เห็นชื่อคงพาให้ตกใจ แต่แท้จริงแล้วที่นี่เป็นสถานที่ที่เตรียมไว้ให้นักสลักวิญญาณหลอมอาวุธ
ขณะเดียวกันก็มีหน้าที่เป็น ‘สนามสอบ’ ไปในตัวด้วย
ทุกเดือน ศิษย์สาขาสลักวิญญาณจะมารับการทดสอบหนึ่งครั้งที่นี่ เพื่อวัดสถานการณ์การเรียนรู้ของศิษย์ทุกคนว่ามีพัฒนาการหรือไม่
ผลลัพธ์สุดท้ายของการทดสอบ จะมีผลต่ออันดับและคะแนนสะสมของศิษย์ทุกคน
และวันนี้ ก็เป็นวันที่กลุ่มศิษย์ของตึกเรียนเล็กระดับ ค. ทั้งเก้าห้องดำเนินการทดสอบ
“คารวะอาจารย์เสี่ยวหลิน”
“อาจารย์เสี่ยวหลินก็มาแล้ว”
“อาจารย์เสี่ยวหลิน หลังผลการทดสอบออกมาแล้วท่านอย่าหดหู่ไปนะ”
เมื่อหลินสวินพาศิษย์ห้องเรียนระดับ ค. ห้องเก้าเข้าไปในหอหลอมวิญญาณ ระหว่างทางก็ถูกทักทายไม่ขาด บ้างเป็นอาจารย์ บ้างเป็นศิษย์ ช่างครึกครื้นยิ่ง
จากตรงนี้ก็ดูออกว่า ในสาขาสลักวิญญาณตอนนี้หลินสวินก็เหมือนเป็นผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับความนิยมชมชอบผู้หนึ่งไปแล้ว
เพียงแต่ศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้าของเขานั้น ไม่ว่าจะเดินไปที่ใดก็ล้วนถูกหัวเราะเยาะหยัน ได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างไปจากหลินสวิน
แน่นอนว่า ล้วนเป็นการเย้ยหยันจากศิษย์ห้องอื่น
“หึ ให้อาจารย์เสี่ยวหลินต้องมาสั่งสอนเจ้าโง่พวกนี้ สวรรค์ตามืดบอดเสียจริง”
“โธ่ ถ้าครั้งนี้คะแนนทดสอบของเจ้าพวกนี้ยังรั้งท้ายอีก จะให้อาจารย์เสี่ยวหลินเอาหน้าไปไว้ที่ไหนกันนะ”
“ไม่สู้พวกเราไปขอร้องให้สำนักศึกษาสั่งการให้อาจารย์เสี่ยวหลินมาสอนห้องพวกเราแทนล่ะ ระดับ ค. ห้องเก้านั่นมันพวกไม่ได้เรื่อง อย่ามาพาอาจารย์เสี่ยวหลินให้เสียไปด้วยเลย”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์เช่นนี้ดังเข้าหูไม่หยุดหย่อน พาให้กลุ่มศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้าต่างยิ่งแสดงสีหน้าเหยเก จิตใจถูกเผาไหม้ไปด้วยไฟโกรธ
ถ้าไม่ใช่เพราะคำตักเตือนของหลินสวินก่อนหน้านี้ พวกเขาคงได้บันดาลโทสะไปแล้ว
ที่เป็นเช่นนี้ได้ เหตุผลก็ง่ายดายนัก
ที่ผ่านมาอันดับของระดับ ค. ห้องเก้าอยู่รั้งท้ายห้องเรียนทั้งเก้าในตึกระดับ ค. มาตลอด ไม่เคยได้หลุดพ้นเคราะห์ร้ายนามว่า ‘ที่หนึ่งจากข้างล่าง’
อีกทั้งศิษย์ในระดับ ค. ห้องเก้ามีตัวแสบอยู่ไม่น้อย อบรมสั่งสอนได้ยากนัก คะแนนทดสอบทุกครั้งก็เลวร้ายจนทนดูไม่ได้
ในสถานการณ์เช่นนี้ จะถูกคนอื่นยั่วยุและหัวเราะเยาะก็เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงได้ยาก
เมื่อก่อนหลินสวินยังไม่เข้าใจสิ่งเหล่านี้นัก แต่เมื่อได้เห็นทุกอย่างกับตา เขาจะยังไม่เข้าใจได้อย่างไรว่าที่แท้ศิษย์ที่ตนสอนมาตลอดนั้น ดันเป็นเด็กชั้นเลวมารวมตัวปะปนกันกลุ่มหนึ่ง
นี่ทำให้หลินสวินเงียบกริบไปแล้วอดทอดถอนใจไม่ได้ ไม่ว่าอย่างไรคนพวกนี้ก็เป็นศิษย์รุ่นแรกของเขา เขาจะไม่พอใจได้อย่างไรเล่า
นอกจากนี้เท่าที่หลินสวินสังเกตจากการสอนมาหนึ่งเดือน เขาพบว่าศิษย์พวกนี้ไม่ใช่ ‘เด็กชั้นเลวที่มารวมตัวปะปนกัน’ อย่างที่ผู้อื่นพูด!
