เขาในชุดดำทั้งตัวรูปร่างกำยำ มีพลังปราณอยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นกลาง เป็นศิษย์สืบทอดสำนักเมฆเขียวแห่งดินแดนวิญญาณโบราณ
ชิวเหวินมาที่เทือกเขาราหูในครั้งนี้ ก็เพื่อแสวงหาโอกาสวาสนาและเคี่ยวกรำวิชายุทธ์เหมือนลูกศิษย์ในสำนักอื่นๆ
เพราะลือกันว่า เทือกเขาราหูแห่งนี้เป็นที่ฝังกระดูกของราชาปีศาจราหูตัวหนึ่งนับตั้งแต่โบราณกาล ภายในมีซากปรักหักพังเก่าแก่ซ่อนอยู่ แม้จะอันตรายหาที่เปรียบไม่ได้ แต่กลับมีวาสนาดีๆ มากมายกระจายอยู่
ดังนั้นในดินแดนวิญญาณโบราณ ขอเพียงเป็นผู้ฝึกปราณที่อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ก็จะเลือกมาฝึกที่เทือกเขาราหูทั้งสิ้น หนึ่งเพราะสามารถฝึกปรือวิชายุทธ์ได้ และสองคือสามารถมาเสี่ยงดวงเผื่อพบเจอวาสนา
ชิวเหวินอยู่ในเทือกเขาราหูนี้เกือบเดือนแล้ว เจออันตรายมามากมาย แต่จนถึงตอนนี้กลับยังไม่เคยได้พบโชควาสนาอย่างแท้จริงเลย
นี่ทำให้เขาค่อนข้างเหลืออด
‘หากไม่ได้ผลเก็บเกี่ยวภายในสามวันข้าจะกลับเมืองทันที ออกไปจากที่บ้าๆ นี่!’
ชิวเหวินลอบกัดฟันตัดสินใจ
ตูม!
ในตอนนั้นเอง บริเวณที่ห่างออกไปไกลพลันมีเสียงกึกก้องราวกับฟ้าผ่าดังขึ้นกะทันหัน
ถัดมาพายุอันน่าสะพรึงก็พุ่งตรงขึ้นฟ้า ฉีกทึ้งรัตติกาล สายลมเมฆาปั่นป่วน ทำให้สัตว์อสูรที่ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าโดยรอบต่างส่งเสียงคำรามอย่างตื่นตกใจ
ภาพอันยิ่งใหญ่นั้นดูสะดุดตามากในยามค่ำคืน ทำให้ชิวเหวินเองก็ตกตะลึงพรึงเพริด
วาสนา!
ทันใดนั้นชิวเหวินพลันตอบสนอง ดวงตาเป็นประกายอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ เกิดปรากฏการณ์ประหลาดอันยิ่งใหญ่ระดับนี้ ต้องเป็นโชควาสนามาเยือนแน่!
ฟุ่บ
ชิวเหวินพุ่งตัวไปทิศทางนั้นสุดแรงอย่างไม่ลังเล
……
“เป็นปรากฏการณ์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก หรือจะมีสมบัติล้ำค่าปรากฏ?”
“รีบไปดูกันเร็ว ปรากฏการณ์ประหลาดในยามรัตติกาล พายุทะยานฟ้า ต้องมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแน่!”
“ไป!”
แทบจะในเวลาเดียวกัน ในมุมต่างๆ ของพื้นที่ใกล้เคียง ผู้ฝึกปราณแต่ละคนต่างตื่นเต้น ด้วยเห็นภาพสะเทือนฟ้าดินนี้เช่นเดียวกับชิวเหวิน
พวกเขาจึงพุ่งไปยังแหล่งกำเนิดพายุจากทั่วทุกสารทิศโดยไม่ได้นัดหมาย
พรึ่บ! พรึ่บ! พรึ่บ!
ท่ามกลางท้องฟ้าสีรัตติกาล เห็นเพียงลำแสงมากมายปรากฏตัวกลางอากาศ วิบวับแวววาว งดงามหาที่เปรียบไม่ได้ วาดเป็นร่องรอยสีสันสลับไปมากลางอากาศ
สามารถเคลื่อนไหวกลางอากาศได้ เห็นได้ชัดว่าอย่างน้อยๆ ก็ล้วนเป็นผู้ฝึกปราณในระดับมหาสมุทรวิญญาณ!
เมื่อชิวเหวินที่กำลังพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งเห็นแบบนี้ ในใจก็ยิ่งหงุดหงิด ให้ตายย ทำไมจู่ๆ ถึงมีคู่แข่งโผล่มามากมายขนาดนี้!
โชควาสนาคือสิ่งที่ทุกคนต่างใฝ่หา
แต่ใช่ว่าทุกคนจะมีความสามารถไขว่คว้ามันไว้ได้
โดยเฉพาะในเทือกเขาราหูอันเป็นสถานที่ที่ศิษย์จากสำนักใหญ่มากมายเลือกมาฝึก ยามนี้จู่ๆ มีปรากฏการณ์ประหลาดสะเทือนฟ้าดินเช่นนี้เกิดขึ้น แค่คิดก็รู้ว่าจะดึงดูดผู้ฝึกปราณมากมายเพียงใดเข้ามาแย่งชิง
ไม่นานทุ่งโล่งแห่งหนึ่งก็ปรากฏอยู่ในสายตา
เพียงแต่ตอนที่ชิวเหวินมาถึงที่นี่ กลับพบอย่างตะลึงว่า กระแสลมพายุที่ราวกับจะทะลุฟากฟ้านั่นได้หายไปอย่างไร้ร่องรอยแล้ว
ราวกับทุกสิ่งที่เห็นเมื่อครู่นี้ล้วนเป็นเพียงภาพมายา
นี่ไม่ใช่ภาพมายา!
