Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 464

สรุปบท ตอนที่ 464: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนที่ 464 – ตอนที่ต้องอ่านของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์

ตอนนี้ของ Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ โดย Internet ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายกำลังภายในทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง ตอนที่ 464 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 464 หลินสวินออกจากภูเขา
ตอนที่ 464 หลินสวินออกจากภูเขา
โดย
ProjectZyphon
นอกภูเขาชำระจิต

ชายหนุ่มผิวสีทองแดงผู้หนึ่งกำลังนั่งขัดสมาธิกลางป่าครึ้ม หญ้าบนพื้นรอบตัวไหวขึ้นลงตามลมหายใจของเขาอย่างพร้อมเพรียง

บรรยากาศลึกลับ คายออกและดูดซับพลังอยู่คนเดียว พลังขับเคลื่อนจากร่างกายส่งผลให้ต้นไม้ใบหญ้าโดยรอบเคลื่อนไหวตามไปด้วย เห็นได้ชัดว่าพลังปราณอยู่ในระดับมาหาสมุทรวิญญาณขั้นสูง

ไม่ต้องสงสัย ชายหนุ่มผู้นี้ต้องเป็นบุคคลร้ายกาจถึงที่สุดคนหนึ่งในนครต้องห้าม ถือได้ว่าเป็นผู้โดดเด่นในรุ่นเดียวกัน

ปึงๆๆ!

ทันใดนั้นทั้งสี่ทิศโดยรอบชายหนุ่ม หญ้าต้นแล้วต้นเล่าถูกดึงออกมาจากดิน ลอยละล่องในห้วงอากาศ และภายหลังแหลกสลายกลายเป็นฝุ่นราวถูกฟ้าผ่าโจมตี

นี่ไม่ได้เป็นการจงใจทำ แต่เป็นสิ่งที่เกิดจากการกดทับของพลานุภาพมหาศาล ยามคนคนหนึ่งคายพลังขับเคลื่อน

“มีความก้าวหน้า!”

จั่วหยางพลันลืมตาขึ้น ยิงพลังสายฟ้าสองเส้นออกไป พลังวิญญาณรอบกายปั่นป่วนพลุ่งพล่าน กระจายออกมาจากผิวหนังแล้ววนอ้อมร่างกาย พลังปราณสาดกระเซ็นราวเตาไฟใหญ่เตาหนึ่ง!

นี่เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงพื้นฐานการฝึกปราณอันแข็งแกร่ง ชำนิชำนาญ!

“คุณชายช่างเป็นอัจฉริยะแห่งยุคจริงๆ! เพียงเวลาไม่กี่เดือน ก็ทะลวงมาถึงขั้นที่เจ็ดของ ‘วิชามหาเพลิงผลาญสวรรค์’ เปลี่ยนแปลงราวเกิดใหม่ เทียบกับก่อนหน้านี้เหมือนกับคนละคนเลยขอรับ”

ชายวัยกลางผู้หนึ่งเดินเข้ามา เอ่ยชมไม่หยุดปาก

ที่เขาพูดเป็นความจริง ในตระกูลจั่ว จั่วหยางถือเป็นอัจฉริยะผู้หนึ่ง คุณลักษณะโดดเด่นเกินทั่วไป คนรุ่นเดียวกันน้อยนักที่จะเทียบเขาได้

จั่วหยางลุกขึ้นยืน พูดเสียงเรียบว่า “น่าเสียดาย ครั้งก่อนเพราะเก็บตัวฝึกปราณเลยพลาดงานเลี้ยงฉลองพระชนมพรรษาของจักรพรรดินีองค์ปัจจุบันไป”

ชายวัยกลางคนอดทอดถอนใจไม่ได้ “ด้วยพลังปราณของคุณชายต้องไม่ด้อยกว่าพวกไป๋หลิงซี เว่ยฉือเจ๋อ ซ่งอี้สักคนแน่ เพียงแต่ท่านไม่ต้องใส่ใจ ภายภาคหน้ายังมีโอกาสไปฝึกปราณที่ดินแดนรกร้างโบราณอีกขอรับ”

“ตอนนั้นที่เจ้าเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองพระชนมพรรษา เจ้าคิดว่าข้ากับหลินสวินเทียบกันแล้วเป็นอย่างไร”

