Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ นิยาย บท 466

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ – ตอนที่ 466 ห่าเลือดซัดซาด
ตอนที่ 466 ห่าเลือดซัดซาด
โดย
ProjectZyphon
“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน คิดจะมาคิดบัญชีกับข้าหรือ”

หลินจือสูดหายใจลึก ยิ้มเหี้ยมพลางเอ่ยปาก หลินสวินนั้นแข็งแกร่ง ถือเป็นผู้กล้าในรุ่นเยาว์ ชื่อเสียงลือลั่นทั่วนครต้องห้ามอย่างแน่นอน

ทว่าครั้งนี้นางไม่ได้ต่อสู้คนเดียว!

ตู้ม!

หลินสวินไม่พูดไม่จา ย่างสามขุมมาข้างหน้า รอบกายเขามีแสงสีฟ้าอ่อนราวห้วงน้ำไพศาลพุ่งตรงขึ้นสู่ชั้นเมฆ แสงช่วงโชติส่องสว่างเจิดจ้าทั้งใต้หล้า

นี่เป็นสิ่งที่ปรากฏหลังจากทะลวงเข้าระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสมบูรณ์แล้ว ทะเลปราณในกายส่องสะท้อนกับฟ้าดิน ไม่ได้ตั้งใจให้เกิด แต่เป็นสิ่งที่สำแดงออกสู่ภายนอกโดยธรรมชาติ

ทุกคนสูดหายใจเยียบเย็น สีหน้าเหยเก ไม่ต้องคิดมากไปกว่านี้ พลังปราณของหลินสวินบรรลุระดับมหาสมุทรวิญญาณขั้นสุดยอดไปแล้ว!

ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!

เวลานี้เงาร่างสี่ห้าร่างพุ่งออกมาจากข้างกายหลินจือ ล้วนเป็นผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณจากธารประจิม คานเมฆา และยอดวายุ

คนเหล่านี้ถือเป็นผู้ร้ายกาจรุ่นอาวุโส คร่ำหวอดในระดับมหาสมุทรวิญญาณมานานปี พรสวรรค์อาจเทียบไม่ได้กับคนรุ่นเยาว แต่รากพลังกลับแข็งแกร่งอย่างยิ่งยวด

“ฆ่า!”

จานสำริดโบราณใบหนึ่งแปรเป็นม่านแสงปิดผนึกที่กว้างราวสิบจั้ง หมายจะกักหลินสวินไว้ข้างในเพื่อกำราบสังหาร

หลินสวินพุ่งขึ้นรับหน้า ผมสีดำปลิวไสว แววตาราวสายฟ้า พลังหมัดเปล่งประกายพลุ่งพล่านราวสายฟ้าม้วนวน มีพลานุภาพกำราบสวรรค์

ม่านแสงสิบจั้งระเบิดสลายในทันใด จานสำริดโบราณถูกพลังหมัดกวาดกระเด็นออกไป ส่งเสียงหวีดหวิว

“เข้าไปพร้อมกัน!”

คนอื่นอีกสองสามคนตะคอก เวลาเดียวกันก็นำอาวุธวิญญาณของตนออกมา ดาบกระบี่ส่งเสียงระงม ส่องแสงยะเยือกเยียบเย็นเรืองรอง

โครม!

หลินสวินยังคงก้าวไปเบื้องหน้า ไม่หลบไม่หนี ร่างกายราวชือน้ำแข็งทะยานขึ้นเก้าชั้นฟ้า พาให้เกิดลมพัดคลั่ง ยังให้ฝุ่นหินปลิวว่อน สภาพอากาศปรวนแปร

ในเวลาเดียวกันนี้เขาสำแดงเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์ พลังหมัดทบซ้อน โชติช่วงราวพระอาทิตย์ขึ้น สังหารครึกโครมไปทั่วสารทิศ

ชั่วขณะเดียวบริเวณนี้ก็สั่นสะเทือน อาวุธวิญญาณส่องแสงแวววับ แสงสนธยาแผ่ซ่าน บดขยี้ห้วงอากาศ ไออากาศแปรปรวนไหลเอ่อ

