Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 403

สรุปบท ตอนที่ 403: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

อ่านสรุป ตอนที่ 403 จาก Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet

บทที่ ตอนที่ 403 คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายกำลังภายใน Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Internet อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 403 ให้คำชี้แนะ
ตอนที่ 403 ให้คำชี้แนะ
โดย
ProjectZyphon
“หลินสวินกำเริบเกินไปแล้ว มารยาทแย่เช่นนี้ ไม่รักษาภาพลักษณ์อาจารย์ ทำให้สาขาสลักวิญญาณของเราเสียชื่อเสียงจริงๆ!”

“ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง หลินสวินผู้นี้ก็ทำเกินไป”

“เฮ้อ นี่ก็คือความสามารถของปรมาจารย์สลักวิญญาณหนุ่มน้อยที่โดดเด่นที่สุดในยุคนี้หรือ ข้าว่าก็ไม่ได้เหนือไปกว่าเฟิงชิงโยวเท่าใด!”

อาจารย์กลุ่มนั้นต่างแสดงความเห็นอย่างไม่พอใจ

“ทุกท่าน ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้น ก่อนหน้านี้ศิษย์พวกนั้นอาละวาดหนักมาก จึงทำให้หลินสวินโกรธ”

เสิ่นทั่วเห็นเช่นนี้พลันขมวดคิ้วพูด “อีกอย่างตอนนี้หลินสวินกำลังสอนอยู่ ทุกท่านยังไม่รู้สถานการณ์แน่ชัดก็วิจารณ์เช่นนี้ เหมาะสมแล้วหรือ”

เสิ่นทั่วเป็นหัวหน้าอาจารย์ของสาขาสลักวิญญาณ ตำแหน่งสูงส่ง มากด้วยอำนาจ เห็นเขาออกหน้าปกป้องหลินสวิน ทำให้อาจารย์หลายท่านต่างนิ่งไป

“นอกจากนี้ รอดูความสามารถในการสอนของหลินสวินก่อนแล้วค่อยตัดสิน หากเขาไม่มีประสบการณ์ ไม่มีความสามารถพอที่จะเป็นอาจารย์ได้ ข้าไม่มีวันยอมให้คนอย่างเขามาสอนศิษย์ของเราผิดๆ แน่”

จู่ๆ อาจารย์ท่านหนึ่งเอ่ยเสียงทุ้มต่ำขึ้น “หากความสามารถในการสอนของเขาสามารถทำให้ข้าพอใจได้ ต่อไปก็จะไม่มีใครว่าเขาอีก”

ได้ยินเช่นนี้ หลายคนก็เห็นด้วย

เห็นเช่นนี้เสิ่นทั่วและฟางจงเจียนต่างรู้ว่าไม่ควรพูดอะไรอีก

“เขากำลังทำอะไรของเขา ให้ศิษย์ฝึกการสลักวิญญาณด้วยตัวเองงั้นหรือ”

อาจารย์ท่านหนึ่งถาม

“เมื่อครู่นี้หลินสวินสั่งให้ศิษย์วาด ‘รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปร’ ถ้าข้าเดาไม่ผิด เขาคงอยากวัดระดับความสามารถในการสลักวิญญาณของศิษย์ทุกคน”

เสิ่นทั่วพูดโดยไม่ได้คิดอะไร

“รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปรงั้นหรือ พูดเป็นเล่น โดยปกติวิธีทดสอบนักสลักวิญญาณระดับต้นมีเพียงสามวิธี

วิธีแรก ใช้การวาด ‘รอยสลักวิญญาณห้าธาตุพื้นฐาน’ มาทดสอบ

วิธีที่สอง ใช้การหลอมอาวุธวิญญาณระดับมนุษย์ ‘เกราะวิญญาณห้าสี’ มาทดสอบ

วิธีที่สาม คือให้อาจารย์และลูกศิษย์ร่วมกันอธิบายรอยสลักวิญญาณตัวต่อตัว เพื่อประเมินความสามารถในการสลักวิญญาณของศิษย์”

อาจารย์ท่านหนึ่งอดไม่ได้ที่จะกล่าวว่า “การทดสอบทั้งสามวิธีนี้ เรียกอีกอย่างว่า ‘การทดสอบสามพรสวรรค์’ ข้าไม่ยักรู้ว่ามีการใช้ ‘รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปร’ ในการทดสอบด้วย ดูไม่เชี่ยวชาญเกินไปหรือเปล่า”