สายตาจั่วหยางราวสายฟ้า มีแววบ้าระห่ำและพยศ

ชายกลางคนหนังตากระตุก พลันยิ้มเย็น “คุณชายเป็นคนระดับใด จะไปเทียบกับหลินสวินนั่นได้ที่ไหนเล่า เด็กนี่ล่วงเกินราชวงศ์ ยั่วโมโหเหล่าบุคคลชั้นสูงของจักรวรรดิ ไม่ช้าก็เร็วต้องตายตั้งแต่ยังหนุ่มแน่ ไม่มีค่าควรให้คิดเลย”

“แต่เขาเอาชนะหลิงเทียนโหวได้นะ”

ดวงตาจั่วหยางมองไปยังภูเขาชำระจิตที่อยู่ไกลออกไป พูดอย่างเฉยเมย “ที่ข้ามาที่นี่ ก็เพราะอยากจะลองดูว่าหลินสวินผู้นี้สมคำร่ำลือหรือไม่”

ชายวัยกลางคนพูดพลางหัวเราะ “น่ากลัวว่าจะทำให้คุณชายผิดหวังแล้วขอรับ เจ้าเด็กนี่หดหัวอยู่ในภูเขาชำระจิตไม่ได้ออกมาเลย เห็นชัดว่ากลัวถูกเล่นงาน”

จั่วหยางนิ่วหน้าแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “ข้าทนต่อไปไม่ไหวแล้ว สั่งการลงไป ขอเพียงเห็นว่ามีคนเดินออกมาจากภูเขาชำระจิต ให้จับกุมทันที แล้วแขวนประจานหน้าประตูใหญ่ภูเขาชำระจิต ได้รับการเหยียดหยามเช่นนี้ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าจะบีบหลินสวินนั่นให้ออกมาไม่ได้!”

ชายวัยกลางคนพลันใจสะท้าน รับคำสั่งแล้วจากไป

ในอีกบริเวณหนึ่ง บนพื้นดินกว้างขวางมีชายหนุ่มผอมสูงผู้หนึ่งยืนไขว้หลัง รอบตัวเขามีผู้ติดตามสิบกว่าคนถืออาวุธนานาชนิดล้อมโจมตีเขาผู้เดียว

เคร้งๆๆ!

ชายหนุ่มไม่ขยับกายสักนิด ร่างกายกลับเหมือนหลอมขึ้นจากเหล็กกล้า เมื่อดาบและกระบี่ฟันลงมาก็มีประกายไฟแตกกระจาย แต่ทำให้เขาบาดเจ็บไม่ได้แม้แต่นิดเดียว

เขาไม่ได้โคจรพลัง อาศัยเพียงพลังกายก็ทำให้ดาบและกระบี่เหล่านั้นทำอันตรายได้ยาก!

“ไอ้พวกขยะ! ไม่มีแรงรึ”

ชายหนุ่มนิ่วหน้าตะคอกราวอัสนีบาตรสะเทือนเลือนลั่น

ผู้ติดตามเหล่านั้นสั่นเทาไปทั้งร่าง ใช้พลังสุดแรงเข้าโจมตีไม่หยุดหย่อน

ก็เห็นว่าประกายไฟพุ่งออกรอบทิศ ลุกโชนสว่างจ้ารอบกายของชายหนุ่ม ที่น่าตกใจก็คือเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บดังเดิมท่ามกลางการโจมตีระดับนี้ บนผิวหนังมีเพียงรอยขาวรอยแล้วรอยเล่า

“คุณชายฉินซิงฝีมือเยี่ยม ในรุ่นเดียวกันถ้าพูดถึงระดับความแข็งแกร่งของร่างกายแล้ว ทั้งนครต้องห้ามน่ากลัวจะหาคนที่เทียบกับท่านได้น้อยนัก”

ไม่ไกลนักมีคนเดินมา เป็นเด็กสาววัยแรกแย้มคนหนึ่ง

ฉินซิง อัจฉริยะในหมู่คนรุ่นเยาว์ตระกูลฉินที่เป็นหนึ่งในเจ็ดตระกูลทรงอิทธิพลชั้นสูง กิตติศัพท์รุ่งเรือง มีคุณลักษณะพรสวรรค์ ‘กายพรตกระดูกทอง’ ศักยภาพน่าหวาดหวั่น

