เอาฉู่ไห่ตงที่กลายเป็นตัวตลกมาเป็นตัวอย่าง ใช้ยั่วยุฉู่ซานเหอ นี่จะต่างอะไรกับการตบหน้า
อย่างไรเสียฉู่ซานเหอก็เป็นคนตระกูลฉู่ ว่าตามศักดิ์ในตระกูลแล้ว เขายังเป็นผู้อาวุโสรุ่นลุงของฉู่ไห่ตง
ทั้งโถงล้วนอดสูดลมหายใจเยียบเย็นไม่ได้ หลินสวินใจกล้าเกินไปแล้ว!
พวกเขาไม่รู้ว่าก่อนหน้านี้ตอนที่เล่นงานลูกหลานตระกูลซ่งและฮวา สองตระกูลใหญ่ทรงอิทธิพล และตอนหมายจะสังหารฮวาอู๋โยว ก็มีผู้คนมากมายเห็นว่าหลินสวินใจกล้าคับฟ้า
ยามหลินสวินเหยียดหยามฉู่ไห่ตงและฉู่อวิ๋นคงให้อับอายที่ภาคีใหญ่นักสลักวิญญาณก่อนหน้านี้ หลินสวินก็ถูกมองว่าใจกล้าโอหัง
แต่จนถึงตอนนี้ หลินสวินก็ยังคงใช้ชีวิตโลดแล่นโดยราบรื่นดังเดิม
พูดอีกอย่างก็คือ ขอเพียงเป็นคนที่เข้าใจประวัติความเป็นมาของหลินสวินล้วนรู้ดีว่า หลินสวินทำเช่นนี้ต่างหากจึงจะเป็นเรื่องปกติ ถ้าไม่ทำเช่นนี้สิ ถึงเรียกได้ว่าแปลก
“เจ้า…“
เผชิญหน้ากับการยั่วยุอย่างหมดเปลือกเช่นนี้ ต่อให้จิตใจฉู่ซานเหอจะหยั่งถึงยากกว่านี้ เวลานี้ก็ถูกยั่วโมโหจนหน้าตึง ดวงตาปรากฏแววเหี้ยมโหด
บรรยากาศพลันตึงเครียดราวเงื้อดาบดึงธนูในชั่วพริบตา!
ผู้คนมากมายล้วนหวาดกลัวไม่อาจวางใจได้ กังวลใจแทนหลินสวิน
แต่เพียงครู่เดียว ฉู่ซานเหอพลันหัวเราะขึ้น ทั้งยังตบไหล่หลินสวินพลางพูดอย่างอารีว่า “คนรุ่นหลังน่ากลัวดังคาด ในเมื่ออาจารย์เสี่ยวหลินมั่นใจเช่นนี้ เช่นนั้นพวกข้าจะขอใช้โอกาสนี้ทำความรู้จักฝีไม้ลายมือของเจ้าเสียหน่อย!”
เสียงหัวเราะสดใส วาจาอบอุ่นเหมือนเรื่องเมื่อครู่นี้ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้หลินสวินต้องชื่นชมว่าเจ้าแก่นี่ไม่เพียงจอมปลอม ขนาดหน้ายังหนาเกินธรรมดา
แต่เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วทุกคนกลับหนักใจ รู้ว่าฉู่ซานเหอหมายใจไว้แล้วว่าจะให้หลินสวินรับเผือกร้อนก้อนนี้
หากหลินสวินทำไม่ได้ เช่นนั้นก็อย่าได้คาดคิดถึงผลที่ตามมาเลย
“รองหัวหน้าสาขาฉู่ นี่ท่านไม่ใช่บีบให้เขาตกที่นั่งลำบากหรือ”
“นั่นสิ”
“เช่นนี้จะได้เห็นฝีมือของอาจารย์เสี่ยวหลินเสียที่ไหน เห็นชัดว่าต้องการทำให้เขาอับอาย”
เหล่าศิษย์ระดับค. ห้องเก้าอย่างไรเสียก็เป็นคนหนุ่มสาวมุทะลุ ควบคุมโทสะเช่นนี้ไม่อยู่ ต่างพากันส่งเสียงขัดเคือง
สีหน้าฉู่ซานเหอนิ่งขึง แต่ไม่ทันที่เขาจะเอ่ยปาก หลินสวินก็ชิงปรามศิษย์เหล่านั้น “หุบปากให้หมด พวกเจ้าจะรู้อะไร นี่เป็นเจตนาดีของรองหัวหน้าสาขาฉู่ ที่ต้องการให้โอกาสข้าได้พิสูจน์ตัวเองสักครั้ง!”