น้ำเสียงแฝงความสงสัยเต็มประดา

“ใช่ การวัดความสามารถในการสลักวิญญาณเป็นเรื่องที่เข้มงวดมาก วิธีนี้ของเขา ข้าก็ไม่เคยได้ยินมาก่อน”

“นี่เห็นชัดว่าผิดปกติมาก ‘รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปร’ แฝงไว้ด้วยรอยสลักวิญญาณแปรผันหนึ่งร้อยเก้าสิบเก้าลายที่แตกต่างกันเอาไว้ นักสลักวิญญาณชั้นต้นทั่วไปไม่สามารถวาดออกมาได้ด้วยซ้ำ จะเอามาใช้ทดสอบได้อย่างไร”

อาจารย์ท่านอื่นๆ ต่างเสริม

พวกเขาอยู่ในศาสตร์การสลักวิญญาณมานาน ย่อมรู้วิธีทดสอบความสามารถในการสลักวิญญาณเป็นอย่างดี แต่ไม่เคยได้ยินวิธีพิเรนทร์อย่างที่หลินสวินใช้ นี่ช่างน่าขันนัก

“ข้าว่าเขากำลังก่อเรื่อง!” ฟางจงเจียนไม่เกรงใจที่สุด ต่อว่าหลินสวินว่าก่อเรื่องเสียเลย

“เขาก่อเรื่องงั้นหรือ สามารถก่อเรื่องจนเกิด ‘เสียงร้องเก้ามังกร’ ได้ ถามหน่อยเถอะว่าพวกเจ้าใครทำได้ขนาดนี้บ้าง”

เสิ่นทั่วอดพูดขึ้นอีกครั้งไม่ได้ เขาเป็นคนเชิญหลินสวินมา ย่อมทนเห็นหลินสวินถูกกล่าวหาและตั้งข้อสงสัยไม่หยุดหย่อนไม่ได้

ทุกคนพลันเงียบเสียงลง ความรู้สึกซับซ้อนเป็นอย่างมาก

เสียงร้องเก้ามังกรเป็นเหมือนป้ายทองของหลินสวิน ไม่ว่าใครคิดกล่าวหาหลินสวิน ถ้าเจอป้ายนี้เข้าก็หมดแรงอยู่บ้างอย่างเห็นได้ชัด

……

เวลาครึ่งชั่วยามผ่านไปอย่างรวดเร็ว

หลินสวินที่หลับตาทำสมาธิอยู่ลืมตาและลุกขึ้นยืน

เขากวาดสายตามองรอบๆ เห็นว่าศิษย์ส่วนใหญ่วาด ‘รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปร’ เสร็จแล้ว เหลือเพียงสี่ห้าคนที่กำลังเร่ง

“วางมือได้แล้ว”

หลินสวินพูด

ศิษย์สี่ห้าคนนั้นก็หยุดวาดทันที เพียงแต่สีหน้ากลับดูกังวล ซึ่งเจ้าอ้วนหลิวฮุยก็เป็นหนึ่งในนั้น

สำหรับพวกเขา รอยสลักวิญญาณห้าธาตุผันแปรนี้ยากมาก ภายในครึ่งชั่วยามไม่อาจวาดให้เสร็จได้

แม้แต่ศิษย์ที่วาดเสร็จแล้วยังดูกังวล เห็นชัดว่ารู้ตัวว่า แม้จะวาดรอยสลักวิญญาณเสร็จแล้ว แต่ก็ยังมีหลายจุดที่ผิดพลาดและไม่สมบูรณ์แบบ

ที่พวกเขากังวล ย่อมเป็นเพราะกลัว ‘ราชาปีศาจ’ ที่อารมณ์แปรปรวนอย่างหลินสวินลงโทษ

“เอารอยสลักวิญญาณของตัวเองขึ้นมาหน้าชั้นเรียนทีละคน เริ่มจากคนแรกฝั่งซ้ายมือ”

หลินสวินสั่งลวกๆ แล้วกลับไปนั่งที่เก้าอี้

ศิษย์หลายคนยิ่งกังวลเข้าไปใหญ่ ไม่รู้ว่าหลินสวินจะทำอะไรกันแน่ กลัวว่าหากเขาไม่ถูกใจอะไรขึ้นมาแล้วจะบันดาลโทสะอีก

“อาจารย์หลิน โปรดตรวจดู”

