แสงแววาวแผ่ลงมาจากฟากฟ้าพร้อมกับเสียงที่ดังขึ้น ส่องสว่างท้องฟ้าในยามรัตติกาล แสบตาอย่างที่สุด เข้าปกคลุมหลินสวินที่อยู่บนพื้น
ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะลงมือแล้ว!
ทุกคนที่อยู่ห่างออกไปต่างตกตะลึง
หลินสวินเงยหน้าขึ้นโดยพลัน ใบหน้าหล่อเหลายังคงเรียบเฉย มีเพียงในดวงตาสีดำขลับที่ราวกับลมพายุกำลังโหมกระหน่ำ สาดประกายอันน่าสะพรึงกลัว
เขากวัดแกว่งหอกเป็นแนวนอน เป็นการโจมตีง่ายๆ แต่กลับเหมือนเต็มไปด้วยพลังมหาศาล เสียงครืนโครมดังสนั่น ทำให้แสงสว่างนั่นกระจายหายไป
พรึ่บ!
เงาร่างของหลินสวินหายไปจากจุดเดิม ในมือถือหอกไว้ ก้าวเท้าเหยียบย่างขึ้นกลางอากาศ เงาร่างดุจชือน้ำแข็งพุ่งแทงอากาศในตำแหน่งหนึ่งอย่างรุนแรง
“เอ๋!”
อากาศตรงบริเวณนั้นเกิดเสียงร้องประหลาด เห็นได้ชัดว่าคิดไม่ถึงว่าตำแหน่งที่ซ่อนของตัวเองจะถูกหลินสวินจับได้ในทันที
แทบจะในเวลาเดียวกัน ตรงบริเวณนั้นปรากฏเงาร่างกำยำดั่งภูผา กระแทกหมัดออกมา
ตูม!
หอกสำริดส่งเสียงร้องครวญ สั่นสะเทือนอย่างรุนแรง เสียงเสียดหูที่ดังไปทั่วฟ้าดินนั่นทำให้ทุกคนต่างใจสั่น สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย
แค่อานุภาพเสียงนี้ก็รู้แล้วว่า ความสามารถของร่างล่ำสันนั่นน่าสะพรึงกลัวเพียงใด
ตึกๆๆ~
เงาร่างของหลินสวินถอยกลางอากาศไปหลายก้าว แต่เพียงชั่วขณะเขาก็ถือหอกเข้ามาสังหารอีกครั้ง ท่าทางเหยียดมองเย่อหยิ่งนั่นเหนือความคาดหมายของทุกคน
เด็กหนุ่มที่อายุเพียงสิบกว่าปี ทั้งยังเปื้อนเลือดไปทั้งตัว มีแผลกระบี่นับไม่ถ้วน แม้พลังต่อสู้จะพลิกฟ้าเพียงใด แต่อย่างมากก็เป็นแค่ผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นปลายเท่านั้น
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับการลงมือของผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะ เขาไม่เพียงไม่กลัว แต่ยังเป็นฝ่ายลงมือสังหารก่อนโดยไม่มีความลังเลเลย นี่ทำให้ทุกคนตะลึงมาก
เด็กนี่ไม่กลัวตายหรือไร
ศึกใหญ่ปะทุขึ้นกลางอากาศ หลินสวินกวัดแกว่งหอก เงาร่างราวกับแสงหมอกสีฟ้าอ่อนที่กำลังลุกโหม ให้ความรู้สึกเหมือนจะกลืนกินสรรพสิ่ง
สีหน้าของเขาเรียบเฉย แม้จะถูกโจมตีจนเซถอย แต่ไม่เพียงไม่บาดเจ็บ กลับยิ่งสู้ยิ่งห้าวหาญ ทำให้ทุกคนอึ้งจนอ้าปากค้าง
คู่ต่อสู้ของเขาเป็นผู้อาวุโสท่านหนึ่ง ร่างกายแข็งแกร่งปกคลุมไปด้วยเกล็ดสีทองหนาแน่น ราวกับประกอบขึ้นจากทองคำ เปล่งแสงสีทองสุกใส พลังนั้นชวนให้รู้สึกกดดันเหมือนภูเขาลูกใหญ่ กลิ่นเลือดคละคลุ้ง ชวนให้รู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ
“นักพรตสยงผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะแห่งตำหนักหมื่นอสูร!”
มีคนจำที่มาของชายชราได้ จึงอดร้องเสียงหลงด้วยความตกใจไม่ได้
นักพรตสยงเป็นผู้ฝึกตนสายอสูรอย่างแท้จริง ร่างเดิมยังเป็นหมีทองที่แข็งแกร่ง จนถึงตอนนี้ฝึกปราณมาพันปีแล้ว!
“นักพรตสยงงั้นหรือ เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร หรือลูกศิษย์ของตำหนักหมื่นอสูรก็มาเทือกเขาราหูด้วย”
หลายคนต่างสงสัย
ตำหนักหมื่นอสูรคือขุมอำนาจขนาดใหญ่ที่รวบรวมผู้ฝึกตนสายอสูรเอาไว้ มีชื่อเสียงมากในดินแดนวิญญาณโบราณ
สำหรับนักพรตสยง แม้จะมีพลังปราณในระดับหยั่งสัจจะขั้นต้น แต่ร่างต้นของเขาคือหมีทอง พลังแห่งเส้นปราณโลหิตแข็งแกร่ง พลังต่อสู้ก็ทรงพลังมากกว่าผู้ฝึกปราณในระดับเดียวกันอยู่มาก!