ผู้ฝึกปราณหลายคนที่อยู่ใกล้กันถอยหนี กลั้นหายใจจดจ่อ ด้วยกลัวว่าจะถูกลูกหลงไปด้วย

“เขาออกจากการปิดด่านเก็บตัวครั้งนี้ถึงกับทะลวงเข้าขั้นสมบูรณ์ใหญ่ของระดับมหาสมุทรวิญญาณได้ คิดไม่ถึงเลย”

หน้าประตูใหญ่ภูเขาชำระจิต พวกเสี่ยวเคอ พญาแร้ง หลินจง และจูเหล่าซานไม่รู้ว่ามาถึงกันตั้งแต่เมื่อไร ล้วนกำลังจับจ้องสิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่

ในสายตาของพวกเขาขณะนี้ ทั้งร่างของหลินสวินห้อมล้อมไปด้วยแสงสีฟ้าอ่อน เงาร่างราวชือน้ำแข็งเคลื่อนไหว ยามยกมือย่างเท้าแผ่แสนยานุภาพไพศาล โอหังถึงที่สุด

ต่อให้เขาถูกผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นอาวุโสหลายคนล้อมโจมตี แต่ก็ยังพุ่งสังหารไม่หยุดหย่อนดังเดิม ไม่มีทางกำราบได้เลย

นี่ทำให้พวกเสี่ยวเคอล้วนตื่นตะลึง รับรู้ได้ว่าระหว่างที่หลินสวินปิดด่านฝึกปราณนี้ ตัวเขาต้องเกิดความเปลี่ยนแปลงชนิดถอดรยางค์เปลี่ยนกระดูกแน่

ตู้ม!

กระบี่วิญญาณเล่มหนึ่งถูกกระแทกกระเด็น เสียงหวีดสะท้านฟ้า พลังหมัดของหลินสวินกดอัดท้องนภา โจมตีไปยังชายชราคนหนึ่ง

“ทำไมถึงแข็งแกร่งได้ปานนี้”

สีหน้าชายชราพลันเปลี่ยนสี

แม้จะได้เห็นการต่อสู้เมื่อครู่ของหลินสวินแล้ว แต่เมื่อประสบด้วยตัวเองกลับเป็นอีกอย่าง ยิ่งกว่านั้นพวกเขาร่วมกันโจมตีก็ยังปราบหลินสวินไม่อยู่

ปัง!

ในที่สุดแม้ชายชราจะหลบหนีได้อย่างปลอดภัย แต่พลังหมัดกลับโจมตีใส่หินก้อนยักษ์ที่อยู่ข้างเขาก้อนหนึ่งจนกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระจัดกระจาย เศษหินบางส่วนกระแทกเข้ากับร่างเขา เกิดความรู้สึกทิ่มแทงเจ็บปวดไปทั้งร่าง

“อ๊าก…”

มีคนร้องเสียงดัง กลับเป็นชายวัยกลางคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งคนหนึ่ง ถูกหลินสวินใช้พลังหมัดทลายการป้องกัน และโดนซัดเข้าที่ไหล่จนแหลก ร้องโหยหวนระหว่างกระเด็นออกไป

พวกหลินจือที่อยู่ไกลออกไปล้วนหน้าเปลี่ยนสี หลินสวินผู้นี้แข็งแกร่งไปแล้ว ขนาดผู้แข็งแกร่งรุ่นอาวุโสหลายคนยังปราบเขาให้สิ้นฤทธิ์ไม่ได้ ฝีมือช่างอัศจรรย์เกินคาดคิด

แต่ในสายตาของพวกเสี่ยวเคอ พญาแร้ง เวลานี้หลินสวินเปรียบได้กับเทพมารหนุ่มน้อย ไม่อาจต้านทานได้ ทุกที่ล้วนแตกพ่าย พาให้พวกเขาล้วนสั่นสะท้านไหววูบในใจ

ตู้ม!