วาจาของเขาเข้มงวด
ศิษย์เหล่านั้นแม้ไม่เข้าใจ แต่เห็นว่าอาจารย์เสี่ยวหลินโกรธ พวกเขาก็ทำได้เพียงข่มความโกรธเคืองที่อยู่ในใจ ไม่กล้าพูดอะไรอีก
มุมปากของฉู่ซานเหอกระตุกขึ้นเล็กน้อย เขารู้สึกเสมอว่าคำพูดนี้ของหลินสวินเหมือนกำลังเสียดสีตนอยู่ ในใจอดโมโหไม่ได้ รอดูเรื่องสนุกของหลินสวิน
ตั้งแต่วันแรกที่หลินสวินเข้ามาในสาขาสลักวิญญาณ เขาก็ใคร่ครวญว่าจะลงโทษเจ้าหนุ่มที่นำพาข่าวลือมากมายมาให้ตระกูลฉู่ผู้นี้อย่างสาสมอย่างไรดี
และเวลานี้ในที่สุดเขาก็พบโอกาสแล้ว ฉู่ซานเหอจะไม่ยอมถูกยั่วโมโหโดยง่ายแน่
กลับกัน เขาวางแผนทุกอย่างไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงรอให้หลินสวินล้มเหลวก็จะเคลื่อนไหวอีกก้าวหนึ่ง ทำให้ชื่อเสียงของหลินสวินป่นปี้ นำพาความยุ่งยากมาสู่ตัวในคราวเดียว!
กระบี่เบิกฟ้าเป็นสมบัติล้ำค่ายิ่งที่อยู่ในมือของจักรพรรดินี หากหลินสวินไม่อาจซ่อมแซมได้ เช่นนั้นผู้ที่ล่วงเกินไปก็จะเป็นราชวงศ์ปัจจุบัน!
ความรุนแรงของผลที่ตามมา แค่คิดดูก็ทำให้ในใจของฉู่ซานเหอตื่นเต้นไม่หยุดหย่อน
“อาจารย์เสี่ยวหลิน เช่นนี้ก็เริ่มเลยไหม”
ฉู่ซานเหอพูดพลางยิ้ม
หลินสวินพยักหน้ารับ หันกายเดินไปกลางโถง
เมื่อเห็นเขาจะทำเรื่องนี้จริง ไม่ว่าพวกเสิ่นทั่ว หรือกลุ่มศิษย์ที่ตามมาเหล่านั้น สีหน้าต่างปรากฏความอดรนทนมาไหว
พวกเขาเห็นว่าการเคลื่อนไหวนี้ของหลินสวิน เท่ากับตกลงไปในกับดักที่ฉู่ซานเหอบรรจงวางไว้ สถานการณ์ดูเลวร้ายมากกว่าดี!
ไยเขาไม่ปฏิเสธกันนะ
ในใจทุกคนสงสัย กังวลใจไม่ว่างเว้น ถึงกับรู้สึกเสียใจภายหลังอยู่บ้าง เสียใจว่าไม่ควรคล้อยตามความคิดที่ฉู่ซานเหอเสนอขึ้นเสียแต่แรก เพียงเพื่อดูฝีมือของหลินสวิน กลับทำร้ายเขาจนตกอยู่ในจุดนี้
แต่ไม่ว่าจะเสียใจอย่างไร ตอนนี้พูดอะไรไปก็สายไปเสียแล้ว…
กระบี่เบิกฟ้าเล่มนั้นมหัศจรรย์ขนาดไหนน่ะหรือ ก็เป็นชุดศึกสลักวิญญาณที่ทรงพลังหาใดเปรียบชุดหนึ่ง ขนาดปรมาจารย์สลักวิญญาณมากประสบการณ์กลุ่มหนึ่งยังอับจนหนทาง อาจารย์เสี่ยวหลินที่เพิ่งผ่านการรับรองคุณสมบัติปรมาจารย์สลักวิญญาณ…
จะทำได้หรือ
…….
“พ่อหนุ่ม ถ้าตอนนี้ยอมแพ้เสียเองก็ยังทันนะ”
เมื่อหลินสวินมาถึงด้านข้างกระบี่เบิกฟ้าเล่มนั้น ชายสูงวัยผู้หนึ่งก็อดเตือนขึ้นประโยคหนึ่งไม่ได้
ชายสูงวัยคนอื่นที่อยู่ใกล้ๆ ก็เผยสีหน้าเห็นใจเช่นกัน
พวกเขาล้วนเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณมากประสบการณ์ รู้ดีว่าความเสียหายที่กระบี่เบิกฟ้าได้รับนั้นรุนแรงเพียงใด ความเป็นไปได้ที่จะซ่อมแซมได้น้อยเสียยิ่งกว่าน้อย
หากหลินสวินดึงดันไปซ่อมเข้า อาจถึงขั้นสามารถทำให้กระบี่เบิกฟ้าสลายสิ้นได้เลย!
ก็เพราะกังวลว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น จนถึงตอนนี้ชายสูงวัยเหล่านี้ถึงยังไม่กล้าลองโดยง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้กระบี่เบิกฟ้าสลายไปในมือของตน
เพราะหากเป็นเช่นนั้นก็เท่ากับล่วงเกินราชวงศ์อย่างที่สุด ล่วงเกินจักรพรรดินีองค์ปัจจุบัน!
ผลลัพธ์เช่นนี้ใครจะรับไหว
ก่อนหน้านี้พวกเขายังไม่พอใจอยู่บ้างที่หลินสวินยื่นมือเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ แต่เมื่อได้เห็นเรื่องทั้งหมดเมื่อครู่กับตา ก็รู้ได้ทันทีว่าหลินสวินถูกต้อนเหมือนเป็ดเข้าเล้า ติดกับแผนของฉู่ซานเหอ ในใจจึงไม่เหลือความไม่พอใจ เหลือเพียงความเห็นใจ
“ลองดูก่อนค่อยว่ากันเถิด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์