ยามนี้เห็นหลินสวินสามารถประลองกับนักพรตสยงได้ ทุกคนต่างตื่นตะลึงขึ้นมาทันที ไม่อาจจินตนาการได้เลยว่าเขาทำได้อย่างไร
ตูม!
บนท้องฟ้า นักพรตสยงใช้วิชาลับ แสงสีทองสาดส่องไปทั่ว แม้จะใช้มือเปล่า แต่ทุกครั้งที่โจมตีออกมากลับเกิดเสียงฟ้าร้องอันน่าตกใจ
ปัง! ปัง! ปัง!
เงาร่างของหลินสวินราวกับชือน้ำแข็ง หอกสำริดมีแสงสีฟ้าอ่อนแผ่ลอยเผาผลาญ กวาดวาดฟาดฟันเสียงดังสนั่น
สุดท้ายเขาถูกโจมตีจนตกสู่พื้น กระแทกเป็นหลุมใหญ่ เศษฝุ่นคละคลุ้ง
“สามารถประมือกับข้าได้ก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะจำนวนน้อยในเผ่ามนุษย์แล้ว ส่งสมบัติล้ำค่าในมือมา แล้วคุกเข่ายอมรับข้าเป็นนาย ข้าจะไว้ชีวิตเจ้า!”
เสียงของนักพรตสยงราวกับฟ้าร้อง ย่างสามขุมเข้ามา ประหนึ่งภูเขาลูกใหญ่แผ่คลุม อานุภาพน่าพรั่นพรึง
ฟุ่บ!
เพียงแต่ไม่รอให้เขาเข้าใกล้ เงาร่างของหลินสวินก็พุ่งออกไปทันที หอกแทงเข้าลำคอของนักพรตสยงราวกับสายฟ้า
เฮือก
ทุกคนที่อยู่ห่างออกไปต่างสูดหายใจเย็นเยียบด้วยความตะลึง แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง หลินสวินเป็นฝ่ายถูกกดดันชัดๆ เดิมคิดว่าจะต้องตายอย่างไร้ข้อกังขา แต่ใครจะคิดว่าเขากลับพุ่งตัวออกมาอีกครั้ง!
เขาเป็นอมตะหรืออย่างไร
เหลือเชื่อจริงๆ ทำให้ทุกคนยากจะจินตนาการ อย่าลืมว่าก่อนหน้านี้หลินสวินก็บาดเจ็บหนักและมีรอยแผลกระบี่ทั่วตัว
ยามนี้ถูกนักพรตสยงกำราบด้วยพลังอันยิ่งใหญ่สะเทือนฟ้าดินระลอกแล้วระลอกเล่า ถ้าเป็นผู้ฝึกปราณคนอื่นเกรงว่าคงตายไปนานแล้ว แต่หลินสวิน…
ยังคงมีกำลังต่อสู้!
เขาทำได้อย่างไร
“หืม”
ยามนี้แม้แต่นักพรตสยงเองก็แปลกใจ วินาทีต่อมาสีหน้าพลันทวีความเคร่งขรึม รอบตัวเดือดพล่านด้วยแสงสีทองท่วมท้น
ในฐานะผู้ฝึกปราณระดับหยั่งสัจจะ หากไม่สามารถฆ่าเด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายมาก
เขาใช้พลังที่แท้จริงของตัวเองสำแดงวิชาลับ พลานุภาพแห่งระดับหยั่งสัจจะแผ่กระจาย ราวกับเทพอสูรทองคำสะท้านจักรวาล
ครืนโครม~
ท้องฟ้าปริแตก แผ่นดินแยกเปิด กลิ่นคาวเลือดพัดม้วนเข้ามา เศษหินทรายบินว่อน สับสนอลหม่านไปทั่ว
ไม่นานก็แทบจะปกคลุมท่วมร่างของหลินสวิน ราวกับเรือที่ถูกพายุโหมกระหน่ำกลางมหาสมุทรเพียงลำพัง สถานการณ์อันตรายอย่างมาก ไม่ทันไรก็สะเทือนจนเซถอยไปหลายต่อหลายครั้ง น่าหวาดหวั่นอย่างถึงที่สุด ราวกับว่าเขาสามารถถูกฆ่าได้ทุกเมื่อ
แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนตกใจคือ แม้จะเป็นเช่นนั้นหลินสวินก็ยังยืนหยัด ทั้งที่ดูเหมือนกำลังจะแพ้แล้วชัดๆ แต่กลับรอดมาได้ราวกับปาฏิหาริย์
นี่…
นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อและน่าตื่นตะลึงเกินไปแล้ว!
“พวกเจ้าสังเกตเห็นหรือไม่ พลังของเด็กนั่นแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ราวกับว่าทุกครั้งที่ถูกกำราบ ก็สามารถยกระดับพลังต่อสู้ของเขาให้สูงขึ้นหนึ่งส่วน”
มีคนสีหน้าหนักใจ ตกตะลึงอย่างที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์