ทันใดนั้นแสงกระจ่างเทียมฟ้าพุ่งขึ้น และนี่เป็นเพียงแสงหมัดของหลินสวินเท่านั้น ตัดผ่านท้องนภาอหังการ์หาใดเทียบดุจดั่งสายฟ้า

เจิดจ้าเกินไปแล้ว!

ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งดึงดันเข้าสู้ สำแดงพลังทั้งหมดที่มี แต่ในที่สุดกลับถูกหมัดเดียวบดขยี้ทรวงอก เกิดเป็นหลุมเลือดใหญ่เท่าปากชามรูหนึ่ง ตายคาที่อยู่ตรงนั้น

นี่เป็นถึงผู้อาวุโสที่อยู่ขั้นปลายระดับมหาสมุทรวิญญาณ ค่ำหวอดในการฝึกยุทธ์มาหลายสิบปี ผลสุดท้ายกลับถูกสังหารราวสิ่งของไร้ค่า

หลายคนล้วนรู้สึกหนาวสะท้านในใจ พลังหมัดของหลินสวินทรงพลังเกินไปแล้ว สามารถบดขยี้อาวุธวิญญาณระดับปฐพี ระเบิดสังหารผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณ พลานุภาพไม่อาจต้านทานได้

และนี่เป็นเพียงพลังทบซ้อนห้าเท่าของเคล็ดวิชาเก้าหมัดสะเทือนสวรรค์เท่านั้น!

เสียงสวบดังขึ้น เงาแสงวูบวาบ แขนเสื้อหลินสวินพลิ้วไหว ดวงตาสีดำราวเหวน้ำลึก ร่างกายปกคลุมไปด้วยแสงเจิดจ้า พุ่งเข้าโจมตีผู้สูงวัยคนหนึ่งอีกครั้ง

กร๊อบ!

ชายสูงวัยร้องคำรามเดือดดาล นำบรรทัดหยกชิ้นหนึ่งออกมา ราวแสงสนธยาพาดผ่านท้องฟ้า

บรรทัดหยกนี้เป็นสมบัติวิญญาณชิ้นหนึ่ง เต็มไปด้วยลวดลายซับซ้อน แสงเรืองทอออกมา กลิ่นอายน่าหวาดหวั่นไหววูบ

ในเวลาเดียวกันสตรีงดงามวัยกลางคนผู้หนึ่งที่อยู่อีกด้านก็ลงมือ ปล่อยแสงออกมาจากกลางฝ่ามือ แส้ยาวสีม่วงเส้นหนึ่งตวัดออกมา พุ่งไปพันหลินสวิน

นี่ก็เป็นสมบัติวิญญาณอีกชิ้นหนึ่ง มีนามว่า ‘แส้ดึงวิญญาณ’ เมื่อถูกพันผูก แม้แต่วิญญาณยังถูกกักขัง ถือเป็นอาวุธสังหารใหญ่ชิ้นหนึ่ง

ตู้ม!

กลับเห็นว่ารอบตัวหลินสวินมีแสงสว่างไร้ที่สิ้นสุดพวยพุ่งขึ้นมาราวคลื่นมหาสมุทรไพศาลสีฟ้าอ่อน ส่องสว่างไปทั่วเวิ้งฟ้า เข้าต้านบรรทัดหยกนั้น

ลูกหลานตระกูลหลินแห่งแสงอุดรเหล่านั้นล้วนฮึกเหิมตื่นเต้นหาใดเปรียบ หลินสวินสำแดงพลานุภาพอย่างยิ่งใหญ่ กำราบศัตรูทั้งปวง ทำให้พวกเขาตื่นตะลึงพรึงเพริดจนยากควบคุมตัวเองได้

ส่วนด้านหลินจือนั้น กลุ่มชายหญิงสีหน้าหวาดผวา หลายคนตัวสั่นเทิ้ม ด้วยหมัดเปล่าเท่านั้น ก็สามารถฆ่าผู้แข็งแกร่งระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นอาวุโสได้ง่ายดายราวกับตัดต้นกุยช่ายขาด ภาพนองเลือดนี้น่าหวั่นกลัวเกินไปแล้ว

