หลินจือสูดหายใจลึก ยิ้มเหี้ยมพลางเอ่ยปาก หลินสวินนั้นแข็งแกร่ง ถือเป็นผู้กล้าในรุ่นเยาว์ ชื่อเสียงลือลั่นทั่วนครต้องห้ามอย่างแน่นอน
ทว่าครั้งนี้นางไม่ได้ต่อสู้คนเดียว!
ตู้ม!
หลินสวินไม่พูดไม่จา ย่างสามขุมมาข้างหน้า รอบกายเขามีแสงสีฟ้าอ่อนราวห้วงน้ำไพศาลพุ่งตรงขึ้นสู่ชั้นเมฆ แสงช่วงโชติส่องสว่างเจิดจ้าทั้งใต้หล้า
นี่เป็นสิ่งที่ปรากฏหลังจากทะลวงเข้าระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสมบูรณ์แล้ว ทะเลปราณในกายส่องสะท้อนกับฟ้าดิน ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เป็นสิ่งที่สำแดงออกสู่ภายนอกโดยธรรมชาติ
ทุกคนสูดหายใจเยียบเย็น สีหน้าเหยเก ไม่ต้องคิดมากไปกว่านี้ พลังปราณของหลินสวินบรรลุระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสุดยอดไปแล้ว!
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
เวลานี้เงาร่างสี่ห้าร่างพุ่งออกมาจากข้างกายหลินจือ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณจากธารประจิม คานเมฆา และยอดวายุ
คนเหล่านี้ถือเป็นผู้ร้ายกาจรุ่นอาวุโส คร่ำหวอดในระดับมหาสมุทรวิญญาณมานานปี พรสวรรค์อาจเทียบไม่ได้กับคนรุ่นเยาว แต่รากพลังกลับแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด
“ฆ่า!”
จานสำริดโบราณใบหนึ่งแปรเป็นม่านแสงปิดผนึกที่กว้างราวสิบจั้ง หมายจะกักหลินสวินไว้ข้างในเพื่อกำราบสังหาร
หลินสวินพุ่งขึ้นรับหน้า ผมสีดำปลิวไสว แววตาราวสายฟ้า พลังหมัดเปล่งประกายพลุ่งพล่านราวสายฟ้าม้วนวน มีพลานุภาพกำราบสวรรค์
ม่านแสงสิบจั้งระเบิดสลายในทันใด จานสำริดโบราณถูกพลังหมัดกวาดกระเด็นออกไป ส่งเสียงหวีดหวิว
“เข้าไปพร้อมกัน!”
คนอื่นอีกสองสามคนตะคอก เวลาเดียวกันก็นำอาวุธวิญญาณของตนออกมา ดาบกระบี่ส่งเสียงระงม ส่องแสงยะเยือกเยียบเย็นเรืองรอง
โครม!
หลินสวินยังคงก้าวไปเบื้องหน้า ไม่หลบไม่หนี ร่างกายราวชือน้ำแข็งทะยานขึ้นเก้าชั้นฟ้า พาให้เกิดลมพัดคลั่ง ยังให้ฝุ่นหินปลิวว่อน สภาพอากาศปรวนแปร
ในเวลาเดียวกันนี้เขาสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ พลังหมัดทบซ้อน โชติช่วงราวพระอาทิตย์ขึ้น สังหารครึกโครมไปทั่วสารทิศ
ชั่วขณะเดียวบริเวณนี้ก็สั่นสะเทือน อาวุธวิญญาณส่องแสงแวววับ แสงสนธยาแผ่ซ่าน บดขยี้ห้วงอากาศ ไออากาศแปรปรวนไหลเอ่อ
ผู้ฝึกปราณหลายคนที่อยู่ใกล้กันถอยหนี กลั้นหายใจจดจ่อ ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย
“เขาออกจากการปิดด่านเก็บตัวครั้งนี้ถึงกับทะลวงเข้าขั้นสมบูรณ์ใหญ่ของระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ คิดไม่ถึงเลย”
หน้าประตูใหญ่ภูเขาชำระจิต พวกเสี่ยวเคอ พญาแร้ง หลินจง และจูเหล่าซานไม่รู้ว่ามาถึงกันตั้งแต่เมื่อไร ล้วนกำลังจับจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่
ในสายตาของพวกเขาขณะนี้ ทั้งร่างของหลินสวินห้อมล้อมไปด้วยแสงสีฟ้าอ่อน เงาร่างราวชือน้ำแข็งเคลื่อนไหว ยามยกมือย่างเท้าแผ่แสนยานุภาพไพศาล โอหังถึงที่สุด
ต่อให้เขาถูกผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นอาวุโสหลายคนล้อมโจมตี แต่ก็ยังพุ่งสังหารไม่หยุดหย่อนดังเดิม ไม่มีทางกำราบได้เลย
นี่ทำให้พวกเสี่ยวเคอล้วนตื่นตะลึง รับรู้ได้ว่าระหว่างที่หลินสวินปิดด่านฝึกปราณนี้ ตัวเขาต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูกแน่
ตู้ม!
