ทั้งยังเอาไหกระเบื้องห่วยๆ มาเปรียบเปรยกับหลิงเทียนโหว!
เมื่อได้ยินถ้อยคำเช่นนี้ หลายคนต่างเบิกตากว้าง เจ้าหลินสวินคนนี้ดูเหมือนนุ่มนวลไร้พิษสง ไม่คิดว่าพอด่าคนแล้วกลับร้ายกาจปานนี้
ที่ต้องรู้ก็คือหลิงเทียนโหวเป็นอันธพาลที่มีชื่อในนครต้องห้าม ดุร้ายหาใดเทียม เป็นผู้โดดเด่นในหมู่คนรุ่นเยาว์ แต่หลินสวินกลับไม่สนใจ โต้กลับอย่างแข็งกร้าวง่ายดาย ช่างใจกล้าเกินไปแล้ว
ส่วนเด็กสาวชนชั้นสูงบางคนกลับฉายแววประหลาดขึ้นในดวงตางดงาม นี่เป็นเด็กหนุ่มที่กล้าสั่งสอนราชนิกุลเชียวนะ ที่แท้ก็แข็งแกร่งอย่างในข่าวลือ ท่าทางหยิ่งทระนงเช่นนั้นพาให้พวกนางล้วนรู้สึกแปลกใหม่เร้าใจ
“ปากคอเราะราย น่าขันยิ่งนัก อีกเดี๋ยวเมื่อเจ้าพ่ายแพ้ ข้าจะคอยดูว่าเจ้าจะพูดอะไรได้”
หลิงเทียนโหวยิ้มน่ากลัว สีหน้าระบายไปด้วยความโหดเหี้ยม ถูกหลินสวินด่าว่าซ้ำไปซ้ำมา ทำให้เขาโมโหเข้าจริงๆ เสียแล้ว
หากไม่ใช่เพราะต้องการให้หลินสวินมารับใช้ถวายชีวิตให้ตน เขาไม่มีทางอดกลั้นเช่นนี้ได้แน่
พูดจบเขาก็หันกายจากไป
หลินสวินเห็นเช่นนี้ก็เพียงยิ้มแย้ม ไม่ใส่ใจ
นี่ทำให้หลิ่วชิงเยียนทั้งกังวลและซาบซึ้งใจ นางไม่เห็นด้วยกับวิธีการนี้ของหลินสวิน แต่อย่างไรเสียเวลานี้หลินสวินก็ออกหน้าแทนนาง ทำให้นางไม่รู้จะพูดอย่างไรดีแล้ว
“คนผู้นี้…ไม่กลัวถูกล้างแค้นหรือไงนะ”
ใกล้กันนั้นมีเด็กสาวอ่อนเยาว์ผู้หนึ่งเอ่ยถามเสียงเบา ใบหน้าน้อยแดงเรื่อ รู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ช่างน่าเร้าใจนัก
“คิกๆ นี่เจ้ามองหลินสวินผิดไปแล้ว ตั้งแต่เขาเข้านครต้องห้ามมา เรื่องนอกกรอบที่เขาทำน้อยนักหรือ แต่ถึงตอนนี้ก็ยังอยู่ดีมีสุข เมื่อกี้ในตำหนักกลางถึงกับได้รับของพระราชทานจากจักรพรรดินี ที่เขากล้าบ้าระห่ำเช่นนี้ เห็นได้ชัดว่ามีของ”
เด็กสาวอีกคนหนึ่งดวงตางดงามเปล่งประกาย มือนางกำแน่น ดูเข้าใจเรื่องราวก่อนหน้านี้ของหลินสวินยิ่งนัก
ก่อนหน้านี้มีคำท้าประลองที่ฉือฉางเฟิงเอ่ยออกมา ภายหลังมีเดิมพันอย่างแข็งกร้าวกับหลิงเทียนโหวอีก เรื่องที่เกิดขึ้นกับหลินสวินนี้แพร่กระจายไปทั่วทั้งจตุรัสอย่างรวดเร็ว
“ดูสิ นี่ก็คือกรรมตามสนอง! ช่วงนี้เจ้านั่นกระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขเกินไป ได้ใจจองหอง ในที่สุดก็มีคนทนดูไม่ได้แล้ว”
มีคนยินดีกับความทุกข์ของผู้อื่น
“แน่ล่ะ ก็เมื่อกี้นี้ในตำหนักกลาง จักรพรรดินีพระราชทานรางวัลให้เขา ขนาดลำนำผู้กล้าที่คุณหนูหลิ่วชิงเยียนแต่งขึ้นยังเกี่ยวข้องกับเขา ขวางหูขวางตาหลายคนมานานแล้ว”
มีผู้ที่มีน้ำเสียงอิจฉาและแค้นเคือง
ท่ามกลางบรรยากาศครึกครื้น หลินสวินกลับไตร่ตรองว่าเหตุใดจนถึงตอนนี้ หัวหน้าเผิงผู้นั้นยังไม่ประกาศเริ่มการประลอง
สายตาเขามองไกลออกไป ก็เห็นว่าหัวหน้าเผิงยืนอยู่ด้านหนึ่งของลานแสดงยุทธ์ ราวกับรอรับคำสั่งอะไรอยู่
“หลินสวิน!”