รอเมื่อผลการทดสอบออกมาย่อมพิสูจน์เรื่องนี้ได้
…
โถงใหญ่ชั้นหนึ่งของหอหลอมวิญญาณ
กลางโถงใหญ่กว้างขวางและเงียบเชียบน่าเกรงขามนั้นถูกแบ่งออกเป็นเก้าเขต ศิษย์ทั้งเก้าห้องของตึกเล็กระดับค. ถูกจัดแบ่งเข้าไปในเขตทั้งเก้านี้อย่างชัดเจน
ศิษย์ทั้งหมดสองร้อยเจ็ดสิบคน เวลานี้ล้วนนั่งหลังตรงบนเบาะนั่ง ด้านหน้ามีตั่งตัวหนึ่ง
เมื่อการทดสอบเริ่มขึ้น พวกเขาจะได้รับมอบเนื้อหาการทดสอบที่แตกต่างกันมาหลอมอาวุธวิญญาณระดับมนุษย์ชั้นต่ำหนึ่งชิ้น
ความสมบูรณ์มากน้อยของอาวุธวิญญาณที่หลอมออกมา จะเป็นตัวตัดสินคะแนนทดสอบของพวกเขาในที่สุด
ผู้คุมสอบหลักครั้งนี้คือปรมาจารย์สลักวิญญาณสามท่าน ในนั้นมีเสิ่นทั่ว ส่วนอีกสองท่านที่เหลือ คนหนึ่งมีผมเผ้าหนวดเคราสีดอกเลา รูปร่างอ้วนเผละนามว่าหลูฉุนโส่ว ส่วนอีกคนหนึ่งผอมบางราวลำไผ่ สีหน้าเย็นชาดุดัน มีนามว่าอู่จ้าวหยาง
พวกเขาทั้งสามเวลานี้นั่งตัวตรงอยู่กลางโถงใหญ่ เบื้องล่างของพวกเขามีอาจารย์ระดับค. ทั้งเก้าห้องนั่งอยู่
หลินสวินก็นั่งตัวตรงอยู่ในนั้น
“อาจารย์เสี่ยวหลิน ครั้งนี้อย่าได้ขัดเคืองเลยนะ ฮ่าๆ”
อีกด้านหนึ่ง อาจารย์ระดับ ค. ห้องแปดหัวเราะพลางเอ่ยปาก
“จะพูดเช่นนี้ไม่ได้ อาจารย์เสี่ยวหลินเพิ่งมารับตำแหน่งได้หนึ่งเดือน แม้ว่าศิษย์เหล่านั้นของเขาทำได้แค่พอผ่าน ก็ไม่เกินความคาดหมาย”
“ใช่แล้ว การพัฒนาในศาสตร์การสลักรอยวิญญาณไม่สามารถทำได้ในชั่วข้ามคืน คะแนนห้องเก้าครั้งนี้อาจจะยังไม่ดีขึ้นตามเคย แต่วันหน้าอีกยาวไกล เชื่อว่าด้วยการชี้นำอย่างใส่ใจของอาจารย์เสี่ยวหลิน จะทำให้คะแนนของห้องเก้าค่อยๆ ดีขึ้นแน่”
อาจารย์ผู้อื่นก็เอ่ยขึ้นเซ็งแซ่
ถ้อยคำของพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร แต่เห็นชัดว่า ส่วนลึกในใจพวกเขาล้วนไม่คิดว่าคะแนนทดสอบในครั้งนี้ของระดับ ค. ห้องเก้าจะเปลี่ยนแปลงไปได้
หลินสวินไม่ได้โต้แย้งเสียงวิพากษ์วิจารณ์เหล่านั้น เพียงยิ้มแล้วพูดว่า “ข้าเชื่อมั่นในศิษย์ของข้า”
เห็นว่าหลินสวินกลับนิ่งสงบได้เพียงนี้ ก็ทำให้อาจารย์คนอื่นอดแปลกใจไม่ได้ ทันใดนั้นก็หัวเราะหยันขึ้น ไม่ต่อความอีก
อย่างไรก็ยังเป็นเยาว์วัย ดูท่าในใจคงไม่ยอมรับสินะ!
แต่ว่า ระดับค. ห้องเก้านั้นรั้งท้ายมานานแล้ว ดังคำกล่าวที่ว่าน้ำแข็งหนาสามฉื่อไม่ได้เกิดจากหน้าหนาววันเดียว คิดจะเปลี่ยนแปลง เป็นเรื่องง่ายดายขนาดนั้นที่ไหนกัน
พวกเขาล้วนไม่เชื่อว่าวิชาสลักรอยวิญญาณที่หลินสวินถ่ายทอดให้นั้น จะสามารถทำให้ศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้าพวกนั้นพลันเกิดความเปลี่ยนแปลงราวเกิดใหม่
การทดสอบจะเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในอีกหนึ่งเค่อ หลินสวินว่างจนเบื่อหน่าย ดวงตากวาดไปรอบทิศ กลับพบเรื่องน่าประหลาดใจ ในห้องโถงใหญ่ชั้นหนึ่งของหอหลอมวิญญาณวันนี้ดูครึกครื้นเป็นพิเศษ อาณาเขตกว้างขวางที่ไกลออกไปนั้นถูกเงาร่างมากมายครอบครองอยู่ก่อนแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์