กระบี่วิญญาณเล่มหนึ่งถูกกระแทกกระเด็น เสียงหวีดสะท้านฟ้า พลังหมัดของหลินสวินกดอัดท้องนภา โจมตีไปยังชายชราคนหนึ่ง
“ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ปานนี้”
สีหน้าชายชราพลันเปลี่ยนสี
แม้จะได้เห็นการต่อสู้เมื่อครู่ของหลินสวินแล้ว แต่เมื่อประสบด้วยตัวเองกลับเป็นอีกอย่าง ยิ่งกว่านั้นพวกเขาร่วมกันโจมตีก็ยังปราบหลินสวินไม่อยู่
ปัง!
ในที่สุดแม้ชายชราจะหลบหนีได้อย่างปลอดภัย แต่พลังหมัดกลับโจมตีใส่หินก้อนยักษ์ที่อยู่ข้างเขาก้อนหนึ่งจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย เศษหินบางส่วนกระแทกเข้ากับร่างเขา เกิดความรู้สึกทิ่มแทงเจ็บปวดไปทั้งร่าง
“อ๊าก…”
มีคนร้องเสียงดัง กลับเป็นชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งคนหนึ่ง ถูกหลินสวินใช้พลังหมัดทลายการป้องกัน และโดนซัดเข้าที่ไหล่จนแหลก ร้องโหยหวนระหว่างกระเด็นออกไป
พวกหลินจือที่อยู่ไกลออกไปล้วนหน้าเปลี่ยนสี หลินสวินผู้นี้แข็งแกร่งไปแล้ว ขนาดผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสหลายคนยังปราบเขาให้สิ้นฤทธิ์ไม่ได้ ฝีมือช่างอัศจรรย์เกินคาดคิด
แต่ในสายตาของพวกเสี่ยวเคอ พญาแร้ง เวลานี้หลินสวินเปรียบได้กับเทพมารหนุ่มน้อย ไม่อาจต้านทานได้ ทุกที่ล้วนแตกพ่าย พาให้พวกเขาล้วนสั่นสะท้านไหววูบในใจ
ตู้ม!
ทันใดนั้นแสงกระจ่างเทียมฟ้าพุ่งขึ้น และนี่เป็นเพียงแสงหมัดของหลินสวินเท่านั้น ตัดผ่านท้องนภาอหังการ์หาใดเทียบดุจดั่งสายฟ้า
เจิดจ้าเกินไปแล้ว!
ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดึงดันเข้าสู้ สำแดงพลังทั้งหมดที่มี แต่ในที่สุดกลับถูกหมัดเดียวบดขยี้ทรวงอก เกิดเป็นหลุมเลือดใหญ่เท่าปากชามรูหนึ่ง ตายคาที่อยู่ตรงนั้น
นี่เป็นถึงผู้อาวุโสที่อยู่ขั้นปลายระดับมหาสมุทรวิญญาณ ค่ำหวอดในการฝึกยุทธ์มาหลายสิบปี ผลสุดท้ายกลับถูกสังหารราวสิ่งของไร้ค่า
หลายคนล้วนรู้สึกหนาวสะท้านในใจ พลังหมัดของหลินสวินทรงพลังเกินไปแล้ว สามารถบดขยี้อาวุธวิญญาณระดับปฐพี ระเบิดสังหารผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณ พลานุภาพไม่อาจต้านทานได้
และนี่เป็นเพียงพลังทบซ้อนห้าเท่าของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์เท่านั้น!
เสียงสวบดังขึ้น เงาแสงวูบวาบ แขนเสื้อหลินสวินพลิ้วไหว ดวงตาสีดำราวเหวน้ำลึก ร่างกายปกคลุมไปด้วยแสงเจิดจ้า พุ่งเข้าโจมตีผู้สูงวัยคนหนึ่งอีกครั้ง
กร๊อบ!
ชายสูงวัยร้องคำรามเดือดดาล นำบรรทัดหยกชิ้นหนึ่งออกมา ราวแสงสนธยาพาดผ่านท้องฟ้า
บรรทัดหยกนี้เป็นสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่ง เต็มไปด้วยลวดลายซับซ้อน แสงเรืองทอออกมา กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นไหววูบ
ในเวลาเดียวกันสตรีงดงามวัยกลางคนผู้หนึ่งที่อยู่อีกด้านก็ลงมือ ปล่อยแสงออกมาจากกลางฝ่ามือ แส้ยาวสีม่วงเส้นหนึ่งตวัดออกมา พุ่งไปพันหลินสวิน
นี่ก็เป็นสมบัติวิญญาณอีกชิ้นหนึ่ง มีนามว่า ‘แส้ดึงวิญญาณ’ เมื่อถูกพันผูก แม้แต่วิญญาณยังถูกกักขัง ถือเป็นอาวุธสังหารใหญ่ชิ้นหนึ่ง
ตู้ม!
กลับเห็นว่ารอบตัวหลินสวินมีแสงสว่างไร้ที่สิ้นสุดพวยพุ่งขึ้นมาราวคลื่นมหาสมุทรไพศาลสีฟ้าอ่อน ส่องสว่างไปทั่วเวิ้งฟ้า เข้าต้านบรรทัดหยกนั้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์