Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 446

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 446 น้ำเต้าเพลิงแดง
ตอนที่ 446 น้ำเต้าเพลิงแดง
โดย
ProjectZyphon
ท้องฟ้ามืดสลัวย้อมสีเลือด หมอกดำแผ่ปกคลุม

นั่นคือไอสังหาร เพราะหนาแน่นเกินไปจึงไม่สามารถกระจายออกจากกันได้ ล่องลอยอยู่กลางอากาศอย่างน่าสะพรึงยิ่ง

บนพื้นดินราวกับเคยถูกเลือดอาบท่วม เศษอิฐหินกระดำกระด่าง กำแพงรอบๆ พังทลาย ถึงขั้นสามารถมองเห็นซากศพ ชุดเกราะทหารที่ผุพังมากมาย!

นี่ก็คือแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่น

แต่ตอนที่หลินสวินมาถึงที่นี่ กลับพบว่ามันเหมือนสนามรบโบราณมากกว่า!

ไอสังหารคละคลุ้งอยู่ในอากาศเป็นพันปีไม่มีเสื่อมคลาย ทอดสายตามองไปสุดลูกหูลูกตาล้วนมีแต่สีเลือด พาให้คนใจสั่นสะท้าน

ฟุ่บๆๆ

ไกลออกไป ผู้ฝึกปราณหลายสำนักต่างเหินทะยานกันหนาแน่น เคลื่อนที่ไปยังทิศทางที่แตกต่างกัน ราวกับมีเป้าหมายอยู่ก่อนแล้ว

ไม่นานหลินสวินก็เข้าใจแล้วว่า แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นนี้เป็นสถานที่แห่งโชควาสนาที่มีชื่อเสียง ทุกช่วงเวลาหนึ่งจะเปิดออกและดึงดูดคนหนุ่มสาวโดดเด่นจากทุกสารทิศให้เข้ามาไขว่คว้าโชควาสนา ค้นหาสมบัติโบราณ

ดังนั้นสำหรับลูกศิษย์จากสำนักโบราณที่มีต้นกำเนิดและขุมอำนาจยิ่งใหญ่ ย่อมต้องมีเบาะแสมากมายเกี่ยวกับแหล่งโลหิตสมบัติหล่นร่วงอยู่ในมือ

พวกเขาเข้ามาในนี้ แน่นอนว่าไม่มีทางเข้ามาอย่างไร้จุดหมาย ตรงกันข้าม พวกเขากลับมุ่งหน้าไปยังบริเวณที่มีโชควาสนาอันคุ้มค่าโดยเฉพาะ

หลินสวินสูดหายใจเข้าลึกๆ มิได้สนใจสิ่งเหล่านี้ การมาเยือนแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นในครั้งนี้ เขาไม่หวังจะได้รับโชควาสนาสะเทือนฟ้าดินอะไร ขอเพียงแค่ได้ต่อสู้เคี่ยวกรำ ทำให้ชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดเส้นนั้นบนจุดปราณทั้งสี่แห่งเส้นปราณหัวใจได้ก่อตัวอย่างสมบูรณ์ก็เพียงพอแล้ว

หลังจากแยกแยะทิศทางอยู่ครู่ หลินสวินก็มุ่งไปข้างหน้าโดยไม่ปกปิดกลิ่นอายของตัวเอง ดูแข็งกร้าวอย่างมาก

ไม่นานพลันได้ยินเหมือนเสียงฉีกขาดเสียงหนึ่ง แสงสีเขียวเจิดจ้าพุ่งออกมาจากซากปรักหักพัง ราวกับเป็นรุ้งเขียวเจิดจรัส ห้อทะยานผ่านอากาศอย่างรวดเร็ว

ผู้ฝึกปราณหลายคนที่อยู่รอบๆ ตกตะลึง สีหน้าเผยความบ้าคลั่งทันใด ตะโกนอย่างบ้าระห่ำ

“สมบัติโบราณ! เป็นสมบัติโบราณ!”

“ตามไป!”