ไม่นานชิวเหวินก็สังเกตเห็นว่า ตรงกลางทุ่งท่ามกลางท้องฟ้ารัตติกาลไม่มีหญ้าขึ้นอยู่เลยแม้แต่ต้นเดียว พื้นดินยับเยินราวกับว่าถูกบดขยี้ด้วยฝ่ามือใหญ่ล่องหนอย่างรุนแรงมารอบหนึ่ง
นั่นต้องเป็นจุดกำเนิดพายุเมื่อครู่นี้แน่!
“อยู่ตรงนั้น!”
“ปรากฏการณ์ประหลาดหายไป ย่อมหมายความว่ามีสมบัติล้ำค่าปรากฏแน่ รีบหาให้ทั่ว!”
“รีบลงมือ!”
ในบริเวณใกล้เคียง แสงรำไรส่องสะท้อนเงาร่างของผู้ฝึกปราณมากมาย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาก็เห็นปรากฏการณ์ประหลาดบนทุ่งโล่งนี้เหมือนกับชิวเหวิน
“เวรเอ๊ย!”
ชิวเหวินลอบสบถและพุ่งปราดไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่นาน ไม่ว่าจะเป็นชิวเหวินหรือยอดฝีมือคนอื่นๆ ที่มารวมกัน ณ ที่แห่งนี้ต่างต้องตะลึง
เพราะพวกเขาเห็นว่า ตรงกลางของพื้นที่ที่ยับเยินไม่มีหญ้าขึ้นแม้แต่ต้นเดียว มีร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้นดินที่ไหม้เกรียม
นี่…
สถานการณ์แปลกประหลาดไปชั่วขณะ เหล่ายอดฝีมือต่างงงเป็นไก่ตาแตก
ในจุดกำเนิดลมพายุอันชวนตะลึง เดิมคิดว่าจะเป็นจุดกำเนิดวาสนาอันยิ่งใหญ่ แต่ใครจะคิดว่าจะมีเด็กหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่ที่นี่
เขาเป็นใคร
แน่นอนว่าคนๆ นั้นคือหลินสวิน
“สมบัติล้ำค่าที่เกิดจากปรากฏการณ์ประหลาดนี้ต้องถูกเด็กคนนี้แย่งไปแล้วแน่ๆ!”
ทันใดนั้นชายในชุดคลุมสีแดงคนหนึ่งพุ่งเข้าหาหลินสวินที่อยู่บนพื้นอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้า พยายามจะจับกุมหลินสวิน
คนอื่นๆ เห็นเช่นนี้ต่างตอบสนองขึ้นมา พลันตะเบ็งเสียงอย่างกราดเกรี้ยว
“ข้าฝูหลิงกวงแห่งสำนักพยัคฆ์มังกร ใครกล้าแย่งกับข้า”
“ใครจะสนว่าเจ้าเป็นใคร ไสหัวไป! วาสนาระดับนี้ไม่ใช่สิ่งที่สำนักพยัคฆ์มังกรอย่างพวกเจ้าอาจเอื้อม!”
“บุกไป! ไม่ว่าเป็นใคร ถ้ากล้าแย่งวาสนากับสำนักแสงทองของข้าก็ฆ่าทิ้งให้หมด!”
สถานการณ์วุ่นวายขึ้นมาทันที เพื่อแย่ง ‘วาสนา’ ที่ว่านี้ แต่ละคนไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ดวงตาแดงก่ำ
แต่พวกเขาเพิ่งพุ่งตัวออกไปก็ได้ยินเสียงโครมดังสนั่น ชายชุดคลุมสีแดงที่พุ่งเข้าไปหาหลินสวินเป็นคนแรก ตอนออกตัวว่าไวแล้ว แต่ตอนกลับมานั้นไวกว่า!
เขาราวกับถูกค้อนขนาดใหญ่ทุบ ร่างกายเหินถอยกลับมาอย่างแรง ส่งเสียงโอดครวญ เสียงร้องเจ็บปวดบาดทะลุท้องฟ้ารัตติกาล
ทันใดนั้นสถานการณ์อันวุ่นวายเปลี่ยนเป็นเงียบกริบ ทุกคนต่างหยุดการกระทำ สายตาหันไปมองสถานที่เกิดเหตุเป็นตาเดียวกัน สีหน้าเผยความฉงนใจ
และเห็นว่าบนพื้นตรงนั้น เด็กหนุ่มที่ดูเหมือนหมดสติอยู่ค่อยๆ ลุกยืนขึ้น!
เสื้อผ้าของเด็กหนุ่มขาดวิ่น เปื้อนสีเลือดสด รอยกระบี่กระจายเต็มเนื้อตัว แต่เขากลับดูเหมือนไม่รู้สึกสักนิด ใบหน้าหล่อเหลาดูเย็นชามากเป็นพิเศษใต้ท้องฟ้ายามราตรี
โดยเฉพาะดวงตาดำขลับคู่นั้นของเขา ลึกล้ำราวกับหุบเหว มีแสงประกายอันน่ากลัวดั่งลมพายุพลุ่งพล่านราวกับจะกลืนกินคน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์