“หลินจือ ได้ยินว่าเจ้าทำร้ายเด็กหนุ่มคนหนึ่งหรือ หากข้าเดาไม่ผิด เด็กหนุ่มผู้นั้นคงเป็นลูกหลานตระกูลหลินแห่งแสงอุดร คิดดูแล้วก็เป็นญาติร่วมตระกูลเดียวกันสินะ”

ฉินซิงโบกมือไล่ผู้ติดตามเหล่านั้น

เด็กสาววัยแรกแย้มที่มีนามว่าหลินจืออมยิ้มแล้วพูดว่า “เหอะๆ ตั้งแต่พวกเขาตระกูลหลินแห่งแสงอุดรทรยศ ไปเข้าร่วมกับภูเขาชำระจิต ข้าก็ไม่คิดว่าพวกเขาเป็นคนในตระกูลแล้ว”

ฉินซิงหัวเราะร่าแล้วพูดว่า “เจ้าเข้าใจเลือกดีนี่ ภายหน้ามีตระกูลฉินของพวกเราสนับสนุน ต้องให้ผลประโยชน์ไม่น้อยต่อพวกเจ้าตระกูลหลินแห่งธารประจิมแน่นอน!”

หลินจือยิ้มละไมแล้วพูดว่า “ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ควรได้รับการปฏิบัติที่ดี ข้าทำเช่นนี้ก็เพราะคิดจะยั่วโมโหภูเขาชำระจิตอย่างเด็ดขาด บีบให้หลินสวินนั่นโผล่หัว ให้คุณชายฉินซิงสำแดงแสนยานุภาพ ปลิดชีพมันให้สิ้น”

ฉินซิงหัวเราะเสียงดังอีกครั้งแล้วพูดว่า “ทางภูเขาชำระจิตมีปฏิกิริยาหรือยัง”

หลินจือพูดอย่างได้ใจ “ครั้งนี้ข้าเล่นงานหลินอวิ๋นเหวินนั่นเสียอ่วม พวกเขาจะทนอยู่ได้อย่างไร”

“เจ้าไม่กังวลว่าทำเช่นนี้จะทำให้ผู้อื่นตำหนิว่าเจ้าทำร้ายสายเลือดตระกูลเดียวกันหรือ”

ฉินซิงประหลาดใจ

มุมปากหลินจือยกขึ้นเล็กน้อย ไม่สนใจสักนิด เอ่ยพลางยิ้มว่า “ข้าทำเช่นนี้เพื่อกำจัดเภทภัยให้ตระกูลหลิน เจ้าหลินสวินนั่นมันเป็นใครกัน คนชั้นเลวที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากไหน ทั้งยังละเมอเพ้อพกจะควบคุมภูเขาชำระจิต น่าขันนัก มันกล้าเหิมเกริมเข้าครองภูเขาชำระจิต ข้าก็กล้าฆ่าทุกคนที่เกี่ยวข้องกับมันให้เหี้ยน!”

ฉินซิงอดแปลกใจไม่ได้ สตรีนางนี้อายุยังน้อย แต่คิดไม่ถึงว่าจะเป็นคนใจคอโหดเหี้ยมยิ่งนัก

เขาเอ่ยกำชับ “เจ้าไปเถอะ ข้าจะรอข่าวดีจากเจ้า”

หลินจือโน้มตัวเล็กน้อย คำนับบอกลา

“ฮ่าๆๆ ดูท่าแล้วการเก็บเจ้าหลินอวิ๋นเหวินนั่นรอบหนึ่ง ก็ทำให้พวกทรยศบนภูเขาชำระจิตนั่งไม่ติดที่แล้วสินะ”

“พวกเจ้าหลบไปอีกด้าน ครั้งนี้ให้ข้าลงมือก่อน ก่อนหน้านี้ตอนต่อกรกับหลินอวิ๋นเหวิน ข้าแย่งโอกาสเล่นงานมันไม่ได้”

เมื่อหลินสวินเดินออกมาจากภูเขาชำระจิตพลันมีเสียงโหวกเหวกดังขึ้น

ก็เห็นว่าไม่ไกลนักมีผู้ฝึกปราณทั้งชายหญิงกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ สีหน้าล้วนล้อเลียนและตื่นเต้น ลูบหมัดปาดมือ ท่าทางหยิ่งผยองเหิมเกริมถึงที่สุด

“เจ้าหนู ทำไมมาแค่คนเดียวล่ะ”

