ร่างกายของหลินสวินราวกับเหวลึก ท่าทางดุจเทพมาร สำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ออกมาถึงขีดสุด
แม้จะสู้กับศัตรูทั่วทิศเพียงลำพัง แต่ก็มีอานุภาพราวเย้ยหยันอยู่รางๆ
ตูม!
แรงหมัดพวยพุ่ง แสงสีฟ้าอ่อนลุกโชน ในนั้นเต็มไปด้วยอานุภาพราวทลายภูผา ถล่มมหาสมุทร อากาศล่มสลาย มังกรเหินทะยาน ยากที่จะจินตนาการถึง
แย่แล้ว!
สีหน้าของผู้อาวุโสชุดขาวเปลี่ยนไปเล็กน้อย เข้าสกัดกั้นสุดกำลัง
แต่สุดท้ายเขาก็ถูกสะเทือนถอย แรงหมัดซัดกระแทกคนหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ เขาจนปลิวออกไป กระอักเลือดแดงสด ร้องครวญลั่นฟ้า
คนอื่นๆ ต่างอุทานด้วยความตกใจ ในใจตื่นตะลึง ไม่อาจคาดคิดได้เลยว่าพลังต่อสู้ของหลินสวินจะน่าสะพรึงเพียงนี้
พวกเขาสิบกว่าคนลงมือโจมตี ทั้งยังมีผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะถึงสองคนเป็นหัวเรือหลัก
แม้ว่าระดับหยั่งสัจจะทั้งสองจะกดพลังปราณของตัวเองให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ แต่ก็ครอบครองพลังแห่งสัจจะ ฝีมือการต่อสู้เลิศล้ำ เพียงพอที่จะกวาดล้างผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณได้อย่างแน่นอน
ทว่าตอนนี้พวกเขากลับทำอะไรหลินสวินไม่ได้ ทั้งยังถูกบีบจนแทบจะต้านไม่ไหว!
“ฟัน!”
ทันใดนั้นชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นคนนั้นพลันงัดกระบี่วิญญาณที่ราวกับเกล็ดหิมะออกมาใช้ มันกลายเป็นสายยาวฟันไปทางหลินสวินโดยพลัน
หลินสวินสะบัดหมัดเข้ารับอย่างแข็งกร้าว แรงหมัดน่าหวาดหวั่นกระแทกกระบี่วิญญาณจนส่งเสียงครวญ แสงวิญญาณสั่นสะท้านสับสน
ชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นหรี่ตาลง เด็กคนนี้…เหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
“หากไม่ใช้พลังระดับหยั่งสัจจะ วันนี้พวกเจ้าตายแน่!”
หลินสวินเอ่ยเสียงเรียบราวกับเป็นการเตือน อันที่จริงจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ในร่างเขากำลังซัดโหม พลังบ้าคลั่งไร้ที่เปรียบราวกับระเบิดเพลิง ต้องการผู้แข็งแกร่งอย่างแท้จริงมาสู้กับตนอย่างเร่งด่วน
จึงจงใจส่งเสียงกระตุ้นอีกฝ่าย
“น่าชังนัก!”
“ใช้พลังทั้งหมดที่มีฆ่าเขาซะ!”
ผู้อาวุโสชุดขาวคำรามพลางสะบัดฝ่ามือ ดาบศึกสีเงินใช้วิชาลับ ทำลายหยินหยาง ย้อนกลับห้าธาตุ น่าสะพรึงกลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้
แทบจะในขณะเดียวกัน คนอื่นๆ ในที่นั้นต่างกัดฟันสำแดงพลังทั้งหมดที่มี ใช้ทั้งวิชาลับและสมบัติสารพัดชนิดราวกับไม่เสียดาย เพื่อเอาชีวิตหลินสวิน
นัยน์ตาดำของหลินสวินเป็นประกาย ในที่สุดก็รู้สึกถึงแรงกดดันขึ้นมาแล้ว กระตุ้นให้เลือดทั้งร่างเขาเดือดคลั่ง
“แบบนี้ค่อยน่าสนใจหน่อย!”
เขาส่งเสียงคำรามสะเทือนฟ้าดิน ใจต่อสู้ระเบิดออกอย่างสิ้นเชิงราวกับภูเขาไฟ
ชั่วขณะนี้หลินสวินถึงขั้นที่เกือบจะลืมน้ำเต้าเพลิงแดงซึ่งถูกแย่งไป จดจ่ออยู่กับการต่อสู้ พลังสะท้านขวัญ
และในร่างเขา ชีพจรวิญญาณต้นกำเนิดเส้นใหม่สาดแสงสว่างไสวบริสุทธิ์ ราวกับกำลังหายใจ เริ่มก่อตัวทีละนิด…
ปัง!
ไม่นานทวนยาวเล่มหนึ่งถูกหลินสวินซัดจนแตก หญิงสาวที่ถือทวนไม่ทันได้หนีก็ถูกลมหมัดไพศาลปกคลุม เลือดสีแดงสดสาดกระเด็น ตายคาที่อย่างน่าอนาถ
เสียงตะโกนด้วยความตกใจระคนกราดเกรี้ยวดังลั่น หลายคนเดือดดาลจนถึงขีดสุด ดวงตาแดงก่ำ
จนถึงตอนนี้หลินสวินฆ่าคนของพวกเขาไปสองคนแล้ว แต่ตัวเองกลับไม่บาดเจ็บแม้แต่ปลายเล็บ ทั้งยังยิ่งสู้ยิ่งห้าวหาญ พลังแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ!