ในใจหลินจือยิ่งเหมือนกำลังหลั่งเลือด สูญเสียหนักมากไปแล้ว นางคิดไม่ถึงเลยว่าเพียงหลินสวินคนเดียวก็สังหารจนพวกเขากระเจิดกระเจิงได้

“อ๊าก…”

ระหว่างที่พวกหลินจือกำลังอกสั่นขวัญแขวน ในที่นั้นก็เกิดเสียงร้องโหยหวน

กลับเห็นว่าผู้ฝึกปราณคนสุดท้ายถูกหลินสวินต่อยเข้าที่หน้าผาก ร่างกายระเบิดออก เลือดเนื้อกระเด็นว่อน ทั้งรูปและวิญญาณถูกทำลาย

ภาพนี้นองเลือดโหดเหี้ยมเกินไป พาให้หลายคนร่างสั่นระริกพรั่นพรึง

“คุณชายจั่วหยางกับคุณชายฉินซิงมาหรือยัง”

หลินจือร้องเสียงแหลม เวลานี้นางกลัวเข้าจริงๆ แล้ว ต่อให้เป็นผู้กล้าก็ไม่น่าแข็งแกร่งขนาดนี้ได้นะ!

ผู้มีปราณระดับมหาสมุทรวิญญาณรุ่นอาวุโสร่วมกันลงมือ ก็ล้วนถูกอีกฝ่ายปลิดชีพจนสิ้น นี่จะไม่ทำให้หลินจือไม่ตื่นตระหนกหวาดหวั่นได้อย่างไร

นางไม่มีความเชื่อมั่นและทะนงตนอย่างแต่ก่อนแล้ว สีหน้าเย็นชาโหดเหี้ยมถูกความหวาดหวั่นเข้าแทนที่

แน่นอน นางไม่เคยคิดเลยว่าทันทีที่หลินสวินปรากฏตัวก็กล้าเปิดฉากสังหารโดยไม่สนใจสิ่งใด ไม่เหมือนพวกคนของภูเขาชำระจิตก่อนหน้านี้ที่อดกลั้นและยอมถอยเลย!

ตูม!

หลินสวินไม่ลังเลเลยสักนิด กระโจนร่างราวชือน้ำแข็งพุ่งลงมาจากข้างบน ทะยานเข้าสังหารหลินจือ

เขาชิงชังหญิงนางนี้จนถึงแก่น โจมตีหลินอวิ๋นเหวินจนบาดเจ็บ หนำซ้ำยังคุยโตว่าจะชิงภูเขาชำระจิตกลับไป ทำหน้าทำตาโอ้อวดโอหัง

“เจ้าหนู จิตสังหารมากไปมันไม่ดีนะ!”

ทันใดนั้นเสียงราวอสนีบาตดังไปทั่วบริเวณนั้น

ผู้แข็งแกร่งระดับหยั่งสัจจะ!

เสียงเพิ่งดังขึ้น แสงสีดำก็ปรากฏ ปิดคลุมฟ้าดิน แปรสภาพเป็นมือใหญ่มือหนึ่งตบใส่หลินสวินจากกลางอากาศ!

ชั่วพริบตานั้นเสี่ยวเคอ พญาแร้ง หลินจง จู่เหล่าซานล้วนดวงตาหดเกร็ง

ส่วนหลินจือกลับเผยสีหน้ายินดีปรีดา ในที่สุดก็มาแล้ว!

“เจ้าคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ไสหัวไป!”

กลับเห็นว่าหลินสวินไม่หลบหนี ดวงตาเย็นเยียบวับวาว แหงนหน้าตะคอกขึ้นฟ้า

ในมือเขา พลังหมัดทบซ้อนหกเท่าเปล่งประกายน่ากลัว พุ่งเข้าปะทะฝ่ามือใหญ่ข้างนั้นดุจดั่งธารดาราม้วนตลบ

——

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์