ไม่นานหลินสวินก็ออกไปจากชั้นห้าของหอหลอมวิญญาณท่ามกลางศิษย์ระดับ ค. ห้องเก้าที่ห้อมล้อม และสายตาอันซับซ้อนสับสนของทุกคน
จวบจนกระทั่งกลับไปถึงที่พักอาจารย์ หลินสวินกลับเข้าห้องของตัวเองไปเพียงลำพังแล้วทรุดตัวลงนอนบนเตียง
คนนอกเห็นเพียงว่าเขาใช้วิธีอันสวยงามอย่างที่สุดคลี่คลายแผนการอันชั่วร้ายของฉู่ซานเหอ แต่มีเพียงตัวหลินสวินเองที่รู้ว่า ในระยะเวลาสั้นๆ เพียงเจ็ดวันนั้น เขาเสียแรงกายแรงใจไปมากเพียงใด
นี่ยังเป็นครั้งแรกที่เขาได้ลองซ่อมชุดศึกสลักวิญญาณ และถ้าเกิดข้อผิดพลาดเพียงนิด ก็จะเป็นการทำลายสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้
เพียงเท่านี้ก็จะเห็นได้ถึงความลำบากยากเย็นยามที่หลินสวินซ่อมแล้ว
เรียกได้ว่าในช่วงสี่วันแรก เขาไม่ได้หยุดพักเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียว ทุ่มเทคิดหาทุกวิถีทางในการซ่อมอย่างสุดความสามารถ
สุดท้ายเขาก็ทำสำเร็จ!
แต่ผลจากความทุ่มเทก็คือ เขาเหนื่อยจนไม่อยากขยับตัว อยากนอน นอนให้ได้นานที่สุด
……
และในขณะที่หลินสวินหลับอยู่นั่นเอง เหตุการณ์การซ่อมกระบี่เบิกฟ้าก็แพร่สะพัดออกไปอย่างรวดเร็ว จนเกิดความปั่นป่วนโกลาหลในสำนักศึกษามฤคมรกตในชั่วขณะ
จวบจนกระทั่งเข้าสู่รัตติกาล ข่าวนี้ราวกับกระแสลมพายุที่เริ่มกระจายไปทั่วทั้งนครต้องห้ามอย่างต่อเนื่อง เกิดความฮือฮาและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนาหู
“หลินสวินนั่น…เก่งกาจเกินไปแล้ว!”
ผู้คนมากมายต่างคิดไม่ถึงว่า เพิ่งได้รับรองการเป็นปรมาจารย์สลักวิญญาณได้เดือนกว่า หลินสวินก็สร้างเรื่องฮือฮาขนาดนี้อีกแล้ว
นั่นมันสมบัติชิ้นสำคัญของจักรพรรดินีเชียวนะ ปรมาจารย์สลักวิญญาณไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ยังจนปัญญา แต่สุดท้ายกลับถูกปรมาจารย์สลักวิญญาณเด็กหนุ่มคนหนึ่งคลี่คลายอย่างสมบูรณ์แบบ
เรื่องนี้ต้องเหลือเชื่อมากอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้นในคืนนี้ชื่อของหลินสวินจึงเหมือนกับโรคระบาดอีกครั้ง แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมของนครต้องห้ามอย่างบ้าคลั่ง เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ นานา
หลินสวินได้ใช้การกระทำพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถและพลังของเขาอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย และเรื่องนี้ก็ทำให้เขาได้รับชื่อเสียงและบารมีเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งระดับ
เจ้าแห่งภูเขาชำระจิต อัจฉริยะด้านวิถียุทธ์ที่ล้มฮวาอู๋โยว ปรมาจารย์สลักวิญญาณอายุสิบหกปีที่ทำให้เกิดเสียงร้องเก้ามังกร อาจารย์ชั้นหนึ่งของสำนักศึกษามฤคมรกตที่ซ่อมกระบี่เบิกฟ้าสำเร็จ…
หลินสวินได้ถูกรัศมีแห่งชื่อเสียงเกียรติยศปกคลุมชั้นแล้วชั้นเล่า และเบื้องหลังของทุกความรุ่งโรจน์ ก็ล้วนทำให้เกิดความฮือฮาระลอกหนึ่ง
และตอนที่ทำได้ขนาดนี้ หลินสวินเพิ่งจะเข้ามาอยู่ในนครต้องห้ามได้เพียงไม่ถึงปีเท่านั้น!