น่ากลัวเกินไปแล้ว ใครที่ไหนจะเคยเห็นคนที่พลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในระหว่างการต่อสู้
และใครจะเคยเห็น เด็กหนุ่มระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นปลายคนหนึ่งที่ตกอยู่ท่ามกลางวงล้อม กลับยังสำแดงพลังราวกับทำลายทัพแตกพ่ายเช่นนี้
“ฆ่า!”
ผู้อาวุโสชุดขาวใบหน้าเขียวคล้ำ จิตสังหารราวกับคลื่นน้ำถาโถม แสงประกายแผ่พุ่งทั่วตัว โทสะพลุ่งพล่านถึงขีดสุด
แต่แม้จะเป็นเช่นนี้เขากลับยังอดทน ไม่เคยเปิดผนึกในร่างให้ฟื้นคืนสู่พลังของระดับหยั่งสัจจะ
ไม่เพียงแค่เขา แม้แต่ชายกลางคนหน้าแผลเป็นก็เช่นเดียวกัน
เรื่องนี้ทำให้หลินสวินขมวดคิ้วน้อยๆ สู้กันมาจนถึงตอนนี้แล้ว ระดับหยั่งสัจจะทั้งสองกลับยังคงใช้พลังระดับมหาสมุทรวิญญาณ ความอดทนสูงจริงๆ
ทันใดนั้นหลินสวินพลันเข้าใจขึ้นมารางๆ ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากทำ แต่ไม่กล้าทำต่างหาก!
แหล่งโลหิตสมบัติร่วงหล่นเต็มไปด้วยพลังต้องห้าม มีเพียงผู้ฝึกปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณเท่านั้นที่สามารถเข้ามาได้อย่างปลอดภัย เห็นได้ชัดว่าเหล่าคนที่กดพลังให้อยู่ในระดับมหาสมุทรวิญญาณ ไม่กล้าเผยพลังระดับหยั่งสัจจะออกมาเพราะกลัวการสะท้อนกลับของพลังต้องห้าม
เสียงตูมดังสนั่น หลินสวินสำแดงพลังอีกครั้ง อากาศราวกับระเบิดออกจากกัน แรงหมัดโถมคลั่งราวกับน้ำหลาก ทั้งกว้างใหญ่และหนาแน่นเกินไปจนไม่มีใครเทียบ
พริบตานั้นชายวัยกลางคนหน้าแผลเป็นก็สะเทือนจนกระอักเลือด สีหน้าขาวซีด ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ ไม่จำยอมและฉุนเฉียว
“กู่เหลย เจ้าพาพวกเขาออกไป!”
ผู้อาวุโสชุดขาวตะโกนแล้วชิงพุ่งออกมา เงาร่างสาดกลิ่นอายอันน่าสะพรึงโดยพลัน เขาทะยานขึ้นฟ้า ราวกับพริบตานั้นได้กลายเป็นอีกคน ดูน่ากลัวอย่างที่สุด
ครืนโครม~
คลื่นพลังแผ่กระจายไปทั่ว อากาศบริเวณนี้ระเบิดออก แสงสีเงินลุกโหมม้วนห่อร่างหลินสวินเอาไว้แน่น
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสชุดขาวตระหนักได้ถึงความรุนแรงของสถานการณ์ ทนให้หลินสวินอวดดีต่อไปไม่ได้แล้ว จึงเปลี่ยนวิธีใหม่ สำแดงพลังของผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะออกมา!
ฮู้ม~
หลินสวินไม่เพียงไม่ตกใจแต่กลับดีใจ ทั้งร่างส่องประกาย เท้าเคลื่อนไหวด้วยก้าวย่างชือน้ำแข็ง แผ่เมฆหมอกแสงศักดิ์สิทธิ์ เข้าปะทะกับผู้อาวุโสชุดขาว
ในเวลาเดียวกันนั้น ชายกลางคนหน้าแผลเป็นที่ถูกเรียกว่ากู่เหลยก็นำหนุ่มสาวคนอื่นๆ ของสำนักแสงทองทะยานหนีไปไกลอย่างรวดเร็วโดยไม่ลังเล
เห็นได้ชัดว่าผู้อาวุโสชุดขาวตัดสินใจจะเสี่ยงดูสักตั้งเพื่อคว้าโอกาสให้พวกเขาหนีไป ยามนี้แม้กู่เหลยจะไม่ยินยอมเพียงใด ก็ทำได้เพียงเลือกหนีไปก่อน
“คิดหนีงั้นหรือ ทิ้งชีวิตไว้!”
กลับเห็นเงาร่างของหลินสวินราวกับมังกร แผ่พลังอันยิ่งใหญ่ ชักดาบออกจากฝักแล้วตวัดฟันด้วยกระบวนท่าคว้าดาราอย่างไม่ลังเล
ฟ้าดินราวกับค่ำคืนนิรันดร์มาเยือน ดวงดารานับหมื่นตกจากฟากฟ้า พลังทำลายล้างสะเทือนฟ้าดินปรากฏขึ้นในดาบเดียว ควบคุมฟ้าดินแต่เพียงผู้เดียว!
เห็นได้ชัดว่าอานุภาพของกระบวนท่าคว้าดาราในยามนี้แตกต่างจากที่ผ่านมาอย่างชัดเจน กลิ่นอายอันน่าสะพรึงที่แผ่ซ่านทำให้ผู้อาวุโสชุดขาวยากจะสกัดขวางได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์