ศิษย์คนแรกฝั่งซ้ายมือเดินขึ้นมาด้วยสีหน้าหวาดระแวง ยื่นกระดาษที่วาดรอยสลักวิญญาณให้ด้วยสองมือ

หลินสวินถือขึ้นมาตรวจดูอย่างละเอียด

ตอนนี้บรรยากาศภายในห้องเรียนอึดอัดมาก ศิษย์ทุกคนแทบกลั้นหายใจ ดูตื่นเต้นกังวลสุดๆ

“เจ้าชื่ออะไร”

ครู่หนึ่งหลินสวินพลันเงยหน้าขึ้นถาม

“ฟ่านจือชิว”

“อาจารย์…หลิน ข้า…ข้า…”

หลินสวินพูดจบ สีหน้าชิงฟ่านจือชิวก็เต็มไปด้วยความละอายใจ เกิดความรู้สึกอับอายจนอยากมุดซ่อน น้ำเสียงก็ตะกุกตะกัก

“ไม่ต้องสนใจ เป็นแค่ความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งนั้น ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าข้ากำลังช่วยวิเคราะห์จุดอ่อน จุดแข็งในการสลักวิญญาณของเจ้า”

น้ำเสียงของหลินสวินฟังดูสบายๆ

“อาจารย์โปรดชี้แนะด้วย!”

ฟ่านจือชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ สีหน้าเผยความเคารพนับถือ

ทุกคนต่างแปลกใจ

“จุดอ่อนของเจ้าไม่น้อยเลย แต่ที่เห็นได้ชัดคือวิธีลงด้ามสลักของเจ้า”

หลินสวินใคร่ครวญพลางจ้องไปที่สองมือของฟ่านจือชิว “วิธีลงด้ามสลักที่เจ้าฝึกมาไม่เหมาะกับเจ้า ข้าแนะนำให้เจ้าเปลี่ยนเป็นการ ‘เก็บรายละเอียดอย่างลึกซึ้ง ปรับลายให้เรียบตรง’”

วิธีลงด้ามสลักมีปัญหางั้นหรือ

ฟ่านจือชิวอึ้งงันไป เขาไม่เคยคิดเลยว่า ข้อผิดพลาดที่ตัวเองติดเป็นนิสัยมีสาเหตุมาจากวิธีการลงด้ามสลัก

นี่เป็นปัญญาเล็กๆ แต่ถูกมองข้ามได้ง่ายที่สุด

ยามนี้ถูกหลินสวินเตือน ฟ่านจือชิวอดตะลึงไม่ได้ เริ่มครุ่นคิด

หลินสวินพูดต่อ “ส่วนจุดเด่นของเจ้าก็ชัดเจนมากเช่นกัน นั่นคือความไว การควบคุมพลังการรับรู้ของเจ้าค่อนข้างโดดเด่น เจ้าคงรู้วิชาลับในการสลักวิญญาณบางอย่างมา ไม่เลว พัฒนาจุดเด่นนี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นผลดีต่อการฝึกกระบวนรอยสลักวิญญาณในอนาคตของเจ้าอย่างไม่ต้องสงสัย”

ฟ่านจือชิวตะลึงอีกครั้ง ไม่คิดเลยว่าหลินสวินจะอ่านความลับที่ซ่อนอยู่ในตัวเขาได้จากรอยสลักวิญญาณลายเดียว!

ไม่ผิด ที่เขาวาดรอยสลักวิญญาณได้อย่างรวดเร็ว ก็เพราะเขาฝึกฝนวิชาลับซึ่งถ่ายทอดมาในตระกูลวิชาหนึ่ง!

“ลงไปเถอะ คนต่อไปขึ้นมา”

หลินสวินโบกมือ

กลับเห็นฟ่านจือชิวสูดหายใจเข้าลึกๆ ในขณะที่สีหน้าเผยความเคารพนับถือจากใจ พร้อมโค้งคำนับลงต่ำ “ขอบคุณอาจารย์ที่ชี้แนะ!”

น้ำเสียงแฝงความเคารพนับถือ

เห็นเช่นนี้ ศิษย์ในชั้นเรียนพลันสบตากันไปมาด้วยความแปลกใจ

หรือหลินสวินอ่านจุดอ่อนและจุดแข็งของพวกเขาจากรอยสลักวิญญาณเพียงลายเดียวได้จริงๆ?

ไม่นานศิษย์คนที่สองก็มายืนอยู่ตรงหน้าหลินสวิน

…………

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์