ทันใดนั้นก็มีอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น
เห็นว่าซ่งเจ๋อเดินมาอย่างย่ามใจยิ่งนักแล้วพูดว่า “ฟังให้ดีล่ะ อีกเดี๋ยวเมื่อการประลองเริ่มขึ้น ญาติผู้น้องของข้าซ่งอี้ผู้นั้นจะมาเทียบฝีมือกับเจ้า เจ้าอย่าตื่นกลัวไปล่ะ!”
ฝูงชนที่อยู่บริเวณนั้นพลันฮือฮา ขนาดซ่งอี้ยังเห็นว่าหลินสวินขวางหูขวางตาแล้วหรือ
นี่เป็นข่าวที่น่าตกใจนัก ก่อนหน้านี้มีฉือฉางเฟิง หลิงเทียนโหว ตอนนี้ซ่งอี้ผู้ที่ได้อันดับหนึ่งในการทดสอบระดับอาณาจักรปีนี้ ผู้กล้าที่โดดเด่นในรุ่นเดียวกันซึ่งเกิดในตระกูลทรงอิทธิพลตระกูลซ่ง ล้วนต้องการประลองกับหลินสวิน จากจุดนี้จะเห็นได้ว่า ช่วงนี้หลินสวินยั่วโมโหขุมอำนาจมากมายแค่ไหน!
เจ้าคนนี้ช่างเคราะห์ร้ายเสียจริง เวลานี้แม้ไม่อยากอับอายก็เห็นจะยากแล้ว
หลายคนลอบหัวเราะในใจรอดูละครฉากเด็ด
“อย่ามองข้าเช่นนี้ ทำเหมือนข้าไปก่อเรื่องเลวทรามใหญ่โตมาอะไรมา”
หลินสวินไม่สนใจซ่งเจ๋อ หัวเราะขื่นมองหลิ่วชิงเยียนที่อยู่ด้านข้าง ฝ่ายหลังกำลังมองเขาอย่างกังวลและประหลาดใจ
“เจ้านี่นะ โธ่ ทำไมไม่รู้จักซ่อนคมบ้างนะ”
หลิ่วชิงเยียนถอนหายใจเบาๆ
“ช่วยไม่ได้น่ะ”
หลินสวินเอ่ยสบายๆ
คำพูดเรียบๆ คำหนึ่ง กลับทำให้ในใจหลิ่วชิงเยียนสั่นไหวรุนแรง ช่วยไม่ได้…คำที่ดูเหมือนง่ายดายนี้ กลับทำให้หลิ่วชิงเยียนรู้สึกปวดใจอย่างบอกไม่ถูกรางๆ
แน่นอนว่า เมื่อลองคิดถึงสถานการณ์ที่หลินสวินเป็นอยู่หลังจากเข้ามายังนครต้องห้าม คิดถึงอันตรายคับขันที่เขาต้องเผชิญ ก็รู้ได้ว่ายากเย็นเพียงไหน
คนนอกเพียงเห็นว่าเขาก่อเรื่องใหญ่โตตลอด เห็นเพียงชื่อเสียงที่โด่งดังเกรียงไกรขึ้นของเขา เกรงว่าคงไม่มีใครรู้ว่า เบื้องหลังหลินสวินผ่านอันตรายและความยากลำบากอย่างไรมาบ้าง
“หลินสวินเจ้ารังแกผู้อื่นมากไปแล้ว ข้าพูดกับเจ้า เจ้ากลับไม่แยแส เจ้าหมายความว่าอย่างไร”
ซ่งเจ๋อเอ่ยอย่างโมโห
หลินสวินชำเลืองมองเขาคราหนึ่ง หัวเราะขึ้นกะทันหันและพูดว่า “ข้านึกว่าใคร ที่แท้ก็คุณชายหมวกเขียว ข้าไม่กล้าสนใจเจ้ามากนัก เดี๋ยวถูกคนเข้าใจผิดว่าข้าสวมหมวกเขียวให้เจ้า เช่นนั้นจะไม่ยุติธรรมเกินไป”
สีหน้าคนอื่นๆ ประหลาดไป คำพูดนี้ของหลินสวินช่างมีพลังทำลายล้นเหลือ
“เจ้า!“
“เจ้าเจิ้วอะไรกัน ซ่งอี้ต้องการประลองกับข้า ไม่ใช่เจ้าเสียหน่อย เจ้าจะลนลานอะไรเล่า”
หลินสวินกลอกตา
ผู้คนในบริเวณนั้นมองสบตากัน แม้เดิมทีจะรู้อยู่แล้วว่าหลินสวินบ้าระห่ำมาก แต่กลับไม่คิดว่าเขาจะบ้าระห่ำได้ถึงขั้นนี้
“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
ซ่งเจ๋อหน้าบูดเบี้ยวเขียวคล้ำ ทิ้งวาจาโหดเหี้ยมลอดไรฟังออกมาก็สะบัดแขนเสื้อเดินจากไป
“ขนาดความกล้าท้าข้าประลองยังไม่มี สมน้ำหน้าเจ้าที่ถูกคนอื่นสวมหมวกเขียวให้ตลอดชีวิต”
ถ้อยคำลอยๆ ของหลินสวินกลับยั่วโมโหซ่งเจ๋อที่เดินไปไม่ไกลให้สั่นสะท้านไปทั้งตัว เกือบเดินตะบึงออกไป เจ้านี่ ควรฆ่าทิ้งนัก!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์