……
คนในวงการดูช่องทาง คนนอกวงการดูเพื่อสนุก
สำหรับคนใหญ่คนโตหลายคน การที่หลินสวินซ่อมกระบี่เบิกฟ้าได้ ย่อมมีความนัยที่พิเศษและผิดปกติอย่างมาก
นั่นมันชุดศึกสลักวิญญาณเชียวนะ!
เป็นสมบัติอันล้ำค่าของจักรพรรดินี!
ทั้งหมดนี้ไม่ได้นำพาเพียงชื่อเสียงเกียรติยศให้กับหลินสวิน ยังมีอำนาจลึกลับบางอย่างที่ไม่ว่าใครก็ไม่อาจมองข้ามได้
ตอนนี้หลินสวินสามารถซ่อมชุดศึกสลักวิญญาณได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นจะห่างจากการที่เขาสามารถสร้างชุดศึกสลักวิญญาณขึ้นมาได้ด้วยตัวเองอีกแค่ไหนเชียว
ลองคิดดูว่า ถ้าวันหนึ่งหลินสวินที่อายุเพียงเท่านี้สามารถทำได้ขนาดนั้น จะเกิดความฮือฮาและเป็นจุดสนใจแค่ไหน
อัจฉริยะระดับนี้ ใครยังจะกล้ามีเรื่องด้วยโดยใช่เหตุ
ทำให้ปรมาจารย์สลักวิญญาณที่สามารถสร้างชุดศึกสลักวิญญาณได้ไม่พอใจเข้า ย่อมไม่ใช่เรื่องสนุกแน่!
ที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่หลินสวินซ่อมคราวนี้เป็นสมบัติล้ำค่าของจักรพรรดินี แบบนี้ย่อมเป็นไปได้ที่จักรพรรดินีจะรับรู้ถึงการมีตัวตนของเด็กหนุ่มยอดฝีมืออย่างหลินสวิน
มีความสัมพันธ์ชั้นนี้ ก็เท่ากับหลินสวินมีฐานะที่น่าเกรงขามเพิ่มขึ้นอีกโดยปริยาย!
“หลินสวินคนนี้ไม่เพียงความสามารถชวนตะลึง แต่ยังโชคดีจนเหลือเชื่อ หลังจากเรื่องนี้ก็พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ทำให้เขาได้ผลประโยชน์อันยิ่งใหญ่เหนือความคาดหมาย”
หลายคนอดทอดถอนใจแบบนี้ไม่ได้
“ฮ่า คราวนี้ฉู่ซานเหออับอายขายขี้หน้ามาก หลังจากเรื่องนี้เขาไม่เพียงแค่เสียหน้า เกรงว่าจะถูกครหาว่าเป็นพวก ‘ขี้อิจฉา’ อีกด้วย!”
“จริงด้วย ฉู่ซานเหอเป็นถึงรองหัวหน้าสาขาสลักวิญญาณ แต่กลับพ่ายแพ้ให้กับเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ช่างน่าสลดใจจริงๆ”
“ต่อจากนี้ตราบใดที่หลินสวินยังอยู่ในสาขาสลักวิญญาณ ฉู่ซานเหอก็ไม่สามารถเงยหน้าขึ้นมาได้อีก สถานการณ์แบบนี้ค่อนข้างน่าอึดอัดและอัดอั้น”
พอพูดถึงฉู่ซานเหอ ความคิดเห็นของคนส่วนใหญ่ต่างมองเหมือนกันจนน่าตกใจ นั่นก็คือแผนการครั้งนี้ของฉู่ซานเหอ ไม่เพียงทำอะไรหลินสวินไม่ได้ แต่ยังทำให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ ในอนาคตคงยากจะเชิดหน้าขึ้นได้อีก
ที่ตลกที่สุดคือ ตอนที่พวกหลินเทียนหลง หลินเนี่ยนซานและหลินผิงตู้รู้ข่าวนี้ สีหน้าของทั้งสามดูแย่ราวกับเสียบุพการีอย่างไรอย่างนั้น
เป็นความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง
เดิมทีตอนที่หลินสวินเริ่มมีอำนาจแข็งแกร่งขึ้นมา ก็ได้ทำให้อำนาจของตระกูลสายรองทั้งสามอย่างพวกเขาสั่นคลอน
ถึงขั้นที่บีบให้พวกเขาจำต้องขอความช่วยเหลือจากตระกูลจั่วและฉินเพื่อโจมตีหลินสวิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์