ชายหนุ่มชุดแพรผู้หนึ่งพุ่งเข้ามา พูดพลางยิ้มเหี้ยมว่า “ช่างทำให้ผิดหวังเสียงจริงนะ เจ้าก็ออกมาหาที่ตายเหมือนหลินอวิ๋นเหวินหรือ”

คนอื่นๆ หัวเราะเสียงขรม

หลินสวินกวาดสายตาไปทั่วแล้วยิ้มสดใส เผยให้เห็นฟันขาวราวหิมะ “ให้โอกาสพวกเจ้าครั้งหนึ่ง ส่งผู้ร้ายที่ทำร้ายหลินอวิ๋นเหวินมา แล้วคุกเข่าขอโทษ ข้าจะไว้ชีวิตพวกเจ้าสักครั้ง”

คนเหล่านั้นล้วนเป็นกำลังที่มาจากธารประจิม คานเมฆา และยอดวายุสามตระกูลรอง เพราะมีขุมอำนาจตระกูลจั่วและฉินเป็นที่พึ่ง หลายวันนี้จึงปิดทางอยู่ที่นี่ ไม่มีหวั่นกลัว ประพฤติตัวไม่เกรงกฎไม่กลัวฟ้าจนชินเสียแล้ว

อีกทั้งหลายวันมานี้พวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บเลย นี่ทำให้พวกเขายิ่งได้ใจ ดังนั้นเมื่อได้ยินถ้อยคำนี้ของหลินสวินจึงล้วนอึ้งไปอย่างอดไม่ได้ แทบไม่เชื่อหูตัวเอง

“เจ้าเป็นใครกัน คิดว่าตัวเองเป็นใคร คุกเข่าให้ข้าซะ!”

ชายหนุ่มชุดแพรที่ก้าวออกมาอยากมีเรื่องใจจะขาดตั้งนานแล้ว เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าปีคนหนึ่งออกมา ทั้งยังกล้ากำเริบเสิบสานปานนี้ก็ระงับไว้ไม่อยู่ พุ่งตัวไปข้าวหน้า เงื้อมือขึ้นจะตบหลินสวิน

“ไสหัวไป!”

หลินสวินตะคอกคำเดียว สั่นสะเทือนจนห้วงอากาศหวีดหวิว พลานุภาพไร้รูปถาโถมออกมา ราวกับภูเขาใหญ่เคลื่อนกระแทก พุ่งใส่ชายหนุ่มชุดแพรผู้นั้นจนร้องโหยหวน กระเด็นออกไปสิบกว่าจั้งอย่างแรงจนพื้นดินฝุ่นตลบ

โครม!

จากนั้นยังมีพลังลับสายหนึ่งกระแทกอัดภายในกายชายหนุ่มชุดแพรผู้นั้น ทำให้ตัวเขาถูกบีบอัดอยู่กับที่ ร่างกลายเป็นตัวอักษร ‘ใหญ่’ (大) ฝังจมอยู่ตรงนั้น กระอักเลือดทั้งปากและจมูก สภาพสะบักสะบอม

“อ๊าก” เขาโหยหวนดิ้นรนจะลุกขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ ผมเผ้ายุ่งเหยิง คำรามสีหน้าบิดเบี้ยวว่า “เจ้ามันรนหาที่ตาย พวกเจ้ารีบลงมือ ฆ่ามันให้ข้าที!”

เห็นชัดว่าปกติเขาออกคำสั่งจนเคยชินแล้ว ตอนนี้เสียท่ายกใหญ่เช่นนี้ย่อมทนไม่ได้ อยากฆ่าหลินสวินให้ตายนัก

กลุ่มคนที่อยู่ใกล้กันสะท้านขวัญในทันใด พากันมองเลิกลั่ก การโจมตีเดียวเจ้าเด็กนั่นน่าตกใจเกินไปแล้ว แค่อานุภาพก็กำราบชายหนุ่มชุดแพรที่พลังไม่ได้อ่อนแอผู้นี้ได้ ช่างน่าหวาดหวั่นยิ่งนัก

“ไม่รู้ดีชั่ว!”

ในเวลาเดียวกัน หลินสวินก็พ่นคำนี้ออกมาเบาๆ พลังรอบกายโหมคลั่ง พุ่งไปยังชายหนุ่มชุดแพรผู้นั้น

__

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์