ผู้ฝึกปราณเหล่านั้นราวกับฝูงฉลามได้กลิ่นคาวเลือด ต่างเหินตัวขึ้นตามไป

เห็นได้ชัดว่าสิ่งนั้นเป็นสมบัติโบราณที่มีจิตวิญญาณ ถูกกาลเวลากัดกร่อนไม่มีที่สิ้นสุดแต่ยังสามารถดำรงอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ รักษาจิตวิญญาณเอาไว้ เรียกได้ว่ามหัศจรรย์!

หากสามารถกำราบมันได้ ก็ไม่ต่างอะไรกับการได้รับวาสนาหนึ่ง!

‘ในซากปรักหักพังยังมีสมบัติโบราณซ่อนอยู่หรือ’

ดวงตาสีดำขลับของหลินสวินหรี่ลง เขาเห็นแสงสีเขียวที่ปรากฏขึ้นเมื่อครู่นี้ชัดเจน เป็นกระดูกสัตว์ที่แตกหัก แวววาวเปล่งประกาย ประทับลายโบราณลึกลับ จิตวิญญาณไม่ธรรมดา

ตูมโครม!

บนท้องฟ้าอีกฝั่งพลันระเบิดเสียงการต่อสู้ เหล่าผู้ฝึกปราณสำแดงวิชาลับ กำลังแย่งชิงสมบัติโบราณชิ้นหนึ่งกันอยู่

สมบัติโบราณชิ้นนั้นเป็นค้อนทองแดงขนาดเล็ก สีเงินแวววาวราวมีชีวิต มันไม่ยินยอมถูกกำราบ บินวนกลางอากาศอย่างบ้าคลั่ง ปล่อยลำแสงน่าสะพรึงกลัวราวกับสายฟ้า

เห็นได้ชัดว่านั่นเป็นสมบัติโบราณวิญญาณสถิต!

สิ่งที่น่าตกใจที่สุดคือ เหล่าผู้ฝึกปราณหลบไม่ทัน ถึงขั้นถูกแสงสีเงินนั่นโจมตีจนบาดเจ็บ ส่งเสียงร้องโอดครวญ

“อย่างน้อยก็ต้องเป็นสมบัติโบราณระดับสวรรค์! ดูพลังนั่นสิ แข็งแกร่งกว่าอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ที่หลอมขึ้นในยุคนี้ไม่รู้กี่เท่า!”

เสียงสะท้านสะเทือนดังสนั่นขึ้น ผู้ฝึกปราณหลายคนต่างกู่ก้อง พุ่งเข้าไปในสนามรบนั้นเพื่อแย่งชิงค้อนทองแดงเล็ก

หลินสวินเองก็อดหวั่นไหวไม่ได้ เพิ่งจะเข้าสู่แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นก็มีสมบัติโบราณปรากฏขึ้นสองชิ้น นี่มันน่าตะลึงเกินไปแล้ว

ก็ไม่แปลกที่ครั้งนี้จะมีคนโดดเด่นมีชื่อเสียงหลายฝ่ายเข้ามามากมายเพียงนี้ แม้แต่ขุมอำนาจโบราณก็ถูกดึงดูดมาด้วย แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นแห่งนี้ช่างเป็นสถานที่แห่งโชควาสนาและทรัพย์สมบัติสมคำร่ำลือจริงๆ!

แต่ไม่นานหลินสวินก็สังเกตเห็นว่า ผู้สืบทอดชั้นยอดจากสำนักโบราณหลายคนกลับเมินสมบัติชิ้นนี้ ใจจดจ่อกับการเข้าไปในส่วนที่ลึกกว่าของซากปรักหักพัง

เห็นได้ชัดว่าในแหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นยังมีวาสนาที่สะเทือนฟ้าดินยิ่งกว่าซ่อนอยู่ และกำลังดึงดูดให้เหล่าผู้กล้าเข้าไปหา

หลินสวินครุ่นคิด สุดท้ายก็ส่ายหัวแล้วมุ่งหน้าต่อไป เขาหวังจะต่อสู้ก็จริง แต่จะไม่เข้าไปหาเรื่องก่อน

แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาลไร้ที่สิ้นสุด นอกจากบริเวณที่เป็นซากปรัก ยังมีบริเวณอื่นๆ ที่น่ากลัวอีกมากมาย ทั้งภูเขาสูงชัน เหวลึก หาดร้างเป็นต้น

แม้ว่าฟ้าดินแห่งนี้จะเต็มไปด้วยแสงเลือดอันมืดสลัวและไอสังหารหนาแน่น แต่ก็มีแสงสมบัติที่เปล่งประกายออกมาเป็นระยะๆ พุ่งออกมาแล้วหายไปอย่างรวดเร็ว สว่างไสวจนแสบตา

ทันใดนั้นไกลออกไปพลันได้ยินเสียงร้องน่าอนาถ ทำให้หลินสวินหรี่ตาลง

เป็นผู้ฝึกปราณวัยกลางคนคนหนึ่งที่มาคนเดียวเหมือนหลินสวิน เมื่อครู่นี้สามารถช่วงชิงสมบัติโบราณสำริดรูประฆังชิ้นหนึ่งมาได้สำเร็จ

แต่ไม่ทันที่เขาจะดีใจ ก็ถูกปิดล้อมโดยกลุ่มลูกศิษย์จากสำนักอื่น สมบัติในมือยังไม่ทันอุ่นก็ถูกฆ่าตายคาที่!

“ถุย! ผู้ฝึกปราณพเนจรพรรค์นี้ยังกล้าหวังสมบัติโบราณระดับนี้ ช่างไม่รู้จักที่ต่ำที่สูง”

“ฮ่าๆ แบบนี้ก็ไม่เลว อย่างน้อยเราก็ไม่ต้องเปลืองแรงไปกำราบสมบัติโบราณ เพียงแค่สังหารพวกเขาแล้วแย่งมาก็พอแล้ว”

ลูกศิษย์สำนักเหล่านั้นคุยกันอย่างยินดี แต่ละคนต่างย่ามใจ ฆ่าคนชิงสมบัติกันอย่างราบรื่น

“เอ๋ นั่นเด็กหนุ่มที่ประลองกับฉู่หลินเทียนเมื่อครู่นี้ไม่ใช่หรือ”

ลูกศิษย์เหล่านั้นสังเกตเห็นหลินสวิน สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น หว่างคิ้วเผยความระแวดระวังและไอสังหารอย่างไม่ปิดบังสักนิด

หลินสวินเดินหน้าต่อไปโดยไม่สนใจพวกเขา

เพียงแต่ในใจเขาก็อดทอดถอนใจไม่ได้ หากไม่มีพลังอันยิ่งใหญ่ติดตัว โชควาสนาที่ว่านี้ก็เป็นเพียงแค่หายนะ!

“เหตุใดเด็กนั่นจึงว่าง่ายเพียงนี้”

“อย่าไปหาเรื่องเขา เด็กคนนี้สามารถสู้กับยอดฝีมือระดับหยั่งสัจจะได้ ไม่ควรมีเรื่องด้วย สิ่งที่เราต้องเร่งมือตอนนี้คือแย่งชิงสมบัติโบราณให้มากขึ้นโดยเร็วที่สุด”

มองเงาร่างอันโดดเดี่ยวของหลินสวินจนลับสายตาไป สายตาของลูกศิษย์เหล่านั้นต่างทอประกาย แต่สุดท้ายก็ข่มกลั้นเอาไว้ ไม่ได้ลงมือแต่อย่างไร

หลินสวินมุ่งหน้าต่อมาได้หนึ่งชั่วยามกว่า ระหว่างทางเห็นเหตุการณ์สังหารนองเลือดมาไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ ล้วนเกี่ยวข้องกับการแย่งชิงสมบัติโบราณทั้งสิ้น

และเห็นผู้แข็งแกร่งที่ยังไม่ทันได้ครอบครองสมบัติโบราณ ก็ถูกฆ่าท่ามกลางการแย่งชิงเหมือนผู้ฝึกปราณวัยกลางคนผู้นั้น

ที่นี่คือสถานที่แห่งโชควาสนา แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสุสานที่อันตรายเกินคาดเดาด้วยเช่นกัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์