ้ง

มีอาวุธวิญญาณเหล่านี้เป็นของรางวัล ภายหลังหากต้องการเลือกสรรผู้มีพรสวรรค์ที่สามารถพัฒนาฝีมือขัดเกลาได้ ย่อมเป็นเรื่องที่ทำได้โดยง่าย

ไม่นานนักหลินจงก็จากไป มุ่งหน้าไปยังโรงหลอมอาวุธเพื่อรับโครงอาวุธวิญญาณที่หลอมเสร็จอยู่ก่อนแล้วสิบหกชิ้นจากมือหยางหลิง จากนั้นก็กลับมาตำหนักชำระจิตชั้นสาม นำโครงอาวุธวิญญาณเหล่านี้มอบให้หลินสวิน

……

ผ่านไปอีกเจ็ดวัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์